ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 460 กลับบ้านกันแล้ว
ไม่รู้จะบอกว่าพระเจ้ายุติธรรมได้ไหม นอกจากเรือฮาวิซท เรือลำอื่นอีกห้าลำล้วนเสียที่ดักกุ้งไปหนึ่งตับ
เหล่ากัปตันก่นด่าผ่านวิทยุไร้สาย เรือประมงลำอื่นรู้ว่าตัวเองทำแบบนี้ต้องยั่วโมโหพวกเขาแน่ๆ ฉะนั้นเลยอยู่ห่างจากจุดที่จับกุ้งมังกรไกลออกไป ครั้งนี้พวกนั้นไม่ตามติดแล้ว แค่ดีใจกับความหายนะของคนอื่นอยู่ไกลๆ
คนบนเรือประมงพวกนั้นไม่คิดจะตามเรือฮาวิซทแล้ว พวกเขากะจะยึดกุ้งมังกรในแถบทะเลตรงนี้เพราะดูท่าแล้วกุ้งมังกรที่นี่เยอะมาก
ฉินสือโอวส่งบูลไปร่วมศึกน้ำลายในวิทยุสาธารณะ เขาเสียงดังและใจร้อนที่สุด เหมาะกับการแสดงเป็นเหยื่อสถานการณ์
จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่การแสดง ตอนนี้บูลทำตัวเป็นเหยื่อแล้วด่าจนคอแหบคอแห้ง ถ้าไม่รู้ยังนึกว่าเรือฮาวิซทเก็บที่ดักขึ้นมาไม่ได้สักอัน
ด่าเสร็จเรื่องนี้ก็ถือว่าจบกันไป จะให้ลงน้ำไปตัดเชือกทั้งหมดก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? จะให้รออยู่ตรงนี้หยั่งเชิงกับพวกชาวประมงไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ใช่ไหม? ถ้าไม่ได้สักอย่าง ก็กลับดีกว่า
นี่ก็คือสิ่งที่พวกชาวประมงบนเรือพวกนั้นคิดไว้
แต่พวกเขามองไม่เห็นใต้ทะเล ถ้าเห็นล่ะก็ พวกเขาต้องเสียใจแน่ที่ตัวเองทำมาอวดฉลาดรังแกฉินสือโอว?
จิตสำนึกโพไซดอนระบายความเกรี้ยวกราดออกมาในแถบทะเลนี้ กระแสน้ำใต้ทะเลพัดผ่านให้เชือกพลิ้วไปทั่ว แบบนี้เชือกหลักร้อยเส้นต่างก็พันกันไม่มากก็น้อยจนกลายเป็นปมยุ่งเหยิง!
ภายใต้กระแสน้ำ สายเคเบิลพันกันยุ่งมาก ต่อให้ฉินสือโอวมีจิตสำนึกโพไซดอนตอนนี้ก็แกะไม่ออกแล้ว
จัดการเสร็จเรียบร้อย ฉินสือโอวก็จากไป มุ่งหน้าไปยังจุดต่อไปที่ฝูงกุ้งมังกรอยู่!
รอจนพันธมิตรเรือหายไปจากผิวน้ำทะเล เรือประมงที่สังเกตการณ์อยู่ก็ขับเข้ามา พวกเขาแดกดันพันธมิตรเรือฮาวิซทในวิทยุสาธารณะอย่างผู้ชนะ รู้สึกดีถึงที่สุด
รอจนถึงยามเย็นตอนที่เตรียมจะเก็บที่ดักกุ้งขึ้นมา คนพวกนี้ก็พบว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
เชือกของที่ดักกุ้งทั้งหมดผูกกันหมดเลย คราวนี้พันกันเป็นเงื่อนตาย เชือกทั้งสองปลายไม่รอดสักด้าน พันกันไปหมด พันกันเสียยิ่งกว่าชายหญิงในรักร้อนแรงที่มีอะไรกันครั้งแรกเสียอีก…
ช่องวิทยุสาธารณะเจื้อยแจ้วขึ้นมาอีกครั้ง แน่นอนพวกชาวประมงคิดไม่ถึงว่าเป็นฝีมือฉินสือโอว พวกเขาได้แต่โทษกันเองว่าเอาเชือกมาใกล้ของตัวเองมากเกินไป พอเป็นแบบนี้สงครามน้ำลายที่รุนแรงกว่าก่อนหน้านี้กว่าสิบเท่าก็เริ่มขึ้น
เวลานี้พวกฉินสือโอวก็ถึงจุดที่กุ้งมังกรรวมตัวกันอยู่แล้วโยนที่ดักกุ้งลงไป ฉินสือโอวหาฝูงปลาแฮดดัคเล็กๆ ฝูงหนึ่งแล้วพาเรือลำอื่นเข้าไปล้อมปิดทาง
ที่เล่นงานชาวประมงพวกนั้นจนโกรธ ครั้งนี้ฉินสือโอวไม่ปรานีเลย เจอฝูงปลาค็อดก็จับให้เขา อย่างที่ภาษาเน็ตประโยคหนึ่งว่าไว้ เดินตามทางของตัวเอง ให้คนอื่นไม่มีทางเดิน
ล่องอยู่ในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์มาสี่วัน หนึ่งรอบจบลงแล้ว ฉินสือโอวก็พาพันธมิตรเรือกลับท่า
เพราะปลาที่จับได้ในการออกทะเลครั้งนี้ค่อนข้างเยอะ ตกกลางคืนพวกชาวประมงต่างก็เหนื่อยอ่อน จำเป็นต้องจำแนกประเภทกันจนดึก การลากอวนจับปลาเป็นการกวาดจับทั้งหมด ที่จับได้ไม่ใช่แค่ปลาแฮดดัค ปลาทั้งหมดที่อยู่ระหว่างทางก็โดนจับเข้าอวนหมด บางครั้งยังจับฉลามตัวเล็กได้ด้วย
ตอนที่พันธมิตรเรือแล่นเข้าท่าเรือสโนว์ดิค พวกชาวประมงที่อยู่แถวๆ ท่าก็พากันเข้ามามุงดู พวกเขาไม่เชื่อว่าเรือฮาวิซทจะโชคดีขนาดนี้ ออกทะเลทีไรก็ได้ปลามาเยอะแยะทุกที
ความจริงทำให้พวกเขาผิดหวัง ตอนที่พวกเขามาถึงท่าเรือ ที่เห็นก็คือชาวประมงพันธมิตรเรือฮาวิซทที่เจิดจรัส พอเห็นสีหน้าตื่นเต้นดีใจก็รู้ว่าพวกเขาต้องได้ปลามากแน่ๆ
ปลาที่เรือฮาวิซทได้มานำออกขายแยกให้ผู้ขายอาหารทะเล หลังจากที่ผู้ช่วยของเกย์กับฟิลิปป์ตรวจคุณภาพของกุ้งมังกรกับปลาแฮดดัคก็ซื้อสัตว์น้ำทั้งหมดตามราคาครั้งที่แล้ว
กุ้งมังกรยังคงเป็น 42 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ปลาแฮดดัค 8 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เป็นราคาที่ไม่เลว
ท่ามกลางชาวประมงที่อึ้งตะลึงงัน กุ้งมังกรกับปลาแฮดดัคเป็นลังๆ ถูกเครื่องยกยกขึ้นมาชั่งน้ำหนัก กุ้งมังกรทั้งหมด 8500 ปอนด์ ปลาแฮดดัคทั้งหมด 36 ตัน!
กุ้งมังกรขายไปได้ประมาณสามแสนหกหมื่น ปลาแฮดดัคขายไปได้ประมาณห้าแสนแปดหมื่น นอกนั้นยังมีปลิงทะเลขั้วโลกเหนือ ปลาแซลมอนแอตแลนติก พอลลอค ปลาทะเลตัวแบนแอตแลนติก ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะและปลากระโทงสีน้ำเงินเป็นต้น
ปลาพวกนี้ถ้าไม่ใช่จำนวนน้อยก็ไม่ได้ราคา ฉะนั้นฉินสือโอวเลยขายให้กับพ่อค้าซื้ออาหารทะเล เป็นการนำไปก่อน ได้มาหนึ่งล้าน!
ฉินสือโอวบอกเรื่องรายได้กับลูกน้องชาวประมงของตัวเอง เจ้าพวกนั้นแปะมือกันอย่างตื่นเต้น บูลอยากชนหมัดกับคนรอบๆ ข้างเพื่อฉลอง ปรากฏว่าพอหมุนตัวไปดูข้างๆ ก็เจอกับอีวิลสัน…
“นี่ยังไม่ใช่รายได้ทั้งหมด พวกเรายังมีเงินหนึ่งในสี่ส่วนที่ยังไม่ได้เก็บอีก” ฉินสือโอวพูดอย่างอารมณ์ดี
พอเขาพูดขึ้นแบบนั้น เหล่าชาวประมงก็ยิ่งอารมณ์ดี รายได้ครั้งนี้ต้องทะลุสถิติแน่
หลังจากที่กัปตันเรืออีกห้าลำขายสัตว์น้ำที่จับมาก็เอาเช็คมาให้อย่างรู้หน้าที่ เรือดาบคมมีรายได้ทั้งหมดสองแสนสองหมื่น เรือป๊อปอายได้สองแสนห้าหมื่น ระฆังแห่งความสุขได้สองแสนหนึ่ง น้ำเชื่อมปลาดำคือสองแสนแปด แลบราดอร์คำรามได้สามแสนสี่!
เหล่าเจ้าของเรือดีใจกว่าพวกชาวประมงเรือฮาวิซทเสียอีก เรือนี่ของพวกเขา เงินส่วนมากก็เป็นของพวกเขา จะไม่ดีใจได้ไง?
รายได้ของเรือห้าลำทั้งหมดแล้วหนึ่งล้านสามแสน หนึ่งในสี่ส่วนก็คือห้าแสนสอง พอเป็นแบบนี้รายได้ของเรือฮาวิซทก็เป็นหนึ่งล้านห้าแสน!
ให้เช็คเงินสดเรียบร้อย เหล่าเจ้าของเรือประมงก็ขอบคุณยกใหญ่ จากนั้นก็หวังว่าจะสามารถร่วมพันธมิตรเรือกับเรือฮาวิซทต่อไป พวกเขายินดีตามฉินสือโอวคนเดียว ต่อไปในทะเลฉินสือโอวสั่งอะไรพวกเขาก็ยินดีทำตาม
แต่ฉินสือโอวปฏิเสธอย่างเสียดาย “เพื่อนๆ ฉันสนุกที่เราได้ร่วมงานกัน แต่ฤดูจับกุ้งมังกรสำหรับฉันกำลังจะจบแล้ว พรุ่งนี้กับวันมะรืนพักผ่อนสักหน่อย เสร็จแล้วเราก็จะกลับบ้านแล้ว”
ได้ยินแบบนั้นพวกกัปตันเรือก็ร้อนใจทันที ต่างพากันยื้อฉินสือโอวให้อยู่ที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ต่ออีกสักพัก เดือนกุมภาพันธ์น่ะเพิ่งจะเริ่มเท่านั้นเอง
พวกเขาคิดถูก ตามเรือฮาวิซทออกทะเลครั้งเดียวได้เงินเยอะกว่าที่พวกเขาออกทะเลทั้งเดือนอีก ถ้าตามเรือฮาวิซทออกทะเลทั้งเดือน งั้นสัตว์ทะเลที่จับได้ต้องเยอะกว่าที่เคยจับได้ทั้งฤดูกาลแน่ สักล้านแปดก็ไม่ใช่ปัญหา!
แต่ฉินสือโอวตัดสินใจแล้ว เขาได้แต่สัญญาว่าปีหน้าตอนมาที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์อีกจะเหลือที่ไว้ให้พวกเขา ฤดูจับปลาปีนี้จบเพียงเท่านี้
พอเห็นว่าเปลี่ยนใจเขาไม่ได้แล้ว กัปตันทั้งห้าก็ได้แต่ยอมรับ ทั้งสองฝ่ายต่างแลกช่องทางติดต่อกับที่อยู่ และนัดออกทะเลด้วยกันอีก
กลับมาถึงโรงแรม ฉินสือโอวแบ่งเงินให้พวกชาวประมงเสร็จก็มอบภารกิจให้บูลหนึ่งอย่าง ให้เขาไปซื้อแผ่นพลาสติกสีขาวยาวหกเมตรกว้างสองเมตรมาสองแผ่น
“ซื้อแผ่นพลาสติกมาทำไมครับ?” บูลถามอย่างสงสัย
ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วอธิบาย “แน่นอนว่าก็เอามาเปลี่ยนชื่อเรือตอนออกทะเล พวกเรายังต้องออกทะเลอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่หลังจากทำประมงเสร็จก็ไม่กลับท่าเรือสโนว์ดิคแล้ว ไปท่าเรือบาสก์เลย พอจัดการกับสัตว์น้ำที่จับได้ก็กลับบ้านทางนั้นได้”
พอได้ยินว่าไม่ได้กลับบ้านเลยแต่จะออกทะเลอีกครั้ง บูลก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ใส่เสื้อโค้ตก็วิ่งออกไปเลย
การจับกุ้งมังกรครั้งสุดท้ายของปีนี้ ฉินสือโอวตั้งใจจะลงมือโหดหน่อย ใครก็ไม่เว้น!
………………………………………