ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 496 ถ้าอย่างนั้นก็สร้างสิ
หลังจากได้ยินคำแนะนำของแฟรงค์ เคนต์ ฉินสือโอวก็ยังคงไม่เข้าใจว่าระบบเทตทร่าทำงานอย่างไร แต่มันก็ไม่สำคัญ มันก็เหมือนคำสแลงหนึ่งในอเมริกาเหนือ ‘ถ้าคุณต้องการกินไก่หนึ่งตัว คุณไม่จำเป็นต้องกระจ่างในทุกขั้นตอนในการทำ’
ฉินสือโอวต้องการสถานีฐานวิทยุ แต่ไม่ใช่วิทยุคลัสเตอร์สำหรับอินเตอร์คอม แต่ทำเพื่อติดตั้งระบบสื่อสารกำลังแรงสูงในอาคารสนามบิน
เขาบอกวัตถุประสงค์ของตนกับแฟรงค์ แฟรงค์พูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ไม่มีปัญหา สนามบินเอกชนต้องการฐานการสื่อสารพลังงานแค่ 100M เท่านั้น ราคาอยู่ที่แสนกว่าๆ”
ราคาไม่แพง ฉินสือโอวจึงตอบตกลงกับแฟรงค์ และไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นแล้ว โมโตโรล่ายังคงมีชื่อเสียงมากในด้านสัญญาณไร้สาย
เมื่อแฮมเล็ตได้ยินบทสนทนาระหว่างฉินสือโอวและแฟรงค์ เขาหมุนลูกตาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “ฉิน นายไม่ต้องการสถานีฐานระบบเทตทร่าเหรอ?”
“ผมไม่มีความจำเป็นต้องใช้ครับ”
“ไม่เพื่อน มีความจำเป็นแน่นอน ดูพื้นที่ฟาร์มปลาของนายสิกว้างใหญ่ขนาดนั้น เมื่อนายเข้าไปจับปลา จำเป็นต้องมีเรือประมงหลายลำ ถึงเวลานั้นนายจะสื่อสารกันโดยใช้โทรศัพท์มือถือเหรอ? สัญญาณในทะเลไม่ดี”
เมื่อฟังที่แฮมเล็ตพูด ฉินสือโอวเองก็รู้สึกสมเหตุสมผลเหมือนกัน
เมืองแฟร์เวลมีสถานีฐานการสื่อสารเคลื่อนที่ของตัวเอง แต่สัญญาณไม่แรงพอ สัญญาณโทรศัพท์มือถือของฉินสือโอวไม่เคยเต็ม เมื่อเจอลมและฝนสัญญาณก็ยิ่งแย่กว่าเดิม ขณะที่เข้าอินเทอร์เน็ตที่บ้านเขาใช้ได้แต่ WiFi ของบ้านเท่านั้น
“มีเหตุผล แต่ช่วงรังสีของสถานีฐานคลัสเตอร์กว้างแค่ไหนล่ะ ผมคิดว่าถ้าตั้งสถานีฐานอยู่บนเกาะ ประสิทธิผลน่าจะไม่ดีใช่ไหม?” ฉินสือโอวถามอย่างสงสัย
แฟรงค์พูดว่า “ใช่ครับคุณผู้ชาย ถ้าสร้างสถานีฐานบนเกาะแค่สถานีเดียว ช่วงรังสีที่แผ่ออกไปถึงมหาสมุทรมากสุดแค่ 20 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณสร้างสถานีฐานคลัสเตอร์บนเกาะ และติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์บนเรือของคุณ อย่างนั้น ช่วงรังสีสามารถไปถึงมหาสมุทรได้ในระยะ 400 กิโลเมตร!”
“ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉินสือโอวถามขึ้นด้วยความตะลึง แฟรงค์จินตนาการถึงระยะทาง 400 กิโลเมตรในใจอย่างเงียบๆ และพยักหน้าอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“ระบบเทตทร่าของคุณดีอย่างนี้ แล้วทำไมไม่โปรโมทมันสู่ตลาดพลเรือนล่ะ ระยะทาง 400 กิโลเมตร สำหรับการสื่อสารกันในครอบครัวแล้วน่าดึงดูดไม่น้อยเลยไม่ใช่เหรอ?” ฉินสือโอวถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
แฟรงค์ยิ้มแย้มขมขื่นและพูดว่า “ไม่ได้หรอก คุณผู้ชาย ไม่มีประโยชน์ ระบบเทตทร่าของเราต้องใช้คู่กันระหว่างสถานีฐานหลักและสถานีฐานปลายทาง แต่ไม่ว่าจะเป็นสถานีหลักหรือปลายทาง ต่างก็มีขนาดที่ใหญ่และมีน้ำหนักที่มากเกินไป ในรถก็ไม่สามารถใช้ได้ อีกอย่าง ใครชอบเพราะเครื่องรับสัญญาณหนักๆ เดินไปมาล่ะ?”
ฉินสือโอวรู้สึกเห็นด้วย การติดต่อสื่อสารในแคนาดาและสหรัฐอเมริกามีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ การโทรหากันในเวลากลางคืนและวันหยุดสุดสัปดาห์แทบจะไม่ต้องเสียเงินด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นฉินสือโอวมีท่าทีที่จะติดตั้งสถานีฐานคลัสเตอร์ แฟรงค์ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เพราะสถานีฐานคลัสเตอร์ไม่ใช่แค่หลักแสน หากเขาสามารถโน้มน้าวลูกค้าได้สักหนึ่งคน แค่ส่วนแบ่งหลังการขายก็สูงกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของเขาแล้ว
ดังนั้น เขาจึงหยิบแผนที่ของเกาะแฟร์เวลออกมาให้ฉินสือโอวดู “ดูนี่สิ รูปร่างของเกาะของคุณเป็นวงรีที่มีความสม่ำเสมอ และมีเขาเคอร์บัลอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าติดตั้งสถานีฐานบนยอดเขา ช่วงรังสีก็จะแผ่ไปได้ไกลกว่าเดิม”
“คำแนะนำของฉันคือ คุณสามารถสร้างสถานีฐานสี่แห่งในเกาะ และเลือกสถานีเคอร์บัลเป็นสถานีหลัก ใช้เทตทร่า 800M สถานีอื่นๆ ใช้ 400M ก็เพียงพอแล้ว อย่างนี้ พื้นที่มหาสมุทรรอบเกาะก็ใช้สัญญาณสื่อสารของคุณทั้งหมด”
“ถ้าคุณต้องการสร้างสถานีฐานคลัสเตอร์สี่แห่ง สามารถแล้วเสร็จในราคาประมาณ 5 แสน”
5 แสน ฉินสือโอวกำลังจะพยักหน้าตอบรับ แฮมเล็ตยื่นมือไปโอบไหล่ของเขาและพูดว่า “อย่าด่วนตัดสินใจ ฉิน ถ้านายจะสร้างสถานีฐานก็ไม่มีปัญหา แต่ให้ชาวเมืองของเราได้พึ่งบารมีของนายด้วยได้ไหม?”
เมื่อฟังที่แฮมเล็ตพูด ฉินสือโอวก็เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อแล้ว เขาต้องการให้ตนเองเปิดช่องสัญญาณคลัสเตอร์ อย่างนี้ ชาวเมืองเพียงแค่ซื้อเครื่องรับสัญญาณและมีรหัสผ่านก็สามารถติดต่อสื่อสารกันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ แค่มีเครื่องรับสัญญาณ หลายๆ เรื่องก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ยกตัวอย่างเช่นเรื่องที่ไกด์พากลุ่มทัวร์ไปปีนเขาเคอร์บัล เป็นต้น บนเขาไม่มีสัญญาณ ดังนั้นทุกครั้งที่พานักท่องเที่ยวขึ้นเขา ต้องมีเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมไปด้วย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อมีจานดาวเทียมที่สามารถส่งสัญญาณไปทั่วทั้งเกาะ ให้นักท่องเที่ยวแต่ละคนนำเครื่องรับสัญญาณคนละเครื่องเข้าไปในป่า ก็ไม่ต้องกลัวสิ่งใดแล้ว แม้นักท่องเที่ยวจะหลงป่า ก็สามารถหาพวกเขาเจอ
ฉินสือโอวไม่ใช่คนขี้เหนียว ให้ชาวเมืองได้พึ่งบารมีของตัวเองด้วยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่เขาต้องถามให้แน่ชัดก่อนว่า “เมื่อติดตั้งสถานีฐานคลัสเตอร์แล้ว สามารถใช้ได้ทั้งหมดกี่คน”
“คุณต้องการถามว่าสามารถเชื่อมต่อเชื่อมต่อเทอร์มินัลส่วนตัวได้กี่เครื่องใช่ไหม? เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง ระบบเทตทร่าใช้เทคโนโลยีช่องสัญญาณแบบแบ่งเวลาหลายส่วน ระบบของมันมีประสิทธิภาพสูง คุณภาพสัญญาณยิ่งดี ระบบรักษาความปลอดภัยยิ่งสูง ประสิทธิภาพในการใช้งานยิ่งดี…”
“เพื่อน อย่าพูดวกไปวนมาได้ไหม?”
“ขอโทษครับคุณผู้ชาย ผมเคยชินกับมันไปแล้ว เอาเถอะ ผมขอแนะนำว่า ระบบเทตทร่าของเรา ไดมีทราเป็นระบบสื่อสารทรั้งค์ดิจิตอลที่ทันสมัยที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก ในแง่ของวิธีการส่งสัญญาณ นอกจากมันจะรองรับการให้บริการโทรศัพท์มือถือแบบฟูลดูเพล็กซ์ ‘หนึ่งต่อหนึ่ง’ แล้ว มันยังช่วยให้การสื่อสารการตั้งเวลาทีมแบบ ‘หนึ่งต่อหลายคน’ ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากสร้างคลัสเตอร์แล้วสามารถเปิดได้ถึง 16 ช่องทาง เพียงพอสำหรับเทอร์มินัลส่วนตัว 1,600 เครื่อง” แฟรงค์อธิบาย
“แน่นอนว่าเพียงพอแล้วล่ะ” แฮมเล็ตพูดด้วยรอยยิ้ม
ฉินสือโอวยักไหล่ “ผมยังไม่ได้ตอบตกลงเลยเพื่อน!”
“โอ้ อย่าทำอย่างนี้สิเพื่อน นายจะต้องตอบตกลงใช่ไหม? ความจริงแล้วถ้าเราได้ใช้สัญญาณของนายก็จะเป็นประโยชน์ต่อฟาร์มปลาของนายในอนาคตเหมือนกัน ถ้ามีปัญหาอะไร นายก็แค่ประกาศในช่องสาธารณะ คนทั้งเมืองก็รับรู้แล้ว ถ้ามีคนมาหาเรื่องคุณอีก ทุกคนก็จะสามารถไปช่วยนายได้ในทันที” แฮมเล็ตกล่าว
นักการเมืองก็คือนักการเมือง ฉินสือโอวเองก็รู้สึกเป็นไปตามอย่างที่เขาพูด สถานีฐานคลัสเตอร์ของเขาเหมือนได้รวมทุกครัวเรือนไว้ในเครือข่ายเดียวกัน ถ้าบ้านไหนมีปัญหาก็สามารถจัดการได้ในประโยคเดียว
เมื่อนึกถึงส่วนนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป ได้ สร้างเลย ถ้าอย่างนั้นก็สร้างสถานีฐานคลัสเตอร์สักสถานีละกัน
“ทุกคนจะสามารถใช้สัญญาณของนายช่วยนายคิดหาวิธีที่จะได้ฟาร์มปลาแกธเธอริงมาด้วย” แฮมเล็ตกลัวฉินสือโอวไม่ยอม จึงจุดประเด็นที่น่าดึงดูดอีกหนึ่งประเด็น
แต่นี่เป็นเรื่องเล็กสำหรับฉินสือโอว เขาโบกมือเราพูดว่า “ฟาร์มปลาแกธเธอริง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะ ฉันจัดการกับมันได้”
เมื่อฉินสือโอวตัดสินใจสร้างสถานีฐาน แฟรงค์ก็ไม่กลับแล้วล่ะ เขาโทรหาบริษัท ให้ส่งเครื่องจักรมาที่เกาะแฟร์เวลโดยตรง
หลังจากขับรถกลับบ้าน ช่วงบ่ายฉินสือโอวไปแช่น้ำแร่
ยังไม่ได้ขยายน้ำพุร้อน มันจึงยังคงมีกลิ่นของธรรมชาติ หลังจากการขุดในช่วงนี้ น้ำพุยังคงพุ่งก๊าซซัลเฟอไม่หยุด ก้อนหินที่อยู่รอบๆ กลายเป็นสีเหลือง และมีกลิ่นของธาตุกำมะถันเล็กน้อย
ฉินสือโอววางเก้าอี้ตัวหนึ่งในน้ำ และเอนตัวลงไป อืม น้ำค่อนข้างร้อน กำลังสบาย
สนุกคนเดียวไม่สู้สนุกกันเป็นกลุ่ม ฉินสือโอวกวักมือเรียกหู่จือและเป้าจือ ทั้งสองกระโดดขึ้นไปนอนบนเก้าอี้ข้างๆ เขา
ฉงต้าเห็นพวกเขาลงไปในน้ำ ก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาในทันที แล้วกระโดดเข้าไปหาฉินสือโอว
“ให้ตายเถอะ ไม่!” ฉินสือโอวกรีดร้อง
………………………………………………………………..