ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 511 เตรียมชดใช้เสียเถอะ
“โอ๊ย! นี่มันยาพิษนี่! สิ่งที่พวกมันสาดลงมาก็คือยาพิษ!”
“ไอ้พวกอเมริกาเหนือไร้ศีลธรรม! โอย โอย โอย ตาฉัน!”
“ ทำไงดีครับ? กัปตันหนุ่มลมทะเล นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น?”
ซาโต้ ไทชิเองก็โดนราดเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลงทั้งตัวเช่นกัน เขาได้กลิ่นเหม็นแรงของยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์แกโนฟอสฟอรัส จนในที่สุดก็รู้สึกตื่นตระหนกอยู่ในใจ แต่ด้วยความเป็นกัปตัน เขาจึงแสร้งตะโกนออกไปนิ่งๆ “ยามาดะคุง! เร็วเข้า รีบใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมติดต่อขอความช่วยเหลือด่วน ทุกคนสงบก่อน! นี่ไม่ใช่ยาพิษ! แต่เป็นยาฆ่าแมลง…”
เบิร์ดยังขับเครื่องบินแทรกเตอร์วนอยู่บนเรือประมงไม่หยุด ยาฆ่าแมลงเป็นตันๆถูกเทลงไป ทำให้คนบนเรือต่างเปียกปอนและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า พวกลูกเรือวิ่งชุลมุนไปด้วยความหวาดกลัวเพื่อหาที่หลบและซ่อนตัวไว้
เมื่อก่อน ยามาดะ อาโออิ ไม่เคยออกทะเลไปไกล เคยแต่จับพวกปลา กุ้งอยู่ในทะเลญี่ปุ่น พอเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ขึ้นเขาจึงตื่นตระหนก สั่นไปทั้งแขนและขา พอได้ยินคำสั่งของซาโต้ ไทชิ เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม
แล้วเสียงวิทยุก็ดังขึ้นอีกครั้ง “…ทอดสมอแล้วจอดเรือเดี๋ยวนี้! คนญี่ปุ่น รีบทอดสมอแล้วจอดเดี๋ยวนี้! ปิดโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมนั่นซะ! หากเราตรวจจับสัญญาโทรศัพท์ดาวเทียมนั่นได้เมื่อไร พวกเราจะโจมตีอย่างทำลายล้างทันที…”
ประกอบกับเสียงประกาศของเบิร์ด ปืนกล M60 ที่ถูกติดตั้งไว้ตรงประตูห้องโดยสารก็ดังคำรามขึ้น ‘ปังปังปัง…’
กระสุนจำนวนหนึ่งพุ่งทะลุดาดฟ้าเรือที่ว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง จนดาดฟ้าบนเรือเป็นประกายไฟเต็มไปหมด
เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวไม่ใช่นักแม่นปืนตัวฉกาจ ดังนั้นพวกเขาจึงยังควบคุมวิถีกระสุนไม่ค่อยดี พอล ซาโกรจึงนำเข้ากระสุนส่องวิถีมาหนึ่งล็อตเพื่อการนี้ นักท่องเที่ยวจึงสามารถติดตามกระสุนหลังจากการยิง ซึ่งสะดวกในการปรับทิศทางการยิงของตัวเอง
นีลเซ็นพอเห็นกระสุนส่องวิถีล็อตนี้ก็ดีใจยกใหญ่ เพราะของชิ้นนี้นอกจากจะช่วยปรับวิถีกระสุนให้เที่ยงตรงแล้ว ยังมีประโยชน์ในแง่การยับยั้งที่ดีอีกด้วย
ตามคาด เมื่อเห็นกระสุนที่พุ่งมาราวกับเลเซอร์แสงสีส้มในเวลานี้ ยามาดะ อาโออิตกใจกลัวจนมือสั่นเทาไปหมด สุดท้ายจึงยังไม่ได้หยิบโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมขึ้นมา และทอดสมอออกจากเรืออย่างว่าง่าย
นีลเซ็นรีบปีนบันไดฉุกเฉินขึ้นไปที่เรือประมง ในมือถือปืนพก SIG ไว้ รีบขยับปากกระบอกปืนเล็งไปยังที่ซ่อนที่เป็นไปได้อย่างว่องไว ตะโกนเสียงดัง “ประสานมือไว้บนหัวเดี๋ยวนี้! หมอบซะ! ประสานมือไว้บนหัวเดี๋ยวนี้! หมอบซะ!”
ซาโต้ ไทชิเดาไม่ออกเลยว่าที่เจออยู่คือคนพวกไหนกัน เดี๋ยวก็ปืนกล เดี๋ยวก็ปืนพก แล้วยังบุกรุกขึ้นมาบนเรืออีก? จนเขานึกว่ามีโจรสลัดปรากฏตัวอยู่รอบๆแคนาดา จึงเป็นคนแรกที่ยอมจำนนยกมือประสานไว้บนหัวแล้วหมอบบนพื้นแต่โดยดี
พอเห็นกัปตันยอมง่ายๆ ลูกเรือคนอื่นจะทำอะไรได้ พวกเขาก็ทำได้เพียงก้มหมอบต่ำลงไปบนเรืออีก
ฉินสือโอวและคนอื่นๆปีนตามหลังขึ้นไป พอเขาขึ้นมาบนเรือก็เห็นภาพทุกคนคุกเข่ายอมแต่โดยดี ภายในใจรู้สึกเสียดาย ยังไม่ทันได้ยิงออกไปสักกระสุน แม่งจบเกมเสียแล้วเหรอวะ? คนญี่ปุ่นไม่ได้แน่มากหรอกเหรอ ต่อต้านสักหน่อยสิ ให้เขาได้ยิงสักสองนัดก็ยังดี
ตอนนี้ฉินสือโอวเหมือนฝ่ายคุมเกมมีอำนาจใหญ่ เขาไม่เคยกังวลเรื่องฆ่าคนตายเลยสักนิด เพราะว่าเรือประมงญี่ปุ่นลำนี้ได้รุกล้ำเข้าสู่เขตแดนของเขาแล้ว อีกอย่างมั่นใจได้เลยว่าไม่ได้มีการรายงานตัวกับกรมศุลกากร ซึ่งนั่นก็คือการรุกล้ำข้ามแดนแล้ว
แม้ว่าแคนาดาจะใช้ระบอบการปกครองแบบประเทศอังกฤษ แต่การใช้ชีวิตของประชาชนก็ยังเหมือนประเทศเพื่อนบ้านอย่างอเมริกามากกว่า คือละเมิดทรัพย์สินส่วนบุคคลไม่ได้
ยิ่งเป็นการคุ้มครองฟาร์มปลาส่วนตัวของรัฐนิวฟันด์แลนด์ด้วยแล้วยิ่งเข้มงวด ถ้าหากเจอพฤติกรรมลักลอบขโมยปลา เจ้าของฟาร์มปลามีสิทธิ์ที่จะเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ถ้าพบคนตายอย่างมากก็เสียถือว่าเป็นการป้องกันตัว
นีลเซ็นก้มลงไปเล็กน้อย ลำกระบอกปืน SIG ส่วนบนตั้งอยู่บนบ่า ดวงตาแนบชิดกับด้ามปืนมองทะลุเป้าปืนสแกนมองกลุ่มคน เขาก้าวพรวดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ดึงลูกเรือขึ้นมาตามอำเภอใจตะโกนเสียงดัง “พวกแก มีกี่คน? เร็ว เร็วๆเข้า!”
ลูกเรือคนนี้ไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษ แล้วตอนนี้ยังถูกทำให้ตกใจกลัวอีก ถูกนีลเซ็นเล็งปืนใส่จนร้องไห้ทุรนทุราย “อูไดหวะ อิเคนะอิไต อูไดหวะ อิเคนะอิไต…”
“แม่ง! แกร้องอะไรออกมา ภาษาอังกฤษ! ภาษาอังกฤษสิ !” นีลเซ็นตะคอกใส่
ยามาดะ อาโออิที่มุดออกมาจากห้องคนขับรีบรับหน้าที่เป็นล่ามในทันที เขาใช้ภาษาอังกฤษที่นับว่าคล่องพอตัวแปลออกมา “คุณผู้ชายครับ เคนชินคุงบอกว่า ‘ได้โปรดอย่ายิง’ ผมเป็นล่ามแปลบนเรือลำนี้ บนเรือนี้มีทั้งหมด 11 คน 11 คนครับ!”
ฉินสือโอวลองนับคนที่คุกเข่าอยู่ตรงดาดฟ้ามี 11 คนพอดี ไม่มีคนหลบซ่อนแน่ แบบนี้ก็วางใจได้ว่าจะไม่มีใครออกมาลอบยิง เขามองไปที่ยามาดะ อาโออิ พูดขึ้น “ดีมาก แกบอกคนที่มากับแกด้วยว่า ตอนนี้พวกแกโดนจับหมดแล้ว”
หลังจากที่ยามาดะ อาโออิ แปลเรียบร้อย ซาโต้ ไทชิก็ถามขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวว่า “พวกคุณเป็นใคร?”
ฉินสือโอวตอบอย่างเฉยเมย “ฉันเป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่นี่ พวกแกรุกล้ำเขตน่านน้ำของประเทศเรา แล้วยังล้ำมาที่ในพื้นที่ฟาร์มปลาฉันด้วย”
พอได้ยินว่าฉินสือโอวไม่ใช่หน่วมยามชายฝั่ง ซาโต้ ไทชิก็โล่งใจในทันที เขายืนขึ้นตะคอกใส่ “ท่านครับ สิ่งที่ท่านทำอยู่มันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ! พวกท่านไม่มีสิทธิ์มาจับพวกลูกเรือของผม พวกเราเป็นประชาชนของชาติญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่…”
“ฟัคยู!” บูลพอเดินขึ้นมาก็ใช้ปืนเรมิงตันยิงไปที่ซาโต้ ไทชิ เขาล้มไปกองอยู่กับพื้นทันที หลังจากนั้นก็ใช้ขาแข็งแรงของเขาเหยียบไปที่หน้าอกของเขาอย่างรุนแรง ตะคอกเสียงดัง “พูดเหี้ยอะไร?! เคารพกัปตันของเราหน่อยดิวะ! แล้วแม่งใครให้แกยืนขึ้นมาห๊ะ?!”
ฉินสือโอวไม่ได้ห้ามบูล คนญี่ปุ่นก็แบบนี้ คุณต้องเหี้ยมโหดกับพวกเขาหน่อย ให้พวกเขารู้ว่าใครที่กุมอำนาจอยู่ในมือกันแน่ คนชนชาตินี้ก็แบบนี้ ตั้งแต่เล็กก็ถูกสั่งสอนว่าผู้ที่แข็งแกร่งกว่าคือกษัตริย์ ผู้ที่อ่อนแอกว่าคือทาส จึงถูกปลูกฝังกลายเป็นความคิดชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า
เป็นไปตามคาด การกระทำอันเหี้ยมโหดของบูลไม่ได้ทำให้ลูกเรือคนอื่นโกรธแค้น แค่ทำให้พวกเขาเชื่อฟังมากกว่าเดิม
นีลเซ็นไปขับเรือ ฉินสือโอวให้บูลเฝ้าคุมพวกเขาบนดาดฟ้าไว้ ใครพยศขึ้นมาก็จัดการได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ!
ฉินสือโอวให้ยามาดะ อาโออิพาเขาไปดูที่ถังน้ำแข็งบนเรือ ในนั้นทั้งหมดมีทั้งวาฬ วาฬสีเทา วาฬหลังค่อม วาฬหัวคันศร วาฬฟิน วาฬครีบใหญ่ วาฬไรท์ เป็นต้น ที่ถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆแล้ว นับดูคร่าวๆก็ราวยี่สิบกว่าตัว!
พอไปดูตู้แช่แข็งหูฉลาม หูฉลามเลือดสดไหลย้อยถูกจับห้อยเรียงตามขนาด เลือดสีแดงฉาน บาดใจเหลือเกิน!
ฉินสือโอวรู้สึกโกรธมาก ขึ้นไปที่ดาดฟ้าไม่พูดอะไรสักคำก็ถีบลูกเรือแต่ละคน จนพวกเขาต่างร้องทุรนทุราย
หน้าอกของฉินสือโอวเต็มไปด้วยเพลิงไฟแห่งความโกรธ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากหัวใจโพไซดอน เขาจึงควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ หลายครั้งที่อยากจะดึงไกปืนไรเฟิลซะ โชคยังดีที่ยังมีสติอยู่ จึงแค่อัดพวกลูกเรือที่จับวาฬไปหนึ่งที
หลังจากที่ไปห้องกัปตัน ฉินสือโอวถลึงตามองแล้วก็ต้องรู้สึกโกรธขึ้นมาอีก ในห้องกัปตันมีรูปจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนแขวนอยู่รอบห้อง ซึ่งรูปทั้งหมดนั้นล้วนเป็นรูปที่ซาโต้ ไทชิถ่ายคู่กับวาฬและฉลามที่จับมาได้ เลือดไหลนอง ไม่รู้เลยว่าต้องมีวาฬและฉลามจำนวนเท่าไรที่ตายไปด้วยน้ำมือของเขา
เขามองอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็พบว่ามีอยู่รูปหนึ่งมีวาฬเบลูกาอยู่ในนั้น บนรูปมีเขียนวันที่และสถานที่เอาไว้ วันที่ 24 เดือนเมษายน มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ รัฐนิวฟันด์แลนด์
นึกย้อนไปถึงตอนที่บอลหิมะมีอาการคลั่งหลังจากที่เห็นเรือลำนี้ ฉินสือโอวก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาฉับพลัน แม่งเอ๊ย แม่ของบอลหิมะถูกสารเลวนี่จับไปแล้วฆ่าตายเหรอเนี่ย มิน่าบอลหิมะถึงได้โกรธขนาดนี้!
ความแค้นที่ฆ่าแม่คราวนี้ ต้องไม่ได้อยู่ร่วมโลกกัน!
ฉินสือโอวปิดประตูเสียงดังโครม เขาให้นีลเซ็นดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดจากเครื่องนำทางจีพีเอสของเรือล่าวาฬซึ่งจะเป็นหลักฐานในการรุกล้ำของเรือล่าวาฬในฟาร์มปลา ซึ่งมีบันทึกทั้งเวลาและสถานที่ไว้เรียบร้อย
พอฉินสือโอวเห็นพวกลูกเรือ ก็อธิบายความคิดของเขาออกมาง่ายๆ “พวกแกเข้ามาขโมยในฟาร์มปลาของฉัน รุกล้ำเข้าในเขตบ้านฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่จำคุกก็ต้องชดใช้เสีย ถ้าจะชดใช้ กัปตันและต้นเรือต้องชดใช้หนึ่งล้าน ส่วนลูกเรือที่เหลือคนละห้าหมื่น”
……………………………………….