ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 526 งานเลี้ยงในครอบครัว
การประมูลสิ้นสุดลงแล้ว นักข่าวที่ล้อมอยู่รอบๆ ก็เริ่มถ่ายรูปจนเสียงแฟลชดังสนั่น เทซึกะ โกดะแย้มรอยยิ้มถ่ายรูปคู่กับราชาทูน่ายักษ์ในทุกอิริยาบถ ใบหน้าหยาบหนายกยิ้มจนกลายเป็นช่อดอกเก๊กฮวย สว่างสดใสมากๆ
ในฐานะที่เป็นเจ้าของปลานีลเซ็นจึงต้องเข้าไปถ่ายรูปร่วมกัน เขาทั้งจับมือ ทั้งกอดกับเทซึกะ โกดะเหมือนกับพี่น้องที่ไม่ได้พบกันมานาน
หลังจากการประมูลสิ้นสุดลงก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับฉินสือโอวแล้ว บริษัทร่วมทุนคิโยมุระมีร้านอาหารของตัวเองอยู่ที่โตเกียว ปลาตัวนี้จะถูกส่งไปที่ร้านอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเป็นรางวัลให้กับลูกค้าเก่าแก่
สำหรับลูกค้าเก่าแก่กับลูกค้าวีไอพีของบริษัทร่วมทุนคิโยมุระ ในวันนี้กับวันพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส ดื่มด่ำกับปลาทูน่ายักษ์ตัวนี้ แต่แน่นอนว่าเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
ในวันเดียวกัน ฉินสือโอวอ่านหนังสือพิมพ์ อ่านข่าวก็เห็นรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับปลาทูน่ายักษ์อยู่เป็นจำนวนมาก ในข่าวใช้คำจำพวก ‘เรื่องมหัศจรรย์’ ‘สิ่งล้ำค่า’ ‘ตื่นตะลึง’ ‘ครั้งแรกของโลก’ ในการบรรยายอยู่หลายครั้ง ท้ายที่สุดการประมูลราชาทูน่าก็ถึงกับได้ตีพิมพ์บนหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน
นี่เกินความคาดหมายของฉินสือโอว เขาอ่านข่าวเพราะอยากจะหาข่าวคราวเกี่ยวกับเรือไดโตะโชวะมารุ เขาอยากจะดูว่าการติดต่อสื่อสารกันระหว่างญี่ปุ่นกับแคนาดาเป็นยังไงบ้างแล้ว
ปรากฏว่า เขาพลิกหน้าหนังสือพิมพ์ดูก็ยังหาข่าวที่มีความเกี่ยวข้องไม่เจอ ต่อมาเขาไปค้นจากในอินเทอร์เน็ตถึงหาเจอบางส่วน
เป็นการเขียนข่าวอย่างง่ายๆ รายงานว่าเรือล่าวาฬลำหนึ่งจากฮอกไกโดประสบกับสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้น้ำในน่านน้ำของนิวฟันด์แลนด์ เพื่อที่จะหลบหลีกคลื่นสึนามิจึงเข้าสู่น่านน้ำของแคนาดา ต่อมาเนื่องจากความเข้าใจผิดเรือประมงลำนั้นจึงถูกอายัดไว้ก่อนชั่วคราว
พอได้เห็นการรายงานข่าวอย่างคลุมเครือ พูดวกไปวนมาพวกนี้ ฉินสือโอวก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องการทูตที่มุทะลุเด็ดขาดหรอกเหรอ? สื่อมวลชนของญี่ปุ่นไม่ได้ภูมิใจกับการใช้คำพูดที่เฉียบคมหรือยังไง? ทำไมถึงได้เชื่องขนาดนี้กันเล่า?
เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกที่จะรอโอกาสเหมาะแล้วค่อยจัดการคดีเรือล่าวาฬที่โดนจับ ไม่อย่างนั้นการรายงานข่าวของสื่อคงไม่เป็นไปอย่างรวบรัดเช่นนี้
ดูท่าว่าการควบคุมข้อวิจารณ์ทางการเมืองของมวลชน ก็คงไม่ใช่แค่กรรมสิทธิ์ของคอมมิวนิสต์ แต่ประเทศประชาธิปไตยอย่างญี่ปุ่นมีฝีมือด้านนี้เช่นกัน
ฉินสือโอวรู้สาเหตุที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดการแบบนี้ หลายปีมานี้อุตสาหกรรมการล่าวาฬ ล่าฉลามต้องพบกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากทั่วโลก และเนื่องจากการพัฒนาที่เจริญงอกงามของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ทำให้ราคาของอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่โปรตีนตกลงอย่างหนัก
ดังนั้นชาวประมงจำนวนมากที่เคยที่ประกอบอุตสาหกรรมการล่าวาฬและฉลามต่างก็พากันล่าถอย สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดก็คือการถูกจับกุมในที่ที่ไม่คุ้นเคยอย่างในต่างประเทศ ในคราวนี้เรือไดโตะโชวะมารุคงต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่แล้ว เนื่องจากมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ช่วยพิสูจน์ว่าพวกเขาลักลอบจับปลาในทะเลของฟาร์มปลาต้าฉิน
ดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นย่อมไม่ต้องการให้บรรดาชาวประมงตกใจกลัวหลังจากรู้เรื่องนี้ อีกทั้งยังไม่ต้องการให้ประชาชนรู้ถึงการทูตที่ล้มเหลวของพวกเขา
พอทราบข่าวพวกนี้แล้ว ฉินสือโอวก็โยนมันทิ้งไว้ข้างๆ ไม่อ่านมันอีก เขาตั้งใจจะพาวินนี่ไปช้อปปิ้งในโตเกียว จึงมุ่งตรงไปยังแหล่งช้อปปิ้งย่านกินซ่า
วินนี่ไม่ค่อยสนใจการช้อปปิ้งเท่าไรนัก ไม่อย่างนั้นเธอคงอยู่ในเมืองเล็กๆ อย่างเกาะแฟร์เวลกับฉินสือโอวไม่ได้ ทั้งสองคนจับมือกันเดินไปบนถนน ไม่ต่างกับนักศึกษาที่ไม่มีเงินเท่าไรนัก ไม่ซื้อของเอาแต่มองดูรอบๆ เมื่อเจอของที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็พูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น
เดินเล่นไปจนถึงตอนท้าย พวกเขาก็เข้าไปในห้างสรรพสินค้าวาโกด้วยกัน หนึ่งในห้างหรูที่ดังที่สุดในย่านกินซ่า ถูกเรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คของย่านกินซ่า เสื้อผ้าและเครื่องประดับข้างในเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของความประณีตและมีราคาสูง
คราวนี้ฉินสือโอวกลายเป็นคนรวยที่ใช้เงินแบบไม่คิดจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับหรือนาฬิกา พอดูเสร็จแล้วก็ตบบัตรแบล็ก อาเม็กซ์ซื้อๆๆ มาทั้งหมด
วินนี่ซื้อเสื้อกันหนาวสีสว่างที่เหมาะกับฤดูใบไม้ผลิให้ฉินสือโอวหนึ่งชุด เป็นเสื้อผ้าสีครีมสว่าง คอเสื้อตกแต่งด้วยเส้นไหมสีฟ้าหลายเส้น จัดคู่กับชุดแบบสูทลำลองดึงดูดสายตาได้ดีมาก
ฉินสือโอวเปลี่ยนเสื้อผ้ามองดูตัวเองในกระจก แล้วก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ วินนี่ไปเลือกเสื้อเชิ้ตยีนมาอีกตัว พอให้เขาเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็ส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็บอกให้เขาเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวอีกตัว คราวนี้เธอถึงพยักหน้าให้
ฉินสือโอวลองเทียบกัน แล้วพูดกับเธอว่า “ที่รักครับ ผมคิดว่าเสื้อเชิ้ตตัวนี้ดีกว่านะ ดูกระฉับกระเฉงมากกว่า เข้ากับนิสัยของผมมากกว่าด้วย”
วินนี่กำลังช่วยเข้าจัดเสื้อผ้า เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นมาจูบเขาแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ใช่แล้วค่ะ คุณพูดถูก แต่พวกเราต้องไปร่วมงานเลี้ยงในที่บ้านของมิสเตอร์เทซึกะ เพราะอย่างคุณเลยต้องสวมเสื้อผ้าที่เป็นทางการหน่อย”
“แต่มันคร่ำครึเกินไปหรือเปล่าครับ?”
วินนี่เม้นปากยิ้ม เธอบอกกับเขาว่า “รสนิยมของผู้ชายญี่ปุ่นวัยกลางคนอย่างมิสเตอร์เทซึกะไม่เหมือนกันกับคนหนุ่มหรอกนะคะ พวกเขาเคร่งครัดกับแฟชั่นแบบเก่า มองว่าลักษณะแบบนี้ถึงจะเข้ากันกับผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ”
เสื้อผ้าหนึ่งชุดราคาหนึ่งล้านสองแสนเยน แปลงเป็นเงินหยวนก็ประมาณหกหมื่นกว่า วินนี่ปฏิเสธที่จะใช้บัตรแบล็ก อาเม็กซ์ของฉินสือโอว เธอเปลี่ยนเป็นบัตรของตัวเองแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันมีเงินเก็บของตัวเองค่ะ”
ฉินสือโอวไม่รู้เรื่องเทรนด์แฟชั่นกับการจับคู่เสื้อผ้าเลยแม้แต่นิดเดียว ทว่าเขามีความรู้สึกที่ว่องไวและเฉียบแหลม นี่ต้องขอบคุณหัวใจโพไซดอน เขาพาวินนี่เดินเล่นไปบนถนน สังเกตสายตาของวินนี่ที่มองเสื้อผ้าก็รู้ว่าเธออยากได้อะไร
สุดท้ายฉินสือโอวก็เลือกเสื้อคลุมสำหรับฤดูใบไม้ผลิสีฟ้าเข้ารูปชิ้นหนึ่งให้กับวินนี่ เสื้อผ้าชิ้นนี้ใช้การออกแบบด้วยการถักเย็บ ดูเป็นหนึ่งเดียวกันเข้ากันกับชุดเดรสลูกไม้สีขาวของวินนี่เป็นอย่างมาก
เสื้อผ้าผู้หญิงแพงกว่าของผู้ชายอยู่มาก เสื้อคลุมตัวเล็กชิ้นนี้ มีราคามากกว่าเสื้อผ้าของฉินสือโอวทั้งชุดถึงสองเท่า เป็นเงินจำนวนสองล้านสามแสนหกหมื่นเยน
เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อย หลังจากนั้นก็เป็นงานเลี้ยงในตระกูลของเทซึกะแล้ว
เทซึกะ โกดะจัดการให้นิชิมุระ เร็นมารับพวกเขาทั้งสองคน ขับรถตามชินจูกุมุ่งไปทางเหนือ ออกจากเขตนครเข้าสู่เขตปกครอง
โตเกียวแบ่งออกเป็นสี่ส่วนได้แก่ เขตนคร เขตเมือง เขตปกครองกับเขตเกาะ เขตนครมาจาก 23 เขตที่รวมกันเป็นศูนย์กลางของโตเกียว เขตเมืองคือ 26 เขตหน่วยงานเทศบาลทางฝั่งตะวันตกของเขตนคร เขตปกครองคือเขตชานเมืองของเขตนิชิทามะ ส่วนเขตเกาะก็คือหมู่เกาะอิซุและหมู่เกาะโองาซาวาระในมหาสมุทรแปซิฟิก
นิชิมุระ เร็นเล่าให้ฉินสือโอวฟังว่า บ้านเดิมของเทซึกะ โกดะอยู่ที่เขตนิชิทามะ งานเลี้ยงในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่บ้านเดิมของเขา ถึงจะมีคนไม่มาก แต่ก็มีข้อกำหนดสูง ตอนที่พูดมาถึงตรงนี้ใบหน้าของเขาก็ปรากฏสีหน้าของความภาคภูมิใจออกมา เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้
เขตนิชิทามะเป็นเขตชนบทในชานเมืองของโตเกียว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบ เก็บรักษาพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่เอาไว้
พร้อมกับรถที่ขับทะยานไปทางทิศเหนือ ตึกสูงระฟ้าก็ค่อยๆ ลดน้อยลงไป พืชคลุมดินและผลิตผลทางการเกษตรสีเขียวสดก็เริ่มกลายมาเป็นตัวนำ
ฉินสือโอวมองไปยังสองข้างทาง ผลิตผลทางการเกษตรในที่นาส่วนใหญ่เป็นมันฝรั่ง บักวีต วาซาบิกับไซคลาเมน บางครั้งก็จะเห็นข้าวโพดหวาน ขับรถมุ่งหน้าสู่ทางเหนือต่อ ผลไม้ก็เริ่มเยอะขึ้นมาแล้ว สวนพีช สวนแพร์ สวนพลัม มีบางส่วนที่ยังมีแต่กิ่งแห้ง และก็มีบางส่วนที่ออกผลแล้ว
ออกมาจากเขตเมืองแล้วขับไปอีกครึ่งชั่วโมง หลังจากผ่านที่นากว้างใหญ่มาแล้ว บริเวณภูเขาผืนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
ใต้ภูเขาริมแม่น้ำ คฤหาสน์แบบเรียบง่ายและดั้งเดิมหลายหลังถูกสร้างขึ้นในเขตภูเขา นิชิมุระ เร็นขับรถไปทางทิศตะวันออก เมื่อหยุดรถลง เด็กคนหนึ่งที่ได้ยินเสียงรถยนต์ก็เดินออกมาเปิดประตูรถด้วยความเคารพนอบน้อม
นิชิมุระ เร็นแนะนำว่า “เรียวตะ นี่คือมิสเตอร์ฉินกับคุณวินนี่ เป็นแขกคนสำคัญของคุณพ่อของคุณ”
เด็กคนนั้นก็โค้งคำนับให้ฉินสือโอวกับวินนี่ แล้วพูดขึ้นมาว่า “ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทั้งสองครับ กรุณาตามผมมาทางนี้”
คฤหาสน์หลังนี้เป็นลานบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม พื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ใช้รั้วไม้ล้อมไว้ ดูลักษณะแล้วน่าจะมีพื้นที่ขนาดหลายสิบหมู่หรือกระทั่งว่าอาจจะมีมากกว่านั้น
…………………………………………………