ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 540 ตามพวกมันไป
หมาป่าและสุนัขนั้นไม่เหมือนกัน พวกมันนั้นกลัวการเข้าใกล้น้ำ ไม่เหมือนกับสุนัขที่ชอบว่ายน้ำเล่นในน้ำ
โดยเฉพาะลูกหมาป่าอย่างเสี่ยวหลัวปอ พวกมันนั้นพึ่งพาอาศัยภูเขาและพื้นดินมากกว่าพ่อแม่ของมันเสียอีก ส่วนคลื่นทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นค่อนข้างน่ากลัวสำหรับพวกมัน ปกติแล้วพวกมันนั้นไม่เคยไปวิ่งเล่นบนชายหาดหรือท่าเรือเลย
วินนี่ดันเสี่ยวหลัวปอไปข้างหน้าเล็กน้อย เท้าทั้งสี่ข้างของเสี่ยวหลัวปอที่อยู่บนแผ่นไม้ที่ท่าเรือนั้นสั่นเกร็ง มันไม่อยากที่ก้าวเท้าไปข้างหน้าเลยไม่แต่ครึ่งก้าว วินนี่ออกแรงดันมันมากขึ้น แต่แรงขนาดไหนเจ้าหมาป่าตัวนี้ก็ไม่ยอมขยับเลยแม้แต่นิดเดียว มันนอนแน่นิ่งลงบนแผ่นไม้ไม่ไหวติง
วินนี่ออกแรงดันเสี่ยวหลัวปอพลางเอาเศษผ้าไปแกว่งให้มันดม แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ลูกขึ้นมานะ แม่บอกให้ลุกยังไงล่ะ ยังมีหน้ามานอนอยู่ที่นี่อีกหรือ? อีกหน่อยคงจะกินนอนถ่ายอยู่ในห้องอย่างเดียวหรือยังไง?”
เสี่ยวหลัวปอนั้นส่ายหัวอย่างเอาเป็นเอาตาย มันทำเสียงร้องงุ้งงิ้งออกมา มันก้มหัวลงมองไปยังคลื่นทะเลที่พัดผ่านไปมา อุ้งเท้าของมันนั้นเกือบจะหล่นลงไปในทะเล เสี่ยวหลัวปอตกใจจนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ร่างกายของมันสั่นเทา พลางร้องเสียงหลงอย่าตกใจ
ฉินสือโอวที่กอดหู่จือและเป้าจืออยู่ด้านหลังนั้น อยากจะหัวเราะออกมาเสียเหลือเกิน วินนี่หันกลับไปถลึงตาใส่เขา และเพราะแบบนั้นเขาจึงทำได้เพียงยกมือขึ้นลูบจมูกแล้วพาหู่จือกับเป้าจือออกจากท่าเรือไป
วินนี่ก็ยังคงฝึกเสี่ยวหลัวปอต่อไป พลางขู่ออกมาว่าจะโยนมันลงน้ำ หู่จือกับเป้าจือมองไปยังเสี่ยวหลัวปอที่กำลังร้องออกมาอย่างน่าสงสาร พวกมันทั้งสองนั้นยิ้มออกมา แล้วมองไปยังเสี่ยวหลัวปอด้วยสายที่ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก
เสี่ยวหลัวปอรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนในที่สุดวินนี่ก็ปล่อยมัน มันรีบถอยออกมาทันที แล้ววิ่งออกจากท่าเรือไปนั่งฉี่ จากนั้นก็ค่อยๆ กลับมาที่ท่าเรืออย่างกล้าๆ กลัวๆ อีกครั้ง มันให้หัวของตัวเองเข้าไปคลอเคลียกับแขนของวินนี่พลางครางออกมาเบาๆ ราวกับเด็กน้อยที่กำลังร้องขอความสงสารอยู่
ท่าทางของมันทำให้สีหน้าของวินนี่นั้นดีขึ้นมาเล็กน้อย เธอตีเข้าไปที่หัวของเสี่ยวหลัวปอเบาๆ แล้วถามออกมาว่า “ต่อไปยังกล้าที่จะถ่ายในห้องอีกไหม? ต่อไปต้องออกมาถ่ายที่สนามหญ้าหรือไม่ก็ที่ชายหาดเท่านั้นนะ รู้ไหม?”
เสี่ยวหลัวปอนั้นรีบกะพริบตาอย่างน่ารักเพื่อแสดงว่ามันนั้นจะทำตามคำสั่ง วินนี่นั้นพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นจึงพาเสี่ยวหลัวปอออกมาจากท่าเรือ
จนมันเดินมาจนถึงโป๊ะท่าเรือ เสี่ยวหลัวปอก็กลับมามีความกล้าเหมือนเดิม มันรีบกระโดดวิ่งไปมาเหมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกกลัวมาก่อน วินนี่นั้นยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นท่าทางของมัน เมื่อมันกระโดดไปมาจนมาถึงสุดโป๊ะท่าเรือปลายของมันก็…
“เอ๋ง!” มันร้องออกมาอย่างตกใจ เสี่ยวหลัวปอที่อยู่บริเวณปลายโป๊ะท่าเรือนั้นตกลงไปทะเลทันที!
ยังดีที่บริเวณใกล้ๆ นี้ยังมีชายหาดอยู่ใกล้ๆ เมื่อเสี่ยวหลัวปอตกลงน้ำไปมันก็รีบเงยหน้าขึ้นมาจากทะเลแล้วขยับเท้าทั้งสี่ทั้งให้ว่ายน้ำมาขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว เมื่อขาอันสั่นเทาทั้งสี่ข้างสัมผัสกับพื้นดิน มันก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด มันจึงวิ่งขึ้นไปบนฝั่งโดยการแกว่งหางไปมาอย่างสบายใจ
ในขณะที่วินนี่นั้นพาเสี่ยวหลัวปอกลับมาอาบน้ำ ฉินสือโอวก็พาพวกหู่จือขึ้นมายังท่าเรือ หลังจากที่จัดแจงที่ให้ทั้งสองตัวนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างตั้งใจว่า “ยังจำตอนที่พวกแกเด็กๆ แล้วทำแบบนี้ได้ไหม? หืม? ขับถ่ายในห้องของฉันมันถูกต้องหรือเปล่า?”
หู่จือและเป้าจือนั้นทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พวกมันเงยหน้าแลบลิ้นอย่างน่ารักมายังฉินสือโอว ใบหน้านั้นดูใสซื่อไร้เดียงสา
ฉินสือโอวเลียนแบบวินนี่โดยการลากพวกมันไปที่ท่าเรือ พวกมันสองตัวนั้นไม่ได้กลัวน้ำทะเลอยู่แล้ว นอกจานี้เป้าจือยังทำท่าชะเง้อคอมองลงไปยังน้ำทะเลอย่างสนใจอีกด้วย
เมื่อเห็นแบบนั้น ใบหน้าของฉินสือโอวก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นมา มือทั้งสองข้างของเขา ออกแรงดันเป้าจือผู้โชคร้ายจนตกลงไปในน้ำทะเลสุดแรงราวกับกำลังตีโฮมรันในกีฬาเบสบอลอยู่ หู่จือที่อยู่ด้านหลังเป้าจือนั้น ก็โดนผลักลงน้ำด้วยเช่นกัน
“บ๊อก บ๊อก บ๊อก บ๊อก….ตู้ม!”
“บ๊อก บ๊อก บ๊อก….ตู้ม!”
เมื่อหู่จือและเป้าจือตกลงไปในน้ำ ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน ปกติแล้วสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์นั้นว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีทักษะการว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย พวกมันนั้นรีบขยับขาทั้งสี่ข้างว่ายขึ้นฝั่งมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่พวกมันทั้งสองตัวขึ้นฝั่งมาพวกมันก็รู้ว่าพวกมันโดนฉินสือโอวแกล้ง พวกมันก็พากันวิ่งออกไปหาฉินสือโอว เมื่อเข้าไปใกล้เขาพวกมันก็สะบัดขนอย่างแรง ทำให้ร่างกายของฉินสือโอวนั้นเปียกไปด้วยน้ำทะเล ราวกับว่านี่เป็นการแก้แค้น
หลังจากที่กลับบ้านก็ถึงเวลากินอาหารเย็นทันที เสี่ยวหลัวปอนั้นแสดงท่าทีออกมาอย่างว่านอนสอนง่าย มันนั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ที่ข้างวินนี่ วินนี่ให้อะไรกินมันก็กินจนหมด เมื่อก่อนนี้มันเลือกกินมาก แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว
เมื่อเห็นแบบนี้ ฉินสือโอวอดที่ถอนหายใจออกมาไม่ได้ นี่สินะการรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
ก่อนนอน ฉินสือโอวได้ปล่อยจิตโพไซดอนให้เข้าไปยังฟาร์มปลาแกธเธอริง เขาอยากจะเข้าไปดูที่แห่งนี้นั้นมีสัตว์อะไรใหม่ๆ เข้ามาหรือไม่
เดิมทีเขานั้นแค่คิดว่าอาจจะโชคดีเผื่อจะเจออะไรดีๆ ผลกรากฎว่าหลังจากที่ใช้จิตโพไซดอนเข้าไปในฟาร์มปลาแห่งนี้ กลับเจอเรือลำเล็กลำหนึ่งกำลังแล่นอยู่เลียบชายฝั่ง บนเรือนั้นมีคนยืนอยู่
คริสตัลที่ร่วงลงไปทะเลนั้นไม่ได้ละลายไปในทันที แต่เมื่อคลื่นทะเลพัดเข้ามายังชายฝั่งนั้น คลื่นพวกนั้นก็จะค่อยๆ ละลายหายเข้าไปในทรายบนชายฝั่ง
อย่างไม่รู้ตัว ฉินสือโอวก็รู้สึกขึ้นมาว่า
นี่มันไม่ถูกต้อง มืดค่ำขนาดนี้ ทำไมคนพวกนี้ถึงโยนอะไรลงไปทะเลในตอนนี้กันนะ? คงไม่ได้จะมาให้อาหารปลาหรอกมั้ง? คงไม่ต้องถามว่ามีอาหารปลาที่เป็นคริสตัลแบบนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะว่าถ้ามี อัลเบิร์ต ไอสไตน์ก็คงจะดีใจจนสร้างฟาร์มปลาขึ้นมาแล้วล่ะ?
เพราะว่าไม่กี่วันหลังจากที่เฮยป้าหวังนั้นปรากฎตัว ฟาร์มปลาแกธเธอริงก็เงียบลงมาก ทำไมให้ปลาแฮร์ริ่งและปลาซาบะจำนวนหนึ่งว่ายน้ำเข้ามาหาที่อยู่อาศัยที่นี่
พวกปลาที่ว่ายน้ำอยู่บริเวณนี้ หางและครีบจู่ๆ ก็หยุดเคลื่อนไหว จากนั้นตัวของพวกมันก็แน่นิ่งและตัวของมันก็พลิกขึ้นแล้วลอยขึ้นผิวน้ำในสภาพนอนหงาย
หลังจากที่เรือประมงพวกนั้นปล่อยผงคริสตัลขาวขุ่นลงไปตามแนวริมชายฝั่งจนเสร็จแล้วพวกเขาก็เตรียมที่จะออกเรือหนีไป ฉินสือโอวนั้นอยากจะตามเข้าไปแอบฟังสิ่งที่คนในเรือนั้นคุยกัน แต่น่าเสียดายที่เสียงของมอเตอร์นั้นดังเกินไปจนกลบเสียงพูดคุยของคนที่อยู่บนเหลือจนไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
เมื่อฉินสือโอวกลับมา ปลาที่ขึ้นมานอนหงายท้องที่ผิวทะเลนั้นไม่ได้มีเพียงตัวสองตัว แต่ปลาเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับน่านน้ำของฟาร์มปลาแกธเธอริงนั้นตายหมดทุกตัว เมื่อฉินสือโอวเห็นดังนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาพอจะเดาได้แล้วว่า ไอ้ผงพวกนั้นที่แท้ก็เป็นยาพิษ!
ฉินสือโอวนั้นรีบไปหากั้งตั๊กแตนเจ็ดสีทันที แล้วจากนั้นก็รีบพาพวกมันขึ้นมายังริมชายหาด แล้วให้พวกมันขุดทรายมุดลงไป หลังจากที่เขามาที่นี่ เขาก็เห็นว่าพวกมันต่างพากันมุดออกมาจากทราย พวกมันแต่ละตัวเริ่มอ่อนแรงลง เหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นเจ้าอันธพาลแห่งใต้ท้องทะเลมาก่อน
เร็วเข้า ฉินสือโอวนั้นรีบถ่ายทอดพลังโพไซดอนเข้าไปยังร่างของกั้งเหล่านั้น เมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงความโกรธจากพลังโพไซดอนนั้น พวกนั้นก็รีบออกจากฟาร์มปลาไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เหล่ากั้งตั๊กแตนเจ็ดสีกำลังออกจากฟาร์มปลาไป ฉินสือโอวเรียกพลังกลับมา เขารีบโทรหาเบิร์ดเพื่อให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ และให้คนที่เป็นยามเฝ้าในตอนนี้นั้นจุดไฟแจ้งข่าวกับชาวประมงคนอื่นๆ ว่าให้รีบไปดูฟาร์มปลาของตัวเองว่าเกิดเหตุอะไรบ้างหรือไม่
ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์นั้นหมุนอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวชี้บอกทางเพื่อให้เบิร์ดขับตามคนพวกนั้นไป เบิร์ดไม่ได้ถามอะไรออกมาสักคำ เขารีบดึงคันบังคับเพื่อนำเครื่องขึ้นทันที แล้วตรงไปยังทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
เรือลำเล็กธรรมดาลำหนึ่งกำลังแล่นไปบนผิวน้ำ แม้ว่าความเร็วของเรือลำนี้นั้นจะเร็วพอสมควร แต่ก็ไม่สามารถเร็วได้เท่ากับเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่บนอากาศ
ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็บินลอยอยู่เหนือหัวของพวกเขา เบิร์ดนั้นเปิดไฟโฟกัสจากเฮลิคอปเตอร์ ส่องวนไปมายังเรือเล็กลำนั้น ทำให้เห็นใบหน้าของคนทั้งสามที่กำลังตื่นตระหนกตกใจได้อย่างชัดเจน
ฉินสือโอวนั้นรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยู่บนเรือลำนั้น เขาจำได้ขึ้นมารางๆ ว่าในวันที่มีงานเฉลิมฉลองในเมืองที่เขากับอัลเบิร์ตทะเลาะกันนั้น ชายวัยรุ่นคนนี้นั้นอยู่ข้างๆ อัลเบิร์ต เหมือนว่าจะเป็นลูกน้องของอัลเบิร์ต ดังนั้นฉินสือโอวจึงอยากที่จะจับตัวชายวัยรุ่นคนนี้ เพราะว่าเขาจะต้องรู้เบื้องหลังของเรื่องในค่ำคืนนี้อย่างแน่นอน
………………………………………………..