ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 544 เทศกาลอีสเตอร์ครั้งที่สอง
ฉินสือโอวหันกลับมามอง เขาเห็นว่าฉงต้านั้นโก่งคอร้องคำรามออกมาอย่างโอ้อวด มิเชลมองไปยังฉินสือโอวด้วยสีหน้าตกใจกลัว แล้วโบกมือไปมาเพื่อบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา…
ห่านหัวสิงโตที่กำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้นสงบลงทันที พวกมันหันกลับมา แล้วมองไปยังฉินสือโอวและคนอื่นๆ ด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นพวกมันก็ระเบิดอารมณ์ไม่พอใจออกมา โดยการกระพือปีกและร้องโวยวายออกมาอย่างไม่พอใจ เท้าอันแข็งแรงทั้งสองข้างของพวกมันวิ่งตรงมาหาพวกเขาทันที!
ฉินสือโอวรีบหยิบไข่ห่านขึ้นมาวางไว้บนตาข่ายจับปลาที่กางอยู่ในรถเข็นคันเล็กอย่างรวดเร็ว ตาข่ายจับปลานั้นเบาและนุ่ม ไข่ห่านที่ถูกโยนลงไปในนั้นจะไม่เสียหายอย่างแน่นอน การทำแบบนี้ทำให้การเก็บไข่ห่านมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เมื่อฝูงห่านเริ่มเข้ามาใกล้ ฉินสือโอวก็หยุดเก็บไข่ห่าน แล้วดันรถเข็นคันเล็กๆ หนีออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนพวกของเชอร์ลีย์นั้นได้วิ่งหนีไปก่อนหน้านี้โดยไม่ได้บอกอะไรสักคำ
ที่ฉินสือโอวพูดไปเมื่อครู่นั้นไม่ถูกต้อง พวกเขาไม่เคยลืมรอยฟกช้ำและความเจ็บปวดที่ถูกฝูงห่านกัดจากครั้งก่อน
สำหรับสัตว์ปีกนั้น เรื่องที่พวกมันให้ความสำคัญนั้นมีอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือคนที่เข้ามาการทำลายการดำเนินชีวิตของมัน สองคือการทำลายสายเลือดของมัน ตอนที่ฉินสือโอวและคนอื่นๆ เข้ามาขโมยไข่ พวกมันเลยคิดว่าพวกฉินสือโอวกำลังมาพรากลูกของพวกมันไป แล้วแบบนี้จะให้ไปปล่อยไปง่ายๆ เหรอ?
ยังโชคดีที่วันนี้นิมิตส์และบุชนั้นกลับมาเร็ว ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฟาร์มมีจุดสีดำสองจุดปรากฏขึ้น จุดทั้งสองนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นกอินทรีทั้งสองตัวกำลังพุ่งเข้ามาทางนี้ ราวกับเครื่องบินขับไล่ที่บินโฉบลงมาเหนือหัวฝูงห่านเพื่อเข้ามาบุกรุก
ห่านทั้งฝูงแตกตื่นขึ้นมาทันที เมื่อเห็นบุชกับนิมิตส์บินเข้ามา พวกมันรีบเอาหัวมุดลงไปในทรายทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูกหลานของพวกมัน ห่านหัวสิงโตผู้โหดเหี้ยมนั้น เก็บความกลัวที่มีต่อนิมิตส์และบุชไว้ในใจ แล้ววิ่งตามออกไปอย่างไม่ยอมแพ้
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นบุชก็โมโหขึ้นมา เจ้าพวกนี้ทำเหมือนว่านกอินทรีอย่างพวกเขาเป็นนกธรรมดาอย่างนั้นสินะ กรงเล็บแหลมกางออกทันทีอย่างไม่ลังเล มันจับห่านตัวโตที่นำอยู่หน้าขบวน แล้วกระพือปีกบินขึ้นฟ้าไป!
เมื่อมันบินขึ้นไปห่างจากพื้นดินสี่เมตร บุชก็คลายกรงเล็บออกแล้วทิ้งห่านสีขาวตัวนั้นให้ตกลงบนพื้นทราย จากนั้นก็บินโฉบไปด้านหลังแล้วจับห่านตัวใหญ่ขึ้นมาอีกหนึ่งตัว การเชือดไก่ให้ลิงดูแบบนี้ ทำให้ห่านฝูงนั้นถูกความรู้สึกหวาดกลัวเข้าครอบงำในที่สุด…
ฝูงห่านอันโหดเหี้ยมนี้เกิดความโกลาหลขึ้นมาอีกครั้ง พวกมันต่างกระพือปีกหนีกลับไปยังทุ่งหญ้า ฉินสือโอวยกมือขึ้นปาดเหงื่อตัวเอง ‘เฮ้อ แค่จะกินไข่ห่าน ทำไมถึงเปลืองแรงแบบนี้นะ?’
เมื่อกลับมาถึงบ้าน วินนี่ก็หัวเราะออกมาเสียงดังทันทีเมื่อเห็นพวกเขา เสี่ยวหลัวปอรู้สึกโชคดีที่ตัวเองไม่ได้ไปเก็บไข่ห่านด้วย หากไปกับพวกเขาก็เหมือนการไปวิ่งหลบหนีเอาชีวิตรอดแค่นั้น
ฉินสือโอวลากรถเข็นที่บรรจุไข่ห่านเข้ามา ห่านพวกนี้ถูกเลี้ยงแบบระบบเปิด ดังนั้นไข่ที่ออกมาจึงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เปลือกไข่มีความหยาบเล็กน้อย ไข่ลักษณะนี้คือผลจากการที่ห่านเหล่านั้นได้รับไฟเบอร์อย่างอุดมสมบูรณ์จากการกินผักและปลากุ้งตัวเล็กๆ
เมื่อเก็บไข่ไว้เรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็ไปหาฉงต้า พลางโบกมือเรียกให้มันมาหา ฉันรับรองได้ว่าไม่ตีแกให้ตายหรอกน่า
ฉงต้าที่นอนอยู่ใต้ต้นเมเปิลมองมายังฉินสือโอว ไม่ว่าเขาจะกวักมือหรือร้องเรียกอย่างไรมันก็ไม่ยอมมาหา มันขี้ขลาดแต่ไม่ได้โง่ มันรู้ตัวว่าสิ่งที่มันทำเมื่อครู่นั้นไม่ถูกต้อง
ฉินสือโอวมองไปยังฉงต้าที่ไม่ยอมขยับตัว จากนั้นก็เดินไปหามันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อฉงต้าเห็นเขามันก็สาวเท้าหนีทันที ท่าทางของมันเหมือนกับก้อนเนื้ออ้วนๆ กำลังกลิ้งไปมาบนพื้น…
หลังจากที่ต้มไข่ห่านจนสุก วินนี่ก็พาเด็กๆ มาทาสี วาดรูปต่างๆ หรือไม่ก็ติดสติกเกอร์ลงบนเปลือกไข่ จนไข่ห่านใบใหญ่เหล่านั้นถูกตบแต่งอย่างสวยงาม
ฉินสือโอวหยิบไข่ออกมาสองฟองเพื่อนำไปผัดกับพริก ไข่ห่านสองฟองนั้นพอนำมาผัดก็กลายเป็นอาหารจานใหญ่หนึ่งจาน
พริกสีเขียวสด เมื่อนำไปผัดกับน้ำมันสีของมันก็จะมันวาว รสชาติของไข่ห่านนั้นเกินความคาดหมายของฉินสือโอวมาก เมื่อเทียบกับการกินปลากุ้ง สาหร่ายทะเล หรือไข่ที่เกิดจากการเลี้ยงในฟาร์มแล้ว ไข่ห่านนั้นมีกลิ่นที่โดดเด่น และค่อนข้างเนื้อแน่นมากกว่าไข่ไก่และไข่เป็ด
หลังจากที่รับประทานไข่ผัดพริกในช่วงมื้อเย็นเสร็จ ก็ถึงเวลาที่ฉลองเทศกาลอีสเตอร์
ตอนเช้าเมื่อฉินสือโอวเข้าเมือง เขาอดไม่ได้ที่จะซึมซับบรรยากาศคึกคักบนถนน เวลาหนึ่งปีช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เขาอดที่จะคิดถึงช่วงเวลานี้ของปีที่แล้วไม่ได้ ตอนที่เขาพึ่งมาถึงเมืองแฟร์เวลนั้น ทุกอย่างสำหรับเขาดูแปลกตา และเขาก็รู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
หนึ่งปีผ่านไป ฉินสือโอวได้คุ้นชินกับบ้านเมืองที่นี่แล้ว และรู้จักคนในเมืองแฟร์เวลมากมาย ในขณะที่เขาเดินอยู่บนถนนบางครั้งก็จะมีคนเข้ามาทักทาย หากจะบอกว่าเมืองนี้เป็นบ้านของเขา ผู้คนที่นี่เป็นครอบครัวของเขาก็ออกจะเกินจริงไปเสียหน่อย แต่มันก็เป็นเรื่องจริง
ชาวเมืองในเกาะแฟร์เวลนั้นยอมรับในตัวของฉินสือโอวอย่างไร้ข้อกังขา อีกทั้งพวกเขาหลายคนยังมองว่าฉินสือโอวนั้นเป็นผู้นำของเมืองนี้อีกด้วย
ฉินสือโอวจอดรถแล้วลงเดินไปตามถนน จู่ๆ ก็มีคนตะโกนเรียกเขา “ฉิน ปีนี้มีโทรศัพท์แจกไหม? แล้วยังมีกิจกรรมตีไข่ทองคำอยู่อีกไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง “เพื่อนของฉันนี่ไม่ไหวเลยนะ ให้แฮมเล็ตไปจัดการแล้ว เขาบอกว่าวันนี้จะมีกิจกรรมเยอะแยะ”
ทัศนคติในการใช้จ่ายของรัฐบาลแคนาดานั้นไม่ได้ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป นั่นก็คือมีเงินมากก็ไม่เก็บ เมื่อมีก็ต้องใช้ แล้วใช้เยอะเสียด้วย
แฮมเล็ตพาคนมาตบแต่งเมืองอย่างสวยงาม บอลลูนที่เช่าสำหรับใช้ในงานเฉลิมฉลองประเทศยังไม่ได้นำไปคืน และนี่เป็นอีกครั้งที่จะได้นำมันขึ้นท้องฟ้า
ถนนในเมืองทั้งสองข้างถูกตบแต่งด้วยริบบิ้นและป้ายโฆษณา เด็กๆ วิ่งไปมาบนถนนกันอย่างสนุกสนาน ในมือของพวกเขานั้นถือไข่ ช็อกโกแลตและขนมต่างๆ มากมาย นักท่องเที่ยวที่พาเด็กๆ มาด้วยก็พาพวกเขาเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
รอบด้านเมืองแฟร์เวลนั้นเป็นทะเล หากอยากจะออกจากเมืองก็ต้องไปที่ท่าเรือ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกโจรหรือพวกค้ามนุษย์ ตอนนี้โมโตโรล่าได้รวมกลุ่มกันจัดตั้งสถานีวิทยุขึ้น แล้วให้วิทยุสื่อสารเครื่องเล็กๆ แก่เด็กๆ จะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าพวกเขาจะวิ่งไปที่ไหน
ฉินสือโอวที่พึ่งจะคิดถึงโมโตโรล่านั้น แฟรงค์กับเคนต์ก็โทรมาหาเขาพอดี “ฉิน ขอถามหน่อยสิว่าคุณมาที่ที่เรียกว่าฟาร์มปลาแกธเธอริงได้ไหม? พวกเรามีปัญหากับเจ้าของฟาร์มนิดหน่อย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินสือโอวก็รีบไปทันที ฟาร์มปลาแกธเธอริงในตอนนี้นั้นวุ่นวายเป็นอย่างมาก ทำไมคนของโมโตโรล่ากับคนของเขาถึงได้เข้ามาพัวพันเรื่องนี้ด้วยนะ?
เมื่อมาถึงฟาร์มปลาแกธเธอริง ฉินสือโอวก็มองเห็นโมโตโรล่าที่กำลังสวมชุดคนงานสีส้มเผชิญหน้าอยู่กลับกลุ่มคนที่สวมชุดสูทสองสามคนจากที่ไกลๆ ส่วนสถานีฐานวิทยุนั้นอยู่ข้างๆ
“มีอะไรกันเหรอ?” ฉินสือโอวถามพลางขมวดคิ้ว
แฟรงค์กับเคนต์บอกกับเขาว่า “เรื่องมันเป็นแบบนี้นะ ฉิน พวกเราจะสร้างสถานีฐานวิทยุทั้งหมดห้าที่ใช่ไหม? สถานีหลักที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาเคอร์บัลได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยนานแล้ว ที่เหลืออีกสี่สถานีนั้นของพึ่งจะมาส่งเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเราเลยวางแผนว่าจะติดตั้งที่เกาะเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้สี่มุม”
แฟรงค์พูดอธิบายพลางยกไม้ยกมืออย่างทำอะไรไม่ถูก “พวกเราถามนายกเทศมนตรีแฮมเล็ตแล้ว เขาบอกว่าติดตั้งที่ไหนก็ได้ แต่ปรากฏว่าวันนี้พอพวกเรามาที่นี่ เจ้าของฟาร์มปลาคนนี้ไม่แม้แต่เปิดโอกาสให้เราได้อธิบายและเอาแต่ไล่เราออก”
วิศวกรผู้ช่วยของเขาก็บ่นออกมาอย่างไม่พอใจว่า “คนคนนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย เดิมทีวันนี้เป็นวันอีสเตอร์พวกเราจะหยุดทำงานก็ได้ แต่ว่าเคนต์บอกว่าอยากจะทำงานให้พวกคุณเสร็จเร็วขึ้น จึงได้พาเรามาทำงานล่วงเวลา แต่ดูตอนนี้สิ่ง พวกเราทำอะไรไม่เสร็จสักอย่าง”
ฉินสือโอวมองไปยังกลุ่มคนที่สวมชุดสูทเหล่านั้น ในกลุ่มคนพวกนั้นมีอัลเบิร์ตอยู่ในนั้นด้วย ชายลงพุงผู้ขี้ขลาดคนนั้น ขาขวากำลังเตะเข้าที่ปูนก่อสร้าง ในมือถือไม้เท้าอยู่ สีหน้านั้นหม่นหมองไม่น่าดู
เมื่อเห็นดังนั้นฉินสือโอวก็หัวเราะขึ้นมา แล้วเอ่ยทักทายอย่างมีความสุขว่า “เฮ้ เถ้าแก่อัลเบิร์ตช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ได้ยินมาว่าเท้าของคุณโดนกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีทำร้ายจนกระดูกร้าวหรือ? หันมามองหน่อยสิ ผมยังไม่ได้ไปเยี่ยมคุณที่โรงพยาบาลเลย”
“อย่าหวัง…” อีกฝ่ายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฉินสือโอวตอบรับคำของตัวเองว่า “น่าเสียดายจริงๆ ทำไมกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีพวกนั้นถึงหนีบคุณให้กระดูกร้าวกันนะ? น่าจะทุบให้กระดูกแตกไปเลยจะดีกว่าไหม? ฮ่าๆๆๆ!”
……………………………………….