ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 584 นรกทุนนิยม
ฉินสือโอวยืนอยู่บนผาหาเพรียงเจอก็ใช้มีดสอดเข้าไปช้าๆ พอรู้สึกว่าแรงพอจะได้แล้วก็แงะไปด้านหลังอย่างแรงแล้วใช้แรงนี้ในการแงะเพรียงแข็งๆ ลงมา
เหมาเหว่ยหลงนั่งยองอยู่ข้างบนถามอย่างกังวล “เฮ้ย ไอ้ตัวร้าย แกอยู่ข้างล่างเป็นไงบ้าง แบกไหวไหม?”
ฉินสือโอวพูดอย่างอารมณ์เสีย “แกสนใจตัวเองเถอะอย่ามาข้างหน้ามากเกิน ฉันแบกตัวเองไหวแต่ถ้าแกร่วงลงมาฉันก็แบกไม่ไหว”
ระหว่างพูดเขาสอดมีดไปที่ส่วนท้องของเพรียงที่อยู่ด้านข้างแล้วออกแรงอย่างรวดเร็วอาศัยแรงนั้นแงะมันลงมา
เหมาเหว่ยหลงเห็นท่าทางฉินสือโอวคล่องแคล่วก็ยกนิ้วโป้งชื่นชม ‘สมกับเป็นไอ้ตัวร้าย’
ชาวประมงที่แคะเพรียงอยู่รอบๆ ก็ยกนิ้วชมฉินสือโอวด้วย พวกเขารู้ซึ้งถึงความติดแน่นของเจ้าสิ่งนี้ดี ในกระบวนการเติบโตของเพรียงที่ส่วนท้องจะขับยางออกมาเรื่อยๆ พอนานเข้าพวกมันก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกับหิน แกะออกได้ยากมาก
ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวยังสามารถใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนช่วยได้ ตอนนี้น้ำทะเลลงแล้ว เขาได้แต่อาศัยความสามารถตัวเองในการแงะเพรียงเลยเสียแรงไปเยอะ
ครั้งเดียวก็แงะมาได้สิบสี่สิบห้าตัว ฉินสือโอวเหนื่อยจนทนไม่ไหวเลยให้เหมาเหว่ยหลงดึงเชือกแล้วออกแรงปีนหินขึ้นไปเอง
เหมาเหว่ยหลงรู้ลักษณะพิเศษในการดำรงชีวิตของเพรียงตีนเต่าเห็นชาวประมงรอบๆ ได้แต่ปีนขึ้นมาจากหน้าผาหินด้วยความเหนื่อยหอบหมดเรี่ยวหมดแรง เขาก็เข้าใจได้ว่าเจ้าสิ่งนี้แงะยากมากแต่ก็ไม่ถอดใจอยากจะลองดู
ฉินสือโอวอยากให้เขาเข้าใจในความน่าระอาของตัวเองเร็วๆ จนแทบรอไม่ไหว รีบส่งเขาลงไปอย่างเบิกบานใจในทันทีจากนั้นหมอบที่ผาหินมองดูความตลกของเหมาเหว่ยหลง
เหมาเหว่ยหลงช่างโง่แท้ ที่ที่เขาลงไปเป็นบริเวณที่ฉินสือโอวจัดการไปเรียบร้อยแล้ว เพรียงตีนเต่าที่แงะง่ายก็ลงไปอยู่ในถุงของฉินสือโอวหมดแล้วเหลือแต่ที่ติดอยู่กับหินเป็นหนึ่งเดียวกัน
กัดฟันแงะไปครู่หนึ่งข้อมือของเหมาเหว่ยหลงก็อ่อนหมดแรงในที่สุดก็แงะเจ้าตัวเล็กๆ ได้ตัวหนึ่ง
ฉินสือโอวมองดูอย่างสนุกสนานเอาโค้กมาจากในรถขวดหนึ่งดูเหมาเหว่ยหลงเสี่ยงชีวิตอยู่ด้านล่างไปดื่มโค้กไปอย่างสบายใจบางครั้งยังตะโกน ‘ดี’ ไปเหมือนดูละคร
สุดท้ายก็ไม่ไหวแล้วจริงๆ เหมาเหว่ยหลงให้ฉินสือโอวดึงเขาขึ้นไปหลังจากขึ้นมาแล้วก็นั่งเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นถือเพรียงขนาดประมาณกำปั้นขึ้นมาแล้วพูดอย่างกระหืดกระหอบ “แม่เอ้ย ใครจะไปรู้ว่าอาหารที่อยู่ในจานจะได้มายากลำบากเลือดตาแทบกระเด็น ไอ้สองตัวนี้ทำฉันเกือบตาย”
ฉินสือโอวถือเหล่าเพรียงขนาดเท่าชามของตัวเองออกมาแล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “โธ่เอ้ย เล็กเป็นพุดดิ้งแบบนี้แกยังมีหน้าเอาขึ้นมาอีก? ฉันว่านะโคโกโร่เพื่อนรัก แกไว้ชีวิตเพรียงพวกนี้ได้ไหม? ฉันฆ่าพ่อมันมาแล้ว ต่อมาแกยังแงะลูกหลานมันมาอีก นี่มันบีบคั้นกันนี่”
พอเห็นว่าพวกเขามีเพรียงตัวใหญ่พวกนักท่องเที่ยวก็รีบมาห้อมล้อมอย่างสนใจฉินสือโอวทำเป็นนักท่องเที่ยวแล้วพูด “พวกคุณสามารถลงไปเก็บเองได้นะ พวกเราเก็บมากินกันเองเท่าไรก็ไม่ขายหรอก”
เหล่านักท่องเที่ยวส่ายหัวอย่างจนใจ “ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากลงไปแต่เป็นกฎของคณะทัวร์ ใครลงไปถ้าถูกพบเข้าต้องถูกส่งกลับประเทศทันที!”
แต่พูดเรื่องพวกนี้กับผมก็ไม่มีประโยชน์ ฉินสือโอวยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ รอให้เหมาเหว่ยหลงพักสักหน่อยเขาก็ลงไปอีกรอบเอาเพรียงขึ้นมากองโต ครั้งนี้มียี่สิบกว่าตัว
เกือบจะพอกินแล้วฉินสือโอวก็ไม่รีบร้อนอีกต่อไป ฮิวจ์ก็เอาเพรียงที่พวกเขาเก็บมาอย่างยากลำบากมาให้ฉินสือโอว พวกเขาไม่ได้กะทำเอารวยแค่มาร่วมสนุกและไม่อยากพลาดโอกาสที่พบได้ในรอบไม่กี่สิบปี
ฉินสือโอวออกปากเชิญพวกเขามาเป็นแขกที่ฟาร์มปลาเมื่อมีเวลาแล้วขับรถกลับไปต้มเพรียงกิน
รสชาติของเพรียงสดอร่อยกว่าพวกหอยแมลงภู่หอยตลับมาก หลังจากตั๋วตั่วชิมไปคำหนึ่งก็หยุดไม่ได้แงะเนื้อกินอย่างอารมณ์ดี
เทียบกับหอยนางรมแล้วเพรียงที่อยู่บนหินเหมือนกันก็เนื้อเยอะไม่น้อยน่าเสียดายที่เจ้าสิ่งนี้ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้โดยมนุษย์ไม่อย่างนั้นคงมีอยู่เต็มตลาดอาหารทะเลแล้ว ฉายา ‘ปีศาจอาหารทะเล’ นี้ไม่เสียเปล่าจริงๆ
ฉินสือโอวกินดื่มอิ่มแล้วก็พาหู่จือและเป้าจือไปเดินเล่นตอนบ่ายยังคงไม่มีอะไรทำ เขาเลยไปหลอกคนที่สนามบาสเกตบอลในเมืองกับเหมาเหว่ยหลง
ตอนนี้ฝีมือการเล่นบาสเกตบอลของเขาดังกระฉ่อนเกาะแฟร์เวลเพราะคนที่ไม่เชื่อก็ถูกทำให้เชื่อหมดแล้ว
เดิมทีฉินสือโอวอยากหลอกนักท่องเที่ยวด้วยเดิมพันที่ถูกมากๆ แค่สิบต่อหนึ่งก็คือเขาจ่ายหนึ่งร้อยดอลลาร์แคนาดาพวกนักท่องเที่ยวจ่ายแค่สิบดอลลาร์ก็พอ
เดิมทีมีนักท่องเที่ยวไม่กี่คนสนใจไม่ใช่เพราะเงินรางวัลแต่เป็นเพราะแฟนบาสเกตบอลในประเทศมีอยู่มากโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ล้วนเคยเล่นที่สนามบาสเกตบอล
ผลสุดท้ายฉินสือดโอวเล่นจนเหนื่อยแล้วลูกสุดท้ายของเกมแรกเหมาเหว่ยหลงโยนบอลไม่ลงห่วงกระเด้งออกมาฉินสือโอวย่ำเท้าทั้งสองอย่างแรงพุ่งตัวไปราวกับจรวดใช้มือเดียวรับลูกไว้แล้วโบกแขนขวาอย่างโฉบเฉี่ยวพุ่งชู้ตไปที่แป้น
การกระทำแบบนี้แม้แต่เหล่าดาวเอ็นบีเอก็ยากที่จะทำได้ในการแข่งขันแฟนบาสเกตบอลที่อยู่รอบๆ ส่วนมากล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ครู่เดียวก็ดูระดับที่แท้จริงของฉินสือโอวออกก่อนจะรีบจากไป แบบนี้ยังจะมาพนันบ้าอะไรนี่มันส่งเงินให้เขาเฉยๆ เลยนี่นา
ฉินสือโอวเล่นคนเดียวอย่างเซ็งๆ อยู่ครู่หนึ่งไม่มีอะไรทำก็ได้แต่สแลมดังก์ระบายอารมณ์บูดบึ้งของตัวเอง นี่กลับเป็นการดึงดูดสาวๆ มาห้อมล้อมแล้วเรียกเขาว่า ‘พี่ชาย’ ด้วยเสียงหวานและต้องทิ้งช่องทางติดต่อไว้แน่นอนเพื่อสะดวกต่อการนัดเดตภายหลัง
พวกเธอไม่ได้มองที่ฝีมือการเล่นบาสของฉินสือโอวแต่เป็นหน้าตาหล่อเหลา ร่างที่สูงสง่าและสมรรถภาพที่คล่องแคล่วกระฉับกระเฉง องค์ประกอบเหล่านี้รวมกันแล้วก็คือคู่ขาชั้นยอด
แน่นอนว่าฝีมือการเล่นบอลของฉินสือโอวก็ทำให้พวกเธอประทับใจบนตัวของพวกเธอก็มีลูกบอลเหมือนกันให้ฉินสือโอวเล่นอย่างเชี่ยวชาญก็คงได้ความรู้สึกไม่เลว
ฉินสือโอวได้แต่ปฏิเสธแล้วพาเหมาเหว่ยหลงที่เริงร่ากลับไปเล่นเกมอย่างไม่ชอบใจ
เหมาเหว่ยหลงที่เล่นอยู่กลั้นความรู้สึกลึกๆ ไม่ได้ “ไอ้ตัวร้ายนะไอ้ตัวร้าย แกใช้ชีวิตเละเทะเกินไปแล้ว ฟุ่มเฟือยสุดโต่ง! เมามายลุ่มหลงเงินทอง! เสเพลทุกคืน! ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวันๆ! แกพูดสิการไล่ตามความฝันของแกล่ะ? อุดมคติของแกล่ะ? สังคมทุนนิยมนี่ร้อนเร่าเกินไปแล้วฉันต้องเอาคนรุ่นใหม่ดีๆ อย่างแกขึ้นมาจากนรกทุนนิยม!”
ฉินสือโอวพูดล้อเล่นกับหมาเหว่ยหลงพลางปรายตาสังเกตหลิวซูเหยียน ในมือของเธอถือหนังสือค่านิยมทางความคิดในวัฒนธรรมแคนาดาที่กำลังอ่านอยู่ท่าทางตั้งใจมาก ดูบุคลิกท่าทางของเธอแล้วเหมือนกับแม่เล้าไนต์คลับตรงไหนกัน? แทบจะบอกว่าเธอเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยคนสวยได้เลย
ฉินสือโอวพยายามจับผิดว่าเธอกำลังแสดงละครผลสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรตอนที่หลิวซูเหยียนอ่านหนังสือดูตั้งใจกว่าเขาเสียอีก
บางทีผู้หญิงคนนี้อาจไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิดไว้ในตอนแรก? ฉินสือโอวคิดอย่างเงียบๆ ตอนนี้เขาหวังว่าหลิวซูเหยียนจะเป็นเพชรในตมเหมือนที่เหมาเหว่ยหลงพูด
แบบนี้เป็นบทสรุปที่ดีที่สุด เพราะเขามองออกว่าตอนนี้เพื่อนรักของตัวเองมีความรู้สึกต่อเธอจริงๆ
…………………………………