ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 649 พวกเด็กๆ ต้องแยกกันแล้ว
ฉินสือโอวได้ทำความเข้าใจกับความรู้บางส่วนเกี่ยวกับนักศึกษาต่างชาติผ่านทางหวังเหล่ย แท้ที่จริงแล้วที่เขาเข้าสอบเกาเข่าไม่ใช่เพียงเพราะอยากจะแสดงผลของการตรากตรำเล่าเรียนอย่างหนักเป็นระยะเวลายาวนานให้ตัวเองได้เห็น แต่ยังเป็นเพราะมหาวิทยาลัยที่แคนาดาจะใช้ใบรับรองผลคะแนนสอบเกาเข่าของนักเรียนจีนมาเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดการเรียนต่อต่างประเทศด้วย
หวังเหล่ยเห็นฉินสือโอวสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อของตัวเองอย่างละเอียดขนาดนั้นจึงถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “พี่ฉิน พี่วางแผนจะเรียนต่อเหรอครับ? พี่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้หรือเปล่า?”
คนเราไม่ได้เรียนหนังสือเพราะจะได้ทำงานหาเงินได้เยอะๆ หรอกเหรอ? หวังเหล่ยคิดว่าเก้าสิบเก้าจุดเก้าเปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาทั้งโลก หลังเรียนจบไม่มีใครทำได้ถึงระดับฉินสือโอวแน่นอน
ฉินสือโอวหัวเราะ เขาอธิบายว่าเขาแค่อยากรู้เฉยๆ เพื่อนของเขาที่จีนอาจจะสนใจมาเรียนต่อต่างประเทศ ส่วนเขาไม่จำเป็นต้องทำแล้ว
ตกเย็นตอนที่วินนี่กลับมา ฉินสือโอวก็เล่าเรื่องของหวังเหล่ยให้วินนี่ฟังดู วินนี่หวีขนให้ฉงต้าพร้อมพูดขึ้นมา “ที่รักคะ ฉันคิดว่าคุณเหมาะที่จะไปเรียนปริญญาโทนะคะ อย่างเช่นปริญญาโทสาขาชีววิทยาทางทะเลหรือไม่ก็เรียนเอ็มบีเอ แบบนี้ก็จะช่วยให้คุณบริหารฟาร์มปลาได้สะดวกขึ้นไม่ใช่เหรอคะ?”
ฉินสือโอวรีบส่ายหน้าแล้วบอกเธอทันที “อย่าเลย ผมยุ่งอยู่ทั้งวันแล้ว ไม่มีเวลาว่างไปเข้าเรียนหรอกครับ”
“คุณยุ่ง?” วินนี่มองเขาพร้อมถามด้วยความสับสนงุนงง
ฉินสือโอวจึงบอกกับเธอ “ใช่แล้วครับ อย่างเช่นพรุ่งนี้ไง พรุ่งนี้ผมต้องไปใส่ปุ๋ยให้ต้นกล้าองุ่นด้วย”
ใช่แล้ว ได้เวลาใส่ปุ๋ยให้ต้นกล้าองุ่นในสวนองุ่นแล้ว ตามอัตราการเพาะปลูกองุ่น เมื่อต้นกล้าสูง 40-50 มิลลิเมตรก็เป็นเวลาที่ต้องใส่ปุ๋ยเป็นครั้งแรกแล้ว
ที่จริงแล้วการใส่ปุ๋ยให้ผลิตผลทางการเกษตร ยิ่งเร็วเท่าไรก็จะยิ่งดีเท่านั้น สาเหตุที่ต้องใส่ปุ๋ยให้ต้นองุ่นตอนนี้เป็นเพราะเมื่อก่อนระบบรากของต้นกล้าองุ่นเล็กเกินไป ความสามารถในการดูดซึมสารอาหารสำคัญจึงค่อนข้างแย่ ใส่ปุ๋ยตอนนั้นก็เหมือนกับตาบอดได้แว่น เสียแรงไปเปล่าๆ
บิลส่งปุ๋ยมาที่ฟาร์มปลาตั้งนานแล้ว ขั้นตอนการใส่ปุ๋ยก็ง่ายดายมาก ก็แค่ให้เบิร์ดขับเครื่องบินแทรกเตอร์ผ่านท้องฟ้าบนสวนองุ่นแล้วให้ซีมอนสเตอร์เปิดปากถุงปุ๋ยออกเพื่อโปรยปุ๋ยไนโตรเจนที่ผสมกับฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมตามสัดส่วนที่เหมาะสมลงไปบนพื้นดินของสวนองุ่น
แบบนี้อาจจะทำให้โปรยปุ๋ยได้ไม่ทั่วถึง แต่แค่พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์มากพอ การรดน้ำก็จะช่วยกระจายปุ๋ยไปทั่วทุกพื้นที่ในสวนองุ่นแล้ว
เมื่อปล่อยปุ๋ยออกจากตาข่าย ฉินสือโอวก็ยักไหล่ไปมา งานของวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ยุ่งแบบนี้แหละ
ขณะที่กำลังลำพองใจอยู่นั้น ต่อมาฉินสือโอวก็ได้รับสายโทรศัพท์จากเหมาเหว่ยหลง บอกว่าเขาจัดการขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเสร็จหมดแล้ว ให้ฉินสือโอวไปรอเขาที่สนามบินแฮมิลตัน พาหลิวซูเหยียนกับตั๋วตั่วไปด้วย เขาจะซื้อฟาร์มมาเธอร์เอิร์ธแล้ว
ฉินสือโอวเกาหัวแกรกๆ ดูท่าว่าครอบครัวของเหมาเหว่ยหลงจะไม่ได้โกรธกันถึงขนาดนั้น แถมครั้งนี้ก็ยังช่วยเขาด้วยเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่กรีนการ์ดใบเดียว เหมาเหว่ยหลงคงซื้อฟาร์มที่แคนาดาได้ยากมาก
ว่ากันโดยตามปกติแล้ว ฟาร์มที่แคนาดาทั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์และฟาร์มปลาจะขายให้แก่คนที่มีวีซ่าถาวรแคนาดาเท่านั้น อีกทั้งยังซื้อได้ไม่ง่าย นี่เกี่ยวข้องกันกับนโยบายผู้อพยพในตอนนี้นั่นเอง
เป็นเพราะสังคมของแคนาดาค่อนข้างเปิดกว้าง เป็นมิตร มีความหลากหลาย ปลอดภัย รวมกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการอยู่ของคน ดังนั้นจึงทำให้แคนาดาเป็นตัวเลือกอันดับแรกของผู้อพยพมาโดยตลอด ดังนั้นนโยบายผู้อพยพย้ายถิ่นฐานของแคนาดาจึงค่อยๆ เพิ่มมาตรฐานสูงขึ้น เมื่อก่อนเพียงแค่เลือกที่จะอพยพมาแคนาดาก็จะรับไว้ โดยเฉพาะคนมีเงินยิ่งเป็นที่ต้อนรับ
แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว เงินลงทุนสำหรับผู้อพยพไม่ได้ดีเท่าหลายปีก่อนแล้ว แท้ที่จริงแล้วหากสามารถบรรลุระดับเงินทุนได้ก็เท่ากับผ่านเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของผู้อพยพแล้ว ทว่าตอนนี้รัฐบาลแคนาดายกระดับเป้าหมายเงินทุนของผู้อพยพขึ้นแล้ว แถมยังลดจำนวนคนลงด้วย
ทำไมถึงเป็นแบบนี้น่ะเหรอ? นั่นเป็นเพราะขอบข่ายบัตรเงินทุนแคนาดาเมื่อก่อนไงล่ะ บัตรที่ได้รับการรับรองจากธนาคาร ขอแค่แสดงหลักฐานยืนยันเงินทุนตามที่พวกเขาระบุให้ธนาคารออกให้ รัฐบาลแคนาดาก็จะยอมรับเป็นผู้อพยพ
เมื่อเป็นแบบนี้จึงมีคนจำนวนมากทำตัวหัวหมอ ตอนที่อยู่ในประเทศพวกเขาจะยืมเงิน กู้เงินและพยายามสมทบเงินทุกวิถีทางให้บรรลุถึงมาตรฐานเงินทุนของผู้อพยพที่แคนาดาระบุไว้เพื่อทำการอพยพให้สำเร็จ หลังจากนั้นพอเวลาผ่านไปสักพักก็คืนเงินให้เพื่อน ให้ญาติพี่น้องหรือไม่ก็ธนาคารที่ไปยืมมา
เมื่อเป็นแบบนี้ คนที่แคนาดารับมาก็จะเป็นแค่คนธรรมดาที่เข้ามาแข่งกันหางานทำ แต่คนรวยที่สามารถให้ภาษีและตำแหน่งงานที่พวกเขาต้องการจะไม่ได้มาที่นี่ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยกระดับมาตรฐานเงินทุนของผู้อพยพเพื่อให้สะดวกต่อการจำกัดจำนวนคน
แต่แบบนี้ก็จะมีปัญหาตามมาอีกหนึ่งอย่าง คือมีคนจำนวนมากที่มีเงินจริงๆ แต่เงินไม่ได้มากจนถึงมาตรฐานที่รัฐบาลแคนาดาปรับเพิ่ม หรืออาจจะไม่ได้รับโควตาเงินทุนผู้อพยพ แบบนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถอพยพมาที่แคนาดาได้เช่นกัน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลแคนาดาอยากเห็น ไม่มีประเทศไหนที่จะปฏิเสธการเข้ามาของคนมีเงิน โดยเฉพาะประเทศทุนนิยมที่พัฒนาแล้ว
แต่เมื่อสองปีก่อนก็เกิดรูปแบบการอพยพแบบใหม่ขึ้น นั่นก็คือการอพยพด้วยการลงทุน คุณมีเงินอย่างเดียวไม่ได้ คุณต้องลงทุนทำฟาร์มปลา ฟาร์มเลี้ยงสัตว์หรือไม่ก็ฟาร์มเกษตร ซึ่งเห็นได้ชัดว่าถ้าใช้เงินลงทุนไปแล้ว ก็จะไม่สามารถโอนย้ายเงินได้ในเวลาอันสั้น
วิธีนี้มีประสิทธิภาพมาก มันกลายเป็นการสกัดกั้นวิธีการเอาเปรียบของผู้อพยพ แน่นอนว่ามันยังช่วยขับเคลื่อนการยกระดับมูลค่าของฟาร์มปลา ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และฟาร์มเกษตรในแคนาดาอีกด้วย ก่อนหน้านี้หลัวจื้อเวยกับภรรยาก็เล่าให้ฟังถึงหลายสาเหตุที่ทำให้ฟาร์มเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้นแล้ว แต่พวกเขาไม่ได้พูดถึงข้อนี้
เหมาเหว่ยหลงไม่มีวีซ่าถาวรแคนาดา การซื้อฟาร์มปลาจะวุ่นวายมาก เนื่องจากประเทศหนึ่งจะไม่ขายที่ดินให้กับพลเมืองของประเทศอื่นอยู่แล้ว นี่ต้องใช้การโอนที่ไปยังหน่วยงานหนึ่ง ถ้าเหมาเหว่ยหลงจะซื้อฟาร์มเกษตรด้วยสถานะในตอนนี้ ชื่อของฟาร์มเกษตรจะไม่ได้อยู่ภายใต้ชื่อของเขา แต่จะอยู่ภายใต้ชื่อของบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางบางส่วน
ขั้นตอนที่เขากลับไปจัดการที่จีนก็คือขั้นตอนการโอนที่ ถ้าซื้อฟาร์มเกษตรแค่อย่างเดียว ก็ขอแค่มีเงินกับบัตรประชาชน ทุกอย่างก็ง่ายดายแล้ว
พอตั๋วตั่วรู้ว่าตัวเองจะต้องไปจากฟาร์มปลาก็รู้สึกค่อนข้างอาลัยอาวรณ์ เธอไม่อยากไปจากพวกพี่ชายพี่สาวอย่างเชอร์ลี่ย์กับพาวลิส ไม่อยากไปจากพวกกระรอกดิน ไม่อยากไปจากคนที่ชอบทำของอร่อยๆ ให้เธอกินอย่างคุณอาฉินสือโอว
ฉินสือโอวก็รู้สึกกับครอบครัวกระรอกดินแบบนั้น เจ้าพวกนี้ไม่เคยได้รับพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนจากเขา เพียงแค่กินผักใบอ่อนกับผลไม้บางส่วนที่มีพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปก็เปลี่ยนพวกมันให้ฉลาดแบบนี้ได้แล้ว
ตั๋วตั่วโบกมือลาพวกกระรอกดินด้วยความอาลัยอาวรณ์ พวกกระรอกดินกะพริบดวงตาดำเล็กของพวกมันปริบๆ แล้วล้มลุกคลุกคลานวิ่งตามเธอไปก่อนจะเข้ามาวิ่งรอบเท้าเล็กๆ ของเธอไว้
พอได้เห็นภาพแบบนี้ เดิมทีฉินสือโอวก็อยากจะยกพวกกระรอกดินให้กับตั๋วตั่ว แต่พอพวกกระรอกดินเห็นตั๋วตั่วขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปแล้ว พวกมันก็พากันกระโดดลงมา ไม่ยอมไปจากฟาร์มปลา คาดว่าพวกมันคงจะกินผักผลไม้ที่มีพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนจนติดเป็นนิสัยแล้ว
ดวงตาตั๋วตั่วเป็นสีแดง เนื่องจากสาเหตุเรื่องความพิการทางร่างกาย หนูน้อยจึงมีเพื่อนอยู่น้อยมาก อุตส่าห์ได้เป็นเพื่อนกับพวกกระรอกดินแล้ว พวกมันก็ยังไม่ยอมจากไปพร้อมกับเธอ เธอเสียใจจังเลย
ฉินสือโอวเกาหัวแกรกๆ เขาไปเด็ดผักผลไม้จำนวนมากมาจากในสวน หลังจากนั้นก็พาครอบครัวกระรอกดินมาเพื่อคิดจะหลอกให้พวกมันไปที่ฟาร์มกับตั๋วตั่ว
แต่ปรากฏว่าคราวนี้พวกเชอร์ลี่ย์ก็ไม่ยอมเช่นกัน แถมกอร์ดอนกับมิเชลก็ยังโวยวายบอกว่าต่อไปนี้จะไม่เล่นกับตั๋วตั่วอีก ใครจะยอมให้หนูน้อยพาเพื่อนรักของพวกเขาไปด้วยล่ะ?
พวกเด็กๆ มีจิตสำนึกต่ออาณาเขตที่แข็งแกร่งมาก ถึงแม้ว่าพวกเข้าจะเล่นกับพวกกระรอกดินไม่บ่อยเท่าไร แต่พวกเขาก็ยังไปเล่นด้วยบ้าง นี่เป็นสัตว์เลี้ยงของพวกเขา เป็นเพื่อนของพวกเขานะ!
อีกทั้งพวกเชอร์ลี่ย์ก็ยังไปลากฝูงสัตว์เลี้ยงน่ารักอย่างหู่เป้าฉงหลัว ปอหลัว บุชกับนิมิตส์มาด้วยความเจ้าเล่ห์ เสี่ยวหมิงที่มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวกระรอกดินมาโดยตลอด พอเห็นว่าเพื่อนกำลังจะถูกส่งตัวไป มันก็แทบจะกระโดดต้นเมเปิลเพื่อฆ่าตัวตาย
เมื่อเป็นแบบนี้ฉินสือโอวก็หมดปัญญาแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่เขากลัดกลุ้มใจอย่างถึงที่สุด หลิวซูเหยียนจึงเกลี้ยกล่อมตั๋วตั่วอย่างอ่อนโยน วินนี่ลองคิดๆ ดู หลังจากนั้นเธอก็เข้าไปที่ฟาร์มแล้วนำลูกเจี๊ยบขนสีเหลืองอ่อนทั่วทั้งตัวใส่ไว้ในกรงราวๆ สี่ห้าตัวก่อนส่งมันให้กับตั๋วตั่ว แบบนี้ตั๋วตั่วถึงได้รู้สึกดีใจขึ้นมา
………………………………………………….