ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 65 วันวิคตอเรีย
หลังจากเอ็ดหู่จือกับเป้าจือไปเรียบร้อย เจ้าสองตัวก็ไม่ได้ถ่ายไม่รู้ที่รู้ทางในคฤหาสน์อีก
ฉินสือโอวตื่นแต่เช้า เจ้าสองตัวก็หาวแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจบนพื้น จากนั้นก็พากันออกจากห้องลงไปข้างล่างมุ่งไปถ่ายเบาบนสนามหญ้าแล้ววิ่งกลับมา
หลังจากที่ฉินสือโอวล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ไปวิ่งรอบพื้นที่ประมงอย่างที่ทำเป็นประจำ หู่จือกับเป้าจือวิ่งตามด้วยขาสั้นๆอย่างกินแรงจนสุดท้ายก็หมดความสนใจเพราะตามไม่ทัน เป้าจือกระโดดใส่หู่จือจากด้านหลังแล้วเริ่มเล่นกัน
ตอนกินข้าวเช้า ชาร์คถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี “บอส เห็นบอสเพาะเมล็ดไว้ตั้งเยอะ กะจะปลูกผักที่พื้นที่ประมงหรือไง?”
ฉินสือโอวตอบ “ลงมือทำเอง ฉันก็คิดจะปลูกผักจริงๆ”
ชาร์คพูดขึ้น “งั้นต้องรีบลงมือแล้วละ วันนี้เป็นวันที่สองของวันวิคตอเรีย ตามปกติแล้ว เป็นวันดีที่จะปลูกผัก เทพแพนจะคุ้มครองผักที่ปลูกในวันนี้”
ผืนดินของแคนาดากว้างใหญ่ แต่ส่วนมากจะอยู่ในเขตภูมิอากาศขั้วโลก สมัยก่อนถ้าปลูกผักโอกาสรอดจะน้อย สภาพอากาศใกล้ๆวันวิคตอเรียจะอุ่นขึ้น ผักที่ปลูกในช่วงนี้จะมีโอกาสรอดสูงกว่า ฉะนั้นจึงมีความเชื่อว่าเทพแพนจะคุ้มครองผักในวันที่สองของวันวิคตอเรีย
พื้นที่ประมงส่วนมามีพื้นที่ใหญ่ เพื่อที่จะใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เจ้าของพื้นที่ประมงก็จะปลูกผักหรือต้นไม้ ชาร์คเห็นเมล็ดพืชที่ฉินสือโอวลำบากลำบนเอามาจากจีนก็เดาได้ว่าเขาตั้งใจจะทำอะไร
ฉินสือโอวได้ยินชาร์คเล่าว่าเดิมทีที่เกาะแฟร์เวลยังมีธรรมเนียมว่าวันนี้ปลูกผัก ซีมอนสเตอร์ไม่ได้พูดอะไร เขาทิ้งสิ่งที่ทำอยู่เพราะเขาก็เห็นว่าวันนี้เหมาะกับการปลูกผักเหมือนกัน
“ไม่ใช่แค่ปลูกผัก ยังปลูกผลไม้อย่างต้นแอปเปิล ต้นสาลี่ ต้นอะโวคาโด บลูเบอร์รี แบล็คเบอร์รี”นีลเซ็นพูดเสริม
“บอสชอบกินไอซ์ไวน์ขนาดนี้ ทำสวนองุ่นด้วยเลยสิ”ชาร์คพูด
ซีมอนสเตอร์ส่ายหน้าแล้วพูดยิ้มๆ “ไม่ๆ สวนองุ่นไม่ได้ปลูกง่ายขนาดนั้น ปลูกผักก่อนดีกว่า แต่บอส เมล็ดพวกนั้นแตกหน่อหรือยัง?”
ฉินสือโอวตอบยิ้มๆ “แน่นอน เมล็ดจากบ้านฉันแตกหน่อไว”
แน่นอนอะไรกันละ ถ้าแตกหน่อไวขนาดนั้นก็เทพแล้ว เพียงแต่ถึงแม้เมล็ดจะไม่ได้เทพ แต่ฉินสือโอวมีจิตสำนึกโพไซดอน
สองวันนี้ตอนที่รดน้ำให้เมล็ดในกล่อง ฉินสือโอวถ่ายทอดพลังจิตสำนึกโพไซดอนลงในเมล็ดเพื่อกระตุ้นการเติบโต
พอดูดซับพลังจิตสำนึกโพไซดอน เมล็ดก็เริ่มแตกหน่อ ได้ผลดีกว่าปุ๋ยยูเรียเสียอีก หน่ออ่อนเริ่มแตกออกมา เออร์บักกับวินนี่ปลูกไปแค่ไม่กี่วันก็แตกหน่ออ่อนของผักออกมาแล้ว
ชาร์คโทรไปติดต่อขอเครื่องพรวนดิน ไม่นานรถแทรกเตอร์สีแดงเพลิงที่ลากเครื่องพรวนดินมาด้วยก็มาถึงที่พื้นที่ประมง
ทุกพื้นที่ประมงจะมีแปลงผัก แปลงผักของพื้นที่ประมงต้าฉินอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พอเข้าประตูมา สิ่งที่เห็นอย่างแรกเลยก็คือแปลงผักทั้งสองข้างทางที่กินพื้นที่ไม่น้อย รวมๆกันแล้วกว้างถึงห้าหกหมู่ แค่ไม่ได้ปลูกอะไรมานานเลยมีหญ้าขึ้นรกไปหมด
ชาร์คคอยคุมเครื่องพรวนดินพลิกหน้าดินหนึ่งรอบ นวัตกรรมทางการเกษตรของแคนาดาอยู่ในระดับเดียวกับอเมริกา เครื่องพรวนดินที่นี่ที่ฟังก์ชันกำจัดวัชพืชกับก้อนหิน
รถแทรกเตอร์ไถไปบนพื้นดินสองสามรอบ แปลงผักที่มีแต่วัชพืชดูต่างไปทันที ดินสีน้ำตาลเทาถูกพลิกขึ้นมาบนพื้นจนร่วน ฉินสือโอวเหลียบเข้าไปเท้าก็ตกลึกลงไปในดินร่วนไปลึกถึงข้อเท้า
พอพลิกหน้าดินเรียบร้อย เคื่องไถก็เข้ามาทำหน้าที่ ฉินสือโอวคุยแผนการปลูกกับคนขับนิดหน่อย อีกฝ่ายพยักหน้าแสดงถึงความเข้าใจแล้วเริ่มเดินเครื่องขุดร่องแปลง
เริ่มจากการขุดร่องแปลงที่จำเป็นสำหรับปลูกมะเขือเทศ แตงกวา พริก มะเขือม่วง ถั่วฝักยาว ความยาวอยู่ที่ราวๆยี่สิบเซนติเมตร กว้างประมาณหนึ่งเมตรสองเซน
ร่องแปลงแบบนี้เอาไว้ใช้ได้ทั่วไป ผักส่วนใหญ่ก็สามารถนำมาปลูกในร่องแบบนี้ได้ นอกนั้นอย่างกระเทียม คื่นช่าย หรือกระทั่งมันเทศก็ปลูกได้เช่นกัน
ร่องแปลงชนิดที่สองเป็นแบบแคบลงมา ฉินสือโอวเอาเมล็ดกุยช่ายมาด้วยซึ่งก็ได้รับพลังโพไซดอนจนแตกหน่ออ่อนออกมาเช่นกัน เขาชินกับการใส่กุยช่ายเวลาปรุงปลาทะเล แบบนั้นรสชาติอร่อยมาก
ตอนที่กำลังพรวนดิน ฉินสือโอวก็โทรไปหาเออร์บักบอกเขาว่าวันนี้จะปลูกผัก เขาจึงรีบขับรถมาทันที พอลงจากรถก็ผุดยิ้มขึ้น “ยอดเลยฉิน ที่ตรงนี้ร้างมานานแล้ว ในที่สุดจะได้คืนชีพในมือนายแล้ว”
“ไม่ใช่แค่พื้นที่ตรงนี้ ทั้งพื้นที่ประมงกลับมามีชีวิตได้ในมือบอส” ชาร์คยิ้มพลางถือเสียมไว้ในมือ
พรวนดิน ขุดร่องเสร็จก็สามารถปลูกผักได้แล้ว
รถแทรกเตอร์กลับไป หู่จือกับเป้าจือที่ก่อนหน้านี้ตกใจเสียงเครื่องยนต์ก็พากันร่าเริงขึ้นมา เจ้าสองตัวโผล่หัวออกมาจากหลังต้นไม้แล้ววิ่งออกมา พอเห็นพื้นราบเรียบก็ตื่นเต้นแล้ววิ่งไล่กันในแปลงผัก
ฉินสือโอวหลับตาสูดกลิ่นอายดินและหญ้าที่ฟุ้งไปทั่วบริเวณ ชั่วขณะนั้นเขารู้สึกราวกับได้กลับไปแปลงผักที่บ้าน
คนก็แปลกประหลาดแบบนี้ ตอนเรียนฉินสือโอวเกลียดการลงมาทำงานปลูกผัก แต่ตอนนี้เขากลับคิดถึงวันวานเหล่านั้นที่เขาทำงานเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ ฟังคำสอนของพ่อและคำพร่ำบ่นของแม่
“พวกนายปลูกผักเป็นไหม?”ฉินสือโอวถามขึ้น
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์และนีลเซ็นมองหน้ากันเองก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “บอส คิดว่ามีแต่ประเทศของบอสที่มีผักหรือไง? นิวฟันด์แลนด์แม้จะเป็นพื้นที่ประมงแต่ปลูกผักทำไร่ก็มีไม่น้อย พวกเราทำเป็นอยู่แล้ว”
ฉินสือโอวเองก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันนึกว่าที่แคนาดามีแค่รัฐซัสแคตเชวันที่ปลูกผัก”
รัฐซัสแคตเชวันอยู่แถบกลางของแคนาดา พืชน้ำอุดมสมบูรณ์ ขึ้นชื่อทางด้านฟาร์มปศุสัตว์และไร่ข้าวสาลีจนถูกยกย่องเป็น “ยุ้งฉาง” ของแคนาดา
วินนี่ยักไหล่แล้วพูดขึ้น “ส่วนฉันคงต้องเรียนตอนนี้แล้วละ คงไม่ยากไปใช่ไหม?”
“ไม่ยากหรอก เดี๋ยวผมสอน”ฉินสือโอวรู้สึกว่าการปลูกผักก็เป็นกิจกรรมที่ไม่เลวขึ้นมาทั้นใด
ก่อนที่จะปลูกผักก็ต้องรดน้ำแปลงผักก่อน เครื่องปั๊มน้ำส่งเอาน้ำไหลไปที่แปลงผัก ชาร์คกับซีมอนสเตอร์พากันขนลังต้นอ่อนออกมาแล้วเตรียมเริ่มทำงาน
วินนี่เห็นแปลงผักที่ชุ่มไปด้วยน้ำจึงถอดรองเท้าออก เดินตามฉินสือโอวด้วยเท้าเปล่าอยู่ข้างหลัง
ฉินสือโอวพูดด้วยความแปลกใจ “ถอดรองเท้าทำไม?”
จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเท้าอันแสนสวยของวินนี่ ผิวขาวเนียนจนเห็นเส้นเลือดลางๆ เท้าโค้งเรียวสวย นิ้วเท้าก็เรียงกันเรียบร้อยราวตัวอ่อนไหม เล็บสีชมพูเล็กน่ารักชวนถนอม
พอเห็นเท้าสวยของวินนี่ ฉินสือโอวรู้สึกเหมือนตัวเองจะกลายเป็นพวกมีรสนิยมชอบเท้าเสียแล้วทำเอาเขาเศร้าขึ้นมา
วินนี่สังเกตเห็นสายตาของฉินสือโอว เธอจึงดึงเท้ากลับมาอย่างอายๆแล้วพูดเสียงค่อย “ในแปลงเปียกหมดแล้ว จะใส่รองเท้าเข้าไปได้ไง?”
ฉินสือโอวหัวเราะก่อนจะตอบ “ใครบอกว่าต้องเข้าไป? ตรงนี้ทำสันทางเดินไว้แล้วนี่? เดินบนนั้นก็ได้แล้ว”
เออร์บักเห็นต้นอ่อนที่แตกหน่อก็ประหลาดใจ พูดขึ้นว่า “พระเจ้า ฉิน เมล็ดผักที่บ้านของนายมันพันธุ์อะไรเนี่ย? ไม่น่าเชื่อว่าจะแตกหน่อไวขนาดนี้ ถึงจะเพาะไว้ในเรือนกระจกก็เถอะ แต่นี่มันก็ไวไปไหมเนี่ย!”
ฉินสือโอวยักไหล่ เขาไม่ได้ตอบคำถามของเออร์บัก เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร จะให้บอกว่าพลังโพไซดอนมันก็แจ๋วแบบนี้แหละก็ไม่ได้จริงไหม?
เออร์บักพูดกับตัวเอง “มิน่าล่ะ นายถึงยืนกรานจะเอาเมล็ดมาจากที่บ้าน ที่แท้เมล็ดที่โน่นกับแคนาดาไม่เหมือนกันนี่เอง”
นอกจากกุยช่าย หน่ออ่อนของผักชนิดอื่นล้วนปลูกง่าย ก็แค่ขุดหลุมเล็กๆแล้วเอาหน่ออ่อนรวมถึงรากในดินฝังลงไปก็จบแล้ว
“ก็ง่ายๆแค่นี่แหละ แต่ว่าต้องระวังระยะห่างหน่อย ต้นอ่อนห่างกันน้อยไปก็จะแย่งอาหารกันจนโตไม่เต็มที่ ถ้าห่างมากไปก็จะเปลืองพื้นที่แปลง ต่อไปก็จะเปลืองน้ำกับปุ๋ย”ฉินสือโอวนั่งยองอยู่ข้างวินนี่และคอยสอนทีละขั้น
เขารู้สึกปลื้มมากที่ได้ลูบมือเนียนนุ่มของแอร์โฮสเตส
วินนี่ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “งั้นก็ชักจะซับซ้อนแล้ว ระยะห่างแค่ไหนดีละ?”
ที่ฉินสือโอวต้องการก็คือความซับซ้อน ถ้าแค่ขุดหลุมเอาผักลงปลูกเฉยๆเขาจะมีโอกาสสอนวินนี่ได้ไง?
แปลงผักที่เพิ่งจะไถใช้ไปไม่หมด พื้นที่เยอะเกินไป หน่อผักปลูกจนหมดแต่ก็กินเนื้อที่ไปเพียงไม่ถึงครึ่ง
เออร์บักสะบัดดินบนมือออกพลางมองดูต้นอ่อนในแปลงผักอย่างพอใจแล้วเอ่ยขึ้น “ขอแค่เจ้าพวกนี้โตขึ้น ปีนี้เราก็ไม่ต้องซื้อผักกันแล้ว”
ชาร์คพูดขึ้น “ไม่ใช่แค่ผักนะ ยังเหลือพื้นที่อีกตั้งเยอะ ฉันไปหาต้นผลไม้มาบ้างดีกว่า”
นีลเซ็นพูด “ในสวนของพี่ชายฉันมีต้นแอปเปิลกับสาลี่อยู่พอดี ใกล้จะออกลูกแล้ว ถ้าเอามาปลูกปีนี้เราก็ได้กินแอปเปิลกับสาลี่แล้ว”
“งั้นก็เอาแบบนี้ ฉันจะไปหาต้นแบล็คเบอร์รีกับบลูเบอร์รีมาสักหน่อย ถ้าหาต้นทับทิม มะเดื่อ เชอร์รี่ได้อีกก็ยิ่งดีไปใหญ่ชาร์คพูดขึ้นอย่างดีอกดีใจ
……………………………………