ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 679 การค้นพบอันน่าตกใจ
เห็นสาหร่ายคอมบุเจอการรุกรานจากเหาน้ำอย่างนี้ ฉินสือโอวก็เริ่มกังวล แต่ไม่ได้กลัว เพราะเขามีวิธีรับมือเจ้าปรสิตพวกนี้อยู่
ตอนนี้จะได้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลานั้นมีหลากหลายชนิดแค่ไหน
กุ้งอาร์กติกที่กินปลาบริเวณน้ำตื้นมาตลอดได้เปลี่ยนไปบริเวณน้ำลึกแทน ซึ่งกุ้งพวกนี้เมื่ออยู่ในน้ำลึกก็แทบจะไม่ต่างจากห่ากระสุน อะไรที่กินได้พวกมันก็กินหมด
อาหารของกุ้งอาร์กติกคือแพลงก์ตอนและยังชอบกินไข่เหาน้ำเช่นกัน จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมาถึงด้านใต้ทะเลไหล่ทวีป ไม่นานก็เจอฝูงกุ้งอาร์กติกจำนวนมาก จึงเตรียมควบคุมพาพวกมันไป
ทว่าทันทีที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปใกล้ ฝูงกุ้งอาร์กติกส่วนใหญ่กลับมีอาการลนลานเหมือนเจอนักล่า
ในทะเลลึกจะยังเหลือนักล่าหน้าไหนอีก? ฉินสือโอวมองด้วยความสงสัย ทันใดนั้นฝูงปลาตัวใหญ่ที่มีหลังสีน้ำตาล ข้างตัวสีน้ำตาลอ่อน ท้องสีขาวก็โผล่มา
มันเป็นปลานิสัยดุร้าย กำลังเข้าล้อมเตรียมโจมตีกุ้งอาร์กติกไว้เป็นทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนตัวมันมีลายสีดำตั้งแต่ตรงปากถึงโคนหาง ด้านข้างมีลายอ่อนๆ เหมือนกันทั้งตัวคล้ายม้าลายทะเล
ฉินสือโอวรู้จักปลาชนิดนี้ มันเป็นม้าลายปลอมในทะเล ปลาช่อนทะเลนั่นเอง เป็นปลาชนิดเดียวในเกมตกปลาแอตแลนติกที่ตัวเพรียวและเคลื่อนที่ว่องไว
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของปลาช่อนทะเลคือราชิเซนทรอน (Rachycentron) เป็นปลาทะเลเขตร้อน ชอบอยู่ในน่านน้ำที่อบอุ่น มีเยอะเป็นพิเศษในอ่าวเม็กซิโก คาดว่าปลาพวกนี้น่าจะมาตามกระแสน้ำอุ่นจากอ่าวเม็กซิโกจนถึงฟาร์มปลาต้าฉิน
ทะเลไม่เคยโกหก ถ้าฟาร์มปลาใครดี น่านน้ำตรงไหนสะอาดอุดมสมบูรณ์ ตรงนั้นก็จะมีปลาเยอะ
กระแสน้ำใต้ทะเลไม่เพียงพาปลาและเหยื่อจากน่านน้ำอื่นมายังฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ ยังพาปลาและอาหารของฟาร์มไปที่อื่นเช่นกัน แพลงก์ตอนกับพืชน้ำสาหร่ายที่ฟาร์มปลาต้าฉินก็มาด้วยวิธีนี้นั่นเอง
ปลาช่อนทะเลเป็นสัตว์กินเนื้อ ขนาดตัวไม่น้อยไปกว่าปลาทูน่า ปกติมีความยาวหนึ่งเมตรกว่า พอโตเต็มวัยอาจยาวสามเมตรกว่า กินกุ้ง ปู ปลาตัวเล็กทั้งหมดและกินจุด้วย
เพื่อให้อิ่มท้อง ปลาช่อนทะเลสามารถท่องไปทั้งทะเลเพื่อหาอาหารได้เลย กระแสน้ำอุ่นของอ่าวเม็กซิโกคงพาปลาแฮร์ริ่งกับปลาซาบะของฟาร์มไป แน่นอนว่าพอปลาช่อนทะเลได้กินย่อมติดใจรสชาติแล้วย้อนกระแสน้ำอุ่นมาที่ฟาร์มปลา
ซึ่งฉินสือโอวนั้นยินดีต้อนรับปลาพันธุ์นี้มาก แม้พวกมันจะกระเพาะใหญ่แต่ก็ราคาดี เนื้อนุ่ม อร่อย เจริญเติบโตเร็ว มีมูลค่าสูง เป็นผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่ขายดีในตลาด จนประเทศตามชายฝั่งต้องมีกรงตาข่ายเพาะพันธุ์เป็นหลัก
แต่กุ้งอาร์กติกพวกนี้ยังมีประโยชน์อยู่ ฉินสือโอวจึงใช้พลังโพไซดอนกับปลาช่อนทะเลให้มันไปหาปลาเล็กกินแทน แล้วพากุ้งอาร์กติกไป
กุ้งอาร์กติกที่หวาดกลัวว่าจะโดนปลาช่อนทะเลฆ่า พอเข้ามาในดงคอมบุก็พบว่านอกจากปลาอีโต้มอญแล้วก็ไม่มีนักล่าตัวอื่นเลย ปลาอีโต้มอญตัวเล็กกว่าปลาช่อนทะเลเยอะ แถมอาหารยังอุดมสมบูรณ์อีก จึงรีบพากันเข้าไปหาอาหารด้วยความดีใจ
พวกมันจัดการกับไข่เหาน้ำได้ แต่ไม่ใช่กับตัวเหาน้ำเพราะขนาดปากของพวกมันเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับตัวเหาน้ำ
ยังมีตัวที่จะมาจัดการเหาน้ำได้อยู่ กุ้งล็อบสเตอร์ไงล่ะ
อาหารที่ล็อบสเตอร์กินนั้นค่อนข้างผสม ทั้งพืชน้ำนิ่มๆ สดๆ สัตว์ที่อยู่ตามหน้าดิน พวกหอยปลาหมึก แพลงก์ตอนจำนวนมาก ปลาพันธุ์ต่างๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่าซากปลากุ้งเป็นของที่พวกมันชอบ
ถึงอาหารที่กินจะผสมกัน ทว่าการกินในแต่ละช่วงระหว่างเจริญเติบโตของพวกมันก็ยังมีความต่างอยู่บ้าง ตัวอ่อนที่เพิ่งฟักจะกินแต่เมือกของตัวเองที่เก็บไว้เพื่อสารอาหาร จากนั้นไม่นานก็เริ่มกินสัตว์ที่เคลื่อนไหวได้อย่างแพลงก์ตอนเล็กๆ
พอโตขึ้นล็อบสเตอร์ก็เริ่มกินแพลงก์ตอนใหญ่ขึ้น สัตว์ตามหน้าดินและซากพืช จนล็อบสเตอร์ตัวเต็มวัยจะกินทั้งพืชและสัตว์ อาหารหลักคือซากพืชซากสัตว์ พวกตัวเล็กๆ อย่างหนอนน้ำ ริ้นน้ำ และแมลงเปลือกแข็งบางส่วน
ปกติเหาน้ำก็เป็นของที่ล็อบสเตอร์ตัวเต็มวัยกิน
ฉินสือโอวล่อพวกล็อบสเตอร์รุ้งมา ทันทีที่พวกมันมาถึงก็เริ่มทำลายคอมบุด้วยความอยากรู้อยากเห็นเจ้าสาหร่ายนุ่มๆ แต่ความสนใจของพวกมันก็ยังไม่เลวร้ายเท่าเหาน้ำหรอก
ภาพล็อบสเตอร์รุ้งเดินด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ช่างงดงามเกินบรรยาย กระดองหลังของมันแต่ละตัวมีดาวเล็กๆ เต็มไปหมด พอมองรวมกันก็ดูเหมือนทะเลดาวกว้างใหญ่ที่สวยงามลึกลับ
ได้เห็นทะเลดาวนับไม่ถ้วนในทะเล ฉินสือโอวพาลถอนหายใจอย่างอดไม่ไหว สวยเกินไปแล้ว สวยมากจริงๆ…
จู่ๆ ฉินสือโอวก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นหลังได้เห็นความสวยงามของล็อบสเตอร์ ความคิดเรื่องสถานที่ที่จะขอวินนี่แต่งงานนั่นเอง
ถ้าขอวินนี่โดยมีล็อบสเตอร์รุ้งเป็นฉากหลัง ภาพจะเป็นยังไงกันนะ?
ฉินสือโอวลองจินตนาการด้วยความสงสัย จิตสำนึกแห่งโพไซดอนพาล็อบสเตอร์รุ้งมาจนถึงน่านน้ำสาหร่ายคอมบุเสร็จก็ลอยออกไปทางน้ำลึก
สักพักใหญ่ถึงดึงสติกลับมา ฉินสือโอวมองอีกทีก็ไม่รู้ว่าจิตสำนึกแห่งโพไซดอนมาอยู่ที่ไหนแล้ว รอบข้างเป็นทะเลลึกไม่ค่อยเห็นปลาหรือสาหร่าย แต่เจอปลาทูน่าครีบเหลืองตัวประมาณเท่าแขนฝูงหนึ่ง
แน่นอนปลาพวกนี้เป็นตัวลูกของพ่อแม่ทูน่า ทูน่าครีบเหลืองจะวางไข่ผสมพันธุ์ไปเรื่อยๆ ถ้าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของไข่ทูน่าฟักมา เกรงว่าฟาร์มปลาต้าฉินคงมีทูน่าครีบน้ำเงินพันกว่าตัวแล้ว
แต่เป็นไปได้ยากที่ลูกปลาพวกนี้จะรอดหมด พวกมันอยู่จุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร กว่าพวกมันแต่ละตัวจะโตก็อาจถูกล่าโดยปลาแฮร์ริ่งกับปลาซาบะเสียก่อน
ส่วนปลาพวกนี้โตพอแล้ว แม้จะยังตัวแค่แขนก็ตาม แต่ถ้าหนักถึงสิบกิโลกรัมได้ก็ไม่มีปัญหา รูปทรงหยดน้ำที่สวยงาม ดูเปี่ยมไปด้วยพลังยามว่ายไปมา ทำให้น่านน้ำนี้ดูมีชีวิตชีวา
ถึงปลาทูน่าครีบเหลืองจะไม่ได้มีค่าเท่าทูน่าครีบน้ำเงิน แต่พวกมันก็มีจำนวนมากจนเป็นหนึ่งในปลาเศรษฐกิจที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้ฉินสือโอวจึงใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนส่งพลังใส่พวกมัน
ฝูงปลาว่ายน้ำกันเร็วมากขึ้น ทันใดนั้นป่าหินสีแดงก็ปรากฏแก่สายตา
พวกทูน่าครีบเหลืองจากเดิมที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ตอนนี้กลับว่ายเก็บออกซิเจนไม่หยุด ฉินสือโอวยังคงมองป่าหินสีแดงด้วยความตะลึง
แน่นอนมันไม่ใช่ป่าหินอะไรหรอก มันคือขุมทรัพย์ปะการังน้ำลึก!
ปะการังแบ่งเป็นสองประเภทคือปะการังน้ำตื้นและปะการังน้ำลึก ปะการังน้ำตื้นมีเยอะที่สุด หลังมันโผล่ขึ้นมาแล้วก็จะหลอมกันกลายเป็นหิน หน้าที่ของมันก็คือการเพิ่มจำนวนสิ่งมีชีวิตในทะเลให้หลากหลาย
สำหรับมนุษย์ จะได้รับประโยชน์จากปะการังโดยตรงไม่มากนัก เพราะพวกมันยังกลวงและไม่แข็งพอที่จะนำไปแกะสลักทำเครื่องประดับได้
ส่วนปะการังน้ำลึกไม่เหมือนกัน พวกมันสามารถโตใต้ทะเลได้ที่ความลึก 200-2000 เมตร พอผ่านกระบวนการกลายเป็นหินในน้ำลึก โครงสร้างก็แข็งขึ้น จนสามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในแกะสลักทำเครื่องประดับได้ มันถึงเป็นปะการังที่มีค่ามาก
สร้อยปะการังสีแดงที่ฉินสือโอวได้มาก่อนหน้า ก็ทำจากปะการังทะเลลึกแกะสลักเหมือนกัน ตอนที่สือฉงกับหวังข่ายประชันฐานะกัน ต้นปะการังที่พวกเขาย้ายก็เป็นปะการังน้ำลึกนั่นเอง เดี๋ยวนี้แรงงานเก็บปะการังน้ำลึกหายากแล้ว มันจึงมีค่ามาก และเอาไว้ใช้เป็นไพ่ตายก้นหีบได้
…………………………………………………………….