ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 709 พนันว่าแกตกปลาไม่ได้หรอก
ในฐานะนักการเมืองมือดี แน่นอนว่าความสามารถของแมทธิว จินไม่ธรรมดา
ทุกอย่างเป็นไปตามที่กำหนดก่อนหน้านี้ ใครก็ตามก็ไม่สามารถพาคนในครอบครัวหรือผู้ช่วยมาด้วย สำหรับคนที่ไม่เหมาะจะเข้าร่วมกิจกรรมก็ไม่ต้องมาเข้าร่วมหรือไม่ก็ส่งตัวแทนที่จากกรมประมงมาแทน
อย่างไรนี่ก็เป็นกิจกรรมที่ประเทศเป็นคนจัด อย่างไรก็ต้องดูมีบรรยากาศหน่อย นอกจากผู้รักษาความปลอดภัย แมทธิว จินยังพาผู้ดูแลกับพ่อครัวมาด้วย พาหนะที่โดยสารก็เป็นเรือยอชต์สุดหรู เป็นอย่างที่ท่านรัฐมนตรีว่าไว้ นี่เป็นการเที่ยวชม
ขึ้นเรือจากเซนต์จอห์น ฉินสือโอวหาที่คนเยอะๆ บนดาดฟ้าแล้วหยิบคันเบ็ดมาเหวี่ยงเบ็ดลงทะเล
ชายวัยกลางคนสวมเสื้อเชิ้ตเวอร์ซาเชคลาสสิคลายสก๊อตเดินมาข้างเขาพร้อมรอยยิ้มบาง “คุณฉิน? ทุกคนต่างใช้โอกาสเพิ่มหาคอนเนคชั่นให้ตัวเอง ทำไมเหมือนคุณจะไม่ได้สนใจเลย?”
ชายวัยกลางคนดูๆ แล้วน่าจะอายุสี่สิบกว่า ผมสีน้ำตาลทองถูกหวีเรียบร้อย หน้าตาหล่อเหลา หุ่นสูงใหญ่ นาฬิกาวาเชอรอนบนข้อมือเปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์
ฉินสือโอวรู้จักเขา เขาชื่อฮับเบิล ดรัมมอนด์ เป็นนักลงทุนทางการเงินที่มีชื่อของนิวฟันด์แลนด์ ช่องทางรายได้ที่เซนต์จอห์นก็มีรายการเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยเฉพาะ เออร์บักก็ดูในบางครั้ง
ไม่ต้องสงสัย คนแบบนี้เป็นพวกที่สามารถผูกมิตรได้ ฉินสือโอวเลยยิ้มยิงฟันแล้วพูดขึ้น “ผมก็กำลังขยายคอนเนคชั่นอยู่นี่ไง ดูสิผมก็กำลังตกปลากับทุกคนอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
ชายวัยกลางคนหลุดหัวเราะออกมา เขาไม่รู้ว่าที่ฉินสือโอวพูดคือความจริง ถ้าไม่อยากขยายคอนเนคชั่นฉินสือโอวก็ไปหามุมตกปลาคนเดียวที่ท้ายเรือแล้ว จะมาอยู่กับคนเยอะขนาดนี้ทำไม?
แอนดรูว์เดินมา เขาปรายตามองฮับเบิลด้วยสายตาไม่เป็นมิตรแล้วพูดกับฉินสือโอวอย่างอารมณ์ดี “สวัสดี เพื่อน ยังห่างจากท่าเรือบาสก์อีกช่วงหนึ่ง มาเล่นไพ่ด้วยกันไหม? พวกเราไปข่มมาร์วินกัน”
ฉินสือโอวชอบเล่นไพ่ แต่ไม่ชอบเล่นกับคนแปลกหน้า เพราะเรื่องพวกนี้ใครก็ไม่อยากแพ้ คนที่แพ้ก็ยากที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย
พอเบ็ดปลาจมลงไป ฉินสือโอวก็หมุนคันรอกไปยิ้มไป “ดูสิ คันเบ็ดฉันมันไม่เห็นด้วย พวกนายไปเล่นเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป”
แอนดรูว์เหมือนจะไม่อยากให้เขากับฮับเบิลอยู่ด้วยกันเลยบอกว่าไม่เล่นแล้ว และหยิบคันเบ็ดมาตกปลา
ตอนนี้ชายชราคนหนึ่งก็เดินมาใช้ที่ตรงนั้นแทน เขาจ้องดูฉินสือโอวกับแอนดรูว์แล้วพูดแบบไม่พอใจ “นี่ๆๆ เพื่อนๆ ตรงนี้คนเต็มแล้ว พวกคุณย้ายที่ไปหน่อย โอเค?”
ฉินสือโอวไม่พอใจ แต่ว่าตรงนี้มีแอนดรูว์ที่ใจร้อนอยู่ ไม่ต้องให้เขาออกปากเอง แอนดรูว์พ่อปืนคาบศิลาจะจัดการให้เขาเอง
แอนดรูว์พูดอย่างหัวเสียอย่างที่คาดไว้ “คุณ นี่ไม่ใช่เรือของคุณ แล้วก็ไม่ใช่ฟาร์มปลาของคุณ ฉะนั้นพวกเราจะตกปลาที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับคุณ! นอกจากนั้น เหมือนว่าคุณจะมาทีหลังนะ?”
ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าอีกคนถอดแว่นกันแดดแล้วเดินเข้ามา “ฉันจองที่ไว้ให้เพื่อนฉัน ไม่ว่าเขาจะมาตอนไหน ก็เร็วกว่าคุณ”
แบบนี้รังแกกันเกินไปแล้ว ฉินสือโอวขยี้ตาที่โดนลมทะเลพัดจนระคาย แสงอาทิตย์ก็ค่อนข้างแยงตา ทำเอาตาเขาแสบจนน้ำตาจะไหล
ปรากฏว่าปากตาแก่นี่ยังเสียอีก นึกไม่ถึงว่าจะมองเขาแล้วหัวเราะก่อนจะพูดขึ้น “ดูเด็กน่าสงสารนี่สิ โดนฉันว่าจนเสียใจเหรอ? น้ำตาไหลเลยเหรอ? เด็กน้อย ฟังลุงพูด กลับไปหาแม่เถอะ…โอ้ ให้ตายเถอะ!”
เฮียฉินไม่ใช่เด็กน้อยแสนเชื่อฟังเสียด้วยสิ พอเห็นตาแก่นี่ปากเสีย เขากำลังจะดึงปลาขึ้นมาพอดีเลยสะบัดคันเบ็ดแล้วสลัดปลาตัวนั้นไปที่ตาแก่จนเกือบจะโดนหน้าเขา
ตาแก่หัวร้อนหัวเสีย แม้ว่าปลาจะไม่ได้สะบัดโดนหน้าเขา แต่ว่าปลาทะเลนั้นดิ้นจนสลัดน้ำทะเลโดนหน้าเขาเต็มๆ
ฉินสือโอวเก็บเอ็นเบ็ดกลับมาแล้วคว้าปลาที่ดิ้นสุดแรงไว้ก่อนจะพูดพลางบุ้ยปาก “ดูเจ้าปลาปากมากนี่สิ มันไม่รู้หรือไงนะว่าถ้าอยากอายุยืนต้องคุมปากตัวเองดีๆ?”
ปลาตัวนี้ปกคลุมด้วยเกล็ดสีฟ้าเงิน ส่องประกายภายใต้แสงอาทิตย์ มีร่างกายที่เพรียวบางกำยำ ดูเจริญหูเจริญตา นั่นคือปลากะพงญี่ปุ่น
ฮับเบิลแบมือออกด้านข้างทำท่ายักไหล่ แอนดรูว์กลับหัวเราะร่าออกมา
ตาเฒ่าชี้ไปที่ฉินสือโอวเหมือนต้องการจะพูดอะไร ฉินสือโอวไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดแล้วหิ้วปลากะพงญี่ปุ่นพลางพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “โอ้ ให้ตายเถอะ เจ้านี่กำลังอึ? น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”
พูดจบ ฉินสือโอวโบกมือสะบัดแล้วโยนปลาไปในทิศทางของชายชรา ตาเฒ่ารีบหลบไปทันที จากนั้นร่างสีเงินฟ้าของปลากะพงญี่ปุ่นก็ดิ้นออกจากเรือแล้วร่วงลงทะเลไป
ตาเฒ่ากับชายสวมแว่นกันแดดต่างก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฝ่ายแรกถลึงตาจ้องฉินสือโอวอย่างโหดเหี้ยมแล้วเอ่ยปาก “เฮ้ ไอ้หนุ่ม อยากหาเรื่องหรือไง?”
ฉินสือโอวปรายตามองเขาแบบไม่ใส่ใจแล้วพูด “ถ้าฉันอยากจะมีเรื่องล่ะก็ ตาแก่ ฉันก็ยื่นหมัดไปสวนแกนานแล้ว ตอนนี้ฉันไม่ได้ต่อยแก เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็สำรวมหน่อย อย่างน้อยๆ แกก็อย่ามาหาเรื่องฉันก่อน!”
ภายในหมู่เจ้าของฟาร์มปลาเดิมทีก็มีความขัดแย้งอยู่ก่อนแล้ว พอทางนี้ทะเลาะกัน คนอื่นๆ ก็ไม่ตกปลาแล้ว แต่พากันมามุงดูแทน
แมทธิว จินเองก็โผล่มาพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนจะเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
ฉินสือโอวแย่งตอบก่อน “ไม่มีอะไร ท่านรัฐมนตรี ผมล้อเล่นกับคุณลุงเขา ผมเห็นว่าเขาตกปลาไม่เป็น เมื่อกี้ผมตกปลากะพงญี่ปุ่นได้ตัวหนึ่งแล้วอยากให้เขา กลายเป็นว่าเขาไม่รับน้ำใจ แต่กลับคิดว่าผมล้อเลียนเขา”
ตาเฒ่าแค่นเสียงหัวเราะ “แถเก่งจริงๆ นะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะตกปลาให้บ้างได้ไหม?”
ฉินสือโอวมองตาเฒ่าอย่างจริงจัง “แน่นอนว่าได้ แต่ก่อนอื่น แกต้องตกปลาให้ได้ก่อน”
ข้างๆ มีคนพูดขึ้นอย่างยโส “เราเป็นสมาชิกสมาคมตกปลานานาชาติ แค่ตกปลายังไม่ง่ายอีกเหรอ?”
พอได้ยินชื่อสมาคมตกปลานานาชาติ ฉินสือโอวก็อดนึกถึงเมื่อปีที่แล้วที่เขาจัดการกับสมาชิกสมาคมตกปลาของอเมริกาที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จไม่ได้จากนั้นก็พูดยิ้มๆ “ตกปลาน่ะง่าย แต่เทียบกับการเลี้ยงปลาแล้วยากกว่ามาก ดูสิ พวกแกแค่เลี้ยงปลายังทำได้ไม่ดี จะไปตกปลาได้อย่างไร?”
“งั้นเรามาพนันกัน ถ้าพวกเราตกปลาได้จะทำอย่างไร?” ชายสวมแว่นดำพูดเสียงเย็น
ฉินสือโอวโบกมือพลางเอ่ยปาก “เงื่อนไขพวกแกว่ามาเลย ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าคนที่ทำไม่เป็นแม้แต่การเลี้ยงปลาจะไปตกปลาในที่แบบนี้ได้อย่างไร”
“ได้ งั้นเรามาพนันกัน แกเลือกชนิดปลามา เราจะตั้งเงื่อนไข ฉันไม่โหดเกินไปหรอก เราก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็มาใช้เงินเดิมพัน ครั้งล่ะหนึ่งหมื่นดอลลาร์แคนาดา กล้าไหม?” ชายแว่นดำมองฉินสือโอวอย่างท้าทาย
“หนึ่งหมื่นดอลลาร์แคนาดาจะไปมีประโยชน์อะไร? แต้มล่ะหมื่นดอลลาร์แคนาดา เราพนันสิบแต้ม คนอื่นก็ลงพนันได้ ฉันเป็นเจ้ามือ มาพนันปลากะพงญี่ปุ่นที่ฉันตกได้เมื่อกี้ ฉันพนันว่าพวกนายตกไม่ได้ กล้าไหม?” ฉินสือโอวเพิ่มเดิมพันแล้วรอกอบโกยเงิน
……………………………………………………….