ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 725 แมวน้ำน้อยผู้กล้าหาญ
เรือหาปลาขับเข้าใกล้เกาะฮิลล์ เป็นจริงอย่างว่า มีแมวน้ำมากมายปรากฏแก่สายตาของฉินสือโอว
ไลเทคถามฉินสือโอวว่ามีความรู้เกี่ยวกับแมวน้ำบ้างไหม และหลังจากที่รู้ว่าเขาไม่มีความรู้ ก็ทำหน้าที่เป็นไกด์แนะนำให้เขาฟังว่า
“ดูเจ้าตัวใหญ่พวกนั้นนะ ใช่แล้ว ตัวที่ยาวถึงสองเมตรกว่านั่นแหละ ใช่แล้ว พวกมันก็คือแมวน้ำเครา ถ้าหากว่าคุณมีตาที่เฉียบคมเหมือนกับอินทรีแล้วล่ะก็ งั้นคุณก็จะเห็นว่าที่ปากของพวกมันจะมีหนวดเส้นใหญ่และแข็งอยู่ ดังนั้นจึงมีคนเรียกพวกมันว่าแมวน้ำหนวด”
“ที่เยอะที่สุดจะเป็นแมวน้ำวงแหวน เพราะว่าอาหารที่พวกมันกินนั้นมีหลากหลายรูปแบบ พวกมันกินทั้งเนื้อและหญ้า พวกมันสามารถกินปลาทะเลได้ทุกรูปแบบ และยังกินสัตว์ชั้นเซฟาโลพอด (สัตว์จำพวกปลาหมึก) และสัตว์มีเปลือกอีกด้วย ถ้าหากว่าไม่สามารถหากินของพวกนี้ได้ พวกมันก็ไม่รังเกียจที่จะกินพวกหญ้าทะเล”
“เห็นแมวน้ำตัวใหญ่ที่สวยงามตัวนั้นไหม? นั่นก็คือตัวที่มีขนสีน้ำตาลครามตัวนั้น คุณโชคดีมากเลยนะครับ พวกมันก็คือแมวน้ำริบบิ้น เพราะว่ารอบคอพวกมันมีเส้นวงแหวนที่ขาวใหญ่คาดอยู่ด้วย แมวน้ำประเภทนี้มีจำนวนค่อนข้างน้อย อีกอย่างพวกมันไม่ชอบการอยู่กันเป็นฝูงด้วย”
เกาะที่ขนาดไม่ใหญ่มากจะมีแมวน้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีหลากหลายสายพันธุ์ เจ้าตัวอ้วนท้วมพวกนี้ส่วนมากจะนอนอาบแดดอยู่บนเกาะ อาบจนขนบนตัวเปล่งประกายแวววาวออกมา จนเหมือนกับว่าทาน้ำมันอยู่อย่างไรอย่างนั้น
มีลูกแมวน้ำตัวอ้วนหลายตัวกำลังเล่นหยอกล้อกันอยู่ พวกมันมีขนาดเท่ากับสุนัขตัวเล็กเท่านั้น ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยไขมันที่กระเพื่อมไปมา กลมราวกับลูกบอล
เจ้าตัวเล็กพวกนี้ตะโกนร้อง ‘อาวๆ ’ ออกมาสุดเสียง ตอนเล่นกันอยู่นั้นดูเหมือนกับลูกบอลกลิ้งอยู่ มีลูกแมวน้ำที่ดูไม่ออกว่าสายพันธุ์ไหนตัวหนึ่งขึ้นไปข่วนแมวน้ำที่ตัวโตขึ้นมาหน่อยทีหนึ่ง สุดท้ายโดนแมวน้ำที่ตัวโตกว่านั้นสะบัดตูดไปข้างหลังทีหนึ่ง ทำให้ลูกแมวน้ำกลิ้งลงไปราวกับลูกบอล…
“เฮ้ย เจ้าตัวเล็กนี้น่ารักจริงๆ” ฉินสือโอวยิ้มออกมา
“น่ารัก? ไม่นะ พวกเราไม่มีใครรู้สึกแบบนี้เลย” วิลเลียมส์พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ความคุ้มครองที่รัฐบาลมีให้กับเจ้าขี้เกียจพวกนี้นั้นมากกว่าพวกเราอีก ในปีหนึ่งจะมีกี่วันเชียวที่พวกเราจับปลาได้ แต่พวกมันล่ะ? จับได้ตลอดทุกเวลาเลย”
“คุ้มครอง? คุณบอกว่ารัฐบาลแคนาดาคุ้มครองพวกมันเหรอครับ?” ฉินสือโอวถามกลับ
แม้ว่าเขาไม่อยากจริงจังและก็ไม่อยากโต้เถียง แต่สิ่งที่แคนาดาทำกับแมวน้ำนั้นไม่ถือว่าเป็นการคุ้มครองเลยสักนิด การที่ยอมให้มีการตามล่าแมวน้ำจำนวนมากในทุกปี ยังถือว่าเป็นการคุ้มครองอีกเหรอ?
การล่าแมวน้ำของแคนาดานั้น เป็นรองแค่กิจกรรมล่าแมวน้ำของญี่ปุ่นกับ ’ประเพณีล่าวาฬ’ ของหมู่เกาะแฟโรที่อยู่ในเขตปกครองของเดนมาร์กเท่านั้น
หลังจากได้ฟังคำพูดของฉินสือโอวแล้ว มีชาวประมงคนหนึ่งไม่เห็นด้วย จึงพูดกลับไปว่า “ใช่แล้ว มีคนมาฆ่าพวกมัน ทางรัฐบาลไม่ได้มาคุ้มครองพวกมันเหรอไง? ไม่เลย รัฐบาลออกกฎมาแล้วว่าในหนึ่งปีสามารถออกล่าพวกมันได้สิบห้าวันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แถมยังมีการจัดสรรงบประมาณให้พวกมันอีก นี่ยังไม่เรียกว่าคุ้มครองอีกเหรอ?”
“พ่อหนุ่ม คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลา คงไม่สามารถรับรู้ถึงความปวดใจของพวกเราคนจนได้หรอก ใครจะอยากไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตกัน? แต่ว่าตอนที่คุณไม่สามารถหาวิธีหาเงินได้แล้ว การไปปล้นธนาคารก็ดูเหมือนเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว”
“พ่อหนุ่ม คุณเคยฆ่าหมูป่าบ้างไหม? ทางรัฐบาลก็ไม่ได้มีการคุ้มครองหมูป่า แต่ทำไมถึงไม่มีคนไปประท้วงล่ะ? ง่ายมาก เพราะหมูป่าสามารถทำลายพืชผลในไร่นา แต่ว่าแมวน้ำไม่สามารถทำลายปลาในฟาร์มปลาหรืออย่างไรกัน? พวกนั้นนี่แหละที่ชอบกินปลาค็อดเป็นที่สุด!”
ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วพูดว่า “จุดนี้ไม่มีอะไรให้ต้องเถียงเลย ทุกท่าน ทุกคนต่างก็มีจุดยืนที่แตกต่างกัน ความคิดจึงไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเราควรจะทำอย่างไร”
คนที่โตแล้วจะพูดถึงแต่ผลประโยชน์ ส่วนเด็กจะสนใจแต่ผิดหรือถูก แต่สำหรับเรื่องนี้แล้ว ฉินสือโอวจำเป็นต้องกลายเป็นเด็กคนหนึ่ง เขายังคงยืนกรานว่ารัฐบาลแคนาดาไม่ควรอนุญาตให้ประชาชนทำการล่าแมวน้ำจำนวนมากแบบนี้
ใช่แล้ว รัฐบาลอนุญาตให้ฆ่าหมูป่าได้ แต่มีตอนไหนกันที่มีคนรวมกลุ่มกันเพื่อพากันล่าหมูป่า?
แต่การล่าแมวน้ำนั้น กลับเป็นการกระทำแบบรวมกลุ่มกันเพื่อการตามล่าเลย
ไลเทคเห็นว่าทุกคนกำลังอารมณ์พลุ่งพล่าน จึงกระทืบเท้าแล้วตะโกนว่า “เฮ้ เพื่อนฝูง ฉันว่านะ พวกเรามาตกปลากันเถอะ ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งโต้วาทีเรื่องการคุ้มครองสัตว์เสียหน่อย อีกอย่างพวกเราจะมาเถียงเรื่องนี้กันทำไม? พวกเราก็ไม่เคยฆ่าแมวน้ำเสียหน่อยใช่ไหม? และในนี้ก็ไม่มีใครมาที่เกาะฮิลล์เพื่อฆ่าแมวน้ำด้วยไม่ใช่เหรอ?”
เหล่าชาวประมงพากันยิ้มแล้วพยักหน้า ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าเมื่อกี้ตัวเองออกจะทำตัวเด็กไปหน่อย เขาจะมาโต้เถียงกับพวกคนแก่พวกนี้ทำไมกัน?
เหล่าแมวน้ำหัวกลมตัวอ้วนพากันกระโดดลงน้ำตู้มๆ มุดลงไปในน้ำเพื่อหาอาหาร เหล่าลูกแมวน้ำยังคงเล่นหยอกกันอย่างไร้เดียงสา บนเกาะโขดหินเต็มไปด้วยภาพบรรยากาศที่สุขสันต์
แต่ทว่าความน่ากลัวได้คืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ ไลเทคยื่นมือไปดึงเสื้อของฉินสือโอว ทำท่าทางให้เขามองไปทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะโขดหิน
เรือหาปลาจอดอยู่ค่อนข้างใกล้ ฉินสือโอวเพ่งตามองไปตรงผิวน้ำใกล้ๆ กับเกาะโขดหิน เห็นมีสัตว์ตัวใหญ่ตัวหนึ่งกำลังโผล่ออกมาช้าๆ
นี่เป็นปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่ง หัวสีดำเทาที่โผล่ออกมานั้นมีขนาดใหญ่มาก ฉินสือโอวปล่อยพลังโพไซดอนออกไป ได้รู้ว่าปลาตัวนี้มีความยาวประมาณห้าเมตรกว่า หน้าตาน่าเกลียด ท่าทางดูเทอะทะและเชื่องช้า แม้ว่ามีปากอันใหญ่ยักษ์ แต่มองไปแล้วดูหน้าตาซื่อบื้อ
เมื่อได้เห็นหน้าตาปลาตัวนี้อย่างชัดเจนแล้ว ฉินสือโอวนึกชื่อมันขึ้นมาได้ จึงพูดด้วยเสียงเบาว่า “ฉลามสลีปเปอร์?”
ฉลามสลีปเปอร์มีอีกชื่อหนึ่งว่าฉลามกรีนแลนด์ ทั้งสองชื่อต่างบ่งบอกถึงคุณลักษณะพิเศษทั้งสองอย่างของมัน อย่างแรกคือมันอาศัยอยู่ในน่านน้ำเขตกรีนแลนด์ ส่วนอีกอย่างก็คือท่าทีที่เชื่องช้าราวกับกำลังนอนหลับอยู่ของมัน
ฉลามสลีปเปอร์ตัวนี้ท่าทางเชื่องช้า จากที่มันโผล่ออกมาจากผิวน้ำจนเข้าใกล้เกาะโขดหิน ที่มีระยะสั้นๆ เพียงแค่หนึ่งร้อยกว่าเมตรนั้น มันใช้เวลาว่ายนานถึงห้านาทีเลย
ฉินสือโอวรู้ว่าฉลามสลีปเปอร์ไม่ได้ว่ายช้าเพราะกลัวว่าจะทำให้แมวน้ำที่นอนอาบแดดอยู่ตกใจกลัว แต่ว่ามันว่ายช้าแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ในหนึ่งนาทีสามารถว่ายได้ยี่สิบเมตรก็ถือว่าดีแล้ว
แต่ทว่าการเป็นแบบนี้ก็มีข้อดีอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือพวกแมวน้ำที่ชะล่าใจพวกนี้ไม่รู้ว่ากำลังมีอันตรายเข้าใกล้ ตัวที่หยอกเล่นกันยังคงเล่นกันอยู่ ตัวที่อาบแดดก็ยังคงอาบแดดต่อไป ส่วนตัวที่กำลังหลับก็ยังคงนอนหลับอยู่
หลังจากฉลามสลีปเปอร์เข้าใกล้เกาะโขดหินแล้ว ก็มีแมวน้ำเทาตัวอ้วนตัวหนึ่งกำลังนอนอาบแดดอยู่ในน้ำ สุดท้ายเมื่อฉลามสลีปเปอร์ค่อยๆ ว่ายเข้าไปใกล้มันแล้ว ก็อ้าปากที่ใหญ่นั้น ‘หมับ’ คำเดียวกัดไปบนตัวของแมวน้ำ!
แมวน้ำที่ได้รับความเจ็บปวดนั้นกรีดร้องออกมา ตามด้วยฉลามสลีปเปอร์ที่ว่ายลงไปในน้ำ และลากเจ้าแมวน้ำตัวนี้ลงไปในน้ำด้วย เหลือไว้แต่รอยเลือดจางๆ ที่สั่นไหวไปมาพร้อมกับคลื่นน้ำ
ฉากนี้ทำเอาพวกแมวน้ำตกตะลึง ความขี้เกียจในตัวของพวกมันก็หายไปด้วยอย่างรวดเร็ว พวกลูกแมวน้ำถูกแม่แมวน้ำคาบไว้แล้วหนีไป เหล่าแมวน้ำตัวผู้ได้ออกมายืนล้อมไว้ทั่วทุกทิศรอบเกาะอย่างกล้าหาญ จากนั้นก็เหมือนกับเกี๊ยวน้ำ กระโดด ‘ตู้ม’ ‘ตู้ม’ ลงไปในน้ำกันทีละตัว
“มีฉากเด็ดให้ดูแล้ว” ไลเทคพูดพร้อมกอดอกแล้วหัวเราะฮ่าๆ ออกมา เหล่าชาวประมงคนอื่นก็พากันชะโงกหน้าลงไปดู ใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าลุ้นระทึก
ฉลามสลีปเปอร์มีอีกฉายาหนึ่งว่า ‘จระเข้ในทะเล’ เหตุผลก็คือพวกมันจะเข้าใกล้เหยื่ออย่างเชื่องช้าจากนั้นก็กัดไปที่เหยื่ออย่างแรงแล้วค่อยลากเหยื่อลงไปทรมานในน้ำให้ตายแล้วค่อยกิน พวกมันมีลำตัวค่อนข้างใหญ่ ตัวโตเต็มวัยสามารถโตจนมีความยาวถึงเจ็ดเมตร บวกกับนิสัยที่โหดร้ายดุดัน จึงทำให้มีคู่ปรับในน้ำไม่มากนัก
ช่างโชคร้าย แมวน้ำที่ฉลามสลีปเปอร์ชอบกินเป็นอาหารมากที่สุดนั้น กลับเป็นหนึ่งในคู่ปรับของพวกมัน
อย่าคิดว่าแมวน้ำที่ดูอ้วนท้วมราวกับลูกหมูที่เห็นบนผืนดินนั้นจะไม่ได้เรื่องนะ อย่างไรเสียก็มีคำว่า ‘เสือดาว’ อยู่ในชื่อ (ชื่อในภาษาจีนของแมวน้ำคือเสือดาวทะเล) นอกจากพวกมันจะมีรูปร่างคล้ายเสือดาวแล้ว ยังมีลักษณะนิสัยที่เหมือนกับเสือดาวอีกด้วย
เมื่อได้ลงน้ำแล้ว แมวน้ำทะเลก็คือเสือดาวแห่งท้องทะเลอย่างแท้จริง!
…………………………………..