ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 745 แก้วก้นทะเล
แผนการเสริมแคลเซียมของฟาร์มปลาไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในวันเดียว นี่เป็นงานที่ต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน ขั้นตอนแรกต้องใช้เวลาเจ็ดวันถึงจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะขอบเขตครอบคลุมพื้นที่ทะเลทั้งไหล่ทวีป
ไหล่ทวีปคือส่วนที่ยื่นขยายออกมาจากพื้นดินไปทางมหาสมุทร ซึ่งปกติจะถูกคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดิน บริเวณทะเลของตำแหน่งนี้คือเขตน้ำตื้นที่เป็นที่ราบ พื้นมหาสมุทรจะถูกปกคลุมด้วยชั้นตะกอนตั้งแต่ชายขอบลาดลงไปทางทะเลลึก สุดท้ายแผ่นดินก็จะยื่นเข้าไปในที่ราบก้นสมุทร
ไหล่ทวีปของฟาร์มปลาต้าฉินมีความลึกเฉลี่ยประมาณหนึ่งร้อยสิบเมตร จัดเป็นที่ราบก้นทะเลที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ความกว้างไม่ค่อยเท่ากัน แต่ต่างกันไม่มาก อยู่ระหว่างหนึ่งร้อยแปดสิบถึงสองร้อยกิโลเมตร ค่าเฉลี่ยระดับความลาดเอียงน้อยมาก มีเพียงประมาณศูนย์จุดสองเท่านั้น
ส่วนที่ต้องเสริมแคลเซียมก็คือพื้นที่ตรงนี้ที่นอกจากหินดานที่เปลือยเปล่าแล้ว พื้นที่ส่วนมากยังถูกปกคลุมด้วยตะกอนโคลนทราย เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่สาหร่ายและหญ้าทะเลเติบโตและยังเป็นพื้นที่ที่มีแคลเซียมเข้มข้นที่สุดด้วย
เรือปฏิบัติการพิเศษทำงานอย่างช้าๆ ฉินสือโอวต้องติดตามอยู่ตลอดเพราะกังวลว่าถ้าพวกเขาไปผิดทางจะทำให้สมอเรือที่ลากอยู่ก้นทะเลไปโดนแนวปะการังขึ้นมา แบบนั้นต้องมีปัญหายุ่งยากแน่
ไม่กี่วันนี้นั้นนอกจากต้องดูแลต้อนรับพ่อตาแม่ยายแล้ว เวลาอื่นๆฉินสือโอวก็จะนอนอ่านหนังสืออยู่บนชายหาด แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการแสดง ที่จริงแล้วเขากำลังใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนตรวจตราเรือทั้งสองลำ
เมื่อดูดซับพลังจากอำพันขี้วาฬที่สร้อยข้อมือแล้ว แม้ว่าหัวใจโพไซดอนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพ แต่การเปลี่ยนแปลงทางพลังก็มีไม่น้อย เขารับรู้ถึงจิตสำนึกของสิ่งมีชีวิตที่ก้นทะเลได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และมีผลกระทบต่อมหาสมุทรมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
เห็นวันๆฉินสือโอวเอาแต่นอนอ่านหนังสือที่ชายหาด ใบหน้าของพวกชาวประมงก็เต็มไปด้วยความสงสัย ชาร์คไปดูแล้วกลับมาบอกว่าหนังสือที่เจ้านายอ่านคือ ‘ชีววิทยาทางทะเล’ แลนซ์ไปดูแล้วกลับมาบอกว่าหนังสือที่กัปตันอ่านคือ ‘ภูมิศาสตร์ทางทะเล’ จากนั้นพวกเขาก็ปรึกษากันสักพักแล้วเดาว่า นี่ฉินสือโอวจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือเปล่า?
ครั้งที่แล้วฉินสือโอวถามว่าควรจะจัดการฟาร์มปลาอย่างไรจึงจะสามารถกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้เหมือนเมื่อก่อน ชาวประมงกลุ่มหนึ่งคิดจนหัวจะระเบิดก็ไม่สามารถออกความคิดเห็นอะไรได้ ตอนนั้นฉินสือโอวรีบร้อนเลยพูดไปว่าพวกเขาขาดคนที่มีการศึกษาสูง เขาคิดว่าตัวเองน่าจะไปสอบเข้าเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยดังๆในคณะทางทะเล
เรื่องนี้ฉินสือโอวแค่พูดไปอย่างนั้น ผลสุดท้ายตอนนี้พวกชาวประมงกลับคิดเป็นจริงเป็นจังไปแล้ว พวกชาร์คยังติดต่อไปที่ช่องทางการรับสมัครนักศึกษาใหม่ของแต่ละมหาวิทยาลัยอย่างกระตือรือร้นอีกด้วย
ฉินสือโอวยังไม่รู้เรื่องนี้ ช่วงหลายวันนี้เขาทำการตรวจสอบก้นทะเลของฟาร์มปลาไปกับเรือสองลำนี้อย่างละเอียด ผลสุดท้ายก็พบของแปลกๆที่ไม่เคยเจอมาก่อนไม่น้อย
ตั้งแต่ตัวเองได้รับหัวใจโพไซดอน ฉินสือโอวก็ควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้โคจรอยู่ในฟาร์มปลาแทบจะทุกวัน
แต่ร่อนเร่อยู่ที่ก้นทะเลคนเดียวก็โดดเดี่ยวเกินไป เดิมทีฉินสือโอวไม่ได้มีความอดทนมากนัก แต่ฉินสือโอวกลับชอบร่อนเร่อยู่บริเวณระดับน้ำทะเลปานกลาง เพราะปลาที่เป็นปลาเศรษฐกิจจำนวนมากล้วนดำรงชีวิตอยู่ที่บริเวณระดับน้ำทะเลปานกลาง
หลายวันมานี้มีเรือสองลำเป็นเพื่อนก็ถือว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยวขนาดนั้น เขาเลยมีความอดทนตระเวนอยู่ที่ก้นทะเลได้เรื่อยๆ
อันดับแรกสิ่งที่ฉินสือโอวค้นพบก็คือน้ำพุร้อนใต้ทะเลแห่งหนึ่ง ตำแหน่งของน้ำพุร้อนเหล่านี้อยู่ตรงปลายไหล่ทวีปที่ก้นทะเลมีรอยแยกไม่กี่รอยยาวหลายสิบกิโลเมตร ที่นี่มีน้ำทะเลร้อนปะทุออกมาจากด้านในไม่ขาดสาย
ฉินสือโอวสำรวจดูสักครู่ น้ำพุร้อนก้นทะเลประเภทนี้ไม่ได้หายาก ในทางตรงกันข้ามยังเป็นสิ่งที่พบได้ง่ายในทะเลหนาวเย็นที่เขตละติจูดสูงด้วย
ก้นทะเลยังลึกไม่มีที่สิ้นสุด ที่มนุษย์รู้จักเกรงว่าจะไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ อย่างเช่นน้ำพุร้อนใต้ทะเล นักวิชาการทางทะเลก็ยังไม่สามารถวิจัยได้อย่างกระจ่างว่ามันคืออะไร
คำอธิบายที่เป็นที่ยอมรับในขณะนี้คือด้านล่างของน้ำพุร้อนจะมีหินเปลือกโลกที่หลอมละลายเป็นหินหนืดหมุนวนอยู่ แต่ไม่สามารถปะทุออกมาจากชั้นหินที่ก้นทะเลได้ ทำให้น้ำพวกนี้เดือดพล่าน
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนสงสัยคือหลายตำแหน่งที่พบน้ำพุร้อนกลับไม่ได้อยู่ในบริเวณภูเขาไฟใต้ทะเล แต่เป็นบริเวณที่สงบ นอกจากนี้หลายปีก่อนหน้านี้เรือวิจัยของอเมริกายังเคยทำการเจาะบริเวณก้นทะเลที่ตำแหน่งของน้ำพุร้อนด้วย
เครื่องจักรเจาะลึกเขาไปที่เปลือกโลกหลายสิบเมตรแล้วก็ยังไม่พบหินหนืด ดังนั้นคำอธิบายนี้ก็พูดได้ไม่เต็มปาก
หลังจากที่ฉินสือโอวสังเกตเห็นตำแหน่งของน้ำพุร้อนแล้ว เขาก็ตรวจสอบสภาพบริเวณรอบๆอย่างละเอียดจากนั้นก็พบสสารลักษณะเป็นดินเหนียวเนียนละเอียด
สสารประเภทนี้ดูเนื้อแล้วคล้ายดินเหนียว แต่กลับมีสีที่แตกต่าง ที่จริงนี่คือธาตุโลหะหนืดใต้ทะเลที่ล้ำค่า
การมีอยู่ของธาตุโลหะหนืดล้มล้างเรื่องน้ำพุร้อนหินหนืด เพราะไม่ใช่น้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้ๆทั้งหมดจะมีสิ่งนี้ ส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีและน้ำพุร้อนที่มีธาตุโลหะหนืดเท่านั้นถึงจะสามารถใช้คำอธิบายว่าด้านล่างมีหินหนืดได้
ฉินสือโอวทำความเข้าใจอยู่ครู่หนึ่ง ธาตุโลหะหนืดเป็นหินหนืดในส่วนลึกของโลกที่ไหลตามรอยแยกของเปลือกโลกที่ก้นทะเลไปถึงชั้นโลกลึก ทำให้เกลือแร่และโลหะละลายที่อยู่ในหินหนืดกลายเป็นสารละลายที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุ และเมื่ออยู่ภายใต้อุณหภูมิและความกดดันสูงมันก็จะพ่นไอน้ำออกมาตามก้นทะเล เมื่อผสมกับดินเหนียวที่ก้นทะเลก็จะกลายเป็นสารหนืดที่ประกอบด้วยธาตุโลหะนานาชนิด
สารหนืดประเภทนี้มีคุณค่าเชิงกลยุทธ์สูง แต่พัฒนาใช้ประโยชน์ได้ยาก ข้อหนึ่งคือตำแหน่งของมันอยู่ในทะเลลึก สองคือมีน้ำพุร้อนอยู่รอบๆ มนุษย์ไม่สามารถสัมผัสได้โดยตรง จะใช้เครื่องจักรขุดเจาะทะเลลึกก็ไม่น่าไว้ใจ ดังนั้นทรัพยากรประเภทนี้เลยต้องชะลอไว้ตลอด
น้ำพุร้อนอุณหภูมิสูงมาก แต่รอบๆกลับไม่ไร้สิ่งมีชีวิต ฉินสือโอวพบหอยแมลงภู่ ปูทะเล ไส้เดือนทะเลสีเลือดหมู ปูและกุ้งตัวเล็กๆจำนวนหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากน้ำพุร้อน
อีกอย่างรอบๆน้ำพุร้อนยังมีสิ่งมีชีวิตคล้ายปลิงที่มีลักษณะเหมือนต้นแดนดีไลออนอยู่ด้วย แน่นอนว่าต้องมีสิ่งมีชีวิตจำพวกหนอนทะเล ปลาดาวและดอกไม้ทะเลด้วยเช่นกัน
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหอยแมลงภู่และปูทะเลรอบๆน้ำพุร้อนถึงมีขนาดใหญ่ถึงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่มีปลาใหญ่ที่ชอบเข้าใกล้ที่นี่หรือเปล่า แม้ว่าจำนวนของพวกมันจะมีอยู่ไม่มาก ทว่าแต่ละตัวก็มีขนาดใหญ่ หอยแมลงภู่ที่ใหญ่ที่สุดใหญ่ก็ประมาณฝาหม้อเลยทีเดียว ช่างน่าตะลึงจริงๆ!
นอกจากน้ำพุร้อน ฉินสือโอวยังพบของที่แปลกประหลาดยิ่งกว่า นั่นก็คือสสารที่มีลักษณ์คล้ายกระจก!
ตำแหน่งของสสารพวกนี้อยู่รวมกันที่บริเวณลุ่มน้ำกลางไหล่ทวีป ลุ่มน้ำแห่งนี้ถูกโคลนทะเลปกคลุมไว้เกือบทั้งหมดมาเป็นระยะเวลานาน ครั้งนี้เมื่อเรือปฏิบัติการพิเศษผ่านมาจึงได้ใช้สมอลากสิ่งล้ำค่าพวกนี้ออกมาด้วย
ฉินสือโอวทำความเข้าใจกับข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตครู่หนึ่ง สสารที่มีสภาพเป็นแก้วเหล่านี้ก็คือแก้วที่มีเนื้อไม่ต่างจากแก้วที่มนุษย์ผลิตขึ้นเท่าไร มันเรียกว่าแก้วก้นทะเล
ตามการสำรวจของมนุษย์ จนถึงตอนนี้แก้วก้นทะเลเป็นของที่เกิดขึ้นเฉพาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเท่านั้น ส่วนเหตุผลว่าทำไมที่ที่หาหินแกรนิตได้ยากอย่างก้นมหาสมุทรแอตแลนติกกลับมีแก้วก้นทะเลปรากฏอยู่มากขนาดนี้ยังคงเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้…
ที่ลุ่มน้ำขนาดเล็กมีพื้นที่ไม่มาก อาจจะมีเพียงประมาณสองหมื่นหกพันกว่าตารางเมตรด้านในเป็นแก้วก้นทะเลชิ้นใหญ่ แก้วพวกนี้คล้ายแก้วซิลิเกตที่มนุษย์ผลิตขึ้นมา แน่นอนว่าความโปร่งใสไม่สูงมาก แต่ดูสวยงามมากและความโปร่งแสงก็ไม่เลวทีเดียว
นอกจากนี้แก้วพวกนี้ยังงดงามมากเป็นพิเศษ สีสันสวยงาม มีสีแดงอ่อน สีฟ้าสด และสีขาวหิมะราวกับมีคนเคยขึ้นรูปแก้วที่ก้นทะเลแล้วทิ้งเศษพวกนี้ไว้
พอเห็นแก้วที่ก้นทะเลพวกนี้ ฉินสือโอวก็คิดถึงวังแก้วของพญามังกรในเรื่องไซอิ๋ว
นึกถึงวังแก้ว ฉินสือโอวก็มีความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมากะทันหัน ตัวเขาเองจะสามารถใช้แก้วชิ้นใหญ่ๆพวกนี้สร้างวังที่ก้นทะเลได้ไหมนะ?
…………………………………………………………