ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 795 การมาเยือนของคนในสังคม
เมื่อได้ฟังข้อสงสัยของฉินสือโอว แฮมเล็ตมองเขาพลางลูบจมูกอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพูดอย่างเอาจริงเอาจังว่า “นี่ หึหึ ฉิน นายก็รู้ว่านายคือผู้สนับสนุนคนสำคัญที่สุดของฉัน…”
“ให้ตายเถอะ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลยนะ?” ฉินสือโอวมองดูท่าทางของเขา ในใจก็เริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
แฮมเล็ตชี้นิ้วแล้วพูดว่า “จริงๆ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกันเลยสักนิด แต่นายต้องขอบคุณที่ฉันส่งข้อมูลประวัติและข้อมูลหาเสียงของฉันให้กับท่านนายกแมคคาลลียน แล้วเชิญให้เธอมาเป็นแขกช่วยหาเสียงของฉัน พอเธอตอบรับแล้ว ฉันก็จะใช้โอกาสนี้พยายามช่วยให้นายได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้ด้วย ซึ่งก็คือเธอจะแวะไปที่ฟาร์มปลาของนาย มาสิฉิน มาขอบคุณฉัน”
หากมาที่ฟาร์มปลาจริงและแฮมเล็ตพูดถึงขนาดนี้ ฉินสือโอวคงจะขอบคุณเขาจริงๆ เพราะแมคคาลลียนคนนี้ จริงๆ แล้วมีอิทธิพลมาก ซึ่งถ้าเธอมาที่ฟาร์มปลา ฉินสือโอวคงพูดได้แค่ว่า เป็นเกียรติของฟาร์มปลาต้าฉินจริงๆ ที่คุณแวะมา
แต่เมื่อนึกถึงท่าทางของแฮมเล็ต ฉินสือโอวก็มีแผนอยู่ในใจแล้ว จึงยักไหล่แล้วพูดว่า “ขอบคุณคุณมาก คุณเป็นคนดีจริงๆ แต่ผมไม่ต้องการให้คุณช่วยผมให้ได้รับผลประโยชน์นี้ คุณก็รู้ วิลเลียม ว่านิสัยของผมไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงเงินทองอยู่แล้ว และผมก็ไม่ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมืองด้วย”
แฮมเล็ตยกน้ำขึ้นดื่มอย่างเยือกเย็น จึงทำให้ฉินสือโอวนึกถึง ‘น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้’ ที่พูดถึงไป มันทำให้เขารู้สึกแอบเจ็บปวดอยู่ในใจ
“ฉิน นายทำแบบนี้ไม่ได้ นายต้องออกไป นายไม่รู้หรอกว่านายครอบครองทรัพยากรขนาดใหญ่นี้อยู่เท่าไร นายต้องใช้ทรัพยากรเหล่านี้…”
“ขอบคุณ ต่อไปผมจะใส่ใจมากกว่านี้ ครั้งนี้ถือว่าไม่เป็นไรแล้วกัน เพราะผมไม่ได้เตรียมต้อนรับแมคคาลลียนอย่างดีเอง”
“ฟังฉันพูดก่อนนะฉิน นายไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรเลย ท่านนายกแมคคาลลียน เธอก็เป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่แวะมาชมฟาร์มปลาของนายเท่านั้น จริงๆ แล้วเธอไม่ได้จะมากินอะไรในฟาร์มปลาของนายหรอกนะ แต่ถึงจะกิน รัฐบาลก็เป็นคนจ่ายให้อยู่แล้ว หรือนายคิดว่าเธอมาที่นี่เพื่อมากินฟรีกัน?”
“ต้องขอบคุณอีกครั้ง แต่ผมยังไม่อยากรับแขก คุณต้องพูดความจริงก่อน”
แฮมเล็ตถึงกับตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกลับไปนั่งลงอย่างไม่พอใจแล้วพูดว่า “โอเค ดูเหมือนว่านายจะเล่นลูกไม้อะไรกับฉันอีกแล้ว น่าขำจริงๆ ให้ตายเถอะ ฉันนี่อวดเก่งเกินใครจริงๆ พูดตามตรงนะ คือฉันจะเชิญท่านนายกแมคคาลลียนมาที่ฟาร์มปลาของนาย จากนั้นถึงจะขอให้เธอมาเป็นแขกช่วยหาเสียงให้กับฉัน”
“แล้วเธอจะยอมเหรอ?” ฉินสือโอวถามด้วยความยากที่จะเชื่อ เขารู้สึกมาโดยตลอดว่าแฮมเล็ตคนนี้ต้องไปเซ็นสนธิสัญญาที่ทำให้เสียชื่อของชาติอะไรสักอย่างมาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นแมคคาลลียนจะถูกชักชวนมาว่างๆ แบบนี้ได้อย่างไร?
นายกเทศมนตรีของแคนาดาทุกคนเมื่ออยู่ในช่วงลงแข่งเลือกตั้งล้วนต้องการการสนับสนุนจากแมคคาลลียน แต่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ความลำบากทุกข์ยาก ความขยัน ไอดอลหรือแม้กระทั่งบางคนที่ทำตัวน่ารักๆ ล้วนแล้วแต่ไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น
ดังนั้นฉินสือโอวจึงไม่เชื่อข้ออ้างของแฮมเล็ต แฮมเล็ตผายมือออกพูดว่านี่คือความจริง จากนั้นจึงถามฉินสือโอวว่าจะไม่ต้อนรับแมคคาลลียนจริงๆ เหรอ?
ฉินสือโอวจึงยักไหล่ใส่แล้วพูดว่า “ถ้าต้อนรับ จะให้ต้อนรับอย่างไร ให้เธอมาชมฟาร์มปลาก็พอแล้วเหรอ แต่อย่าคิดว่าผมจะประจบประแจงอะไรแบบนั้นนะ”
แฮมเล็ตหัวเราะแล้วพูดว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร ก็แค่มาที่ฟาร์มปลาของนายเพื่อมาเดินวนรอบๆ แค่นั้นเอง โอเค หลักๆ ก็มีแค่เรื่องนี้แหละ เห็นนายยุ่งๆ อยู่ ฉันขอตัวก่อน”
ก่อนไปแฮมเล็ตดื่มน้ำจนหมดอย่างเกรงใจ รอให้คัมรี่ขับออกไป ฉินสือโอวจึงตะโกนเรียกเชอร์ลี่ย์เข้ามา “มาหาฉันสิ!”
“มีอะไรคะ?” ใบหน้าเชอร์ลี่ย์เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ “หนูไม่ว่าง เสี่ยวชาร์คและกอร์ดอนกำลังต่อยตีกัน หนูต้องไปห้ามพวกเขา”
ฉินสือโอวพูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอใส่น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้ลงไปในเครื่องดื่มทำไม?”
เชอร์ลี่ย์ยักไหล่แล้วพูดว่า “ใส่น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้แล้วเป็นอย่างไรเหรอคะ? น้ำหล่อเลี้ยงจากต้นชูการ์เมเปิลมีรสหวาน หลังจากสกัดแล้วก็สามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ ซึ่งหนูได้ทำการสกัดอย่างง่ายๆ และถูกสุขอนามัยอย่างแน่นอน…”
“เธอรู้ว่าที่ฉันจะพูดไม่ใช่น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้ ที่ฉันจะพูดคือ ‘น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้’ ที่ตัวอ่อนพ่นออกมาต่างหาก!” สีหน้าของฉินสือโอวยังคงเคร่งเครียดอย่างต่อเนื่อง
เชอร์ลี่ย์ทำหน้าบูดบึ้งและพูดว่า “ที่คุณพูดไม่ใช่น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้ แต่เป็นอุจจาระของตัวอ่อนต่างหาก! คุณคิดว่าทุกคนจะไร้เดียงสาเหมือนเสี่ยวชาร์คเหรอไง? และพวกเราก็ไม่เคยจับตัวอ่อนกินมาก่อนด้วย”
วินนี่หัวเราะพลางเดินออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เชอร์ลี่ย์จึงยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมมองไปที่ฉินสือโอวที่กำลังวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว นี่คือการแสดง ‘นั่นเป็นความลับของเราเหมือนกัน’
ฉินสือโอวรู้ว่ามันต้องแย่แน่ๆ และโลลิต้าก็วิ่งมาทันที เธอไม่ยอมจึงหรี่ตามองเขาแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
ในใจก็แอบว่าโลลิต้าขี้โกง ฉินสือโอวรู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจ วันนี้ถูกโลลิต้าตกหลุมพรางสองรอบแล้ว ต่อจากนี้ผู้หญิงคนนี้ต้องอยู่แต่โรงเรียนประจำแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่สู้กันแค่ความฉลาดและความกล้าหาญ ทุกวันเซลล์สมองคงต้องตายกว่าหมื่นตัวแน่ๆ
ฉินสือโอวลากวินนี่มานั่ง แล้วยื่นมือออกไปลูบท้องของเธอแล้วถามว่าตอนนี้ลูกชายของเราดื้อไหม วินนี่จึงตีมือเขาเบาๆ แล้วพูดว่า “รีบบอกมาเลยนะว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ฉินสือโอวปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ จึงถอนหายใจและเล่าเรื่องทั้งหมด แน่นอนว่า ‘น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อต้นไม้’ ที่เสี่ยวชาร์คเลียที่ริมฝีปากตอนนั้น เขาไม่ได้บอกความจริงเพราะมันไม่เหมาะสมเท่าไร
พอได้ยินเขาพูดเช่นนั้น วินนี่จึงยื่นมือออกไปดีดหน้าผากเขา แล้วจึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณนั่นแหละ ขี้เก๊กอยู่ได้ ทำไมถึงจะอธิบายไม่ได้ล่ะ จะโกหกเด็กๆ ทำไม?”
ฉินสือโอวพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “อะไรกัน ผมจะทำลายอำนาจและภาพลักษณ์ที่ทุกคนเห็นไม่ได้หรอก! แล้วตอนนี้ลูกชายของเราดื้อไหม?”
วินนี่ไม่มีทางเลี่ยงจึงพูดว่า “มันยังเด็กขนาดนั้น จะไม่เป็นเด็กดีได้อย่างไร? ต้องรอดูอีกสี่ห้าเดือน ถึงจะรู้ว่ามันจะดื้อไหม”
“อย่าพูดเหลวไหลน่ะ จะ ‘เขา’ หรือ ‘เธอ’ คุณก็อย่าใช้คำว่า ‘มัน’ ผมรับไม่ได้” ฉินสือโอวพูดขึ้นอย่างขนลุก
วินนี่เผลอยิ้มออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นพูดภาษาจีนกลางว่า “งั้นต่อไปนี้อยู่ที่บ้านไม่ต้องพูดภาษาจีนแล้วนะ แบบนี้จะได้แยกไม่ออกว่าอันไหนคือเขา อันไหนคือเธอ อันไหนคือมัน”
แฮมเล็ตทำธุระอย่างรวดเร็ว บ่ายโมงครึ่งรถคัมรี่ของเขาก็ขับเข้ามาอีกครั้ง ทางฝั่งฉินสือโอวยังไม่ได้เตรียมการอะไร เพราะตอนนี้กำลังหวีขนให้หลัวปอ หู่จือและเป้าจืออยู่ข้างนอกบ้าน เมื่อรถยนต์ขับเข้ามา เขาจึงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แฮมเล็ตเป็นคนขับรถมาเอง พอลงจากรถก็ไปเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างหลัง สก็อตติช คอลลี่ตัวหนึ่งค่อยๆ กระโดดลงมา จากนั้นก็เป็นหญิงสูงอายุคนหนึ่ง
เมื่อเห็นสก็อตติช คอลลี่ขนสีน้ำตาลขาวตัวนี้ หู่จือและเป้าจือลุกขึ้นยืนทันทีและใช้สายตาไม่พอใจจ้องไปที่มัน เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่สบายใจที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในบริเวณของตัวเอง
เจ้าคอลลี่ตัวนี้น่าจะมีอายุมากแล้ว แม้ว่าขนของมันจะสะอาดเรียบร้อยแต่ขาดความมันเงา และมีคนเดินด้วยท่าทางอย่างเชื่องช้าและลอยตัวเล็กน้อยราวกับว่าเป็นหญิงสูงอายุ
และด้านหลังของมันก็เป็นหญิงสูงอายุจริงๆ ผมขาวราวกับหิมะ ผิวหนังหย่อนยาน สวมเสื้อสีเหลืองและกระโปรงยาวสีขาว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ซึ่งไม่แตกต่างจากหญิงชราอายุ 80-90 ปีที่ปรากฏอยู่ตามถนนเป็นบางครั้งบางคราว
เห็นเจ้าคอลลี่แล้วมองไปที่หญิงสูงอายุจากด้านข้าง ฉินสือโอวก็นึกอะไรบางอย่างออกทันที
เขาเคยเจอหญิงสูงอายุคนนี้มาก่อน เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่เขาพาผู้กำกับใหญ่คาเมรอนกลับจากฟาร์มปลาแกธเธอริง และเคยเห็นเงาของเธอ ตอนนั้นเธอก็จูงเจ้าคอลลี่เดินไปบนถนนด้วย
ตอนนั้นคาเมรอนก็ยังแปลกใจจึงสังเกตดูอยู่สักพัก ดูท่าว่าผู้กำกับใหญ่ก็คงเคยเห็นหญิงสูงอายุ เพียงแต่ไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสูงอายุจะมาที่ฟาร์มปลาแค่นั้นเอง
………………………………………………..