ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 80 ไก่บ้าอำนาจ
โทรศัพท์ที่รับคนโทรมานั้นไม่มีการกล่าวถึงต้นสายปลายเหตุ ฉินสือโอวตกใจถามกลับไปว่า “สู้กัน? ใครสู้กัน? ไม่มีปืนใช่ไหม? แจ้งตำรวจแล้วหรือยัง?”
คำพูดของเขาทำให้ปลายสายสับสนขึ้นมา “ทำไมต้องแจ้งความ? เป็นลูกไก่และลูกหมูในฟาร์มของคุณต่อสู้กัน….ก็คือสัตว์ที่คุณเลี้ยงกำลังต่อสู้กัน!”
ฉินสือโอวแทบจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเขา เรื่องแบบนี้ยังต้องโทรศัพท์มาหาเขาอีกเหรอ? สัตว์เลี้ยงสู้กันแล้วยังไง ให้พวกมันสู้กันไปสิ!
พูดปลอบใจแบบส่งเดชไปสองสามประโยค ฉินสือโอวก็กลับมาลงสนามแข่งขันต่อ
ก่อนหน้านี้ที่ฉินสือโอวแย่งลูกได้สำเร็จ เสียงร้องของฮิวจ์หยุดลงกะทันหัน เหมือนมีใครไปบีบคอเอาไว้อย่างนั้น
การส่งลูกที่เส้นขอบสนาม ฉินสือโอวยังคงเป็นตัวบุกหลัก
เขาถือลูกบอลอยู่ในจุดโทษ ฉินสือโอวเปลี่ยนการกระทำอย่างฉับพลันในเวลาอันสั้น กล้ามเนื้อขาเกิดพลัง พุ่งขึ้นเหมือนกระสวยอวกาศก่อนสแลมดังก์
ภายใต้สมรรถภาพร่างกายที่ด้อยกว่าโดยสิ้นเชิง ฮิวจ์และเพื่อนร่วมทีมไม่มีโอกาสทำแต้มเลยแม้แต่น้อย ฉินสือโอวบุกไปข้างหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ว่าจะเป็นการเลย์อัพหรือการดังก์ พวกเขาช้าเกินกว่าจะทำผิดกติกา เฝ้ามองฉินสือโอวทำคะแนน 5 ลูกติดต่อกัน
บอลลูกสุดท้าย ฉินสือโอวเลิกคิ้วมองฮิวจ์ และแกล้งทำเป็นพูดอย่างจนใจว่า “เพื่อน นายช่วยมอบบทเรียนให้ฉันได้ไหม ฉันเกลียดการเล่นบาสที่ไม่มีคู่แข่งที่สุด”
เขาคิดว่าฮิวจ์จะโกรธไม่ก็ท้อ แต่หมอนี่กลับดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ เมื่อการแข่งขันจบลงแล้ว เขาคว้าตัวฉินสือโอว พร้อมตะโกนว่า “สุดยอดเลย ฉิน คิดไม่ถึงเลยว่านายจะเล่นบาสเก่งขนาดนี้ แค่มีนาย การแข่งขันบาสเกตบอลซัมเมอร์คัพปีนี้ พวกเราเมืองแฟร์เวลต้องเข้ารอบรองชนะเลิศได้อย่างแน่นอน !”
“ซัมเมอร์คัพอะไร?” ฉินสือโอวถาม
จากนั้นฮิวจ์ก็อธิบายให้เขาฟังเล็กน้อย ที่เรียกว่าการแข่งขันบาสเกตบอลซัมเมอร์คัพ เป็นการแข่งขันบาสเกตบอลพื้นเมืองที่จัดขึ้นโดยรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ซึ่งเป็นรายการมีอิทธิพลมากต่อที่นี่ จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมของทุกปีโดยแต่ละเมืองจะส่งทีมตัวแทนเข้าแข่งขัน
เมืองแฟร์เวลเข้าร่วมทุกปี แต่พวกเขาไม่มีความสามารถมากพอ ผลการแข่งที่ดีที่สุดยังไม่เคยเข้าถึง 6 ทีมสุดท้ายด้วยซ้ำ
เข้าใจว่าการแข่งขันซัมเมอร์คัพเป็นเพียงการแข่งขันของมือสมัครเล่น ฉินสือโอวสะบัดมือ พูดอย่างหยิ่งผยองว่า “ตอนนี้มีฉันแล้ว จะมาเข้ารอบรองชนะเลิศอะไร? พวกเราต้องคว้าแชมป์การแข่งขันเท่านั้น!”
นั่นเป็นการดังก์ครั้งแรกในชีวิตเขา แถมยังสแลมดังก์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำเอาฮิวจ์ผู้ที่แต่ก่อนถูกมองว่าเป็นเจ้าแห่งสตรีทบาสเกตบอลถึงกับแพ้ยับเยิน เขาในตอนนี้มีความมั่นใจเปี่ยมล้น
หลังจากนี้ก็ยืนยันได้แล้ว ด้วยสมรรถภาพทางกายที่แข็งแกร่ง เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้บนสนามได้ เพียงแค่เขาร่วมมือกับเพื่อน 2 คน ก็เล่นได้สบายๆ ทั้งบุกเข้าไปดังก์และเลย์อัพ ทั้งบล็อกและแย่งลูก จัดการคู่ต่อสู้จนพูดไม่ออก
เล่นไป 4-5 รอบ ฉินสือโอวเป็นผู้นำทีมในสนามตลอด ทั้งร่างเหงื่อไหลเต็มไปหมด เรียกได้ว่ารู้สึกดีสุดๆ ไปเลย
รถคาดิลแลควันคันใหญ่วนกลับมาพร้อมเสียงดังสนั่นของเครื่องยนต์ ก่อนเคลื่อนตัวออกไป ด้านหลังมีรสมินิบัสของนักเรียนเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ
พวกนักศึกษามองไปยังรถเอสยูวีหรูอย่างอิจฉา บางคนถอนหายใจ “การศึกษาดีก็ไม่ดีเท่ามีพ่อที่ดี ดูเจ้าของฟาร์มปลาคนนี้สิ อายุแค่นี้ก็ได้ดูแลฟาร์มปลาแล้ว ขับรถหรูมาเล่นบาส นังดาญ่านั่นตาถึงนัก…..”
รถคาดิลแลควันขับกลับฟาร์มปลา ฉินสือโอวกระโดดลงจากรถสภาพเปลือยท่อนบนพาดเสื้อกีฬาไว้บนบ่า ส่งผลให้สายตาของผู้หญิงหลายคนที่มองมายังเขาส่องประกาย
ความสูง 185 เมตรถือเป็นเรื่องธรรมดาในประเทศแคนาดา แต่สัดส่วนร่างกายของฉินสือโอวดีมาก ดูแกร่งและแข็งแรง แขนขาเรียวยาว กล้ามอกแข็งแกร่งไม่เกินจริง กล้ามเนื้อท้องแน่นราวกับหินแปดก้อน ผิวเป็นสีทองเพราะลมและแสงแดด ดูหล่อและอบอุ่น
ฉินสือโอวทักทายพวกนักศึกษาและตั้งใจจะไปอาบน้ำ ผลคือดาญ่าพูดกับเขาว่า “คุณควรไปดูพวกสัตว์ที่คุณเลี้ยงไว้ก่อนจะดีที่สุด พวกมันสู้กันรุนแรงมาก…”
ฉินสือโอวเกาหัวก่อนถือเสื้อเดินไปฟาร์มสัตว์เลี้ยงตามธรรมชาติ ระยะทางนั้นไม่ไกล แค่ 1 กิโลเมตรจากวิลล่า
ที่ฟาร์ม ฉินสือโอวมองไปยังชาร์คกับนีลเซ็น พร้อมรอยยิ้มและถามว่า “พวกนายมาทำอะไรอยู่ที่นี่? อยากกินไก่ย่างหรือหมูหันไหม?”
ชาร์คตอบอย่างจนใจ “ถ้าคุณยังไม่คิดหาวิธีล่ะก็ ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้กินไก่ย่างหรือหมูหันหรือไม่ เพราะถึงอย่างไรหลังจากนี้ก็ไม่มีให้กินแล้ว”
ฉินสือโอวเดินไปดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในฟาร์ม สนามหญ้าที่เคยดีมาก ตอนนี้ถูกอึและปัสสาวะของพวกมันทำให้สกปรกไปหมด สภาพอากาศก็ร้อน จนเกิดการหมักหมมและส่งกลิ่นเปรี้ยว ฉินสือโอวในเวลานั้นแทบจะฉี่ราด
นอกจากนี้บนพื้นยังมีขนไก่และขนเป็ดอยู่เป็นจำนวนมาก บนร่างของลูกหมูหลายตัวยังมีเลือดไหล ราวกับมีอะไรบางอย่างมาจิกกัดพวกมันอย่างนั้น
ไก่และเป็ดแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มด้วยกัน มีเพียงไก่ตัวผู้หงอนแดงยืนตระหง่านอยู่ตรงกลางฟาร์ม มันเชิดคอยืนขาเดียวบางครั้งส่งเสียงร้อง “เกอ เกอ” ออกมา ดูแล้วช่างสง่าน่าเกรงขามและยโสโอหังมาก
สิ่งที่แปลกก็คือ ทั้งหู่จือและเป้าจือก็อยู่ในฟาร์มด้วย ทั้งสองตัวต่างจ้องมองไปยังไก่ตัวนั้นอย่างไม่ละสายตา
“เกิดอะไรขึ้น?” ฉินสือโอวถาม
นีลเซ็นอธิบายว่า “ให้ตายเถอะ ไก่ตัวนี้ไม่รู้ว่ากินยาผิดหรือเกิดอะไรขึ้น ข่มขู่ไก่และเป็ดไปทั่ว ต่อมาไม่เพียงแต่ไก่และเป็ด มันยังไปจิกหมูพวกนั้นด้วย มันทำให้ไก่บินเตลิดเป็ดวิ่งพล่าน สุดท้ายพวกเราจึงปล่อยให้หู่จือและเป้าจือเข้ามาคอยเฝ้าไก่บ้านี่”
ไก่ตัวผู้โตเร็วมาก ตอนแรกก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน ฉินสือโอวกลัวว่าพวกมันจะไม่รอด จึงตั้งใจใช้พลังแห่งโพไซดอนเปลี่ยนพวกมัน แบบนี้พวกมันยิ่งโตเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ที่ฟาร์มปลาอาหารที่ไก่และเป็ดเหล่านี้กินล้วนเป็นปลาตัวเล็ก กุ้งตัวเล็ก และปลาหมึกที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เดิมทีไก่และเป็ดจะโตได้ภายในหนึ่งเดือน แต่ที่มากกว่านั้นคือการใช้พลังแห่งโพไซดอนเพื่อปรับเปลี่ยนอีกทั้งการกินอาหารทะเล ไก่และเป็ดเหล่านี้จึงโตเร็วกว่าปกติ
ในบรรดาไก่และเป็ด ไก่ตัวเมียที่โตเร็วที่สุดบางตัวมีน้ำหนัก 2-3 ปอนด์ ไก่ตัวผู้ตัวนั้นก็มีน้ำหนักมากกว่า 2 ปอนด์ กระดูกใหญ่ ขนสวยสุขภาพดี เนื้อน้อย ดังนั้นมองดูแล้วมันมีขนาดใหญ่กว่าไก่เพศเมียและเป็ด
ฉินสือโอวไม่รู้ถึงความร้ายกาจของมันเห็นแต่มันดูสงบลงแล้ว จึงเรียกให้หู่จือและเป้าจือออกมา
ผลคือเดินออกไปได้ไม่กี่เมตร ในคอกสัตว์แม่ไก่ส่งเสียงร้องแหลมคมออกมากับเสียงเป็ดร้อง “ก๊าบก๊าบ” เขารีบกลับไปดู เห็นว่าไก่ตัวผู้ตัวนั้นกำลังไล่จิกแม่ไก่และเป็ดอย่างดุร้าย ขนหลุดลอยอยู่เต็มไปหมด ทำเอาฝูงแม่ไก่และเป็ดวิ่งอลวนไม่มีทางหนี
สัตว์ที่โชคร้ายที่สุดคือหมูพวกนั้น หมูเติบโตช้า อาหารที่กินคือผลไม้ หญ้าป่า ถั่วเหลืองและอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารที่ทำให้อ้วนขึ้น จึงเจริญเติบโตช้ากว่ามากไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับตอนมาถึง
แบบนี้เมื่อหมูสู้กับไก่ตัวผู้ กลับไม่ใช่ฝ่ายที่ได้เปรียบ ความจริงหมูก็ไม่ได้ไปหาเรื่องกับไก่ตัวผู้ตัวนั้น เพียงแต่ตอนที่มันไล่จิกแม่ไก่และเป็ดหากมีหมูเข้าไปขวางทางก็จะถูกมันโจมตีทันที
“บัดซบ ไก่ตัวนี้มันจองหองจริง!” ฉินสือโอวไม่มีวิธี เปิดประตูเข้าไปคิดจะเตะไก่ตัวนั้น ผลคือไก่ตัวผู้กระพือปีกบินขึ้นตรงมา และใช้จะงอยปากที่ทั้งยาวและแหลมจิกเข้าที่ขาของฉินสือโอว
ฉินสือโอวตกตะลึง เขาไม่คิดว่าไก่ตัวนี้จะกำแหงเช่นนี้
อย่างรวดเร็ว หู่จือวิ่งตามเข้ามาในคอกสัตว์กระโดดลอยตัวใช้หัวพุ่งชนไก่ตัวนั้นกระแทกมันออกไป นี่เป็นการช่วยฉินสือโอวจากสถานการณ์เลวร้าย
ในเวลานี้ฉินสือโอวไม่กล้าประมาทไก่ตัวนี้อีก ตอนนี้ใจเขาสับสนว่าทำไมถึงมีไก่ตัวผู้อยู่ในกลุ่มของแม่ไก่? เขาขอให้ชาร์คไปหาเข็มขัดเก่ามาเส้นหนึ่ง โดยเขาคิดจะผูกขาไก่ไว้กับรั้วตามวิธีของบ้านเกิด
ไก่ตัวนี้ความคล่องตัวว่องไว ภายในคอกสกปรกมาก มันบินไปทางซ้ายกระโดดไปทางขวา ฉินสือโอวไม่สามารถแม้แต่จะแตะขนของมันได้
สุดท้ายหู่จือและเป้าจือก็ถูกส่งไป ใช้ลูกเล่นเก่า ๆ หู่จือไล่ต้อนจากด้านหน้า เป้าจือไล่ต้อนจากด้านหลัง ทั้งสองตัวไล่ต้อนไก่ตัวผู้ไปที่อีกมุมของคอกสัตว์ และกระโจนตะครุบมัน
ฉินสือโอวฉวยโอกาสใช้เข็มขัดผูกอุ้งเท้าไก่ หลังจากนั้นหาเสาไม้แข็ง ๆ ผูกไว้ เป็นการแก้ไขปัญหาครั้งนี้
ไก่ตัวผู้ยังไม่สำนึก ส่งเสียงร้อง “กู๋กู๋” ทั้งกระโดดทั้งกระพือปีกเพื่อจะหลุดออกจากเข็มขัดที่ผูกไว้ แต่มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
ครั้งนี้แม่ไก่และเป็ดเงียบสงบลง ชาร์คอธิบายให้ฉินสือโอวฟังว่า “ไก่ตัวนี้ดุร้ายมาก มันคงพยายามปกป้องพื้นที่ของมัน ไม่ต้องการให้แม่ไก่หรือเป็ดตัวไหนมาอยู่ในพื้นที่ของมัน”
“บ้าเอ๊ย ไก่ตัวนี้มันจะบ้าอำนาจเกินไปแล้ว พื้นที่ทั้งหมดเป็นของฉัน กลายไปเป็นของมันตั้งแต่เมื่อไร? หาโอกาส รอให้มันอ้วนขึ้นกว่านี้หน่อยก็ย่างมันกินเลย!” ฉินสือโอวกระทืบเท้าพูด รองเท้าผ้าใบคู่งามเต็มไปด้วยขี้ไก่ ฉี่หมูและอื่น ๆ จนมีกลิ่นเหม็น
ชาร์คโบกมือ “มันเป็นไปไม่ได้หรอก บอส ผมแนะนำว่าอย่าทำแบบนี้ ผมดูมาแล้วในนี้มีไก่มากกว่า 20 ตัว แต่มีไก่ตัวผู้แค่ 1 ตัว ยังต้องใช้มันในการผสมพันธุ์อีก ไม่อย่างนั้นกินไก่พวกนี้หมดก็ไม่มีเหลือแล้ว”
นีลเซ็นพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ในเมืองมีไก่งวง เนื้อก็เยอะ ไม่รู้ว่าทำไมบอสถึงต้องเอาไก่และเป็ดพวกนี้มาจากบ้านเกิดด้วย”
“รสชาติไม่เหมือนกัน รอเข้าฤดูใบไม้ร่วงไก่พวกนี้ก็อ้วนแล้ว จะให้นายลองชิมรสชาติไก่โง่พวกนี้” ฉินสือโอวพูดพลางคิดถึงกลิ่นตอนทำซุปไก่ตุ๋นในหม้ออัดความดัน ท้องเขาร้องจนต้องกลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากถูกล่ามไว้ ไก่ตัวผู้ก็เริ่มสงบลง มันส่งเสียงร้อง “กู๋กู๋” สุดท้ายหาพื้นที่สะอาดได้ก่อนนอนหมอบลง ราวกับมันรู้สึกผิดมาก
ฉินสือโอวสำรวจสุขอนามัยของคอกสัตว์อย่างทนไม่ได้อีกต่อไป “หาเวลาทำทางน้ำดึงน้ำจากลำธารป่าด้านนั้นให้ไหลมาที่นี่ แบบนี้พอมีน้ำไหลคอกสัตว์จะได้สะอาดหน่อย”
ชาร์คส่ายหัว ตอบกลับว่า “ไกลเกินไปหน่อยครับ”
จุดประสงค์หลักคือเพื่อป้องกันไม่ให้มีสัตว์ป่าภายในป่าออกมากินไก่ เป็ดและหมู ดังนั้นตำแหน่งของคอกสัตว์จึงอยู่ห่างจากป่าเล็กน้อย และแม่น้ำที่ไหลลงจากภูเขาก็อยู่ในป่า การจะชักน้ำมาจากยอดเขาจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
นีลเซ็นตัดสินใจพูดว่า “ถ้าต้องการแค่สร้างคูน้ำผ่านคอกสัตว์ มันจะดีกว่าถ้าพวกเราสร้างบ่อน้ำไว้ด้านข้าง หลังจากนั้นติดตั้งปั๊มน้ำ ใช้กำลังคนสูบน้ำมาเพื่อสร้างแม่น้ำสายเล็ก”
“ปริมาณน้ำจะเพียงพอไหม?” ฉินสือโอวถามกลับ
นีลเซ็นตอบกลับอย่างมั่นใจ “เรื่องนี้คุณวางใจได้เลย พอแน่นอน! แคนาดาเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีทรัพยากรน้ำอุดมสมบูรณ์ที่สุดของโลก และรอบ ๆ เกาะของพวกเราก็เป็นทะเล ด้านในยังมีทะเลสาบเฉินเป่า มีแหล่งน้ำเหลือเฟือ”
ค่าน้ำและไฟฟ้าในแคนาดาถูกมาก เดิมทีนั่งเครื่องบินตอนที่บินอยู่บนท้องฟ้า ฉินสือโอวก็พบว่าเกือบทุกเมืองสว่างตลอดเพราะแสงไฟจำนวนมาก ราวกับไม่มีค่ำคืนอย่างนั้น แน่นอนว่าแคนาดาเป็นประเทศยามค่ำคืนที่ไม่มืดมิด เหตุผลว่าทำไมแสงไฟถึงเยอะแบบนี้ เป็นเพราะกำลังไฟฟ้ามีมากเกินไป จึงตั้งใจเปิดไฟไว้เพื่อผลาญปริมาณไฟฟ้า
ที่แห่งนี้กับประเทศจีนเป็นขั้วตรงข้ามกัน หมดทางสู้ ประเทศจีนมีคนเยอะทรัพยากรน้อย แต่แคนาดาตรงกันข้าม ทรัพยากรน้ำและไฟฟ้าอุดมสมบูรณ์ ประชากรน้อย บริโภคก็น้อย
ฉินสือโอวชั่งน้ำหนักดูเล็กน้อย รู้สึกว่าวิธีนี้ก็ไม่เลว “ดี อย่างนั้นพรุ่งนี้เริ่มทำเลย!”
…………………………………………………