ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 800 คุณหมอในเมือง
ฉินสือโอวกลอกตามองบนใส่ แล้วด่าว่า “ถ้ามันทำได้ง่ายขนาดนั้น ฉันจะมาถามพวกนายทำไม?”
เหล่าทหารบกหัวเราะเยาะพร้อมนั่งลงอย่างตื่นเต้น ชาวประมงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความลำบากใจ เพราะจริงๆ แล้วพวกเขาก็ไม่มีวิธีดีๆ อะไรเลย
ผลประโยชน์เป็นแรงจูงใจของการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมการขโมยปลา เพราะฟาร์มปลาต้าฉินเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทุกคนต่างรู้ดีว่าการเข้ามาขโมยปลาในฟาร์มปลาแห่งนี้สามารถทำกำไรได้มากมาย ซึ่งธุรกิจที่ขาดทุนไม่มีคนทำแน่นอน แต่ยังก็มีบางคนยอมเสี่ยงทำธุรกิจที่อันตรายนี้
ยิ่งไปกว่านั้น การเข้ามาขโมยปลาในฟาร์มปลาก็ไม่ใช่ธุรกิจที่อันตรายหรือมีความเสี่ยง
เมื่อเห็นพวกเขาเริ่มเงียบลง ฉินสือโอวจึงทุบโต๊ะแล้วพูดว่า “ฉันมีแผน พวกนายดูนะว่ามันจะเป็นไปได้ไหม ซึ่งก็คือเราจะสร้างเรือผีขึ้นมาหนึ่งลำ! เป็นเรือผีที่มาอย่างไร้ร่องรอย!”
ชาวเหล่าประมงต่างพากันตกตะลึงกับความคิดอันพิสดารของฉินสือโอว ชาร์คพูดอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “ตะ แต่ จะทำให้มันมาอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวชี้ไปที่บีบีซวงที่ต้องการจะพูดอะไรบางอย่างพอดี บีบีซวงพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “ผมขับเรือผีได้ไม่มีปัญหา แต่จะขู่คนพวกนั้นให้ตกใจกลัวได้อย่างไร?”
“นายขับได้แล้วจะมีประโยชน์อะไร? เราต้องเลือกซากเรืออับปางที่เหมาะสมก่อนหนึ่งลำ จากนั้นก็ไปซื้ออุปกรณ์และประกอบมันเข้าด้วยกันเอง พวกเรามีเรือดำน้ำไม่ใช่เหรอ? เมื่อถึงเวลาก็ใช้เรือดำน้ำมาเป็นฐานเรือ และเอามันลงไปในน้ำตามปกติ พอเข้าไปใกล้เรือประมงของพวกขโมยปลา จากนั้นก็ลอยมันขึ้นมาทันที พวกนายว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง?”
ฉินสือโอวมองไปที่ลูกน้องของเขา
พวกชาวประมงกระซิบหารือกันอยู่ครู่หนึ่ง ซีมอนสเตอร์ก็เกาหัวแล้วพูดว่า “ฟังดูไม่เลวเลย แต่มันจะโอเคใช่ไหมครับ?”
เบิร์ดพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ไม่โอเคก็ต้องโอเคแล้ว พวกมันขโมยปลาหนักขึ้นเรื่อยๆ พวกเราจะต้องจัดการกับสถานการณ์นี้ อย่างที่บอสว่า เริ่มหาซากเรืออับปางเหมาะๆ สักลำ จากนั้นชาร์คก็จะติดต่อบิ๊กฟุตเพื่อซื้ออุปกรณ์เสริมสำหรับประกอบซากเรืออับปาง”
เมื่อมีคนมากกำลังก็มากตาม อันดับแรกจะต้องกำหนดเป้าหมายของซากเรืออับปางก่อน มันเป็นซากเรือซึ่งจมลงในช่วงต้นศตวรรษที่สิบเก้า ที่มีชื่อว่า ‘ฟลาวเวอร์ฟอกซ์’ ซึ่งมีชื่อเสียงในแคนาดาและรอบๆ เกาะกรีนแลนด์
เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เป็นเรือโดยสาร มันจมลงในน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือช่วงปลายปี 1911 ตำนานของเรือลำนี้คือตอนที่เรือกำลังจมลงยังมีผู้โดยสารเป็นคู่บ่าวสาวสองคู่อยู่บนเรือ
เดิมคู่บ่าวสาวสองคู่เช่าเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์มาด้วยกันและวางแผนว่าจะนั่งเรือจากเกาะกรีนแลนด์ไปฮันนีมูนที่นิวยอร์ก ผลก็คือเมื่อเรือแล่นถึงน่านน้ำนิวฟันด์แลนด์ เรือลำนี้คงพุ่งชนเข้ากับโขดหิน จึงทำให้เรือจมลง
ในตอนที่ซากเรือชนกับโขดหิน พวกเขาทำได้เพียงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไป หลังจากที่เรือหลายลำได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือแล้วจึงรีบเข้าไปในบริเวณใกล้เคียง แต่กลับไม่พบเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจคือ หลังจากที่เรือเหล่านี้เข้าไปบริเวณที่เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เคยอยู่แล้ว พวกเขาก็ยังได้รับได้รับข้อความจากวิทยุสื่อสารอีกหนึ่งข้อความ ซึ่งเนื้อหาในนั้นเรียบง่ายและธรรมดาว่า พวกเราตายแล้ว!
นี่คือเรื่องเล่าที่พูดกันเกี่ยวกับเรือผี ซึ่งในตอนนั้นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เป็นหัวข้อที่น่าสนใจในวงสนทนาของเหล่าชาวประมงและกะลาสีเรืออยู่นาน เช่นเดียวกับในปีต่อมาที่น่านน้ำแอตแลนติกเหนือ ก็เกิดเรื่องราวเกี่ยวกับซากเรืออับปางรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือการจมลงของเรือไททานิก
เมื่อเกิดประเด็นใหญ่ของเรือไททานิก จึงไม่มีใครจะพูดถึงเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์อีก ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีข่าวการปรากฏของเรือลำนี้อีกด้วย จึงทำให้ผู้คนต่างก็ลืมเรื่องนี้ไป
เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เป็นเรือโดยสารไอน้ำลำเล็กๆ ธรรมดาทั่วไป ที่มีความยาวเพียงสิบสี่เมตร ฉินสือโอวฝากให้พนักงานขายที่อุตสาหกรรมหนักแห่งโพไซดอนซื้อเรือประมงสองลำที่มีความยาวใกล้เคียงกับซากของเรือประมง โครงของเรือประมงยังคงใช้งานได้ แต่วัสดุอุปกรณ์รวมถึงเครื่องยนต์ได้ถูกทำลายหมดแล้ว ซึ่งการจัดการต้นทุนนั้นต่ำมากเพียงแค่สองหมื่นดอลลาร์แคนาดาก็สามารถส่งถึงมือได้แล้ว
สิ่งที่ฉินสือโอวลากกลับมามีเพียงเรือลำเดียวเท่านั้นและเรืออีกลำจอดเทียบท่าชั่วคราวอยู่ที่ท่าเรือ เพราะเขาต้องทำความสะอาดให้คราเคนใช้
ประเด็นนี้ยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ ถึงแม้ว่าประเด็นนี้จะเป็นตำนานที่ผ่านมานานมากและไม่นานมันก็จะถูกลืมเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ฉินสือโอวต้องการสร้างไม่ใช่เรือแค่หนึ่งลำ แต่เป็นสองลำ ซึ่งเรืออีกลำจะควบคุมโดยคราเคน
ด้วยวิธีนี้ เรือผีที่ผู้คนพบก็จะแตกต่างกันออกไปและจะทำให้มีการถกเถียงกันเกิดขึ้น
ชาร์ค ซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆ เตรียมแผ่นไม้ไว้จำนวนมาก เพราะหลังจากลากเรือประมงกลับมา ก็จะเริ่มทำการปรับแก้ใหม่ โดยจะทุบท้ายเรือออก ติดตั้งช่องเสียบตามมาตรฐานของเรือดำน้ำและตัวเรือจะตกแต่งด้วยเศษไม้รมควัน
แบล็คไนฟ์พาคนงานมาวางเส้นทางให้กับเรือประมง จากนั้นนำตู้ลำโพงขนาดเล็กจำนวนหนึ่งและกล่องกันน้ำติดตั้งไว้ภายในเรือประมง และจะมีสายเทอร์มินอลอยู่บนเรือดำน้ำ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาก็จะเปิดคอมพิวเตอร์ในเรือดำน้ำ บนเรือก็จะสามารถส่งเสียงแปลกประหลาดต่างๆ ออกมาได้
เพื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของซากเรืออับปางมากขึ้น ฉินสือโอวจึงไปที่ที่เรือไททานิกจมและให้กลุ่มแรงงานหมึกกล้วยส่งตะกอนสาหร่ายทะเลและสารคัดหลั่งจำนวนมาก รวมทั้งยังมีสนิม สนิมเขียวและเปลือกหอยสังข์ที่มีตะกอนปกคลุมมาให้
ยิ่งไปกว่านั้น ซากเรืออับปางลำหนึ่งที่ตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเล ตะไคร่น้ำที่เต็มไปด้วยคราบสนิมก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว ฉินสือโอวยังให้เหล่าชาวประมงเจาะตัวเรือประมงให้เป็นรู ทั้งตัวเรือและดาดฟ้าของเรือจึงดูเหมือนจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว จริงๆ แล้วมันจะมีรูปร่างเป็นเหมือนกับตะแกรง ถึงจะสามารถลดแรงต้านทานของน้ำทะเลเมื่อเรือกำลังลอยขึ้นๆ ลงๆ อยู่ได้
หลังจากทำงานมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ก็ถูกปล่อยออกมา บนตัวเรือปกคลุมไปด้วยสนิม สนิมเขียวและคราบน้ำ นอกจากนี้ตะไคร่น้ำ สาหร่ายทะเลและเปลือกหอยสังข์ก็สามารถมองเห็นได้ทั่วไป และเรือสีดำมืดลำนี้จะปรากฏในทะเลตอนกลางคืน ซึ่งแม้แต่ฉินสือโอวเองเห็นยังรู้สึกกลัว
ต่อมากาวน้ำกันน้ำไม่พอใช้ ฉินสือโอวจึงเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อของ แต่พอกำลังจะลงรถก็ได้ยินคนร้องเรียกชื่อเขา เขาจึงหันหลังกลับไปดู คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหมอโอดอมที่มีความสามารถรอบตัวคนนั้น
เขาแตะมือทักทายกับโอดอม ฉินสือโอวหัวเราะและพูดว่า “ไง โอดอม คุณย้ายมาอยู่ที่เกาะแฟร์เวลแล้วเหรอ? ผมจำได้ว่าเคยบังเอิญเจอคุณที่นี่หลายครั้งแล้ว”
โอดอมสวมเสื้อยืดธรรมดาๆ และกางเกงขาสั้นเซิร์ฟ เขากางมือออกแล้วพูดว่า “คุณก็รู้ว่าจริงๆ แล้วตอนเด็กๆ ผมก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะนี้ ดังนั้นที่นี่ก็ถือว่าเป็นบ้านเกิดของผม สุดสัปดาห์นี้ผมเลยอยากจะมาที่นี่บ้าง ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
ฉินสือโอวพูดหยอกล้อว่า “ในเมื่อคุณชอบบ้านเกิดของคุณขนาดนี้ งั้นก็ย้ายมาอยู่ที่นี่เลยสิ”
โอดอมส่ายหัวด้วยความเสียดาย แล้วพูดว่า “แต่ผมไม่มีบ้านที่นี่น่ะสิ ฟาร์มปลาของเราก็ขายให้คุณไปแล้ว”
ฟาร์มปลาบ้านเกิดของปลาค็อดเป็นบ้านของพวกเขา และโอดอมก็เป็นคนโน้มน้าวให้พ่อของเขาขายมันให้กับฉินสือโอว
ฉินสือโอวมองไปที่โอดอมแล้วรู้สึกว่าเขาไม่ได้แกล้งเสียใจหรือเสียดายเลย จึงลองถามความรู้สึกของเขาดู “คุณชอบเกาะนี้จริงๆ ใช่ไหม? มันห่างไกลจากในตัวเมืองมาก ไม่ค่อยมีความเจริญด้วย อาจจะทำให้ชีวิตน่าเบื่อได้นะ”
โอดอมยักไหล่ใส่พร้อมพูดว่า “แล้วอย่างไรล่ะ? ผมก็ยังชอบชีวิตอันเงียบสงบและเรียบง่ายแบบนี้อยู่ดี พูดตามตรงทุกวันนี้ที่ได้อยู่ในตำแหน่งหมอของโรงพยาบาลใหญ่ก็จริง แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่าไร้สีสันและน่าเบื่อมากที่ต้องช่วยเหลือคนที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือ”
พูดไปเขาก็ส่ายหัวไปด้วย
พอได้ยินเช่นนั้น ฉินสือโอวก็ดีใจขึ้นมาแล้วพูดว่า “เฮ้ โอดอม งั้นคุณสนใจจะเปิดโรงพยาบาลชุมชนบนเกาะแฟร์เวลไหม? อย่างเช่น คุณก็เปิดเป็นสาขาของพ่อคุณ เป็นอย่างไรบ้าง? จะต้องได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีแน่นอน”
นี่คือสิ่งที่ฉินสือโอวตั้งใจพูดออกมาอย่างจริงใจ เนื่องจากเศรษฐกิจของเมืองแฟร์เวลเมื่อก่อนใกล้จะพังทลาย ไม่สามารถสนับสนุนทางด้านการแพทย์ได้ จึงทำให้เมื่อห้าหกปีที่แล้วโรงพยาบาลในตัวเมืองต้องปิดลงและไม่เคยเปิดอีกเลย ถ้าหากชาวเมืองมีอาการปวดหัวตัวร้อนก็ต้องไปที่เซนต์จอห์นเท่านั้น
อีกอย่าง ตอนนี้เมืองแฟร์เวลยังต้องการหมอฟัน ซึ่งหมอส่วนใหญ่ที่ได้ใกล้ชิดกับชีวิตของชาวแคนาดามากที่สุดก็คือหมอฟันและจิตแพทย์ โอดอมอาจจะทำการวิจัยทางจิตวิทยาได้ไม่ค่อยดี แต่ในด้านสุขภาพทางช่องปาก พ่อของเขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แล้วทำไมเขาถึงบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ชำนาญการล่ะ?
…………………………………………