ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 827 บรรยากาศของเมืองไมอามี
ในเวลากลางคืน อุณหภูมิข้างนอกของเมืองไมอามีจะเริ่มลดต่ำลง แต่เพราะอยู่ใกล้กับมหาสมุทร ดังนั้นอุณหภูมิจะลดลงช้ามาก ทำให้ผู้คนได้สัมผัสกับบรรยากาศอันอ่อนโยนของเมืองชายทะเลโดยไม่รู้ตัว
ช่วงเวลานี้ร้านอาหารทะเลจะไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายนัก ช่วงที่ยุ่งมากที่สุดคือตอนเช้าและตอนบ่าย พ่อครัวของแต่ละโรงแรมจะมาตรวจสอบคุณภาพของทะเลเพื่อซื้อกลับไป ช่วงมื้อกลางวันและมื้อค่ำก็จะเวียนมาเป็นร้านอาหารกับโรงแรมที่จะยุ่งมาก ส่วนร้านอาหารทะเลธรรมดาแล้วก็จะไม่มีคน
แน่นอนว่าธุรกิจเป็นไปได้ด้วยดี นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาท่องเที่ยวที่ไมอามีก็จะมาที่ร้านอาหารทะเลเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบบางอย่าง หลังจากนั้นก็จะไปร้านอาหารด้านนอกเพื่อนำไปทำอาหาร
บัตเลอร์มีความสามารถมาก ชื่อเสียงของอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินได้แพร่กระจายออกไปแล้ว พูดตามตรงว่าอาหารทะเลที่มาจากฟาร์มปลาต้าฉินนั้นมีรสชาติที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ดังนั้นแม้ว่าราคาจะสูงกว่าราคาตลาดที่คล้ายกัน แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังชื่นชอบอาหารทะเลของที่นี่
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับแนวความคิดในการบริโภคของคนอเมริกา ตราบใดที่เงินในมือของพวกเขาเอื้ออำนวย พวกเขาก็จะกินของที่ดีที่สุด ไม่ใช่ของที่ราคาถูกที่สุด
เมื่อฉินสือโอวลงมาข้างล่างเขาเห็นว่ายังมีคนสองสามคนที่แต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวกำลังชมอาหารทะเลภายใต้คำแนะนำของคู่มือช้อปปิ้งอยู่ บัตเลอร์แนะนำเขาว่า “พวกเราทำธุรกิจร้านอาหารกับโรงแรมระดับไฮเอนด์เป็นหลัก ส่วนใหญ่ที่มาซื้อนานๆ ทีจะเป็นคนระดับกลาง พวกเขาถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าลำดับที่สอง”
อำนาจในการใช้จ่ายในเมืองไมอามีนั้นค่อนข้างดีมาก ก่อนที่ฉินสือโอวจะออกเดินทางก็ถามพนักงานแคชเชียร์ว่า ยอดของวันนี้ได้เท่าไหร่
พนักงานแคชเชียร์คนนั้นพูดว่า “415,000 ดอลลาร์สหรัฐครับบอส”
บัตเลอร์เคยแนะนำให้พนักงานที่อยู่ในร้านทุกคนรู้ว่าชายหนุ่มชาวจีนคนนี้เป็นบอสใหญ่ของพวกเขา
ฉินสือโอวถอนหายใจ “แย่จริงๆ!”
บัตเลอร์มีท่าทีไม่พอใจและพูดว่า “มันมีอะไรอย่างนั้นเหรอ? โรงแรมขนาดใหญ่จะซื้ออาหารทะเลวันละสองหมื่นดอลลาร์ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก นั่นหมายความว่าพวกเราทำธุรกิจกับโรงแรม 20 แห่ง ร้านอาหารกับโรงแรมไฮเอนด์ในไมอามีมีทั้งหมดกี่แห่ง? มากกว่า 200 แห่ง! พวกเราพึ่งจะทำได้แค่ 1 ใน 10 เท่านั้นเอง”
หลังจากขับรถออกจากถนนแอนท์ ฉินสือโอวเริ่มมองเห็นเสน่ห์ของเมืองไมอามีซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก
เดิมทีเขาคิดว่าจะได้เห็นความงดงามของชายหาด รถยนต์หรูพร้อมกับเหล้าอย่างดี แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้เห็นก็คือบ้านหลังเก่าๆ หลายๆ หลัง
วงกบประตูไม้บิดเบี้ยวเนื่องจากสภาพที่ทรุดโทรม บันไดหน้าประตูเก่าๆ โทรมๆ เผยให้เห็นอิฐที่อยู่ด้านใน นอกจากนี้ยังมีผนังที่เต็มไปด้วยกราฟฟิตีอันยุ่งเหยิง เด็กวัยรุ่นแต่งตัวเรียบง่ายหลายคนกำลังตะโกนเชียร์เสียงดังและเล่นบาสเกตบอลกับรักบี้กันอยู่ แม้ว่าเมืองที่อยู่นอกเขตถนนแอนท์จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่ก็ทรุดโทรมไปหน่อย
“นี่ยังไม่ใช่สลัมหรอกนะ ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับไมอามีนะ” บัตเลอร์ที่กำลังควบคุมพวงมาลัยพูดแซวฉินสือโอว เขาอ่านความคิดภายในใจจากสีหน้าของหุ้นส่วนของเขา
ฉินสือโอวยักไหล่ “ใช่ เพื่อน ผมคิดว่าไมอามีจะมีแค่ตึกสูงๆ”
บัตเลอร์หัวเราะเสียงดัง “ที่ใดมีแสงแดดก็ย่อมมีร่มเงา สหรัฐอเมริกาไม่มีเมือง ไม่มีสลัม มีแค่ตึกสูงๆ โดยเฉพาะเมืองที่ยิ่งร่ำรวยก็ยิ่งหรูหรา ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ”
ต่อมาบัตเลอร์แนะนำฉินสือโอวว่า เขตนี้เรียกว่าเมืองแอนท์ซึ่งเป็นเขตที่เก่าแก่ของเมืองไมอามี สำหรับคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเล อาหารทะเลถือว่าเป็นอาหารที่แย่ที่สุด ดังนั้นเมื่อก่อนถนนแอนท์จึงเคยเป็นถนนที่ใช้ทำธุรกิจสำหรับคนระดับล่าง
ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไมอามี นอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นแล้ว สถานะของถนนแอนท์ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อเมืองแอนท์มากนัก
ที่จริงแล้วฉินสือโอวได้มองดูอย่างละเอียด โครงสร้างของบ้านหลายหลังที่นี่ หากดูแค่รูปลักษณ์ภายนอกหรือในแง่ขนาดของที่ดินก็ยังสามารถจับร่องรอยความรุ่งโรจน์ในอดีตของพวกมันได้ เพราะถึงแม้ว่าบ้านพวกนี้จะมีลักษณะทรุดโทรม แต่ก็มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และลักษณะภายนอกยังให้ความรู้สึกของสถาปัตยกรรมยุโรปกับอเมริกาอย่างลึกซึ้ง
สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวประหลาดใจก็คือ เมืองเก่าขนาดใหญ่อย่างนี้ ทำไมถึงไม่มีนักพัฒนามาสร้างซีบีดีหรือพัฒนาเขตที่อยู่อาศัย?
บัตเลอร์ยิ้มและถามว่า “ใครจะกล้ามาล่ะ? รู้ไหมว่าสถานีตำรวจของที่นี่จัดสรรอะไรไว้บ้าง? รถหุ้มเกราะกันระเบิด! เมื่อถึงตอนกลางคืนคุณจะได้รู้ว่ามันวุ่นวายแค่ไหน เสียงกระสุนปืนราวกับเสียงประทัด ในร้านค้าของเราซ่อนปืนเอาไว้หลายสิบกระบอก คุณได้สังเกตหรือเปล่า ว่าพนักงานที่ผมรับเข้ามาล้วนเป็นพวกคนหนุ่มหัวแข็ง?”
“ผมสังเกตนะ ผมคิดว่านี่เป็นลักษณะพิเศษของคุณ”
“ไม่ ไม่ใช่ลักษณะพิเศษ พวกเขาทั้งหมดเป็นมือดีด้านการต่อสู้ กองทหารจำนวนไม่น้อยเพิ่งจะถอยทัพออกไป มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่สามารถยับยั้งคนร้ายที่อยู่รอบๆ ได้”
ฉินสือโอวถามด้วยความไม่เข้าใจว่า “งั้นเพราะอะไรถึงยังเลือกตั้งร้านค้าที่นี่?”
ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจ ขณะที่รถกำลังเลี้ยว ท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของเขา รถขับไปตามถนนสายหลักติดริมทะเล
“การขนส่งอาหารทะเลของที่นี่สะดวกสบายที่สุด นอกจากความรุ่งโรจน์ของถนนแอนท์ที่มีมา 200 กว่าปีแล้ว นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้ดีว่า ถ้าพวกเขามาที่ไมอามีเพื่อกินอาหารทะเลก็ต้องไปที่ถนนแอนท์ แล้วพวกเราจะไม่ใช่ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างไรล่ะ? ที่สำคัญที่สุดก็คือ ภาษีของที่นี่ต่ำ ฮ่าๆ พวกเราเปิดร้านขายอาหารทะเลที่นี่ก็จะสามารถประหยัดภาษีได้ถึง 40%!”
บัตเลอร์หัวเราะออกมาเสียงดังอีกครั้ง รัฐบาลไมอามีมีความต้องการอยากที่จะพัฒนาเมืองแอนท์เป็นอย่างมาก แต่ที่นี่ยุ่งเหยิงเกินไป นอกจากนั้นคนส่วนใหญ่ยังเป็นผู้อพยพและมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการต่อต้านรัฐบาล
ดังนั้นรัฐบาลเมืองไมอามีจึงคิดจะมาพัฒนาเมืองนี้ผ่านวิธีการซึมซับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมและสิ่งอื่นๆ เข้าไปโดยไม่ให้รู้ตัว พวกเขาให้ผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงดูดบริษัทกับโรงงานให้เข้ามาและปล่อยให้เมืองเติบโตด้วยตัวเอง
จากมุมมองในปัจจุบัน เคล็ดลับนี้ก็มีประสิทธิภาพอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุดถนนภายในเมืองก็เป็นระเบียบขึ้นมา
ระหว่างขับรถบัตเลอร์พูดว่า “ที่ไมอามี การรับประทานอาหารเป็นวิธีสุดท้ายในการทำความเข้าใจและสัมผัสกับสไตล์ที่แตกต่างกันของเมืองนี้ มาสิ ผมจะพาคุณไปสัมผัสอย่างมันอย่างช้าๆ อาหารมื้อนี้อาจจะใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ดังนั้น เพื่อน คุณจะต้องอดทนหน่อยนะครับ”
ฉินสือโอวยิ้ม “งั้นคุณก็ไม่ต้องกังวล เพราะผมเป็นคนมีความอดทน”
อาหารมื้อนี้นานพอสมควรแน่นอน บัตเลอร์พาฉินสือโอวเข้าไปในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งก่อน สวนสาธารณะมัสซิโม โกเมซตั้งอยู่ในย่านลิตเทิลฮาวานา เขาสั่งกาแฟคิวบาสองแก้วและนั่งอยู่ข้างแปลงดอกไม้ดูพระอาทิตย์ตกไปพลางดื่มกาแฟไปพลาง
“นี่ถือว่าเป็นชายามบ่าย เพื่อน นี่ยังไม่ใช่อาหารค่ำหรอกนะ” บัตเลอร์ยิ้ม
ฉินสือโอวยกแก้วกาแฟขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้เขา “กาแฟรสชาติไม่เลว เป็นชายามบ่ายที่เยี่ยมมาก”
ด้านข้างสวนสาธารณะมีร้านอาหารกลางแจ้งขนาดเล็กแห่งหนึ่งชื่อว่าภัตตาคารหูอาน บัตเลอร์โบกมือเรียกให้บริกรสั่งเป็ดย่างไร้กระดูกลองไอแลนด์ และเนื้อกระต่ายย่างน้ำมันพริกกับเชอร์รี นี่คืออาหารสำหรับน้ำชายามบ่าย
ฉินสือโอวยิ้มและพูดว่าเขาคิดเสมอว่าน้ำชายามบ่ายจะต้องคู่กับของหวาน คิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถคู่กับเนื้อย่างได้ด้วย บัตเลอร์บอกให้เขาลองชิม
หลังจากเนื้อย่างแสนประณีตทั้งสองจานมาเสิร์ฟซึ่งเป็นรสชาติอาหารสไตล์สเปนที่ย่างกับน้ำมัน แต่เมื่อกินเข้าไปแล้วกลับไม่รู้สึกถึงน้ำมันเลย ดังนั้นกินคู่กับกาแฟก็ถือว่าไม่เลวเลยจริงๆ
ในช่วงเวลานั้นฉินสือโอวโทรหาพวกชาวประมง คนพวกนี้ตื่นกันเรียบร้อยแล้ว แต่วิ่งไปที่บาร์เต้นเปลื้องผ้าเพื่อดื่มเบียร์กันหมด เมื่อรับโทรศัพท์แต่ละคนก็ตะโกนโหวกเหวก ดูเหมือนจะกำลังเติมพลังอยู่
ดังนั้นฉินสือโอวจึงไม่ได้เรียกพวกเขาให้มาทานอาหาร เขารู้ว่าคืนนี้คนพวกนี้คงไม่มีเวลามาทานของพวกนี้แล้ว
…………………………………………………………