ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 831 กำราบ ฆ่ามัน!
ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวสังเกตเห็นแล้วว่า เรือลำนี้ไม่ได้หว่านแหหาปลาอยู่แถวๆ นี้ ตอนที่พวกเขามาถึงที่นี่ก็ยังไม่เห็นเรือลำนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาทีหลัง
บางทีก่อนหน้านี้อาณาบริเวณนี้อาจจะเป็นเขตของเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ แต่พวกเขาได้ไปจากที่นี่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไรถ้าหากเรือฮาวิซทจะมาจับปลาบริเวณนี้ทีหลัง
ฉินสือโอววางสายวิทยุไร้สาย กัปตันเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์โมโหมาก ด้วยเหตุนี้เหล่าชาวประมงที่อยู่ตรงหัวเรือจึงพร้อมใจกันชูนิ้วขึ้น
บูลโมโหมากจนอยากออกไปด่าว่าพวกเขา แต่แบล็คไนฟ์ขวางเขาไว้ เขาส่ายหน้าไปมาแล้วพูดด้วยเสียงที่เบาว่า “ฟังคำสั่งจากบอส!”
บูลไม่พอใจ เขาพูดว่า “นายเป็นนักสู้หรือเปล่า? นายเป็นทหารรับจ้างมาก่อนไม่ใช่เหรอ? ทำไมนายถึงไม่โกรธเลยล่ะ?”
ถึงจะถูกกล่าวหาอย่างนี้ แบล็คไนฟ์ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเป็นนักสู้ ไม่ใช่อันธพาล ฉันไม่กลัวการต่อสู้ แต่ฉันก็พยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ไม่จำเป็น มีบอสอยู่ทั้งคน สิ่งที่ฉันควรทำก็คือรอคำสั่ง ไม่ใช่ตัดสินใจอะไรตามอำเภอใจ”
แม้บูลจะมีนิสัยบุ่มบ่าม แต่ข้อดีของเขาก็คือฟังคนอื่น ที่แบล็คไนฟ์พูดมาก็ไม่ผิด เขาเกาหัวและหัวเราะเสียงดังสองที แล้วชูนิ้วกลางขึ้นในห้องบังคับเรือ แต่ไม่ได้ออกไป
เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่บนเรือฮาวิซทไม่มีใครตอบโต้กับการยั่วยุของพวกเขา ชาวประมงที่อยู่บนเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ก็เหิมเกริมหนักขึ้นกว่าเดิม ถึงขั้นมีคนถอดกางเกงออกแล้วฉี่มาทางเรือฮาวิซท นี่เป็นการกระทำที่บ้าคลั่งจริงๆ!
สีหน้าของฉินสือโอวไม่ดีเท่าไร แต่เขาไม่ได้โกรธ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “หว่านแห จับปลา เราทำเงินของเรา ปล่อยให้พวกเขาอิจฉาไปเถอะ”
พวกชาวประมงเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด พวกเขามีส่วนแบ่งร้อยละ 60 เชียวนะ รีบหว่านแหกันเถอะ
หลังจากหว่านแหลงไป คนที่อยู่บนเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ก็เริ่มร้อนใจ เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว นี่ควรจะเป็นผลเก็บเกี่ยวของพวกเขาสิ!
ชาวประมงอเมริกันเป็นคนใจกล้า เรือลำนี้พุ่งเข้ามาชนจากทางด้านหลังอย่างเหนือความคาดหมาย เหมือนกับรถที่ชนท้ายกัน จากนั้นก็ตามด้วยเสียงดัง ‘โครม’ เรือฮาวิซทแกว่งไปมาอย่างรุนแรง และไถลไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น
ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น เรือถูกชนเข้าแล้ว!
ในที่สุดฉินสือโอวก็โมโห
“ลงมือเลย ฆ่ามัน!” ฉินสือโอวตะโกนเสียงดัง
ความขัดแย้งกันบนท้องทะเลเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยมาก พวกชาวประมงมักจะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงน่านน้ำที่อุดมไปด้วยทรัพยากรประมง ไม่ว่าจะเป็นสงครามระเบิดน้ำ สงครามการด่าทอ สงครามดวลปืน หรือแม้กระทั่งสงครามด้านข้างเรือ
เมื่อได้ยินคำสั่งของฉินสือโอว แบล็คไนฟ์และแอร์แบ็คกลับไปที่ห้องโดยสารทันทีและหยิบธนูพร้อมด้วยคันธนู
ชาร์คพูดอย่างตะลึงว่า “จะใช้เจ้านี่ทำสงครามทางทะเลเหรอ? ไม่เคยได้ยินเลยแฮะ”
แบล็คไนฟ์ไม่ได้พูดอะไร เขาเปิดกระเป๋าใส่ธนู ข้างในเป็นลูกธนูโลหะเบาที่ส่องแสงเย็นเยือก ลูกศรแหลมคมซึ่งเต็มไปด้วยแรงอาฆาตแค้น
แอร์แบ็คถอดหัวธนูออก แล้วเปลี่ยนเป็นหัวลูกยางแทน แบล็คไนฟ์ถือธนูประกอบเอาไว้คันหนึ่ง เขายิงลูกธนูออกไปโดยไม่ได้เล็งเป้า
ในเวลานั้น เรือทั้งสองลำห่างกันเพียงแค่ระยะ 40-50 เมตร ธนูประกอบคันนี้แข็งแรงมากพอ แบล็คไนฟ์ต้องใช้แรงอย่างมากจึงจะสามารถดึงคันธนูให้สุดได้ เหล่าชาวประมงต่างก็รู้สึกตะลึงกันเป็นอย่างมาก
หลังจากยิงลูกธนูออกไปหนึ่งดอก แบล็คไนฟ์รับมาอีกหนึ่งดอกแล้วยิงออกไปอย่างรวดเร็ว แอร์แบ็คเป็นคนดัดแปลง ส่วนเขาเป็นคนยิง ทั้งสองคนเข้าขากันดีมาก ใช้เวลาไม่ถึง 4 วินาที ลูกธนู 5 ดอกถูกยิงออกไปด้วยความเร็วสูง พวกชาวประมงตาพร่าไปหมด
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมาจากเรือหาปลาของอีกฝ่าย คนเหล่านั้นที่นอนชูนิ้วกลางบนหัวเรือโชคไม่ดีแล้วล่ะ ในระยะ 100 เมตร ลูกธนูไปตามทิศที่แบล็คไนฟ์ต้องการ ทุกดอกปักลงตรงหน้าอกของพวกเขา เจ็บปวดจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
“พระเจ้า ถ้าเปลี่ยนเป็นหัวธนูเหล็ก คนพวกนั้นไม่ตายเลยเหรอ?” บูลมองตาตั้ง “นายมันมือสังหารชัดๆ เพื่อน!”
แบล็คไนฟ์ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “พวกเขาต้องรู้สึกโชคดี ที่ไม่ได้เจอผมในสนามรบ”
ทหารรับจ้างเก่าพูดประโยคนี้ด้วยความเยือกเย็น ให้ความรู้สึกถึงความกระหายเลือด
ชาวประมงบนเรือเริ่มส่งเสียงด่าทอ แบล็คไนฟ์ส่งสัญญาณให้พวกชาวประมงรีบหาที่ซ่อนตัว เพื่อป้องกันอีกฝ่ายนำปืนออกมายิงมั่วซั่ว ทุกๆ ปี มักจะมีการชิงกันเพื่อแย่งปลาในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
ตามที่คิดไว้ไม่มีผิด ผู้คนที่อยู่บนเรือลำนั้นป่าเถื่อนมาก มีคนถือปืนไรเฟิลเดินออกมาจริงๆ
แบล็คไนฟ์มีตาที่เฉียบคมดั่งนกอินทรี เขาคอยสอดส่องตรงดาดฟ้าของฝ่ายตรงข้ามด้วยความระมัดระวังอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่ามีคนถือปืนไรเฟิลเดินออกมา เขาดึงคันธนูออกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนเมื่อครู่ เขาดึงคันธนูจนสุด หลังจากปล่อยมือ ลูกธนูก็หายไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับดาวตก
“โอ้!” ชาวประมงที่ถือปืนร้องเสียงดังหนึ่งครั้งและจับที่หน้าอกแล้วลงไปนอนชักบนดาดฟ้า หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรอีก
ฉินสือโอวรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่แบล็คไนฟ์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นอะไรหรอกครับ โดนแค่หน้าอก ยังมีกล้ามเนื้อและกระดูกคอยรับแรงกระแทก หัวใจของเขาอาจมีอาการขาดเลือดชั่วคราว แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต!”
คนคนนั้นปวดจนไม่สามารถส่งเสียงร้องออกมาได้ จากนั้นแบล็คไนฟ์และแอร์แบ็คก็ได้นำปืนของตัวเองออกมา เป็นปืนไรเฟิลเอ็นฟิลด์ เอ็มเคสามขนาดย่อม ซึ่งเป็นอาวุธที่กองทัพแคนาดามอบให้แก่กองทหาร
ปืนชนิดนี้เก่ามาก ถูกผลิตขึ้นในปี 1916 ถ้าใครคิดว่าปืนชนิดนี้ไม่มีพลังสังหารล่ะก็ คิดผิดแล้วล่ะ
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสี่ของปืนไรเฟิลที่มีชื่อเสียงในสงครามโลกครั้งที่สอง เอ็นฟิลด์ถือเป็นมัจจุราชแห่งความตายของกองกำลังยุโรป เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความแม่นยำและระยะยิงของมัน ในตลอดสงครามโลกครั้งที่สองมีการผลิตปืนชนิดนี้จำนวนมากและแจกจ่ายไปยังกองกำลัง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อพวกนาซี
การที่ปืนชนิดนี้ถูกคัดออกจากสงครามในยุคปัจจุบัน เพราะอัตราการยิงของมันช้าเกินไป และเป็นระบบการทำงานด้วยมือ ไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะใกล้และการต่อสู้กันตามท้องถนน แต่นี่สำหรับกรณีที่เกิดสงครามเท่านั้น สำหรับความขัดแย้งทั่วไปแล้ว พลังของปืนชนิดนี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ
จากการดูละครอเมริกันก็รู้แล้วว่า ครอบครัวชาวอเมริกันหลายครอบครัวยังคงใช้ปืนไรเฟิลเก่าแก่ที่สืบทอดมาจากรุ่นปู่ ตราบใดที่ดูแลรักษาเป็นอย่างดี พลังของปืนดังกล่าวก็ยังคงน่ากลัวไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปืนไรเฟิลเอ็นฟิลด์สามารถใช้เป็นปืนซุ่มยิงได้ อย่างน้อยเมื่อมันอยู่ในมือของทหารรับจ้างเก่าแล้ว เขาก็สามารถที่จะแสดงพลังของมันออกมาได้
การใช้ปืนไรเฟิลเอ็นฟิลด์ยังมีข้อดีอีกข้อหนึ่งคือ ถ้าถึงขึ้นเสียชีวิตขึ้นมาจริงๆ ฉินสือโอวก็จะไม่ถูกตรวจสอบในสหรัฐอเมริกา และทหารอาสาจะได้รับการลงโทษจากศาลทหารแคนาดาแทน
หลังจากที่นำปืนออกมาแล้ว แบล็คไนฟ์คุกเข่าลงและใช้กล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแรงของเขาแบกพานท้ายปืนไว้แล้วตะโกนว่า “ฟัคยู! ไอ้ลูกหมา! โผล่หน้ามาสิ! โผล่หน้ามารับถั่วลิสงโลหะไปกินสักเม็ด!”
แอร์แบ็คยิงปืนขึ้นไปบนฟ้าหลายนัด เสียงปืนที่กึกก้องทำให้นกนางนวลที่อยู่รอบๆ หวาดกลัวและบินหนีไป และทำให้คนที่อยู่บนเรือลำนั้นไม่มีใครกล้าโผล่หน้าออกมาอีก
อย่างไรก็ตามกัปตันเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์เป็นคนที่โหดเหี้ยม เขากลับเร่งความเร็วและต้องการชนเรือฮาวิซท เขาต้องการใช้ขนาดเรือที่ใหญ่กว่าชนเรือฮาวิซทให้คว่ำ
แบล็คไนฟ์วางปืนลงอย่างเย็นชาและพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “จ่า เปลี่ยนหัวธนู ให้เป็นตะกั่ว 1 ใน 4 ปอนด์”
แอร์แบ็คถอดหัวธนูออกอย่างรวดเร็ว และใส่หัวธนูทรงกลมสีดำเข้าไปแทน
หลังจากที่แบล็คไนฟ์รับลูกธนูมาก็เล็งไปที่กระจกบังลมห้องบังคับเรือของเรือปลาหัวเมือกแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ เขายกแขนขึ้น ตั้งท่าเตรียมยิง และดึงคันธนูออกให้เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งดวง จากนั้นลูกธนูก็ถูกยิงออกไปพร้อมเสียง ‘ซู่ว’
……………………………………………………….