ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 848 เรือผีที่แปลกประหลาดยิ่งกว่า
เก็บกวาดฟาร์มปลาเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายฉินสือโอวเห็นว่าพระอาทิตย์เริ่มคล้อยลงแล้ว จึงเก็บเก้าอี้กลับเข้าไปในบ้าน
วินนี่นั่งอยู่หน้าประตู ถือหนังสือเล่มหนึ่งอ่าน ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มจางๆ แสงอาทิตย์สีทองอ่อนสาดส่องอยู่บนผิวกายขาวของเธอ ราวกันแสงอันศักดิ์สิทธิ์
ฉินสือโอวกอดเธอจากด้านหลังแล้วถามว่าเธอกำลังอ่านอะไร วินนี่หอมเขาทีหนึ่งแล้วบอกว่ากำลังอ่านคู่มือการเลี้ยงลูกอยู่
ทั้งสองคุยกันสักพัก อากาศก็เริ่มเย็นลง ฉินสือโอวจึงขึ้นเรือเด็คพาวินนี่กลับเข้าฝั่ง
เพิ่งถึงฝั่ง บูลก็วิ่งมาด้วยหน้าบานเป็นกระด้ง ฉินสือโอวคิดว่าคงมีเรื่องดีอะไร แต่พอเห็นว่าวินนี่อยู่ด้วย เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไร แล้วผิวปากเดินเล่นอยู่ตรงนั้น
ฉินสือโอวจะบ้าตาย การแสดงนี้ยังจะแย่กว่านี้อีกไหม?
วินนี่แกล้งโง่อย่างฉลาด เธอพาพวกหู่เป้าฉงหลัวไป บอกพวกมันว่าจะทำอาหารให้กิน หลังจากพาพวกเด็กๆ ไป ก็เหลือเพียงฉินสือโอวกับบูลอยู่กันตามลำพัง
“เป็นอะไร?” ฉินสือโอวถามอย่างไม่สบอารมณ์
บูลยิ้มตอบว่า “กัปตัน มีเรือประมงเข้ามาในฟาร์มปลาพวกเราลำหนึ่งอีกแล้ว เจ้าพวกนี้ไม่ยอมล้มเลิกจริงๆ พวกมันตั้งใจจะขโมยปลาของเราให้ได้ครับ!”
ก่อนหน้านี้ตอนที่ไปไมอามี บัตเลอร์เคยบอกกับฉินสือโอวว่า ตระกูลมอร์รี่ได้ออกกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เลวร้ายออกมา โดยรับซื้อผลิตภัณฑ์ทางทะเลที่ผลิตมาจากฟาร์มปลาต้าฉินในราคาสูง
นี่จึงสามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงมีเรือที่มาขโมยปลาในเขตน่านน้ำฟาร์มปลาต้าฉินเยอะขนาดนี้ ทั่วทั้งแคนาดามีฟาร์มปลาเอกชนเยอะมาก ถึงจะไม่มีเป็นพัน แต่อย่างน้อยก็คงมีราวๆ แปดร้อยฟาร์ม ปีปีหนึ่งมีคดีการขโมยปลาอีกตั้งเท่าไร? อย่างมากก็คงสองพันคดีได้ แต่ว่าปีนี้แค่ฟาร์มปลาต้าฉินก็มีมากถึงสิบกว่าคดีแล้ว
ได้ยินคำพูดของบูล ฉินสือโอวตอบอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “มีอะไรน่าดีใจขนาดนั้นกัน? ดูท่าทางนายสิ ฉันยังคิดว่าพวกนายพบฝูงปลาขนาดใหญ่ซะอีก”
บูลพูดพึมพำว่า “พบฝูงปลาขนาดใหญ่ไม่น่าสนใจสักนิด แบบนี้พวกเราจะได้เอาเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ออกอีกครั้งแล้ว น่าตื่นเต้นออก พวกเราจะได้สร้างตำนานเรือผีออกมาอีกแล้ว!”
เรือไก่ฟ้ามิกาโดได้นำเรื่องราวของเรือผีกระจายไปถึงหูของพวกชาวประมงในแฮลิแฟกซ์แล้ว แน่นอนว่าคนที่เชื่อมีเท่าไหร่กันแน่ก็ยังไม่รู้
แต่ว่า เรื่องเล่าแบบนี้มันกระจายออกไปได้ง่ายที่สุด ฉินสือโอวเองก็ไปอ่านกระทู้แนะนำเกี่ยวกับเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์มาบ้าง
ไม่พูดเปล่า แน่นอนว่ากลางคืนยังต้องนำเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ออกปฏิบัติการต่อ ตำนานเรือผียังไม่ดังเพียงพอ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีเรือกล้ามาขโมยปลาอีก
ครั้งนี้ฉินสือโอวขึ้นเรือดำน้ำเองเลย ทักษะการขับของบีบีซวงถือว่าแข็งแรงมาก
เรือดำน้ำบรรทุกคนทั้งสี่คน บีบีซวงและทริกเกอร์เป็นคนขับเรือดำน้ำ ฉินสือโอวและนีลเซ็นรับหน้าที่จัดการกับข้าวของทั่วไป
จะขับเรือดำน้ำลำหนึ่งต้องใช้จำนวนคนมากกว่าเรือประมงส่วนใหญ่มาก ตอนที่ตระกูลมอร์รี่มาขโมยปลา บนเรือดำน้ำลำหนึ่งมีคนทำงานอยู่ถึงหกเจ็ดคน
แต่ว่าตอนนี้เรือดำน้ำหลักๆ แล้วใช้ล่องเรือ ดังนั้นแค่คนขับคนเดียวก็เพียงพอแล้ว คนอื่นที่เหลือเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น
เรือดำน้ำพาฟลาวเวอร์ฟอกซ์ดำลงไปลึกประมาณยี่สิบกว่าเมตร จากนั้นก็เร่งความเร็วเต็มกำลังจนถึงสามสิบนอตแล้วเริ่มออกเดินทาง
เรือดำน้ำทางทหารปกติจะมีความเร็วไม่เกินสี่สิบนอต เรือดำน้ำนิวเคลียร์ระดับ P ของสหภาพโซเวียตสามารถทำลายสถิติความเร็วใต้น้ำได้ถึงสี่สิบสี่นอต แต่ว่าเรือดำน้ำภายใต้ความเร็วขนาดนี้จะมีเสียงที่ดังมาก ทำให้ไม่สามารถรักษาเป็นความลับได้ ว่ากันว่าหากใช้ความเร็วที่สี่สิบสี่นอต ทั่วทั้งมหาสมุทรแอตแลนติกก็สามารถรับรู้ได้ถึงเสียงดังของเรือ
ใช้เรือดำน้ำพลเรือนไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาเรื่องเสียงดัง แต่ว่าก็มีปัญหาเรื่องจำกัดความเร็วของเรือไว้ นั่นก็คือความจุของแบตเตอรี่ เหมือนกับเรือดำน้ำทั้งสองลำนี้ของฉินสือโอว ดำน้ำได้ประมาณสี่ชั่วโมงก็ต้องขึ้นบนผิวน้ำเพื่อทำการชาร์ตแบตเตอรี่ ไม่อย่างนั้นคนที่อยู่ข้างในก็อาจจะขาดอากาศตายได้
แล่นเรือตั้งแต่พลบค่ำจนกระทั่งเช้าตรู่ ฉินสือโอวเบื่อจนถึงที่สุดแล้ว ในที่สุดก็เข้าใกล้ตำแหน่งเรือลำข้างหน้าที่มาขโมยปลาสักที
เดิมทีเขายังค่อนข้างสนใจ คิดว่าสามารถมองทิวทัศน์สวยงามของท้องทะเลได้จากหน้าต่าง แต่สรุปไม่ใช่อย่างนั้น เรือดำน้ำดำลงไปแค่ยี่สิบกว่าเมตร ได้เห็นเพียงแค่น้ำทะเล
มองน้ำทะเลมาครึ่งค่อนวัน ฉินสือโอวไม่อาเจียนออกมาก็ถือว่าเขาเก่งมากแล้ว
ทริกเกอร์ระบุตำแหน่งของเรือผ่านเครื่องสแกนคลื่นเสียงโซนาร์ จากนั้นบีบีซวงค่อยๆ นำเรือดำน้ำขึ้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย บนเสากระโดงเรือของเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์มีกล้องบันทึกภาพอยู่ หลังลอยขึ้นจากน้ำก็ส่งภาพทั้งหมดลงมา
ฉินสือโอวมองดูจอภาพ LED เรือประมงขนาดกลางลำหนึ่งปรากฏอยู่ข้างบน
ขณะนี้บนเรือประมงคงจะกำลังง่วนอยู่กับการจับปลา ไฟบนเรือส่องสว่าง ฉินสือโอวกลัวว่าพวกเขาจะรับรู้ได้ถึงเรือที่ค่อยๆ ลอยขึ้นมา เพราะยังไงบนเรือก็ยังมีเครื่องสแกนปลา สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวใต้น้ำได้
เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปตรวจสอบดู พอดูเท่านั้นแหละก็อดไม่ได้ที่จะด่าในใจ ให้ตายสิ พวกนี้มันช่างโอหังจริง กล้าใช้อวนล้อมจับปลาในฟาร์มปลาของเขา!
อุตสาหกรรมประมงในแคนาดาห้ามใช้อวนล้อมจับแล้ว พลังการทำลายล้างของอวนนี้มากเกินไป พวกปลาเล็กปลาน้อยจะถูกจับขึ้นมาด้วย เป็นการทำลายการพัฒนาของสิ่งแวดล้อมทางทะเลมากเกินไป
ซึ่งแน่นอนว่า พวกโจรขโมยปลาไม่ได้สนใจกฎระเบียบของกรมประมง เพราะยังไงสิ่งที่พวกเขาทำในตอนนี้ก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว
ฉินสือโอวกระพือคลื่นลม คลื่นเริ่มปรากฏออกมาแล้วค่อยๆ ใหญ่ขึ้น อีกอย่างใต้น้ำก็มีกระแสน้ำวนเกิดขึ้น พัดให้อวนล้อมจับพันเข้าด้วยกัน
คนบนเรือขโมยปลาเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมา มีคนตะโกนบอกให้รีบเก็บอวนขึ้นมาก่อน หากอวนล้อมจับพันเข้าด้วยกัน อยากจะแยกออกจากกันยากมาก
แต่ว่าคลื่นทะเลใหญ่ขึ้น การเก็บอวนล้อมจับทำได้ยาก อาศัยเวลาที่ความสนใจของคนบนเรือไม่ได้อยู่บนทะเล เรือดำน้ำจึงค่อยๆ เข้าใกล้เรือประมงอย่างระมัดระวัง
บนทะเลที่กว้างใหญ่และดำมืด เรืออับปางลำหนึ่งที่เก่าทรุดโทรมและยังเต็มไปด้วยสาหร่ายโผล่พ้นน้ำขึ้นมา เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากจริงๆ
ที่ยิ่งน่ากลัวคือ คนบนเรือไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ปรากฏออกมาได้ยังไง…
ภายในเรือดำน้ำมีที่ที่เหมือนกับสถานีวิทยุขนาดเล็ก นีลเซ็นนั่งอยู่ข้างหน้า สวมหูฟังแล้วเริ่มเปิดเพลงที่เศร้าหดหู่เพลงหนึ่ง เพลงนี้มีชื่อว่า ‘หัวใจที่แหลกสลายบนธารน้ำแข็ง’ เป็นเพลงที่ฮิตในช่วงประมาณสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ฉินสือโอวมองดูเรือประมงผ่านกล้องบันทึกภาพ ตามเสียงเพลงที่ถูกปรับดังขึ้น ไฟบนเรือประมงก็ส่องลงมาทันที เห็นชัดว่าเจอเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เข้าแล้ว
บีบีซวงผิวปากพร้อมกับบังคับเรือดำน้ำส่ายไปมา แบบนี้เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ก็จะขยับขึ้นมาแล้ว ฉินสือโอวมีความคิดเกิดขึ้น กระพือคลื่นลมไปพร้อมกับผืนน้ำทะเล ให้เหมือนกับว่าเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ขับไปพร้อมกับคลื่นอย่างนั้น
เดิมทีเขาอยากจะเสริมสร้างบรรยากาศสักหน่อย แต่สุดท้ายทำให้พวกบีบีซวงเขากลัวกัน “เฮ้ย! นี่มัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงได้มีคลื่นขึ้นมากัน?! ให้ตายสิ คืนนี้ไม่มีคลื่นลมแรงไม่ใช่เหรอ?”
ทริกเกอร์พูดอย่างใจเย็นว่า “หุบปาก บีบี! มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือมีคลื่นเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง? เร็ว อาศัยจังหวะนี้ รีบปล่อยน้ำแข็งแห้ง เข้าไปใกล้เรือระยำนั่น!”
บีบีซวงถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “อย่าทำเป็นสงบนิ่งอยู่เลย เจ้างั่ง ปุ่มควบคุมท่อน้ำแข็งแห้งอยู่บนมือนายไม่ใช่หรือไง?!”
ฉินสือโอวขมวดคิ้วถาม “มันมีอะไรน่าโวยวายกัน? เป็นอะไรไป?”
บีบีซวงสีหน้าตื่นเต้น พูดเสียงต่ำ “บอส คุณไม่รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเหรอ? ก่อนที่เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์จะปรากฏ คลื่นลมก็สงบดี แต่พอมันปรากฏออกมาเท่านั้นแหละ ก็กลายเป็นอย่างนี้ไป…”
…………………………………………………..