ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 849 ข่าวลือเริ่มแพร่กระจาย
บนเรือประมงมีเสียงหายใจเข้าดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง แม้ว่าจะมีเสียงกระแสลมเย็นที่พัดอยู่บนมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดเสียงสูดหายใจเข้าลึกนี้ได้ ราวกับว่ามีคนเปิดเครื่องสูบกำลังแรงสูงอยู่อย่างนั้นแหละ
“ฟะ…ฟัค นั่นมันตัวอะไรน่ะ?” ชาวประมงหัวล้านคนหนึ่งเหงื่อแตกขึ้นมาทันที
ฉินสือโอวขยับเมาท์เพื่อซูมเข้าจุดโฟกัสของกล้อง และยังสามารถเห็นสีหน้าที่บิดเบี้ยวของชาวประมงพวกนั้นได้
อย่าว่าแต่พวกชาวประมงเลย แม้แต่บีบีซวงและอีกสามคนก็กลัวกันมาก ก่อนหน้าคลื่นลมยังนิ่งสงบอยู่ตลอด แต่ในชั่วขณะที่เรือผีปรากฏตัว คลื่นทะเลก็เริ่มซัดขึ้นมาทันที!
แม้จะรู้ว่าพวกตนเองเป็นคนที่สร้างเรือผีขึ้นมา แต่ว่าทั้งสามคนก็ยังคงคิดถึงตำนานเรื่องเล่าเรือผีขึ้นมามากมาย ตำนานมีอยู่ว่า คนที่ตายจากภัยทางทะเลจะไม่ได้ไปเกิดใหม่ แต่จะกลายเป็นวิญญาณล่องลอยอยู่ในทะเล จนกระทั่งหาสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสมเจอ…
“เรือของพวกเรา ศักดิ์สิทธิ์เกินไปหน่อยหรือเปล่า?” บีบีซวงถามอย่างยากลำบาก
ฉินสือโอวมองบน พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ให้ตายสิ พวกนายมีความกล้าแค่นี้เหรอ? ตั้งสติได้แล้ว หลอกไอ้พวกนั้นให้ออกไป แล้วกลับไปนอน!”
เหล่าทหารใหญ่มองตากัน รู้สึกเหมือนตัวเองคิดมากเกินไปจริงๆ นี่อาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
พวกชาวประมงที่ไม่รู้เรื่องกลัวจนฉี่ราด พวกเขาโหวกเหวกโวยวายอยู่บนเรือ เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เข้าไปใกล้ พวกเขาขยับหางเสือหนีอย่างหวาดกลัว สำหรับอวนปลาในน้ำนั้น ยังจะมีใครสนใจอีก?
งานตกปลาทะเลน้ำลึกเป็นหนึ่งในสายงานที่มีอัตราเสียชีวิตสูงที่สุด ทุกครั้งที่ออกทะเลพวกชาวประมงต่างก็เตรียมตัวแล้วว่าอาจจะกลับมาไม่ได้อีก พวกเขาไม่กลัวตาย แต่ว่ากลัวเรือผี ถ้าหากวิญญาณถูกจับขังอยู่บนเรือผี อย่างนั้นขอตายเสียยังจะดีกว่าอีก!
บนเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ค่อยๆ มีหมอกขึ้นปกคลุม เรือทั้งลำหม่นมัวมองไม่ชัดแล้ว บางครั้งก็เห็นหัวเรือท้ายเรือโผล่ออกมาบ้างตามคลื่น แค่นี้ก็สามารถหลอกจนพวกชาวประมงบนเรือร้องไห้กันระงมแล้ว
นีลเซ็นเปลี่ยนเสียงดนตรี เป็นเสียงหัวเราะสดใสของผู้หญิง เสียงแบบนี้ลอยอยู่บนทะเล อย่าว่าแต่พวกชาวประมงที่ไม่รู้ความจริงเลย แม้แต่กลุ่มฉินสือโอวเอง หากได้ยินก็คงกลัวเหมือนกัน
พวกนั้นเร่งความเร็วของเรือประมงสูงสุด หนีกระเจิดกระเจิงกันอย่างบ้าคลั่ง
นีลเซ็นหัวเราะแล้วพูดว่า “ไอ้พวกนี้แย่แน่แล้ว นี่มันเรือประมงนะ ไม่ใช่เรือสปีดโบ๊ท เครื่องยนต์รองรับการเร่งความเร็วแบบนี้ไม่ได้ เกรงว่าอีกเดี๋ยวเครื่องยนต์คงหยุดทำงานเพื่อประท้วงแน่แล้ว พวกเราจะตามไปอีกไหม? หลอกพวกเขาตอนนั้น ค่าจะน่าตื่นเต้นมากแน่ๆ”
ฉินสือโอวส่ายหัวบอก “ช่างเถอะ พวก ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น อีกอย่าง ใครจะไปรู้ว่าเรือของพวกเขาจะเสียเมื่อไหร่? แล่นต่ออีกสักพัก จากนั้นพวกเราก็กลับกัน”
พูดเสร็จ เขาก็หาวแล้วเสริมต่อว่า “น่าจะยังกลับไปทันหลับต่ออีกได้”
ตามคำแนะนำของฉินสือโอว บีบีซวงบังคับเรือดำน้ำตามเรือประมงไป ตามไปได้สิบกว่ากิโลเมตร ตอนนี้เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ได้ถูกหมอกหนาปกคลุมไปจนทั่วแล้ว เขาถึงหันหัวเรือกลับ
เรือพวกหัวขโมยมีชื่อว่า ‘เรือดีพซีแซฟไฟร์’ เป็นเรือลำหนึ่งบนหมู่เกาะแซงปิแยร์และมีเกอลง หมู่เกาะห่างจากนครเซนต์จอห์นไม่ไกล เรือประมงแล่นหนีไปตอนรุ่งเช้า ครึ่งวันผ่านไป ในที่สุดพลบค่ำก็กลับมาถึงท่าเรือหมู่เกาะแล้ว
เมื่อเรือเทียบเข้าฝั่งได้ ชาวประมงบนนั้นก็แย่งกันพุ่งลงมา พวกเขาจับตัวคนที่พบเจอแล้วตะโกนว่า “โอ้ พระเจ้า! พวกเราเจอเข้ากับเรือผี! พระเจ้า เรือผีเชียวนะ!”
“ไอ้พวกบัดซบบนเรือไก่ฟ้ามิกาโดไม่ได้โกหก! มันเป็นเรื่องจริง มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือมีเรือผีปรากฏอยู่จริงๆ!”
“เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ มันกลับมาแล้ว! พระเยซูคริสต์คุ้มครอง พวกเรามีชีวิตรอดกลับมาแล้ว โอ้ ฟัค แต่ว่าเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ก็กลับมาแล้ว!”
พพวกชาวประมงบนท่าเรือมองดูพวกคนที่ตื่นตระหนกกลุ่มนี้อย่างงุนงง มีคนขวางพวกเขาเอาไว้ แล้วถามว่า “พูดให้ชัดเจนหน่อย พวก อะไรกลับมา? ใครกลับมาแล้ว? พวกนายไปเจอเข้ากับอะไร?”
ชาวประมงที่กล้าหาญคนหนึ่งบนเรือดีพซีแซฟไฟร์ตะโกนว่า “เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์! เรือผีฟลาวเวอร์ฟอกซ์ มันกลับมาแล้ว! มันกลับมาจากนรกแล้ว!”
พวกชาวประมงต่างพากันส่ายหน้า หัวเราะอย่างไม่เชื่อว่า “พอเถอะ พวก นั่นก็เป็นแค่คำพูดเพ้อเจ้อของคนแฮลิแฟกซ์ที่ซวยแค่ไม่กี่คน พวกนายคงไม่เชื่อจริงๆ หรอกใช่ไหม?”
“บางทีพวกเขาอาจจะเห็นภาพลวงตาอะไรสักอย่าง ลอยอยู่บนทะเลนานเกินไป ก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ่อยๆ …โอ้!”
กัปตันเรือดีพซีแซฟไฟร์ยกมือถือขึ้น ในภาพที่วุ่นวาย มีซากเรืออับปางทรุดโทรมลำหนึ่งลอยอยู่บนคลื่นทะเล ตัวเรือเต็มไปด้วยสาหร่ายทะเล เปลือกหอยและโคลนทะเล ถ้ามองดูให้ดียังสามารถเห็นชื่อเรือ ‘เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์’ ที่ซีดจางได้ด้วย
กัปตันเรือตะโกนว่า “พวกนาย ไอ้พวกโง่ พระเจ้าจะช่วยให้พวกนายเจอเข้ากับเรือผีบัดซบนั่นแน่! ถือว่าพวกนายโชคดี ที่พวกนายเห็นแค่วิดีโอและภาพถ่าย พวกนายไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของวิญญาณ! ถือว่าเป็นโชคดีของพวกนายแล้ว ไอ้พวกเวร!”
พวกชาวประมงบนเรือตอบกลับว่า “ใช่แล้ว เสียงร้องไห้ของวิญญาณสาว! พระเจ้าช่วย ทำไมถึงได้มีของที่น่ากลัวขนาดนี้กัน?!”
“ฟังนะ อย่าได้คิดว่าพวกเราเป็นคนบ้า และอย่าคิดว่าพวกเราเป็นคนปอดแหก! กว่าเรือของพวกเราจะสลัดเรือผีได้ไม่ง่ายเลย ในตอนรุ่งเช้า รู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ เรือของพวกเราก็เสียโดยไม่ทราบสาเหตุ!”
“ฉันกล้าพนันเลย พวก นั่นจะต้องเป็นฝีมือของวิญญาณแน่! โชคดีเรือเสียตอนที่ฟ้าสว่างแล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่ส่องแสงอาทิตย์ลงมา! ไม่อย่างนั้น โอ้ พระเจ้าช่วย ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะไม่โอกาสได้เจอหน้าจิมน้อยลูกชายของฉันอีกแล้ว!”
ไม่เพียงแต่กัปตันเรือคนเดียวเท่านั้น คนบนเรือหลายคนต่างก็ใช้มือถือถ่ายรูปเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เอาไว้ แต่เป็นเพราะว่าตัวเรือถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวจากน้ำแข็งแห้ง ทำให้ภาพถ่ายไม่ค่อยชัดเจน แบบนี้ยิ่งเพิ่มความรู้สึกน่าขนลุกของเรือผีเข้าไปอีก
ไม่นาน คนในท่าเรือต่างก็ล้อมวงกันเข้ามา แม้แต่คนในฝ่ายควบคุมก็มาร่วมด้วย พวกเขาผลัดกันดูภาพถ่ายและวิดีโอในมือถือ คนที่ขี้กลัวสีหน้าขาวซีดไปแล้ว คนส่วนใหญ่วาดกางเขนบนหน้าอกไม่หยุด
“จอน พวกนายไปเจอเรือผีเข้าที่ไหน?!” มีคนถามอย่างตื่นกลัว
จอน กัปตันเรือดีพซีแซฟไฟร์แสดงสีหน้ารำลึกถึงเหตุการณ์ ชี้ไปทางน่านน้ำทะเลทิศเหนือว่า “แต่ว่าอยู่ตรงไหนฉันเองก็ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่านั่นเป็นทะเลที่เย็นยะเยือกผืนหนึ่ง! คลื่นลมบ้าคลั่งขนาดนั้น! คงจะเข้าใกล้ฟาร์มปลาเกาะแฟร์เวลของนิวฟันด์แลนด์แล้วมั้ง ใครจะไปรู้กันล่ะ? ตอนนั้นใครสนกันล่ะ?!”
ทะเลนิวฟันด์แลนด์ ฟาร์มปลาเกาะแฟร์เวล เรือผี เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ คำสำคัญที่เกี่ยวข้องก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่เกาะ จากนั้นก็แพร่ไปจนถึงแฮลิแฟกซ์
หลังชาวประมงบนเรือไก่ฟ้ามิกาโดได้ข่าวเรื่องนี้ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ตั้งแต่ที่พวกเขาปล่อยข่าวเรื่องเรือผี ก็ถูกผู้คนหัวเราะเยาะมาตลอด พวกเขาทำได้แต่หลบอยู่ในโรงแรมและใช้แอลกอฮอล์เพื่อมอมเมาตัวเองเท่านั้น
ตอนนี้ มีคนเห็นเรือผีอีกแล้ว และยังสามารถถ่ายรูปไว้ได้ด้วย มีหลักฐานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็สามารถเชิดหน้าชูตาขึ้นมาได้บ้างแล้ว
โรนัลด์กัปตันเรือไก่ฟ้ามิกาโดยืนอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งในร้านเหล้าแล้วบอกตำแหน่งน่านน้ำที่เรือผีปรากฏ “ตำแหน่งอยู่ทางทิศใต้ของฟาร์มปลาเกาะแฟร์เวล! ฉันกล้าพนันเลยว่า เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ที่น่าสงสารในตอนนั้น อับปางอยู่แถวโขดหินนั่นแน่!”
………………………………………………………………………