ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 861 นี่ไม่ใช่แมว
หู่จือกับเป้าจือวิ่งไปได้ครึ่งทางถึงรู้สึกว่าท่าจะไม่ดีแล้ว เพราะกวางฝูงนี้ไม่ได้วิ่งหนีเตลิดไป แต่กวางตัวผู้ขี้หงุดหงิดพวกนั้นกลับเอาหัวทิ่มดิน แล้วโกยเข้ามาทางนี้ตรงๆ…
พวกมันรู้ถึงความร้ายกาจของกวางอูฐ ในตอนที่ปอหลัวเพิ่งจะมาอยู่ที่ฟาร์มปลาก็เคยใช้วิธีการแบบนี้จัดการกับพวกมันบ่อยๆ กระทั่งฉงต้ายังเสียเปรียบ จนเคยโดนจับนั่งเครื่องบินบกมาแล้ว นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นานปอหลัวยังเคยใช้เทคนิคนี้จัดการกับมาสเตอร์
มาสเตอร์เต่าอัลลิเกเตอร์ที่จองหองขนาดนั้น ยังพบกับความพ่ายแพ้เช่นกัน!
ด้วยเหตุนี้ พอเห็นพลั่วบินมุ่งหน้าเข้ามาทางนี้ หู่จือกับเป้าจือจึงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย พวกมันหุบปากหมุนตัวกลับแล้ววิ่งหนีไปทันที
นี่คือเงามืดที่ปอหลัวทิ้งไว้ในใจของพวกมัน ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับเสือพวกมันก็กล้าสู้ ลูกวัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ พวกมันไม่เคยเห็นความร้ายกาจของเสือมาก่อน แต่พวกมันเคยพบกับความร้ายกาจของปอหลัวมาแล้ว และรู้ว่าพลั่วของกวางอูฐอันนี้น่ากลัวมากแค่ไหน
ในที่สุดฉงต้าก็ได้โอกาสแสดงความสามารถ พอฉินสือโอวตบก้นของมันแปะๆ ฉงต้าที่นั่งเล่นโคลนอยู่บนพื้นก็เปลี่ยนท่าทางให้สง่างามมีอำนาจทันที ร้องคำรามออกมาหนึ่งครั้งแล้วบุกออกไป ไขมันส่วนเกินสั่นกระเพื่อมไปทั่วทั้งตัว ประกายดุร้ายฉายออกมาจากดวงตา!
เป็นคราวของกวางอูฐที่ต้องหวาดกลัวแล้ว เหล่ากวางอูฐรู้ถึงความร้ายกาจของหมีสีน้ำตาล หมีสีน้ำตาลคือจอมเผด็จการบนเทือกเขาเคอร์บัล พบผู้ใดทำลายผู้นั้น!
พอฉงต้าวิ่งออกไป พวกกวางอูฐก็หนีบหางวิ่งเข้าไปในป่าทันที มีกวางสองตัวซื่อบื้อวิ่งไปผิดทิศทาง ฉินสือโอวจึงลุกขึ้นยืนง้างคันธนูแล้วยิงออกไป ส่วนแบล็คไนฟ์ยิงปืนจัดการกวางอีกตัว กวางอูฐสองตัวนี้เป็นผลสำเร็จของพวกเขา
เบิร์ดพูดขึ้นมาอย่างหมดปัญญาว่า “ฉงต้าควรจะอ้อมไปให้ถึงข้างหน้าแล้วค่อยเผยตัว ให้ตาย แบบนี้มีแต่จะทำให้พวกมันตกใจจนวิ่งหนีไป”
ฉินสือโอวพูดอย่างจนปัญญายิ่งกว่าว่า “ไม่เห็นเหรอว่ามันเป็นสถานการณ์คับขัน? ถ้าฉงต้าไม่โผล่หน้าออกไป หู่จือกับเป้าจือคงโดนกวางพวกนั้นฆ่าตายแล้ว!”
หู่จือกับเป้าจือวิ่งกลับมาพร้อมใบหน้าเศร้าโศก เมื่อกี้มันน่าอับอายมาก น่าอับอายจริงๆ เลย
ฉินสือโอวตบหัวของสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเบาๆ เพื่อปลอบโยนพวกมัน สุนัขแลบราดอร์อายุยังไม่ถึงสองขวบเป็นช่วงที่มีความอ่อนไหวมาก ตอนนี้พวกมันต้องการให้เจ้าของช่วยสร้างความมั่นใจให้มันอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นต่อไปไม่ว่าจะทำอะไรก็จะรู้สึกไม่มีความมั่นใจ
พอคิดอย่างนี้ หรือว่าหมาบ้านธรรมดาๆ จะดีกว่า เจ้าของไม่ต้องดูแลอะไรทั้งสิ้น กินอึก็โตขึ้นมาได้ สุนัขพันธุ์อเมริกาพวกนี้ อย่าว่าแต่เรื่องที่มักจะป่วยบ่อยๆ แต่พวกมันยังเจ็บป่วยทางด้านจิตใจได้ง่ายอีกด้วย ฉินสือโอวเองก็จนปัญญาแล้วเหมือนกัน
วางกวางอูฐทั้งสองตัวลงไปบนแคร่เลื่อนหิมะ อีวิลสันเดินลากไปด้านหลังเหมือนเล่นสนุก บุชหมุนๆ ตัว แล้วบินออกไปทางทิศทางหนึ่ง
ฉินสือโอวส่ายหัวไปมา เอาล่ะ ครั้งนี้ล่าสัตว์ถึงเท่านี้ก็พอแล้ว ถ้ายังฆ่าต่อ คาดว่าฝูงหมูป่ากวางป่าคงจะต้องสูญพันธุ์แล้ว มีบุชคอยนำการล่าสัตว์ มันขี้โกงเกินไปจริงๆ
ลงเขาหลังหิมะตกเป็นเรื่องยากมาก พื้นถนนลื่นเกินไป ถ้าไม่ระวัง อาจจะเป็นอันตรายครั้งใหญ่ ฉินสือโอวจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง
ระหว่างทางพวกเขาพบกับนักล่าสัตว์จำนวนสองกลุ่ม ทุกคนล่าสัตว์มาได้ไม่มาก ดีหน่อยก็ได้กวางป่ามาหนึ่งตัว ถ้าโชคไม่ดีก็ได้กระต่ายป่าไก่ป่าอะไรพวกนั้นมาเหน็บไว้ที่เอวตัวหนึ่ง แล้วยังมีกระรอกที่จับมาได้อีกตัว…
บุชค้นพบสัตว์ป่าอย่างไม่ขาดสาย พอเห็นว่าฉินสือโอวไม่ไปล่าสัตว์แล้ว มันจึงรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา แล้วลงมือจัดการเองเสียเลย
นกอินทรีหัวขาวเป็นเทพพระเจ้าในหมู่นกอินทรี เนื่องจากพวกมันไม่เพียงแต่มีความรวดเร็ว มีอารมณ์รุนแรง แต่ยังมีพละกำลังมาก กรงเล็บทั้งสองข้างสามารถจับเหยื่อหนักยี่สิบกิโลกรัมขึ้นมาได้ นี่เป็นสิ่งที่สัตว์ปีกนิสัยดุร้ายชนิดอื่นเทียบกับมันไม่ได้
นกอินทรีทองก็เก่งไม่ใช่เหรอ? แต่ความสามารถในการรับน้ำหนักของมันมีไม่ถึงหนึ่งพันกรัม พวกมันทำได้แค่ตัดเหยื่อออกเป็นส่วนๆ บนพื้น กินเนื้อดีๆ กับหัวใจ ตับ ปอดกับอวัยวะภายในส่วนอื่นๆ เข้าไปก่อน หลังจากนั้นค่อยแบ่งส่วนที่เหลือออกเป็นสองส่วน แล้วนำกลับไปเก็บไว้ในที่อยู่อาศัยเป็นชุดๆ
แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นนกอินทรีหัวขาวก็จะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะจัดการยังไง ฉันจับกลับไปก็พอแล้ว!
ดังนั้น ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจึงมีคนที่กังวลว่านกอินทรีหัวขาวจะโจมตีมนุษย์ เพราะพวกมันสามารถจับเด็กเล็กไปได้
โชคดีที่นกอินทรีหัวขาวไม่สนใจอาหารที่มีขนาดใหญ่ ทั้งยังมีสติปัญญาสูงอีกต่างหาก พวกมันรู้ว่าการโจมตีมนุษย์จะเป็นชนวนให้เกิดการโต้ตอบจนถึงแก่การสูญพันธุ์ ดังนั้นพวกมันจึงอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสงบสุขมาโดยตลอด
บุชเริ่มแสดงความสามารถในการล่าสัตว์ที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นของมันออกมา เดี๋ยวจับกระต่ายมาทิ้งไว้ อีกเดี๋ยวก็จับเป็ดป่ากลับมาทิ้งไว้ ในระหว่างนั้นยังจับลูกกวางเรนเดียร์กลับมาด้วยหนึ่งตัว ลูกกวางเรนเดียร์ตัวนั้นตกใจกลัวจนฉี่แทบราดแล้ว คาดว่ามันน่าจะเป็นกวางเรนเดียร์ตัวแรกที่เคยบินอยู่บนท้องฟ้าแล้วยังไม่ตายแต่ยังมีชีวิตอยู่ต่อใช่หรือเปล่า?
ฉินสือโอวปรามความกระตือรือร้นในการล่าสัตว์ของบุชไม่ได้ ทุกครั้งที่มันบินกลับมาเขาจะรับเหยื่อไว้พร้อมกับแสดงความขอบคุณออกมา หลังจากนั้นจึงกอดบุชไว้แล้วจัดแต่งขนให้มันไปด้วย
ช่วยสัตว์วงศ์นกอินทรีจัดแต่งขน เป็นวิธีเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด
หลังจากใกล้จะถึงตีนเขา บุชก็บินกลับมาอีกครั้ง ในกรงเล็บมีแมวขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่หนึ่งตัว ขนของแมวตัวนี้เป็นสีเหลืองอ่อน มีจุดสีเทาอ่อนอยู่ด้านบน ร่างกายค่อนข้างผอมบาง ขาทั้งสี่ข้างเรียวยาว ใบหน้าเล็กกลม ตอนถูกโยนลงมาบนพื้นใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าตกใจจนแทบแย่แล้ว
คาดไม่ถึงว่าจะเห็นบุชจับแมวกลับมา คิ้วของฉินสือโอวขมวดขึ้น เขาไม่รู้ว่านี่เป็นแมวของบ้านไหน เลี้ยงไหวหรือเป็นแมวป่า แต่จะสอนบุชให้มีพฤติกรรมอย่างการจับสัตว์ปีกหรือสัตว์เลี้ยงในบ้านไม่ได้ ไม่อย่างนั้นในเมืองนี้จะมีใครกล้าเลี้ยงสัตว์กันล่ะ?
ฉินสือโอวอุ้มลูกแมวที่กำลังตกใจกลัวขึ้นมาช่วยสางขนสากๆ ของมันให้เป็นระเบียบ แล้วให้บุชบินลงมายืนอยู่บนแคร่เลื่อนหิมะ เขาตำหนิมันว่า “ไม่อนุญาตให้จับแมวกับหมาไม่ใช่เหรอ? อนุญาตให้จับแค่หมูป่า กวางป่า กระต่ายป่ากับไก่ป่า ต่อไปถ้าจับสัตว์เลี้ยงมาอีก กลับไปจะไม่ให้อาหารกินนะเข้าใจไหม?”
บุชจ้องมองฉินสือโอว มันโบกสะบัดปีกพร้อมกับร้องแกว๊กๆ ออกมาโครงคิ้วเต้นตุ้บๆ นี่คือท่าทางที่แปลว่ามันกำลังโมโห
เห็นว่าบุชไม่เชื่อฟัง ฉินสือโอวเลยยิ้มออกมา แม่เอ็ง เดี๋ยวกลับบ้านไปจะให้วินนี่จัดการตัวแสบแบบแก
ฉินสือโอวปลอบโยนลูกแมวขนาดกลาง เขาดูไม่ออกว่ามันเป็นพันธุ์อะไร เหมือนแมวพื้นบ้านที่บ้านเกิดอยู่นิดหน่อย แต่หางของมันทั้งสั้นทั้งหยาบ ปลายหางกลมทู่ จุดนี้ก็ไม่เหมือนกับแมวพื้นบ้านที่บ้านเกิดเช่นกัน
“มีใครรู้ไหมว่านี่คือแมวอะไร? เป็นแมวที่หนีออกมาจากบ้านหลังไหนในเมืองนี้หรือเปล่า?” ฉินสือโอวถาม
ชาร์คลองเข้ามาดู แล้วพูดด้วยท่าทีระมัดระวังว่า “บอส ที่คุณอุ้มอยู่ในอกนั่นไม่ใช่แมวนะครับ มันคือแมวป่า!”
ฉินสือโอวตะลึงไปชั่วครู่ เขายกลูกแมวที่กำลังทำตัวออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเขาขึ้นมาแล้วพูดอย่างงงงันว่า “เจ้านี่ คือแมวป่า?!”
รูปร่างภายนอกของแมวป่าคล้ายกันกับแมว ทว่ามีขนาดใหญ่กว่าแมวอยู่มาก เป็นสัตว์ป่าขนาดกลาง ชอบสภาพแวดล้อมที่มีอากาศหนาวเย็น มักจะซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกบนภูเขาสูง พบได้บ่อยในพื้นที่แบบป่าสนเขตหนาวเย็นและแห้งแล้ง ต้นสนเขตหนาวและป่าผสมใบกว้างไปจนถึงทุ่งหญ้าทุนดราอัลไพน์กับทุ่งหญ้าอัลไพน์
นี่เป็นนักล่าที่ยอดเยี่ยมมาก ชำนาญในการวิ่ง การกระโดดและการปีนป่ายไปจนถึงการว่ายน้ำ อดทนต่อความหิวได้เป็นอย่างดี มีความอดทน เพื่อที่จะจับเหยื่อมันสามารถหมอบอยู่ในที่ใดที่หนึ่งโดยไม่ขยับตัวได้เป็นเวลาหลายคืน ทั้งยังทนทานต่ออากาศหนาว โอหังมีพละกำลังและความกล้าหาญ เป็นนักรบที่มีความเหนือชั้นโดยกำเนิด
ครั้งแรกที่ฉินสือโอวพาเหมาเหว่ยหลงมาเทือกเขาเคอร์บัล เขาก็เคยพบแมวป่าหนึ่งตัว เพียงแต่ว่าเจ้าตัวนั้นเป็นแมวใหญ่ขนาดความยาวของลำตัวราวๆ หนึ่งเมตร ในตอนนั้นมันมีท่าทางน่าเกรงขามยำเกรง มองแค่แวบเดียวฉินสือโอวก็มองออกแล้ว
ส่วนนี่น่ะเหรอ? ตัวเล็กนิดเดียวก็เท่านั้น บนหูยังไม่มีหย่อมขนสีเข้มที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นถึงจะเป็นขนนกยูงประดับหมวกของขุนพล ไม่มีของพวกนั้นยังสามารถเรียกว่าแมวป่าได้อยู่อีกเหรอ?
ถูกฉินสือโอวหิ้วหลังคอไว้ ตาดวงโตของเจ้าตัวเล็กจ้องมองฉินสือโอวอย่างน่าเอ็นดู สีหน้าท่าทางดูบริสุทธิ์ไร้พิษภัย เมื่อลมหนาวพัดมามันก็ตัวสั่น ยื่นอุ้งเท้าแล้วดิ้นน้อยๆ เพื่อที่จะมุดเข้าไปในอ้อมอกของฉินสือโอว
เบิร์ดกับคนอื่นๆ ที่เข้ามามุงดู พูดอย่างชี้ขาดว่า “ใช่แล้วครับ บอส นี่ไม่ใช่แมว นี่คือแมวป่า! ลูกแมวป่าที่เพิ่งหย่านม!”
……………………………………………………..