ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 862 ซิมบ้า
เมื่อถูกคนจำนวนมากห้อมล้อม ทั้งยังมีสุนัขสองตัว หมีหนึ่งตัวกับหมาป่าอีกหนึ่งตัว ลูกแมวป่าก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที พอโบกอุ้งเท้าเล็ก เล็บสีชมพูแต่ละกีบก็ดีดออกมาอย่างน่ามหัศจรรย์…
ฉินสือโอวกลัวว่าจะโดนมันตีจนเจ็บ จึงวางมันลงบนพื้น พออุ้งเท้าของลูกแมวป่าแตะลงบนพื้น หางสั้นๆ ของมันก็กวัดแกว่ง แล้ววิ่งขึ้นไปบนรองเท้าของฉินสือโอวด้วยความรวดเร็ว ต่อจากนั้นจึงใช้อุ้งเท้าเล็กๆ ทั้งสี่ข้างจับกางเกงของเขา ทั้งปีนทั้งกระโดดขึ้นไปจนถึงหน้าอกของฉินสือโอวอย่างรวดเร็ว แล้วค่อยมุดเข้าไปด้านในเสื้อผ้า
“ว้าว มันถือว่าบอสเป็นแม่ของมันแล้ว?” ชาร์คร้องท้วงขึ้นมา
แบล็คไนฟ์กลอกตาใส่ เขาพูดว่า “โทษทีนะ ต้องเป็นพ่อถึงจะถูกหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวหมดคำจะพูด เขาทำได้แค่กอดดึงลูกแมวป่าในอ้อมแขนเอาไว้ แล้วพูดขึ้นมาอย่างจนปัญญาว่า “ตอนนี้ใครบอกฉันได้บ้างว่ามันเรื่องอะไรกัน?”
เบิร์ดวิเคราะห์ให้เขาฟังว่า “ชัดเจนมากครับ ระหว่างที่บุชจับแมวป่าทำให้มันตกใจกลัวจนขวัญเสีย เมื่อสักครู่บอสอุ้มมันขึ้นมาแล้วกอดให้ความอบอุ่นกับมัน จากการวิจัยด้านจิตวิทยาของฟรอยด์ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ลูกสัตว์ป่าจะเกิดความรู้สึกไว้ใจผู้ที่ให้การปกป้องโดยไม่รู้ตัว เอาล่ะผมแต่งต่อไปไม่ได้แล้ว ใครรู้บ้างว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
คนทั้งกลุ่มกางแขนออก ตอนนี้ดูเหมือนว่า ลูกแมวป่าตัวนี้คงจะติดฉินสือโอวเข้าแล้ว
ฉินสือโอวไม่ถือสาที่ที่บ้านจะเลี้ยงสัตว์เพิ่มอีกหนึ่งตัว ถึงอย่างไรวินนี่ก็จะคลอดลูกแล้ว ถือซะว่าเตรียมเพื่อนเล่นไว้ให้ลูกก็ดีเหมือนกัน แต่ปัญหาคือ นี่คือลูกแมวป่า แม่แมวป่าไม่เจอลูกแล้ว คงจะร้อนใจแน่ๆ ใช่ไหม?
ดังนั้นฉินสือโอวจึงทำได้แค่มองไปที่บุช แล้วเอ่ยถามมันว่า “แกพาเด็กนี่มาจากที่ไหน?”
บุชเงยหน้ามองฟ้าอย่างงงงวย มันร้องแกว๊กๆ แกว๊กๆ อยู่หลายครั้ง เสียงก็ยิ่งเบาลงไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดมันจึงกลับหลังหัน แล้วยัดหัวลงไปในปีกมันซะเลย
“ฟัค! เจ้าทึ่ม!” ฉินสือโอวหมดคำจะพูดอีกครั้งแล้ว
เขาวางลูกแมวป่าลงบนพื้นเพื่อปล่อยให้มันกลับบ้าน ลูกแมวป่ากะพริบตาดวงโตอย่างมัวๆ มันปีนขึ้นไปบนอ้อมอกเขาด้วยความปราดเปรียวอีกครั้งทันที
สมกับที่เป็นนักล่าวงศ์เสือและแมวระดับสูง ความสามารถในการปีนป่ายของลูกแมวป่าเหนือชั้นมากจริงๆ ปีนขึ้นมาบนร่างกายของฉินสือโอวได้ง่ายดายเหมือนเดินบนพื้นราบเรียบ
ฉินสือโอวเลยต้องวางมันลงบนไหล่ หวังว่าแม่แมวป่าจะหามันเจอ ทว่าเจ้าตัวเล็กไม่ชอบความหนาว มันจึงปีนลงไปแล้วมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง
ช่วยไม่ได้แล้ว ฉินสือโอวต้องพาลูกแมวป่ากลับฟาร์มปลาด้วยกัน
เมื่อกลับมาถึงวิลล่า วินนี่กำลังสั่งให้พวกชาวประมงไปจัดการเก็บอาหารป่าที่นำลงมาจากภูเขาให้เป็นระเบียบ หมูป่ากับกวางป่าตัวใหญ่ต้องเอาไปวางไว้ในห้องแช่เย็น
ในห้องแช่เย็นน่าจะยัดตัวอ่อนดักแด้ไว้หลายร้อยกิโลกรัม ใช้น้ำเกลือหมักเอาไว้ทั้งหมดแล้วหลังจากนั้นจึงนำไปแช่แข็ง ต้องระวังให้ดีจะไปโดนมันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะจัดการได้ยาก ของชิ้นเล็กถ้ากลิ้งไปก็ไร้ร่องรอยแล้ว ถ้าหาไม่เจอตอนนี้ ต่อไปมันจะเน่าเปื่อย
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับห้องเย็นคือมีของเน่าเสียอยู่ข้างใน ของเน่าเสียหมายความว่ามีจุลินทรีย์อยู่ นั่นจะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ จนทำให้ของอย่างอื่นเกิดการปนเปื้อน
ลูกหมูป่ากับลูกกวางถูกขังไว้ในฟาร์มหมดแล้ว ตอนนี้ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็กมีฝูงหมูบ้านอยู่ข้างในหนึ่งฝูง ซึ่งก็ไร้พลังโจมตีกันทั้งสองฝ่าย พื้นที่ก็กว้างใหญ่มากพอ จึงสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีไมตรีสุข
ตอนนี้ความยับยั้งชั่งใจของฉินสือโอวแสดงผลประโยชน์ออกมาแล้ว หมูพันธุ์พื้นบ้านที่เขาเอามาจากบ้านเกิดยังเหลืออยู่สองคู่ พ่อหมูสองตัวกับแม่หมูอีกสองตัว แม่หมูล้วนแต่ผสมพันธุ์แล้วทั้งคู่ เขาพบว่าแม่หมูตั้งท้องเมื่อเดือนกันยายน คาดว่าสิ้นเดือนหรือไม่ก็ต้นเดือนหน้า ก็จะคลอดลูกหมูออกมาแล้ว
หมูใหญ่คลอดลูกหมู ส่วนลูกหมูก็จะคลอดลูกหมูตัวเล็กๆ ออกมาอีก ฉินสือโอวคิดว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้สามารถเชื่อมโยงต่อกันไปเป็นลูกโซ่ได้อย่างมากมายไร้ขอบเขต
วินนี่เห็นเสื้อผ้าของฉินสือโอวมีหิมะกับพวกดินโคลนใบไม้ติดอยู่เต็มไปหมด เธอจึงแสดงท่าทีบอกให้เขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ฉินสือโอวกะพริบตาปริบๆ เขานำเสื้อผ้าไปวางไว้ในอ้อมอกของเธอ แล้วพูดกับเธอว่า “ข้างในมีเรื่องเซอร์ไพรซ์อยู่ ลองเดาดูสิว่ามันคืออะไร?”
วินนี่แย้มรอยยิ้มพร้อมกับเปิดเสื้อผ้าออก ลูกแมวป่ามุดหัวออกมา มองดูลักษณะท่าทางของวินนี่ พร้อมกับสูดจมูกเล็กๆ สีดำของมัน จากนั้นก็วิ่งพล่านออกไปด้วยความรวดเร็วทันที มันมุดเข้าไปในอ้อมอกของวินนี่ อีกทั้งมันยังหาที่สบายๆ ตรงบริเวณหน้าอกเจอแล้วด้วย ที่ที่นุ่มๆ ที่ที่ร้อนๆ…
ทันใดนั้นฉินสือโอวก็รู้สึกเคียดแค้นขึ้นมา เขานึกว่าที่เจ้าตัวเล็กมุ่งมั่นจะนอนหมอบอยู่ในอ้อมอกเขาเมื่อก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเขามีลมหายใจของเทพโพไซดอนอยู่บนร่างกาย ตอนนี้ดูท่าว่า เขาคงคิดไปเองฝ่ายเดียวซะแล้ว
“ว้าว น่ารักจริงๆ เป็นลูก ลูก ลูก นี่คือลูกของแมวป่าใช่ไหมคะ?” วินนี่ร้องขึ้นมาด้วยความประหลาดใจและดีใจก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นถึงได้รู้สึกงงงันขึ้นมา
ฉินสือโอวค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าวินนี่จะดูออกว่านี่คือแมวป่า? ฟัค ทำไมมีแต่เขาที่มองไม่ออกตั้งแต่แวบแรก?
วินนี่ชี้ไปที่ขนบนหูสีดำเล็กๆ ยาวๆ ของเจ้าตัวนี้พร้อมกับพูดว่า “ดูนี่สิ นี่คือเอกลักษณ์ของแมวป่ายังไงล่ะ”
ฉินสือโอวเข้ามาดูใกล้ๆ ก่อนหน้านี้เขาไม่ทันสังเกตจริงๆ ที่แท้เจ้าตัวเล็กก็มีขนหูยาวออกมาแล้ว
เชอร์ลี่ย์กับเด็กคนอื่นๆ เลิกเรียนแล้ววิ่งกลับเข้ามา พอเข้ามาในบ้านก็เห็นฉินสือโอวกำลังฟุบอยู่บนหน้าอกของวินนี่ เด็กสาวแบะปากใส่ ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธอพูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้มีเยาวชนอยู่ด้วย ดังนั้นนะฉิน รบกวนระวังด้วยค่ะ โอเคไหมคะ?”
ฉินสือโอวหันกลับไปพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “คิดอะไรเลอะเทอะ? ยังเด็กยังเล็กทำไมถึงได้มีแต่ความคิดทะลึ่งๆ อยู่ในหัว ฉันกำลังดูนี่…อืม มาดูสิ วันนี้ฉันเก็บลูกแมวมาหนึ่งตัว”
เขาอยากแกล้งเด็กพวกนี้เล่น
เด็กสาววิ่งเข้ามาดู หลังจากนั้นก็มองฉินสือโอวด้วยความเวทนาแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ค่ะ ฉิน นี่ไม่ใช่ลูกแมว นี่คือลูกแมวป่า พวกมันกินลูกแมวนะคะ ไร้อายธรรม น่ากลัวจริงๆ”
ฉินสือโอวหมดอาลัยตายอยากแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันวะเนี่ย? ทำไมใครๆ ก็รู้จักเจ้าตัวนี้ มีแค่เขาคนเดียวที่ไม่รู้จักหรือไง? แม้กระทั่งเชอร์ลี่ย์ยังรู้ว่านี่คือแมวป่า?!
ต่อจากนั้นพาวลิสจึงอธิบายให้เขาฟังว่า “พวกเราเพิ่งจะเรียนเรื่องสัตว์วงศ์เสือและแมวมาจากวิชาการศึกษาธรรมชาติ บนหนังสือมีรูปแมวป่าอยู่ ในวิดีโอของสื่อการสอนก็มี ดังนั้นพอมองเห็นหางสั้นๆ กับขนหูของมัน เลยดูออกได้ง่ายๆ ครับ”
ขนหูคือขนสีดำยาวเรียวบางส่วนที่อยู่บนปลายหูของแมวป่า ของพวกนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อประดับ แต่สามารถเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่มาของเสียงได้ตลอดเวลา เป็นประโยชน์ต่อการเก็บรวบรวมคลื่นเสียง ถ้าสูญเสียไปจะส่งผลกับความสามารถในการได้ยินของแมวป่า เป็นสิ่งที่สำคัญต่อสัตว์ชนิดนี้มาก
ทว่าก็เป็นขนหูพวกนี้แหละ ที่เคยทำให้ตระกูลแมวป่าเกือบจะสูญพันธุ์ หลังยุคกลางในช่วงหนึ่งที่ใกล้จะถึงยุคมืด แมวป่าถูกนับว่าเป็นสัตว์ที่อันตรายจึงถูกผู้คนในยุโรปล่าอย่างกว้างขวาง
ในตอนนั้นนอกจากจะคิดว่าพวกมันคุกคามสัตว์เลี้ยง ก็ยังเป็นเพราะขนสีดำที่อยู่บนหูของพวกมัน ที่ถูกผู้คนจินตนาการจนคิดไปเองว่าเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ นึกว่าพวกมันเป็นสัตว์ร้ายที่ ‘ซาตาน’ เลี้ยงไว้ จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังมีคนเชื่อว่า แมวป่าคืออีกร่างหนึ่งของหมานรกสามหัวที่เดินอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์
แมวป่าคือสัตว์วงศ์เสือและแมว เป็นเหมือนญาติห่างๆ ของสัตว์ตระกูลแมว พวกมันไวต่อความรู้สึก ละเอียดอ่อนแต่ขี้ขลาด เพื่อที่จะหลบหลีกการสังหาร พวกมันทำได้เพียงแค่หลบอยู่ในป่าลึกบนภูเขาสูงด้วยใจหวาดหวั่น แต่พอถึงศตวรรษที่ 19 จนถึงที่สุดแล้วสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ในหลายประเทศของทวีปยุโรปก็ถูกสังหารจนราบเรียบ
วินนี่เป็นชาวคริสต์ เธอรู้จักเรื่องราวในอดีตช่วงนั้น จึงรู้สึกรักและสงสารลูกแมวป่าอย่างเต็มเปี่ยม พอเอามากอดไว้ในอ้อมอกเธอก็เรียกมันว่าเป็นลูกรัก ทั้งยังเข้าไปในครัวเพื่อเทนมวัวอุ่นๆ มาให้มันอีกด้วย
พอมองเห็นนมวัว ในที่สุดลูกแมวป่าก็ยอมออกห่างจากอ้อมกอดอบอุ่น มันกระโดดลงมาเลียนมวัวอย่างมีความสุขเหมือนกันกับลูกแมวที่กำลังเลียน้ำ หลังจากเลียได้สักพักมันยังใช้หัวของมันถูๆ วินนี่อีกด้วย
พอเห็นอย่างนั้นฉินสือโอวจึงรู้ว่าตัวเองแย่แล้ว เจ้าตัวเล็กตัวนี้อย่าได้ฉลาดไปมากกว่านี้เลย ตอนนี้เป็นเพราะวินนี่กำลังตั้งท้องอยู่แถมสัญชาตญาณความเป็นแม่ยังปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง เยี่ยมเลย ที่บ้านกำลังจะมีลูกชายเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
เป็นเช่นนั้นจริงๆ วินนี่ตามไปถามฉินสือโอวว่าเขาได้ตั้งชื่อให้เจ้าตัวเล็กแล้วหรือยังทันที ฉินสือโอวต้องยอมปล่อยโอกาสให้วินนี่อยู่แล้ว จะทำตัวเหมือนคนไม่มีตาไม่ได้
วินนี่ฟุบอยู่บนโต๊ะพร้อมกับจ้องมองลูกแมวป่าที่กำลังดื่มนมวัวอย่างมีความสุข หลังจากคิดดูอยู่พักหนึ่ง เธอก็กระโดดโลดเต้นร้องตะโกนเหมือนเด็กผู้หญิงว่า “เรียกว่าซิมบ้าดีไหมคะ? ราชาเจ้าป่าซิมบ้า!”
…………………………………………………..