ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 881 รมควันปลาได้
ประกอบเครื่องจักรขึ้นมาแล้ว ยังมีร้านที่เป็นช่องทางจำหน่ายในไมอามีและนิวยอร์ก ฉินสือโอวจะผลิตปลาโอแถบแห้งแค่เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ ต้องรู้ว่าสายการผลิตทั้งสองสายนี้ ในหนึ่งวันสามารถจัดการปลาโอแถบได้ถึงหนึ่งตัน!
ความเก่งกาจของการผลิตสินค้าสมัยใหม่ขึ้นอยู่กับกระบวนการใช้เครื่องจักรกลอย่างเต็มรูปแบบ อุปกรณ์ชุดนี้มีมูลค่าแปดแสนดอลลาร์ ใช้แค่แรงงานมือในการนำปลาโอแถบมาวางไว้บนสายพาน งานส่วนที่เหลือเครื่องจักรจะรับหน้าที่ทำงานเอง
นายช่างบอกกับฉินสือโอวว่า “คุณครับ เครื่องอบแห้งของเราเป็นเครื่องจักรระดับสูงที่สุด ไม่เพียงแต่สามารถทำปลาโอแถบแห้งได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถทำปลาแห้งชนิดอื่นได้อีกด้วย คุณควบคุมระดับความแรงของลมกับระดับกำลังการอบได้เอง ไม่ว่าปลาแห้งชนิดไหนก็ทำได้ทั้งนั้น”
ยังไม่ได้ออกทะเลไปจับปลาโอแถบ ฉินสือโอวผิวปากเรียกชาร์คแล้วพูดกับเขาว่า “นายไปที่ห้องแช่เย็นหน่อย ฉันจำได้ว่ามีปลาแมคเคอเรลอยู่บางส่วนใช่ไหม? ลองชิมรสชาติของปลาแมคเคอเรลแห้งหน่อยแล้วกัน”
ชาร์คขับฟอร์ดเอฟ 650 ที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจออกไปข้างนอกรอบหนึ่ง แล้วกลับมาที่นี่ ในกระบะรถมีปลาแมคเคอเรลที่กลายเป็นน้ำแข็งอยู่หลายกล่อง
นายช่างมองดูรถกระบะซูเปอร์ทรัคที่ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นราวกับไดโนเสาร์แรปเตอร์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ เขาส่ายหัวแล้วพูดขึ้นมาว่า “ให้ตายเถอะพวกคนรวย รถคันนี้มันสุดยอดจริงๆ แต่พวกคุณกลับเอามันมาใช้ทำงานเนี่ยนะ? มันควรจะได้ไปวิ่งโชว์อยู่บนถนนต่างหาก”
ฉินสือโอวเดินๆ ไปพร้อมกับหันหน้ามาพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่หรอก นี่ก็แค่กระบะคันหนึ่ง ต้องใช้มันทำงานสิ”
ปลาแมคเคอเรลในกล่องถูกสับหัวกับหางออก หลังจากนั้นจึงนำไปแช่แข็งได้สักช่วงหนึ่งแล้ว จับขึ้นมาเมื่อเดือนกรกฎาคม แล้วจึงเก็บสต๊อกไว้ในห้องแช่เย็นมาโดยตลอด
ฤดูกาลตกปลาชนิดนี้อยู่ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน พวกมันไล่จับสัตว์จำพวกหมึกกับปลาและกุ้งตัวเล็กๆ เพื่อเป็นอาหาร ปลาแมคเคอเรลที่จับขึ้นมาในเดือนกรกฎาคมล้วนแต่เป็นสินค้าคุณภาพดี เนื้อของพวกมันจะมีความอร่อยนิ่มนวลที่สุด
ตอนที่จับขึ้นมาได้ฉินสือโอวก็เคยคิดที่จะนำออกไปจำหน่ายเช่นกัน แต่ดันนึกเรื่องอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินขึ้นมาได้ก่อน จึงได้แต่เก็บมันเอาไว้ในห้องแช่เย็น แล้ววางแผนไว้ว่าจะนำมาขายในช่วงฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลิ
ปลาแมคเคอเรลเป็นปลาอพยพในทะเลน้ำอุ่นใกล้ชายฝั่ง ฤดูหนาวอากาศหนาวเกินไป พวกมันจะออกจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแล้วไปที่น่านน้ำบริเวณเส้นศูนย์สูตร ช่วงเวลานี้จะได้ราคาดีที่สุด ปลาแมคเคอเรลคุณภาพดีหนึ่งตัว สามารถขายได้หลายพันดอลลาร์
ในมหาสมุทรมีสิ่งของล้ำค่าอยู่นับไม่นับถ้วน ไม่ใช่แค่ปลาทูน่าเท่านั้นที่มีมูลค่า
แน่นอนว่า ปลาแมคเคอเรลที่ขายได้หลายพันดอลลาร์ ไม่ใช่ปลาที่มีขนาดไม่ถึงครึ่งเมตรพวกนั้น แต่เป็นปลาใหญ่ที่มีความยาวถึงหนึ่งเมตรครึ่งและมีน้ำหนักถึงห้าสิบกิโล
ปลาที่ชาร์คเอาออกมาจากห้องแช่เย็น มีขนาดราวๆ ครึ่งเมตร น้ำหนักประมาณสองกิโลครึ่งถึงสามกิโล นี่เป็นปลาแมคเคอเรลขนาดเล็ก
ผลการเก็บเกี่ยวปลาแมคเคอเรลเมื่อก่อน จะถูกแบ่งตามขนาดตัว ใช้กล่องเล็กใหญ่ที่มีขนาดแตกต่างกันในการบรรจุหีบห่อ ปลาชนิดนี้ไม่เหมือนกับปลาทั่วๆ ไป ยิ่งตัวโตมันก็จะยิ่งอร่อย ส่วนเนื้อปลาตัวเล็กกลับไม่นุ่มละเอียดและมันอร่อยพอด้วยซ้ำ
มองดูปลาตัวอ้วนที่ถูกสับหัวกับหางทิ้ง ฉินสือโอวส่ายหัวแล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เพื่อน ทำไมคนแคนาดาถึงไม่ชอบกินหางปลากันล่ะ?”
ไม่ใช่แค่ปลาแมคเคอเรล แต่ยังมีปลาทูน่าด้วย เวลาที่ชาวแคนาดาขายปลาพวกนี้ก็จะหั่นหางทิ้งทั้งหมด ถึงจะไม่เอาเครื่องในออก แต่หางต้องตัดทิ้งไปให้หมด
เบิร์ดยักไหล่น้อยๆ แล้วถามเขาว่า “หางปลามีอะไรอร่อยกันล่ะครับ? เนื้อก็เยอะไม่พอ”
ฉินสือโอวใช้ภาษาจีนพูดขึ้นมาว่า “ที่บ้านเก่าของพวกเรามีคำพูดประโยคหนึ่ง ที่ว่าบนเขามีกวางกับนกกระทา มหาสมุทรมีปลาแมคเคอเรลหอมล้ำ อีกทั้งส่วนที่หอมที่สุดของปลาแมคเคอเรลก็คือหางของมัน”
ชาร์คพูดไปพร้อมกับขนกล่องลงมา “ไม่นะ บอส ในหางปลามักจะมีปริมาณโลหะหนักเกินมาตรฐานที่กำหนด แต่ปลาที่พวกเราขายเป็นปลาที่เหมาะกับเด็กแล้วก็ผู้หญิง”
ฉินสือโอวกำลังจะนำปลาวางลงไปบนสายพาน นายช่างก็แนะนำเขาว่า “ไม่ๆ เถ้าแก่ รอก่อนครับ ต้องรอจนน้ำแข็งละลายก่อน คุณอยากจะทำปลาแห้งหรือปลารมควันครับ? ถ้าทำปลาแมคเคอเรลรมควัน แบบนั้นจะทำให้รสชาติอร่อยจนพระเจ้าน้ำลายไหลเลยล่ะ”
เครื่องจักรถูกออกแบบมาเพื่อทำปลาโอแถบแห้ง สามารถผลิตปลาแห้งได้สองรสชาติคืออาระบุชิและฮอนคาเระบูชิ อาระบุชิคือปลารมควัน และปลาแมคเคอเรลก็เหมาะกับการทำปลารมควันจริงๆ
วางปลาแช่แข็งแต่ละกล่องไว้ด้านนอกโกดัง ฉินสือโอวให้ชาร์คจัดคนให้ รอจนน้ำแข็งละลายจากนั้นต้องรีบลงมือทำปลารมควัน เขากลัวว่าอุณหภูมิเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนอย่างกะทันหัน จะทำให้คุณภาพของเนื้อปลาเสื่อมคุณภาพ
กำลังเตรียมตัวออกทะเลไปจับปลาโอแถบ บิลลี่ก็เข้ามาหาแล้วถามว่า “เครื่องประดับของนายทำเสร็จแล้ว แล้วเอากลับมาจากนิวยอร์กหรือยัง?”
ฉินสือโอวนึกว่าเขาเป็นห่วงเรื่องการประมูล จึงพยักหน้าแล้วเอารูปที่เก็บไว้ในโทรศัพท์ให้เขาดู บิลลี่สังเกตดูอย่างละเอียด พอดูเสร็จแล้วก็พูดกับเขาว่า “ขายให้ฉันสักชุดสิ?”
“นายจะซื้อเหรอ?” ฉินสือโอวถามอย่างงงงัน “มันจำเป็นด้วยเหรอ?”
คนอย่างเขาค่อนข้างทึ่ม และค่อนข้างให้ความสำคัญกับจังหวะและคุณภาพชีวิต แต่จะสวมจะใส่อะไรเขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่มอบเครื่องประดับให้วินนี่ช้าจนป่านนี้หรอก
บิลลี่พูดว่า “ต้องจำเป็นอยู่แล้ว เพื่อน นี่คือเครื่องประดับจากไข่มุกสีดำนะ ไข่มุกสีดำแท้ๆ ฉันยังไม่เคยเห็นไข่มุกที่มีคุณภาพดีขนาดนี้มาก่อนเลย คืนนั้นที่พวกเราดื่มเหล้าอยู่กับเบลคแล้วก็แบรนดอน พวกฉันสามคนก็เคยพูดแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะซื้อคนละชิ้น?”
ฉินสือโอวจำได้ คืนที่ดื่มเหล้าคืนนั้น บิลลี่และคนอื่นๆ พูดอย่างนี้จริงๆ ทว่าเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะว่าในตอนนั้นทุกๆ คนพากันดื่มเหล้าแล้ว บนโต๊ะเหล้ามักจะเป็นเรื่องล้อเล่นกับคำพูดเพื่อเข้าสังคมซะส่วนใหญ่ เขาจึงนึกว่าพูดกันเล่นๆ
บิลลี่อธิบายว่า “ไม่ได้มีแค่ฉันที่จะซื้อ เบลคกับแบรนดอนก็จะซื้อเหมือนกัน นี่เป็นไข่มุกสีดำของแท้ มีประกายของไข่มุกจากธรรมชาติ เหมาะกับการนำมามอบเป็นของหมั้นให้กับว่าที่ภรรยาในอนาคตที่สุด”
ก่อนหน้านี้ที่คุยกันกับวินเซนต์ ลีฟและคนอื่นๆ พวกเขาคุยกันเรื่องสินค้าลักซ์ชัวรี ทว่าพูดถึงเรื่องสินค้าทำสำเร็จเลย ไม่ได้คุยกันเกี่ยวกับตัวไข่มุกสีดำเท่าไรนัก
อีกทั้ง ตามที่ฉินสือโอวรู้มา ทุกๆ ปีทั่วโลกสามารถผลิตไข่มุกสีดำได้ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นเม็ดกว่าๆ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าของสิ่งนี้นอกจากจะนำมาทำเป็นสินค้าหรูหรา นอกเหนือจากนั้นก็จะมีมูลค่าไม่มากแล้ว
เห็นได้ชัดว่า ความเข้าใจของเขามันผิด
บิลลี่ไม่ได้ไปดูเครื่องประดับไข่มุกสีดำเลยทันที หลังจากที่เขาเห็นรูปภาพแล้ว เขาก็โทรศัพท์หาเบลคกับแบรนดอน นัดพวกเขาให้เข้ามาคุยกัน ทั้งสองคนบอกว่าจะมาถึงวันนี้เลย บิลลี่เลยรอทั้งสองคนก่อน
ฉินสือโอวเก็บเครื่องปรุงเพื่อเตรียมตัวทำปลารมควัน ปลารมควันที่ตลาดอเมริกาเหนือรู้จัก ไม่เหมือนกันกับปลารมควันที่เขารู้จัก
ปลารมควันของแคนาดาคล้ายกันกับเนื้อตากแห้ง แค่อย่างรมควันง่ายๆ ก็ใช้ได้แล้ว และก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรสชาติอีกด้วย เนื่องจากปลารมควันพวกนี้ไม่ใช่สำหรับทานเลยทันที แต่เป็นวัตถุดิบเหมือนกันกับอาหารทะเล ต้องนำไปทำอาหารเพื่อแปรรูปอีกที
ฉินสือโอวคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เขาใช้ประโยชน์จากช่องว่างของเนื้อปลาแมคเคอเรลที่ละลายน้ำแข็งแล้ว หากะละมังพลาสติกใบใหญ่มาหลายๆ ใบ แล้วเทซอสถั่วเหลือง น้ำส้มสายชูกับน้ำแล้วก็เหล้าทำอาหารลงไป จากนั้นจึงเพิ่มน้ำเชื่อมเมเปิลกับต้นหอมกระเทียมขิงสับ
รอจนน้ำแข็งในเนื้อปลาละลายแล้ว เขาก็ให้พวกชาวประมงนำปลาที่หั่นเป็นท่อนๆ มาหมักไว้ในกะละมัง หลังจากนั้นเขาก็ลองคิดๆ ดูแล้วถามว่า “ปาร์ตี้ครั้งที่แล้ว ยังมีเนื้อกวางกับเนื้อหมูอยู่ใช่ไหม? โอเค เอามาหมักด้วยกันเถอะ”
สีหน้าของนายช่างเต็มไปด้วยความตกตะลึง “เพื่อน เดี๋ยวอีกหน่อยปลาพวกนี้จะขึ้นไปอยู่บนสายพานนะ!”
ฉินสือโอวโบกมือปัดอย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับพูดว่า “ใช้เสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยล้างก็ได้ไม่ใช่เหรอ เรื่องง่ายๆ!”
ลองคิดๆ ดูแล้ว เขาก็พูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “หม้อนึ่งชั้นแรกของเครื่องจักรเป็นแบบปิดใช่ไหม? ดีจริงๆ ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเรายังต้องหมักอยู่อีกล่ะ? เทเครื่องปรุงลงไปนึ่งข้างในก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
นายช่างมีเหงื่อเย็นๆ อยู่เต็มหน้า เขาพูดพึมๆ พำๆ ว่า “เพื่อที่จะกินปลารมควัน พวกคุณถึงกับทุ่มเทขนาดนี้เลยเหรอ?”
เขามีลางสังหรณ์ว่า ในเงื้อมมือของฉินสือโอว อายุการใช้งานของเครื่องจักรอาจจะไม่ถึงช่วงเวลาตามประกาศที่พวกเขาได้คาดการณ์ไว้ ต่อให้เป็นรถหุ้มเกาะที่ถูกเอามาทำแบบนี้ ก็คงจะทนรับไม่ไหวเช่นกัน
………………………………………………