ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 891 เทศกาลวันปีใหม่
ในวันคริสต์มาส หลังจากแกะของขวัญและทานอาหารเช้าแล้ว ฉินสือโอวก็พาวินนี่ไปที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ในนครเซนต์จอห์นเพื่อไปเยี่ยมแอนนากับลูกของเธอที่เพิ่งจะลืมตาดูโลก
บูลอดหลับอดนอนมาหนึ่งคืนแล้ว เส้นเลือดในดวงตากระจายตัวกันอย่างหนาแน่น ทว่าจิตใจของเขากลับรู้สึกฮึกเหิมเป็นอย่างมาก พอฉินสือโอวและคนอื่นๆ มาหา เขาก็พาทุกๆ คนไปดูลูกเลย
ฉินสือโอวนำอาหารเช้าที่เตรียมมาส่งให้กับบูล ให้เขาทานข้าวเช้าก่อน บูลกลืนโจ๊กปลิงทะเลเอื้อกๆ เข้าไปอย่างตะกละตะกลาม วินนี่จึงพูดขัดเขาไว้ว่า “เฮ้ พระเจ้า คุณกินอาหารที่เราเตรียมไว้ให้แอนนาอยู่นะ”
บูลเบิกตาโตด้วยความงงงัน วินนี่แย้มรอยยิ้มออกมา “เมอร์รีคริสต์มาส ที่จริงพวกเราแค่ล้อเล่นน่ะ พวกเราเอาโจ๊กมาเยอะมาก ส่วนของแอนนาก็เอาเข้าไปส่งให้แล้วล่ะ”
“ตอนนี้ผมสูญเสียการความสามารถในการตัดสินใจว่าอะไรจริงไม่จริงไปแล้ว พวกคุณพูดยังไงก็เอาตามนั้นนั่นแหละครับ” บูลพูดอย่างคลุมเครือ “ผมอยากจะพาพวกคุณไปหาบูลน้อยจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เขาเยี่ยมยอดมากจริงๆ”
เด็กน้อยนอนหลับฝันหวานอยู่ในตู้อบสำหรับเด็กแรกเกิด ตัวอ้วนตุ๊ต๊ะ อวบอ้วนอุดมสมบูรณ์ พยาบาลคนหนึ่งกำลังสวมผ้าอ้อมให้เขาอยู่ อีกทั้งที่มือและเท้าของเขายังมีสิ่งของหลายอย่างติดอยู่ มีสายที่กำลังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทางการแพทย์
สภาพภูมิอากาศในฤดูหนาวของแคนาดามีอากาศหนาวเหน็บ ก่อนที่เทคโนโลยีการทำคลอดสมัยใหม่จะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทารกแรกเกิดมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงจนน่ากลัว ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการป้องกันสำหรับทารกแรกเกิดที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
บูลแนบหน้าลงไปกับกระจกมองดูด้านในตาปริบๆ ฉินสือโอวยื่นมือออกไปดึงเขาไว้ แล้วถามว่า “ตั้งชื่อให้ลูกหรือยัง?”
ไม่ต้องรอให้บูลพูด เขาก็ยกนิ้วมือขึ้นมาแล้วบอกว่า “อย่าบอกฉันนะ ว่าชื่อของเขาคือเวเบอร์ เบนจามินจูเนียร์ เวเบอร์สัน เบนจามิน หรือว่าเวเบอร์ เบนจามินเดอะเซกเคินด์ เชื่อฉันเถอะ อย่าเอาอย่างชาร์คกับซีมอนสเตอร์เลย”
ชาร์คเจ้าหมอนั่นตั้งชื่อให้ลูกตัวเองว่าชาร์คน้อย ส่วนซีมอนสเตอร์มีชื่อจริงว่าคราเคน เขาเลยตั้งชื่อลูกชายว่าคราเคนจูเนียร์ (คราเคนน้อย) มันซะเลย…
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์เพื่อนร่วมชะตากรรมหันมาสบตากัน แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “ไม่นะ บอส พวกเรามีความสามารถในการตั้งชื่อให้เด็กๆ ที่สูงมาก ชื่อของลูกๆ เราน่ะดีมากแล้วครับ”
พวกชาวประมงเป็นคนเสียงดังกันทั้งนั้น พอพวกเขาเริ่มอ้าปากพูด นางพยาบาลก็เดินออกมา จ้องพวกเขาด้วยสายตาเย็นชากับใบหน้าถมึงทึงแล้วพูดว่า “เงียบหน่อยค่ะ ดูที่ผนังสิคะ”
บนผนังมีเครื่องตรวจวัดระดับเดซิเบลของเสียงอยู่หนึ่งอัน ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว ที่โรงพยาบาลชุมชนก็มีเครื่องแบบนี้เหมือนกัน
พวกชาวประมงยิ้มแล้วยักไหล่ใส่กัน ฉินสือโอวลากบูลที่กำลังมองดูลูกชายอย่างอาลัยอาวรณ์ออกมา ทุกๆ คนเดินออกมาจากห้องพักโรงพยาบาล เมื่อออกมาถึงด้านนอก ก็บอกเป็นนัยว่าพวกชาวประมงอยากจะพูดอะไรก็พูดได้แล้ว
บูลพูดอย่างกระวีกระวาดร้อนใจว่า “กัปตัน คุณพูดถูก เจ้าสองคนนั้นน่ะตั้งชื่อเอาตามอำเภอใจ! ลูกวัวน้อยของผมจะใช้ชื่อเรียบๆ แบบนั้นได้ยังไง? ที่จริงแล้ว ชื่อของเขาคือคริสต์มาส เวเบอร์ เบนจามินครับ”
คริสต์มาส เทศกาลคริสต์มาส?
ฉินสือโอวรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง อากาศภายนอกอาคารในฤดูหนาวที่แคนาดาช่างหนาวเหน็บจริงๆ เขาแสดงความรู้สึกเลื่อมใสให้กับความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อของบูล ชื่อนี้ตั้งได้เหมาะเจาะกับเทศกาลจริงๆ!
เด็กเกิดในคืนก่อนวันคริสต์มาส ถ้าจะตั้งชื่อนี้ให้ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ทุกๆ คนพากันผิวปากแซว อีกทั้งชาร์คยังพูดด้วยความอิจฉาว่า “ให้ตายเถอะ ทำไมไอ้ลูกกระต่ายที่บ้านถึงไม่เกิดในช่วงเทศกาลคริสต์มาสกันนะ?”
เบิร์ดส่ายหัวแล้วพูดขึ้นมาว่า “โชคดีนะ ถ้าลูกของบูลเกิดตอนช่วงเทศกาลอีสเตอร์ แบบนั้นน่าจะวุ่นวายแล้วแน่ๆ”
อีสเตอร์ เวเบอร์ เบนจามิน? ฉินสือโอวลองคิดอยู่ในใจ ชื่อนี้มันน่าฉิบหายจริงๆ!
หลังจากเทศกาลคริสต์มาสไม่กี่วัน วันปีใหม่ก็มาถึงแล้ว
เนื่องจากบรรยากาศงานเทศกาลของวันคริสต์มาสยังไม่ผ่านพ้นไป บรรยากาศวันปีใหม่ของเมืองเลยยังดีอยู่มาก ตัวแทนนายกเทศมนตรีฮานี่ย์กับร้านเหล้าดวงดาวเปล่งประกายร่วมมือกันจัดกิจกรรมหนึ่งในบาร์ขึ้นมา
เทศบาลเมืองรับผิดชอบค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ส่วนที่บาร์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของเรื่องขนมและสถานที่ หน้าจอ LED ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตอนที่แฮมเล็ตได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีเมื่อครั้งที่แล้วก็ถูกนำมาใช้เช่นกัน ตั้งอยู่ที่ประตูทางเข้าบาร์ ด้านบนมีเวลาที่กำลังนับถอยหลังอยู่
แบล็คไนฟ์กับพวกทหารคนอื่นๆ กลับมาที่ฟาร์มปลาก่อนวันปีใหม่ ฉินสือโอวไปรับพวกเขา และพูดกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มว่า “มาได้ทันเวลาพอดี เพื่อน คืนนี้ที่เมืองของเรามีกิจกรรม พวกนายเตรียมตัวพบกับการสู้รบครั้งใหญ่เถอะ”
บีบีซวงกับแบล็คไนฟ์เป็นคู่หูอยู่เคียงข้างกัน เขาทำท่าชกหมัด แล้วพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “สู้ยังไงครับ?”
“ดื่มเหล้า! ดื่มให้เต็มที่กันเถอะ!”
ฟาร์มปลาเป็นดั่งเขาไท่ซานเป่ยโต่วของเมืองนี้ พวกคนหนุ่มจึงมักจะไม่ค่อยชอบใจฉินสือโอวกับพรรคพวก เพราะรู้ว่าในด้านความร่ำรวยและความสามารถ พวกเขาไม่มีทางเอาชนะฉินสือโอวได้ จึงมักจะจัดการกับเขาตอนดื่มเหล้า
เดิมทีเจ้าโง่พวกนี้อยากจะข่มฉินสือโอวด้วยเรื่องกีฬา อย่างบาสเกตบอล เบสบอล ฮอกกี้น้ำแข็งและรักบี้ แต่ปรากฏว่า ในการแข่งขันบาสเกตบอลหลายสนามเมื่อปีที่ผ่านมา ฉินสือโอวดันเล่นเอาซะพวกเขารู้สึกกลัว กลัวจนไม่มีใครกล้าพูดถึงกีฬาชนิดไหนอีก
เทศกาลวันปีใหม่เริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน ประมาณสี่โมงเย็นกว่าๆ ฉินสือโอวก็พาทุกๆ คนตะบึงออกไปแล้ว ทว่าวันนี้อากาศย่ำแย่เกินไป เมฆครึ้มปกคลุมอย่างหนาแน่น เหมือนว่าบนท้องฟ้าถูกถมดำไว้หนึ่งชั้น เลยไม่เห็นพระอาทิตย์…
เมื่อมาถึงในเมือง ฉินสือโอวรัดเสื้อโค้ตเข้าหากันแล้วพูดอย่างทอดถอนใจว่า “ฟัค ทีแรกก็อยากจะดูพระอาทิตย์ตกเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ แต่ดันไม่มีให้เห็นซะแล้ว”
ในระหว่างนั้นอยู่ๆ เขาก็นึกประโยคหนึ่งจากหนังที่เคยดูขึ้นมาได้ ทุกครั้งที่กล่าวลา คงดีที่สุดถ้าจะพยายามให้มากหน่อย พูดให้เยอะขึ้น เพราะนั้นอาจจะเป็นประโยคสุดท้าย มองให้มากขึ้น เพราะอาจจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย
พิลึกจนยากที่จะเข้าใจจริงๆ ฉินสือโอวเริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาแล้ว อาจจะเป็นเพราะเขามีอายุมากขึ้นอีกปีแล้วก็ได้
เขารู้สึกว่านี่เป็นประโยคคำพูดที่ดีมากๆ เลยแปลมันแล้วพูดออกไป แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ หันมาสบตากัน เขาถามชาร์คอย่างเบาๆ ว่า “ช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ บอสก็อ่อนไหวเหมือนผู้หญิงแบบนี้?”
“ใช่ ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ออกมา? พระเจ้า พวกเราพบเจอเรื่องคอขาดบาดตายมาตั้งมาก แต่ก็ไม่พูดแบบนี้…”
“แต๋วเกินไปแล้ว!”
“ฟัคยู!” ฉินสือโอวชูนิ้วกลางให้พวกทหารทั้งกลุ่ม เอาเถอะ บรรยากาศของความเจ็บปวดไม่เหลืออยู่แล้วล่ะ
หลังจากนั้นคนก็ค่อยๆ เยอะขึ้น ทุกคนยังไม่ได้เริ่มดื่มเหล้า แต่กำลังพูดคุยกันขณะที่กำลังดูการถ่ายทอดสดจากโทรอนโต อากาศที่โทรอนโตไม่เลวเลย อย่างน้อยๆ ก็มีพระอาทิตย์
พระอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆ ตกลงอย่างช้าๆ หน้าจอเปลี่ยนเป็นสีดำขึ้นมา รอจนกล้องวิดีโอทางฝั่งตะวันตกไม่มีแสงสว่างเหลืออยู่แล้ว หลังจาดนั้นพลุก็ถูกจุดขึ้น ที่นครเซนต์จอห์นที่อยู่ห่างออกไปก็เช่นกัน พลุสีสันสวยสดหลากหลายแต่ละดอกพุ่งขึ้นมาอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า!
ฉินสือโอวบุกตรงเข้ามาในบาร์เหล้าทันที ฮิวจ์คนน้องเข้ามาถามเขาว่า “ฉิน วันนี้จะดื่มอะไร?”
หู่จือกับเป้าจือเบียดคนที่อยู่บริเวณรอบๆ เข้ามา ฮิวจ์คนน้องจึงจ้องเขาแล้วพูดขึ้นมาว่า “พระเจ้า นายเอาหมามาด้วยเหรอ? ว่ากันว่าพาหมามากินเหล้า พลังต่อสู้จะเพิ่มขึ้นเลยใช่ไหม?”
พอพูดจบ ฮิวจ์คนน้องก็เอาขวดเบียร์ที่อยู่ในมือยัดไปในปากของหู่จือเพื่อที่จะป้อนเบียร์ให้มันดื่ม ฉินสือโอวผลักเขาออกไปแล้วพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “ฟัคยู ห้ามเอาเหล้าให้ลูกฉันกิน!”
หู่จือแลบลิ้นเลียปากไปมา มันไม่ปฏิเสธรสชาติของแอลกอฮอลล์หรอก
ฉินสือโอวใช้มือทั้งสองข้างหนีบหู่จือกับเป้าจือไว้ข้างละตัวแล้วส่งพวกมันให้กับวินนี่ บอกให้เธอดูพวกมันทั้งสองตัวไว้ดีๆ ก่อนจะเดินจากไปเขายังได้ขู่พวกมันไว้ว่า “ห้ามวิ่งไปทั่ว เข้าใจไหม? ถ้าวิ่งไปทั่วอีกเดี๋ยวจะโดนขี้เมาจับต้มกิน!”
หู่จือกับเป้าจือส่ายหางอย่างมีความสุข พวกมันพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของวินนี่ไม่หยุดเพราะอยากจะตามฉินสือโอวไป
ฉินสือโอวเดินมาถึงเคาท์เตอร์บาร์ เขาหยิบเบียร์ออกมาแล้วพูดว่า “แบล็คไนฟ์ พวกนายเป็นทัพหน้า จัดการไอ้เวรพวกนี้ให้ฉัน!”
แบล็คไนฟ์พูดยิ้มๆ ว่า “ดูพวกเราสิ ใครจะเข้ามาก่อน? มาดื่มกับฉันหน่อย!”
ฮิวจ์คนน้องยกขวดเบียร์ขึ้นมา เขาร้องตะโกนว่า “สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ละทิ้งเปลือกนอกจอมปลอมพวกนั้นทิ้งไป แล้วแสดงด้านที่บ้าคลั่งของพวกเราออกมาเถอะ คืนนี้ ไม่เมาไม่กลับ ไมเคิล นายไปก่อนเลย ไม่ต้องกลัว จัดการเลย!”
“ฟัคยู แลร์รี แกโกรธแค้นอะไรฉัน?!” หนุ่มผมบลอนด์คนหนึ่งชะงักงันหลังจากนั้นค่อยตะโกนด่าเขาขึ้นมา
…………………………………………………….