ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 894 รับมือได้ยาก
ฉินสือโอวรู้ว่า ต่อให้ผ่านไปอีกหลายปีเขาก็ไม่มีทางลืมค่ำคืนที่สว่างสดใสคืนนั้น พวกคนขี้เหล้าเมามายไม่ได้สติแต่ยังคงรู้สึกคึกคักตื่นเต้นที่อยู่รอบๆ ตัวเขา มีผู้หญิงที่รักเขาอย่างลึกซึ้งอยู่ข้างๆ กันกับเขา ท้องฟ้าด้านบนมืดมิด แต่กลับมีพลุหลากสีสันที่สวยงามอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้ ส่งเสียงดังและกระจายตัวอยู่ด้านบน…
ในตอนท้ายสิ่งที่อยู่เป็นเพื่อนพวกเขา คือบทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงของสกอตแลนด์ เพลง Auld lang syne (มิตรภาพอยู่ยั้งยืนยง) บางทีในตอนนั้นนี่อาจจะฝากฝังความคิดให้ดีเจว่า เพื่อนๆ เอ๊ย ขอให้มิตรภาพของพวกเราอยู่ยั่งยืนยง!
ก่อนจะเที่ยงคืน ฉินสือโอวแทบจะไม่ได้กินเหล้าเลยแม้แต่นิดเดียว แต่หลังจากปีใหม่มาถึงแล้ว เขาก็เป็นเหมือนกับในเนื้อเพลงนั้น ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มให้สะใจ!
เพลงมิตรภาพอยู่ยั่งยืนยง ถูกร้องสลับอยู่โดยตลอด ฉินสือโอวยกขวดเบียร์ขึ้นและโอบกอดทุกๆ คน ขณะเดียวกันก็กระดกเบียร์เข้าไปอย่างบ้าคลั่ง คนอื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ในตอนท้ายมีคนที่ได้สติอยู่กี่คนฉินสือโอวก็ไม่รู้แล้ว เพราะตัวเขาก็เมาแล้วเหมือนกัน
วันแรกของปีใหม่ ฉินสือโอวถูกเสียงโห่ร้องดีใจของเชอร์ลี่ย์กับเด็กๆ อีกหลายคนปลุกให้ตื่นขึ้นมา เขาลุกขึ้นมาขยี้ตาที่กำลังสะลึมสะลือด้วยความง่วงนอนพร้อมกับดึงผ้าม่านออกแล้วมองออกไปข้างนอก ด้านนอกยังมืดอยู่เล็กน้อย แต่ก็สว่างไสว เพราะโลกที่ถูกประดับด้วยแสงสีเงินกลับมาถึงอีกครั้งแล้ว
เชอร์ลี่ย์และคนอื่นๆ กำลังวิ่งเล่นกันอยู่บนสนามหญ้า ฝูงสัตว์ตัวน้อยก็เข้าไปร่วมเล่นด้วยแล้วเช่นกัน ใบหูใหญ่ๆ ของหู่จือเป้าจือส่ายสะบัดลอยขึ้นไม่หยุด วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนพื้นหิมะอย่างมีความสุข ฉงต้ายืนอยู่บนสนามหญ้าอย่างเซื่องซึม ส่วนพวกเด็กๆ ก็เล่นกันอยู่รอบๆ มัน
ฉินสือโอวลองมองดูเวลา ก็เห็นว่าเพิ่งจะหกโมงเช้า เขานวดขมับแล้วลุกขึ้นมาอย่างเงียบๆ
วินนี่กำลังหลับสบาย เมื่อคืนเธอน่าจะนอนดึกกว่าเขาแน่ๆ ลูกแมวป่าซิมบ้านอนหมอบอยู่บนหมอนของวินนี่ ใบหน้าเล็กแต่อ้วนกลมเต็มไปด้วยความสุขและแสดงออกถึงความสบาย ดูแล้วน่าจะมีความสุขยิ่งกว่าวินนี่เสียอีก
นี่ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกไม่พอใจมาก ขี้เกียจเกินไปแล้ว แกเป็นแมวป่านะ แมวป่าเจ้าแห่งขุนเขาตัวน้อย ทำตัวขี้เกียจขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
เมื่อสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็ใช้แรงกำลังที่รวดเร็วจนตั้งตัวรับไม่ทันจับราชาเจ้าป่าซิมบ้าเอาไว้ อาศัยช่วงที่มันยังไม่ตื่นเต็มตาลากมันออกมาจากห้องนอน
เขาลงมาข้างล่างแล้ววิ่งตรงไปข้างนอกประตูทันที ฉินสือโอวโยนราชาเจ้าป่าซิมบ้าที่กำลังตื่นขึ้นมาพร้อมกับตัวที่สั่นเทิ้มลงไปบนพื้นหิมะ ในตอนนี้มันมีความคล่องแคล่วขึ้นมาแล้ว พอร่วงลงไปถึงพื้น มันก็หมุนตัวกลางอากาศ ต่อจากนั้นก็สับเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน
ซิมบ้าวิ่งได้เร็วพอ แต่มันยังเด็กเกินไป ปรากฏว่าพอมันออกวิ่งก็มีสิ่งหนึ่งเข้ามาขวางมันเอาไว้ จนทำให้ตัวมันดีดกลับออกมา
เมื่อตาโตบ้องแบ๊วจ้องมองดู ราชาเจ้าป่าซิมบ้าก็พบกับท่านราชาหมาป่าตัวน้อยที่กำลังมองมันด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
คนเขาไม่ได้ตั้งใจจะชนตัวเองสักหน่อย ซิมบ้าแบะปาก คิดจะวิ่งอ้อมราชาหมาป่าขาว
เวลาที่เผชิญหน้ากับหู่จือเป้าจือฉงต้ากับมาสเตอร์ ราชาหมาป่าอาจจะเป็นแค่หัวไชเท้าอันน้อยๆ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับลูกแมวป่าที่ตัวโตขึ้นมาแค่นิดเดียว ราชาหมาป่าที่อายุใกล้จะถึงหนึ่งขวบก็นับว่าเป็นพี่ใหญ่แล้ว
ฟาดอุ้งเท้าลงไปหนึ่งป้าบ หลัวปอฟาดลูกแมวป่ากลับมาบนพื้นหิมะ หู่จือกับเป้าจือก็ถลันเข้ามาสะบัดกีบเท้าตะกุยกองหิมะขึ้นมา ‘ขวับๆๆ’ แค่ไม่กี่ครั้งก็ฝังลูกแมวป่าไว้ได้แล้ว
ลูกแมวป่าปีนขึ้นมาอย่างซวนเซ มันมองหน้าหู่จือเป้าจืออย่างไม่พอใจพร้อมกับอ้าปากส่งเสียงร้องคำรามออกมา
หู่จือกับเป้าจือกำลังอยู่ในช่วงที่ดื้อซนและชอบสร้างความวุ่นวายที่สุดของสุนัขแลบราดอร์ พอเห็นว่าเจ้าตัวน้อยกล้าคำรามใส่ตัวเอง พวกมันก็ทำท่าจะพากันกระโจนเข้าไปหาลูกแมวป่า
ต้าป๋ายทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว มันวิ่งเข้ามาขวางหู่จือกับเป้าจือ ด้วยท่าทางเหมือนกับว่ากำลังปกป้องลูกตัวเองอยู่
เห็นแก่หน้าฉงต้า หู่จือกับเป้าจือเลยไม่ได้ทำให้ต้าป๋ายต้องลำบาก พวกมันสะบัดหิมะที่ติดอยู่บนขนด้วยความคับแค้นใจ หลังจากนั้นก็พากันไปเล่นต่อ
ลูกแมวป่าเกาะติดอยู่ข้างตัวต้าป๋าย มันร้องใส่ฉินสือโอวด้วยความไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่ามันโทษว่าเป็นความผิดของฉินสือโอวที่ลากมันออกมาจากหมอนใบอุ่น
ฉินสือโอวเพียงแต่หวังว่าลูกแมวป่ากับพวกสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ในบ้านจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันบ้าง อย่าเอาแต่ทำตัวออดอ้อนขอความรักอะไรพวกนั้นเลย เขายกซิมบ้าขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอามันไปวางไว้ตรงหน้าหลัวปอ เรียกหู่เป้าฉง ต้าป๋ายกับปอหลัวมา จะได้ให้พวกมันอยู่ด้วยกันอย่างเป็นมิตร
ตอนนี้เหล่าสัตว์เลี้ยงนิสัยเสียหมดแล้ว หรืออาจจะพูดได้ว่าพวกมันฉลาดก็ได้ ต่อหน้าฉินสือโอว สัตว์เลี้ยงพวกนี้อยู่กันอย่างดีเหมือนพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกัน หู่จือเป้าจือช่วยซิมบ้าเลียเกล็ดหิมะที่อยู่บนขนออกไปอย่างสนิทสนม อีกทั้งฉงต้ายังให้มันนอนหมอบอยู่บนไหล่ของตัวเองอีกด้วย
แต่พอฉินสือโอวเดินออกไป เหล่าสัตว์เลี้ยงก็เปลี่ยนสีหน้าทันที ฉงต้าสะบัดไหล่จนซิมบ้าตกลงมา หู่จือเป้าจือกับหลัวปอก็ล้อมมันไว้ทั้งสามด้าน ซิมบ้ามองไปที่ต้าป๋ายอย่างน่าสงสาร ทางด้านต้าป๋ายก็อยากจะช่วยมันเหมือนกัน แต่ติดตรงที่มันถูกปอหลัวขวางไว้นี่สิ
พึ่งใครไม่ได้ก็ต้องพึ่งตัวเองแล้ว ราชาเจ้าป่าซิมบ้าตัดสินใจที่จะพึ่งพาตัวเอง อุ้งเท้าทั้งสี่ข้างของมันมีขนนุ่มๆ อยู่อย่างหนาแน่น แบบนี้จะช่วยให้มันเดินบนพื้นหิมะได้โดยที่ไม่จมลงไป ดังนั้นมันจึงสะบัดอุ้งเท้า แล้วกระโจนฝ่าวงล้อมออกไปเหมือนลูกบอลขนกลมๆ ลูกหนึ่ง
หู่จือเป้าจือหันหลังกลับแล้วไล่ตามไป ทว่าซิมบ้าฉลาดเฉียบแหลมมาก มันทำท่าวิ่งตรงไปข้างหน้า แต่วิ่งออกไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็หมุนตัวกลับทันที มันวิ่งถลันหายวับไปถึงใต้ต้นเมเปิล แล้วปีน ‘ฟึบๆ’ เหมือนลิงขึ้นไปถึงบนต้นไม้
หลังจากนั้น ราชาเจ้าป่าซิมบ้าก็นั่งลงบนกิ่งไม้ที่แตกแขนงออกมาแล้วมองลงไปดูด้านล่าง หู่เป้าฉงหลัวยืนอยู่ใต้ต้นไม้อย่างงงงัน ไร้ซึ่งหนทางแล้วจริงๆ
ตัวโอพอสซัมเวอร์จิเนียสามารถปีนต้นไม้ได้ เพียงแต่ว่าต้าป๋ายจะสร้างความลำบากให้กับลูกแมวป่าได้ยังไงกันล่ะ? ฉงต้าหันไปมองเพื่อนรักด้วยหวังว่าเพื่อนจะช่วยเอาลูกแมวป่าลงมาให้ตัวเอง ต้าป๋ายจึงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น แล้วกระโดดโลดเต้นเข้าไปเล่นกับครอบครัวกระรอกดินที่เพิ่งจะปีนออกมา
มองดูสีหน้าจนปัญญาของพวกหู่เป้าฉงหลัว ราชาเจ้าป่าซิมบ้าก็เริ่มรู้สึกลำพองใจขึ้นมาแล้ว ไล่ตามฉันต่อสิเจ้าพวกชั่ว! ลูกแมวป่าลำพองใจจนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ซิมบ้าอ้าปากส่งเสียงคำรามแบบลูกแมวป่าออกมา “อี๊!”
ร้องคำรามออกมาได้ไม่กี่ครั้ง ซิมบ้าหันหน้ากลับไป แต่ปรากฏว่ามันก็ต้องสะดุ้งตกใจจนเกือบจะตกลงลงไปใต้ต้นไม้ มันพบว่าข้างหลัง มีกระรอกแดงอเมริกาเหนือปรากฏตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
ต้นเมเปิลเป็นอาณาเขตของเสี่ยวหมิง แต่ลูกแมวป่ากลับกล้าพาตัวเองขึ้นมาโดยไม่ได้รับเชิญ เสี่ยวหมิงจึงรู้สึกว่าตัวเองต้องแสดงความน่าเกรงขามออกมาบ้างแล้ว
โชคดีที่ฉินสือโอวกลับมาได้ทันเวลาพอดี พอเขาเห็นเหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายกำลังแหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบนด้วยความคาดหวังอยู่ที่ใต้ต้นไม้เขาก็รู้แล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เขาเข้ามาตีก้นพวกมันทีละตัว ฉินสือโอวผิวปากเรียกลูกแมวป่าให้ลงมาข้างล่าง แล้ววางมันลงบนไหล่กว้างๆ ของฉงต้า เขาเอ่ยเตือนมันว่า “ถ้าน้องตกลงมาก่อนถึงเวลาอาหารเช้า วันนี้จะไม่มีข้าวให้กิน!”
ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ผลิ ฉงต้าคงไม่คำกลัวขู่ อย่างแย่ที่สุดมันก็แค่ดำน้ำลงไปจับปลาจากในทะเลมากิน แต่ในฤดูหนาวปลาเเซลมอนแปซิฟิกต่างก็กลับไปวางไข่ในแม่น้ำกันหมดแล้ว บนภูเขาก็ไม่มีเบอร์รีให้กิน นอกจากที่บ้านมันก็หาอาหารไม่ได้แล้วจริงๆ
หลังจากนั้นฉินสือโอวก็วิ่งย่ำหิมะไปออกกำลังกายตอนเช้า ฉงต้านั่งอยู่บนพื้นหิมะอย่างทำอะไรไม่ได้ เกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาช้าๆ ฉงต้าทั้งรู้สึกทุกข์ใจและเศร้าสร้อย มันไม่ได้สะบัดขนไล่เกล็ดหิมะด้วยซ้ำ เพียงแต่หันหน้าไปจ้องตากันกับซิมบ้าที่อยู่บนไหล่อย่างขุ่นเคือง
หู่จือกับเป้าจือจับไหล่ของมันเอาไว้เพื่อที่จะยืนขึ้นไปกัดซิมบ้า ฉงต้าจึงยกอุ้งเท้าปัด ผลักสุนัขแลบราดอร์ทั้งสองตัวลงไปบนพื้นหิมะ ไสหัวไปเถอะพวก พวกแกอยากให้ฉันไม่มีข้าวกินหรือไง?
ปอหลัวกับหลัวปอก็เข้ามาแย่งตัวซิมบ้าเช่นกัน ฉงต้าผลักพวกมันออกด้วยความโมโห หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปในวิลล่า เจ้าชั่วพวกนี้เอาเอาแต่ทำร้ายฉัน ไม่อยากเล่นกับพวกมันแล้ว!
ฉงต้ารู้จักนิสัยของซิมบ้าดี พอกลับเข้ามาข้างในมันจึงหวังว่าซิมบ้าจะปีนลงมาเอง ทว่าซิมบ้ากลับรู้สึกว่าขนของหมีก็อบอุ่นอย่างน่าประหลาด เลยนอนหมอบอยู่บนตัวของฉงต้า ไม่ยอมลงไปข้างล่างแล้ว
อ้ายพวกชั่ว พวกแกทั้งหมดเป็นศัตรูกับฉัน! ฉงต้าเริ่มไม่มีความสุขจริงๆ แล้ว
……………………………………………………