ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 907 การค้นพบในท้องหมู
รถคาดิลแลควันแล่นขับเข้ามาไวปานจรวด พอรถหยุดลง วินนี่ก็วิ่งลงมาจากรถ ทำเอาฉินสือโอวที่อยู่ข้างหลังตกอกตกใจ “คุณแม่ของลูกครับ ระวังความปลอดภัยหน่อยสิ!”
“ลูกจะโดนเอาตัวไปแล้ว!” วินนี่ตะโกนกลับมาโดยที่หัวไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ
หู่จือกับเป้าจือไม่เห็นวินนี่มาหลายวันแล้ว ได้ยินเสียงเธอก็ดีอกดีใจใหญ่ หูปุกปุยของฉงต้ากระดิกไปมาสองสามครั้ง มันพลิกตัวลุกขึ้นจากพรมหน้าประตูแล้วร้องอู้ๆ วิ่งมาทางวินนี่
ตอนนี้วินนี่โน้มเอวไม่สะดวก หู่จือกับเป้าจือรู้แล้วว่ากระโจนใส่ตัวเธอไม่ได้เลยประคองวินนี่ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ใช้หัวคลอเคลียมือของวินนี่
ลิงซ์ตัวน้อยหาวหวอดพลางเดินตามอยู่ข้างหลังฉินสือโอว วินนี่อยู่บ้านของคุณลุงฮิคสันแต่ว่าเอามันมาด้วย ฉะนั้นครั้งนี้ที่มันกลับไปฟาร์มปลาจะถือว่ากลับบ้านเกิดด้วยความภาคภูมิก็ว่าได้
คู่หมาป่ามาจริงๆ ด้วย พวกมันนั่งอยู่แถวซากฟาร์มเก่า หลัวปอเล่นกับพวกมันอย่างใกล้ชิด ดูแล้วสายใยทางสายเลือดก็ไม่ได้ถูกลบออกไปง่ายๆ
แต่พอเห็นวินนี่กลับมา หลัวปอก็ทิ้งพ่อแม่แท้ๆ แล้ววิ่งเข้ามาหาอย่างดีใจ ขนสีขาวพลิ้วไปตามลม
ฉินสือโอวยืนดูเจ้าพวกนั้นเล่นกับวินนี่อย่างสนิทสนมอยู่ไม่ไกล เขามองไปทางคู่หมาป่าขาว เห็นเงาสีดำที่นอนอยู่บนพื้น จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วคุยกับนีลเซ็นผ่านอินเตอร์โฟน “เอากล้องส่องทางไกลมาให้ฉันหน่อย”
พอได้กล้องส่องทางไกล เขาก็ส่องดูอย่างละเอียด ข้างๆ คู่หมาป่าขาวมีซากลูกหมูป่าอยู่ด้วย
เห็นแบบนั้นฉินสือโอวก็ไม่พอใจขึ้นมา เขาพูดกับวินนี่ “คุณว่าพ่อแม่เจ้าหลัวปอมาทำอะไรเนี่ย? มาที่ฟาร์มผมก็พอว่า แต่นี่มากัดลูกหมูผมตายอีก? มันอะไรกันเนี่ย?”
นีลเซ็นพูดแทรกขึ้นมา “เอ่อ บอสครับ ผมขออธิบายสักหน่อย นั่นไม่ใช่หมูป่าของทางฟาร์มเรา นั่นน่ะหมาป่าเอามาเอง ดูท่าคงอยากเอามาให้หลัวปอ? ไอ้งั่งบูลบอกว่ามันอยากให้คุณเป็นของขวัญ เพื่อขอบคุณที่เลี้ยงดูหลัวปอมา”
“ก็ฟังดูมีเหตุผล ทำไมถึงบอกว่าบูลเป็นไอ้งั่งล่ะ?”
“ไม่ บอส ถ้าลูกสาวบอสโดนศัตรูแย่งไปเลี้ยงจนโต หลังจากนั้นก็เจอกันได้รู้จักกัน ปรากฏว่าเธอยินดีจะอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมแล้วไม่ยอมกลับบ้านไปกับคุณ คุณจะเอาปลาโอแถบสองกรัมไปขอบคุณพ่อแม่บุญธรรมของเธอไหมล่ะ?”
ฉินสือโอวที่กำลังสังเกตดูลูกหมูป่าลดกล้องส่องทางไกลลงแล้วพูดส่งๆ “ฉันจะเอาขีปนาวุธไปด้วยสองกรัม!”
นีลเซ็นแบมือทั้งสองออกไปด้านข้างแล้วพูดขึ้น “ที่ผมหมายถึงก็คือแบบนี้”
ฉินสือโอวพบว่าตัวเองตกลงไปในหลุมพรางของนีลเซ็นเข้าให้แล้ว เขาด่าขึ้นมา “ไสหัวไปเลยไป ฉันจะเป็นศัตรูของหมาป่าขาวได้ไง?”
“มันขโมยหมูเรากิน งั้นระหว่างเราไม่ใช่ศัตรูเหรอครับ?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ใช่ ก่อนหน้านี้พวกมันเคยขโมยหมูของฉัน ครั้งนี้คงมาชดเชยให้ฉัน”
เพียงแต่ เขาก็ยังไม่ได้เข้าไปรับของขวัญ ถ้าเกิดว่าเขาคิดมากไปเองล่ะ ถึงตอนนั้นคู่หมาป่าขาวกระโจนใส่เขา งั้นก็คงวุ่นวายแล้วทีนี้
แต่หลัวปอเป็นลูกสาวแท้ๆ มันเล่นกับวินนี่อย่างรักใคร่อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็วิ่งโซซัดโซเซกลับไปคาบลูกหมูป่าที่ถูกกัดตายมาให้วินนี่
วินนี่ชอบจับแผงคอมัน จากนั้นก็ตบก้นให้มันไปอยู่กับพ่อแม่สักหน่อย
ครั้งนี้คู่หมาป่าขาวไม่ได้มารับหลัวปอกลับ บางทีพวกมันอาจจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แค่ให้หมูป่าตัวเดียวแล้วก็อยู่กับลูกจนถึงเย็น รอจนอาทิตย์เกือบจะตกดิน พวกมันก็แหงนหน้าหอนสองสามทีก่อนจะกลับเข้าป่าไปอย่างอาลัยอาวรณ์
หลัวปอเองก็หอนตามแบบพ่อแม่ แต่ไม่ได้ตามไป หลังจากที่มองส่งพ่อแม่จากไปก็ไปเล่นกับหู่จือเป้าจืออย่างสนุกสนาน และถือโอกาสแกล้งราชาเจ้าป่าซิมบ้า
ครั้งนี้ที่กลับมาวินนี่ก็อยู่เลย เดิมทีเธอคิดว่าฉินสือโอวแตกตื่นไปเอง ผู้หญิงท้องเป็นไข้หวัดแล้วอย่างไร? ไวรัสไข้หวัดไม่ใช่ไวรัสเอชไอวีเสียหน่อย!
ตกกลางคืน ฉินสือโอวคิดว่าพ่อแม่ของหลัวปอเอาหมูป่ามาให้ลูกก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ก็เลยอยากจะต้มให้มันกิน อาจจะมีรสชาติความรักของพ่อแม่ก็ได้
เขาเรียกเบิร์ดมาให้เขาเอาหมูป่าไปล้างให้สะอาด ปรากฏว่าพอเบิร์ดเข้าครัวไปครู่เดียวก็ชะโงกหัวออกมาพูดว่า “บอส มาดูเร็ว ผมเจออะไรด้วย”
ฆ่าหมูตัวเดียวเจออะไรกัน? ฉินสือโอวเดินเข้าไปอย่างสับสน พอเห็นหมูป่าที่ล้างสะอาดวางบนเขียง และด้านข้างยังมีของบางอย่างขนาดประมาณส้มวางอยู่ด้วย สิ่งนั้นคือของทรงรีสีน้ำตาล ฉินสือโอวไม่เคยเห็นมาก่อน
“นั่นคืออะไร?” ฉินสือโอวเอ่ยถาม
เบิร์ดเกาหัวแล้วตอบ “เหมือนจะเป็นทรัฟเฟิล?”
“ทรัฟเฟิล?” พอฉินสือโอวได้ยินคำตอบก็ถามกลับอย่างแปลกใจ “นายไปเจอที่ไหน?”
“ในกระเพาะของหมูป่าตัวนี้แหละ ยังมีอันเล็กอีกสองอัน ใหญ่แค่ประมาณเม็ดถั่วลิสง ผมโยนทิ้งไปแล้ว” เบิร์ดพูด
ฉินสือโอวพูดด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่หรอก เฮ้ย ฉันเคยได้ยินมาว่าทรัฟเฟิลนี่แพงมากไม่ใช่เหรอ แคนาดาก็มีด้วยเหรอ?”
เหมือนกับพวกเห็ดหอมภูเขา เห็ดพอร์ชินี ทรัฟเฟิลก็เป็นราชนิดหนึ่ง เป็นราปีเดียว มักจะโตใต้ต้นสน ต้นโอ๊ก
ราชนิดนี้มีประมาณสิบประเภทแตกต่างกัน กลิ่นตอนกินจะเป็นเอกลักษณ์ มีโปรตีน กรดอะมิโนและสารอาหารอื่นที่สูงมาก เพราะไม่สามารถเพาะด้วยฝีมือคนได้ ผลเก็บเกี่ยวจึงน้อย ดังนั้นคนยุโรปเลยจัดทรัฟเฟิล คาเวียร์ ตับห่านให้เป็น “สามอาหารที่มีค่าที่สุดในโลก”
เมื่อก่อนตอนที่อยู่จีน ฉินสือโอวเคยได้ยินว่าที่ตะวันตกเฉียงใต้แถวทะเลสาบเตียนฉือก็มีทรัฟเฟิล แต่ไม่เคยเจอ หลังจากที่มาแคนาดา บางครั้งเวลากินสปาเกตตีกับพิซซ่าก็เคยได้ยินคนพูดบ้างว่าใส่ทรัฟเฟิลถึงจะอร่อย แต่ก็ไม่เคยกิน
ทรัฟเฟิลก็เหมือนกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน เป็นสายพันธุ์ที่คนไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ในตอนนี้ ถ้าจะกินก็ได้แต่จับจากธรรมชาติ แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องพบว่ามีทรัฟเฟิลที่นิวฟันด์แลนด์
ฉินสือโอวเรียกวินนี่เข้ามา พอวินนี่เห็นสีหน้าก็เผยความประหลาดใจก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณไปซื้อทรัฟเฟิลมาจากไหนคะ? เซนต์จอห์นมีของพวกนี้ขายด้วยเหรอ? น่าแปลกจัง”
ได้ยินคำว่า ‘แปลก’ จากวินนี่ เชอร์ลี่ย์และเด็กๆ คนอื่นก็วิ่งเข้ามาแล้วถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “มีอะไรแปลกเหรอ?”
พวกเขาก็ไม่เคยเจอทรัฟเฟิล ได้ยินมาว่านี่ก็คือหนึ่งในสามอาหารที่มีค่าที่สุดของยุโรป จอมตะกละทั้งหลายทำตาเป็นประกายทันที รีบวิ่งไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่ากินอย่างไร
ฉินสือโอวพูด “อันนี้กินไม่ได้แล้ว? เบิร์ดบอกว่าเขาเอาออกมาจากในกระเพาะของลูกหมูป่า”
วินนี่ยักไหล่ “ไม่ต้องห่วงหรอก ทรัฟเฟิลมีกลิ่นผลไม้แห้ง หมูป่าไวต่อกลิ่นแบบนี้มาก ฉะนั้นที่อิตาลีกับฝรั่งเศสเลยมีคนเลี้ยงหมูตัวเมียเพื่อให้ขึ้นเขาไปหาทรัฟเฟิล ที่พวกมันกินเข้าไปในท้องขอแค่ยังไม่ย่อยล้างให้สะอาดก็กินได้ค่ะ”
แต่ฉินสือโอวไม่กิน เจ้านี่มันจะอร่อยได้สักแค่ไหน? จะมีสารอาหารได้สักเท่าไร? ของในท้องหมู นอกจากกระเพาะหมูอย่างอื่นเขาไม่กินทั้งนั้น
เบิร์ดล้างจนสะอาดแล้วถ่ายรูปสองใบส่งไปให้คุณลุงฮิคสันดู ถามเขาว่าไอ้นี่ยังกินได้ไหม ปรากฏว่าเขาหนักกว่าอีก เขาบอกว่า “ทรัฟเฟิลที่หายากจริงก็คือต้องควักออกมาจากกระเพาะหมูตัวเมีย แบบนี้น่ะสารอาหารเยอะ เนื้อสัมผัสนุ่มลิ้นกว่า…”
ฉินสือโอวโบกมือพลางพูดขึ้น “ช่างเถอะ ฉันขอไปอ้วกก่อนแล้วพวกนายค่อยว่าต่อ”
ปรากฏว่าเขาเพิ่งพูดจบ วินนี่ก็เกาะอ่างน้ำเริ่มอ้วกเสียแล้ว
ฉินสือโอวยิ้มซื่อแล้วพูดขึ้น “เรื่องนี้ก็ต้องต่อแถวเหรอเนี่ย?”
…………………………………………..