ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 913 ออกทะเลท่ามกลางหิมะ
การพุ่งโจมตีของบุชรวดเร็วมาก ระยะห่างตั้งหลายสิบเมตร ฉินสือโอวเพียงกะพริบตามันก็บินพุ่งลงไปแล้ว!
ตอนที่พวกนกสกัวเห็นอินทรีหัวขาวก็รอบคอบขึ้นมาแล้วบินมารวมกลุ่มกัน แต่ปรากฏว่าพอทำแบบนี้ก็ทำให้บุชจัดการทั้งหมดในคราวเดียวได้พอดี
มันบินเข้าไปในฝูงนกสกัว กรงเล็บใหญ่แหลมหนาของบุชกดนกสกัวตัวหนึ่งไว้ ปากยื่นจิกออกไปว่องไวปานสายฟ้า ชั่วขณะนั้นขนนกสิบกว่าเส้นก็ปลิวลงมาจากบนท้องฟ้า นกสกัวตัวหนึ่งร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ร้องไปก็หนีไปด้วย
นกทะเลทั่วไปหลังจากเจอการโจมตีจากอินทรีหัวขาวก็กลัวหัวหดหนีกระเจิงไปหมดแล้ว แต่นกสกัวก็สมกับที่พวกมันเป็นมาเฟียในหมู่นก พวกมันไม่กลัวเลยสักนิด ที่เหลือไม่กี่ตัวพากันร้องด้วยความโกรธแค้น จากนั้นก็ล้อมเข้ามาจิกกัดบุช
แต่ว่าเรี่ยวแรงของอินทรีหัวขาวนั้นเยอะเกินไป กรงเล็บของบุชสะบัดสองสามทีแล้วกางออก นกสกัวตัวนั้นที่โดนมันจับได้แทบจะหมดแรงสู้ มันพอจะกางปีกออกบินไปบนท้องฟ้าได้แต่ก็บินโซเซไม่ตรงเหมือนกับคนเมา
ตอนที่อินทรีหัวขาวต่อสู้จะเหมือนกับอินทรีทอง ขนนกราวเหล็กกางออกเดือดดาลอย่างกับว่าสวมชุดเกราะเหล็กอยู่ นี่ก็คือที่ว่าทำไมบุชต่อสู้กลับมาแล้ววินนี่จะต้องจัดขนให้มัน
ปากของนกสกัวพอจะรับมือกับนกเล็กทั่วไปได้ แต่ไม่พอต่อกรกับอินทรีหัวขาว พวกมันจิกโจมตีหลายครั้งก็ไม่สามารถทำลายการคุ้มกันของบุชได้ แต่บุชกลับฉวยโอกาสโจมตีกลับ กัดและฉีกสองทีก็จัดการไปได้อีกหนึ่งตัว
นิมิตส์ก็เข้าร่วมการแย่งพื้นที่บ้าง นกโจรสลัดใหญ่ไม่ชำนาญการต่อสู้ก็จริง แต่มันตัวใหญ่ เสียงหวีดดังขึ้นพร้อมกับที่ออกบินแล้วทับนกสกัวสองตัวราวกับตัวเองเป็นยักษ์ พอปีกกวาดออกไปก็กวาดโดนนกตัวหนึ่งจนมันร้องกาๆ ไม่หยุด ปากก็จิกโจมตีอีกตัวอย่างรวดเร็ว จิกจนมันร้องครวญครางเจ็บปวดไม่ขาดสาย
เพียงไม่กี่อึดใจ เหล่านกสกัวที่ก่อนหน้านี้ขโมยเนื้อทอดและรังแกนกจมูกหลอดหางสั้นอย่างภาคภูมิใจต่างก็หนีกระเจิง พวกมันร้องกาๆ พลางบินไปที่ขอบฟ้าแสนไกล บุชกับนิมิตส์ไล่ตามไป ความเร็วของนกสกัวนั้นเทียบไม่ได้กับพวกมันจริงๆ!
นกสกัวโดนไล่โดนตีมาตลอดทางจนแทบแย่ มีนกตัวหนึ่งที่ไม่รู้ว่าบาดเจ็บตรงไหน หัวก้มลงก่อนร่างจะร่วงลงทะเลไปและไม่บินกลับขึ้นมาอีก
แบบนี้ที่เหลือก็หวาดกลัวกันไปหมด กระพือปีกหนีเอาตัวรอดกันเอาเป็นเอาตาย พอพวกมันเห็นว่าบินไปบนฟ้าก็สลัดมจุราชมีชีวิตสองตัวข้างหลังไม่หลุดเลยได้แต่มุดไปที่ป่าในเทือกเขาเคอร์บัล
โชคของพวกมันถือว่ายังดี เลือกทางหนีได้ถูกต้อง บุชกับนิมิตส์มีชื่อเสียงมากในเขตน่านฟ้าเทือกเขาเคอร์บัล พอเห็นพวกมันสองตัวปรากฏตัวขึ้นพร้อมๆ กัน เหยี่ยวหางแดงก็ขึ้นบินเตรียมต่อสู้ทันที
บุชกับนิมิตส์ไม่แสดงความอ่อนแอเลย ตีนกสกัวเสร็จก็มาตีกับเหยี่ยวหางแดงต่อ ทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ดุเดือดอีกครั้ง
เหล่านกสกัวโล่งใจ นึกว่าพวกมันหนีสำเร็จแล้ว พวกมันกำลังลังเลว่าจะหนีต่อหรือนั่งดูเขาสู้กัน จู่ๆ ก็รู้สึกว่าบนหัวมีเงาทอดลงมา พอเงยหน้าดูก็ต้องเศร้า อินทรีทองสองตัวกำลังจ้องพวกมันอย่างเย็นชาอยู่!
พอไม่มีการรบกวนจากนกสกัวฉินสือโอวก็ออกทะเลได้เสียที พวกชาวประมงเตรียมของเสร็จ เขาพาคนไปด้วยเจ็ดคนรวมถึงเหมาเหว่ยหลงด้วย แบบนี้จำนวนก็พอแล้ว อย่างไรเรือฮาวิซทก็เป็นเรือประมงขนาดเล็ก
ฝูงปลาในทะเลล้วนแล้วแต่ถูกทำสัญลักษณ์ไว้ เหมาเหว่ยหลงออกทะเลจับปลาครั้งแรกเลยตื่นเต้นกับทุกอย่าง เขาถามขึ้นว่า “เราจะหาฝูงปลาอย่างไร? พวกแกเมื่อกี้บอกว่าทำสัญลักษณ์ไว้แล้ว หมายความว่าอย่างไรเหรอ?”
เครื่องหาปลาคลื่นเสียงโซนาร์เปิดใช้งาน ฝูงปลาเป็นเบือปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ชาร์คยิ้มพลางกดเลื่อนเมนูหาฝูงปลาโอแถบสองสามฝูง พอเลือกเสร็จแล้วก็ไม่ต้องสนใจ
หลังจากนั้นที่เจอฝูงปลา เครื่องหาปลาก็จะล็อกและวิเคราะห์ให้อัตโนมัติ ถ้าเจอฝูงปลาโอแถบที่เคยทำสัญลักษณ์ไว้ สัญลักษณ์ฝูงปลาบนหน้าจอจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว
ที่นอกห้องโดยสารหิมะตกโปรยปราย เรือประมงแล่นไปอย่างช้าๆ ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่หนาวเท่าไรเลยไปยืนที่ท้ายเรือ มองดูวิวทะเลในฤดูหนาว
ทะเลในยามฤดูหนาวก็มีสีสันไปอีกแบบ เพราะไม่ค่อยมีลมทะเล คลื่นค่อนข้างสงบ สามารถเห็นเกล็ดหิมะพลิ้วไหวโปรยปรายอยู่เต็มท้องฟ้า เห็นได้ชัดยิ่งกว่าตอนอยู่บนบก
ฉินสือโอวสะบัดแจ็กเกต เขาไปหาหมวกฟางใบหนึ่งมาสวม หิมะจะได้ไม่ร่วงลงมาบนหัวเขา
มองดูหิมะตก จู่ๆ ฉินสือโอวก็นึกอะไรได้ อากาศแบบนี้มันเหมือนกับฉากในหนังสยองขวัญในทะเลชัดๆ ถ้าไม่ให้เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ออกมาแสดงตัวเสียหน่อยคงน่าเสียดายแย่
ฉินสือโอวจึงเปิดเครื่องรับส่งวิทยุติดต่อแบล็คไนฟ์ให้เขาสั่งการพวกบีบีซวง แอร์แบ็คขับเรือดำน้ำวนรอบหนึ่ง ครั้งนี้ไปทางใต้เรื่อยๆ เป็นการเดินทางไกลไปเลย วนแถบทะเลแฮลิแฟกซ์เสียหน่อย
ตามกำหนดการเดินเรือ เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์จะผ่านเรือกำปั่นทะเลทางใต้ ถึงตอนนั้นก็ให้เรือลำนี้คุ้มกัน เรือดำน้ำพลเรือนไม่เหมาะสำหรับการเดินเรือระยะไกล ถ้าเกิดปัญหาเรือกำปั่นทะเลก็สามารถเข้าช่วยเหลือได้
ออกทะเลมาสี่ชั่วโมงแล้ว พวกชาวประมงก็ยังไม่ได้ปล่อยอวน แค่รวมตัวคุยกันอยู่ในห้องคนขับ เหมาเหว่ยหลงเลยเริ่มอดไม่ได้บ้างแล้ว เขาเอ่ยถามว่า “ฉันว่าเราเจอฝูงปลาไม่น้อย ไม่ปล่อยอวนเหรอ?”
ฉินสือโอวตอบ “ออกทะเลจับปลา โดยเฉพาะจับปลาทะเลลึก ต้องมีความอดทน ฝูงปลาพวกนี้มีอยู่ก็จริง แต่ไม่ใช่เป้าหมายของพวกเรา พวกเราจะมาจับปลาโอแถบกัน ฉะนั้นถ้าหากเจอปลาค็อดก็ปล่อยพวกมันไปได้”
ถึงเวลาอาหารกลางวัน เหมาเหว่ยหลงทำโจ๊กผักหม้อหนึ่ง นี่เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมสำหรับการเดินทางทางทะเล อาจชอบทานอาหารทะเลตอนอยู่บนฝั่ง แต่พออยู่ในทะเล คนส่วนมากก็ไม่สนใจอาหารทะเล
นอกจากโจ๊กทะเล เหมาเหว่ยหลงยังทำโจ๊กผลไม้ไว้ด้วย ซึ่งทำง่ายมาก ก่อนอื่นผสมข้าวสารและข้าวฟ่างกับน้ำตาลกรวดแล้วหุงจนเกือบสุก จากนั้นก็ใส่ผลไม้จำพวกมะเขือเทศ แอปเปิล องุ่น ฮอว์ธอร์น ส้มหวานลงไป ตุ๋นไปเรื่อยๆ ก็เสร็จแล้ว สุดท้ายรสชาติจะเปรี้ยวๆ หวานๆ อย่างไรซะรสชาติก็ไม่แย่
ฉินสือโอวใช้ไมโครเวฟอุ่นพิซซ่าครึ่งชิ้น ยกชามโจ๊กผลไม้ยืนอยู่ที่ท้ายเรือดูวิวหิมะตกกลางทะเลต่อไป เหมาเหว่ยหลงเขยิบเข้ามาดูครู่หนึ่ง พอไม่เห็นอะไรน่าสนใจก็ส่ายหน้าแล้วจากไป
คนยืนอยู่บนเรือ แต่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปในทะเลแล้ว ฉินสือโอวชื่นชมวิวทะเลไปพลางควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้ว่ายไปในทะเล ในที่สุดหลังจากที่เขากินข้าวเสร็จเขาก็เจอฝูงปลาโอแถบฝูงหนึ่ง
“โอเค เพื่อนๆ เตรียมทำงาน!” ฉินสือโอวโยนชามพลาสติกย่อยสลายได้ลงไปในทะเล ของสิ่งนี้เมื่ออยู่ในทะเลก็จะย่อยสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยภายในหนึ่งอาทิตย์ ปลาทะเลกินลงไปก็ไม่มีอันตรายอะไร
เหมาเหว่ยหลงกำลังจะพูดว่ายังหาฝูงปลาไม่เจอ ปรากฏว่าชาวประมงข้างๆ ตัวล้วนแล้วแต่เริ่มยุ่งกับอะไรบางอย่าง ชาร์คกับแซ็กสองคนไปดูอวน พอไม่มีปัญหาก็ลากมาท้ายเรือ เปิดแผงควบคุมและรอคำสั่งปล่อยอวน
สิบกว่านาทีให้หลัง บนหน้าจอของเครื่องหาปลาปรากฏเงาสีเขียว ชาร์คที่ขับเรือโผล่หัวออกมาตะโกน “เอาเลย ปล่อยอวน!”
เหมาเหว่ยหลงเกาหัวแล้วพูดกับฉินสือโอว “แกรู้ได้อย่างไรว่าเจอฝูงปลาแล้ว?”
ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูดว่า “แกคิดว่าฉันยืนอยู่ที่ท้ายเรือทำอะไร? เหม่อเหรอ? ฉันกำลังสังเกต ปลาโอแถบใช้ชีวิตแบบรวมกลุ่ม เมื่อกี้ฉันเห็นปลาโอแถบว่ายโผล่ผิวน้ำเป็นพักๆ ก็รู้แล้วว่าใกล้จะเจอฝูงปลาแล้ว”
เหมาเหว่ยหลงยกนิ้วให้อย่างนับถือแล้วเอ่ยปาก “เพื่อน เก่งจริง มิน่าล่ะแกถึงทำฟาร์มปลาได้ใหญ่ขนาดนั้น เชี่ยวชาญจริงๆ เลย”
………………………………………………….