ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 925 ยุ่งกับการเก็บองุ่น
พอฉินสือโอวยืดเส้นยืดสาย พวกกระดูกและข้อก็ดัง ‘กรอบแกรบ’ ขึ้นมา ทำเอาเขาตกใจ แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองว่า “ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย ฉันแก่แล้วจริงๆ เหรอ? ออกกำลังกายทุกวันแต่ทำไมพอขยับหน่อยเสียงข้อก็ดังซะแล้ว?”
วินนี่ก็ยืดเส้นยืดสาย ฉินสือโอวรีบเข้ามาพยุงเธอ แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “เด็กโง่ คุณอย่าหาเรื่องตื่นเต้นสิ ผมกลัวจริงๆ ว่าคุณจะนั่งยองลงไปตรงพื้นแล้วลูกจะคลอดออกมา…”
ฟอกส์ที่กำลังทำความสะอาดโต๊ะอยู่พอได้ยินประโยคนี้ก็หลุดขำออกมา “ฉิน ฉันควรบอกว่าคุณเป็นคนตลกดีหรือว่าคุณกล้าคิดแบบนี้ได้ยังไง?”
ฉินสือโอวพอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกเสียใจ ถ้าตอนนี้ลูกออกมาก็เท่ากับแท้ง เขาลูบจมูกแล้วพูดว่า “คุณคิดว่าผมสมองพิการก็โอเคแล้ว”
วินนี่ตีไปที่มือของเขาแล้วพูดว่า “คุณเขยิบออกไป ฉันออกอยู่ทุกวัน อีกอย่างคนท้องก็ควรจะออกกำลังกายให้แข็งแรงขึ้น ไม่ใช่เหรอ? ส่วนสำหรับปัญหาของคุณเพราะว่าคุณออกกำลังกายหักโหมมากไป คุณน่ะต้องออกไทเก๊กหรือว่าโยคะ แบบนี้ถึงจะเป็นการรักษาสุขภาพที่แท้จริง”
ฉินสือโอวกำหมัดแน่นแล้วกระแทกลงไปตรงฝ่ามือ หมัดแหวกอากาศมีเสียงลมแรงออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อให้เกิดความรู้สึกน่าเกรงขาม พอเป็นแบบนี้เขาก็รู้สึกหยิ่งทะนงขึ้นมา แล้วพูดว่า “ช่างมันเถอะ ผมจะออกกำลังกายด้วยระดับความแข็งแรงแบบนี้ไว้เหมือนเดิมดีกว่า”
คุณลุงฮิคสันออกจากรถกระบะคันเก่าของเขา หู่จือและเป้าจือรีบวิ่งไปหาเขาพร้อมกับกระดิกหางไปมา ชายชราจึงควักเอาน่องไก่ทอดสองชิ้นออกมาจากกระเป๋า ส่ายมันไปมาแล้วพูดว่า “ดูสิ ฉันมีของขวัญมาให้พวกแกด้วยนะ”
ฉินสือโอวเดินออกไปแล้วยิ้ม “โอ้ว สำหรับพวกเด็กๆ แล้วเนี่ย คุณลุงเป็นแขกที่เด็กๆ ยินดีต้อนรับมากที่สุดแล้ว”
ชายชราหัวเราะอย่างพึงพอใจ บอกว่าเขาเป็นที่ชื่นชอบของพวกเด็กๆ มาโดยตลอด
วินนี่ชงชาให้กับคุณลุง แล้วจึงถามเขาว่ามาอย่างไร มีกองหิมะสูงบนถนนเต็มไปหมดขับรถมาได้ด้วยเหรอ?
พอพูดถึงเรื่องนี้ ชายชราหัวเราะอย่างมีชัยออกมาทันที เขาชี้ไปที่รถด้านนอกแล้วพูดว่า “ฉันปรับเปลี่ยนรถของฉัน รถของเก่าของฉันมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนนับไม่ถ้วน มันก็เป็นเหมือนเสาค้ำยันชีวิตฉัน”
ฉินสือโอวออกไปดูรถเพื่อการนี้ ที่แท้รถกระบะคันเก่าของคุณลุงมีพลั่วกำจัดหิมะแขวนอยู่ที่ด้านหน้าสุด ไม่ได้เป็นแบบขนาดใหญ่สุด แต่เป็นแบบแบ่งเป็นสองอัน แขวนอยู่ด้านหน้ารถทั้งสองด้าน
หากเป็นพลั่วกำจัดหิมะที่มีลักษณะคล้ายรถยก จะต้องใช้น้ำมันดีเซล รถถึงจะสามารถขับเคลื่อนไปได้ ถ้าเป็นรถคันเล็กของคุณลุงฮิคสันคงไม่ขยับไปไหน แต่ตอนนี้เขากลับใช้พลั่วกำจัดหิมะขนาดเล็กที่มีพื้นที่รับแรงเพียงเล็กน้อย มันแค่ช่วยโกยทางให้กับล้อของรถเท่านั้น แรงต้านทานจึงลดลงไปมาก
พาวลิสก็กำลังนั่งยองๆ วิเคราะห์อยู่ สีหน้าแสดงออกว่ากำลังคิดอย่างจริงจัง เขาไม่เพียงแค่มองแต่ยังเอามือไปลูบจนมือเต็มไปด้วยโคลน สุดท้ายเขาก็เอาหิมะมาถูที่มือเพื่อล้างเอาโคลนออก หลังจากนั้นก็ตะโกนเรียกหลัวปอ แล้วก็เอามือเช็ดไปที่ตัวของมัน พอสะอาดแล้วก็วิ่งจากไป
หลัวปอน้อยสูดจมูกฟึดฟัดด้วยความน้อยใจ เห็นเป็นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะบอกฉินสือโอว พ่ออะ พ่อมีลูกซนแบบนี้ได้อย่างไรกัน!
พอคุณลุงฮิคสันดื่มชาร้อนไปหนึ่งถ้วย หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปขยับเอารถลากเลื่อนหิมะลงมาแล้วพูดว่า “ปะ ฉิน พวกเราไปเก็บไอซ์ไวน์กัน!”
ฉินสือโอวเพิ่งค้นพบว่าผู้ชายแคนาดามีความสามารถด้านงานฝีมือมาก เครื่องมือในครัวเรือนหลายชิ้นถูกทำขึ้นมาด้วยตัวเอง อย่างคุณลุงฮิคสัน พลั่วกำจัดหิมะกับรถลากเลื่อนหิมะก็เห็นได้ชัดเลยว่าเขาทำมันขึ้นมาเอง
รถลากเลื่อนหิมะคันนี้มีตะกร้าหวายสานอยู่ซึ่งเหมาะสำหรับเอามาใส่องุ่นพอดี แล้วก็ยังมีตะกร้าหวายอีกหลายใบอยู่บนรถ เป็นแบบสานเองทั้งนั้น ขนาดก็เท่ากันทุกใบ
ฉินสือโอวถือตะกร้าหวายสองใบ ลุงฮิคสันแนะนำเขาให้เตรียมรถลากเลื่อนหิมะด้วย ไม่อย่างนั้นจะเหนื่อยมาก
เขาจึงโชว์กล้ามตรงต้นแขน หัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “สบายใจได้ครับ แรงผมเยอะ ไม่เหนื่อยหรอกครับ”
คุณลุงฮิคสันยักไหล่แล้วพูดว่า “จริงสิ ฉันก็ลืมการกระทำที่อาจหาญตอนนั้นของนายที่งัดข้อกับคนร้อยกว่าคนที่ผับ ฉันคิดว่าวันนั้นนายกลับเร็วไปหน่อยนะ นายได้เป็นราชาขาแดนซ์ ต่อมายังมีการเลือกราชินีขาแดนซ์ด้วยนะ รู้ไหมว่าใครได้?”
ฉินสือโอวส่ายหน้าแต่ก็เดาว่า “ใช่คุณครูเชอร์ริลหรือเปล่าครับ?”
ชายชราชี้นิ้วไปที่เขาแล้วหัวเราะเสียงดัง “แม่ง ผู้ชายก็เหมือนกันหมด นายต้องอยากได้เชอร์ริลมานานแล้วใช่ไหม? วางใจได้ ฉันจะไม่บอกวินนี่เรื่องนี้”
ขณะที่พูดเขาก็ขยิบตาให้ เหมือนบอกว่านี่เป็นความลับระหว่างผู้ชายสองคน
ฉินสือโอวกลับแอบก่นด่าอยู่ในใจ เขาอยากได้เชอร์ริลบ้าบออะไร ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะลามกโอเคไหม!
“ไม่บอกพี่วินนี่อะไร?” เสียงดังฟังชัดเสียงหนึ่งถามขึ้นมา
ชายชรากระโดดขึ้นมาด้วยความตกใจแบบเกินความเป็นจริงไปหน่อย หลังจากนั้นก็หันหลังไปมองเด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าตามขึ้นมาเมื่อไร “โอ้ เชอร์ลี่ย์ นางฟ้าตัวน้อยของฉัน เธออย่าทำให้คนอื่นตกใจแบบนี้นะรู้ไหม คนแก่น่ะหัวใจอ่อนแอมากๆนะ!”
“แต่คุณลุงยังไม่ได้บอกหนูเลยว่า ความลับระหว่างคุณลุงกับฉินคืออะไร” เชอร์ลีย์จ้องตากลมแบ๊ว เอียงคอแสดงสีหน้าไร้เดียงสาที่ไม่คิดร้ายใดๆ แต่ฉินสือโอวรู้ดีว่า เวลานี้โลลิต้าเจ้าเล่ห์มากที่สุดแล้ว
ยังดีว่าคุณลุงฮิคสันไม่ได้โดนโลลิต้าหลอก เขาโบกไม้โบกมือไปมา แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเลย มามะ พวกเรามาช่วยกันเก็บองุ่นด้วยกันเถอะ”
บนเถาวัลย์องุ่นเต็มไปด้วยหิมะ พอเป็นแบบนี้ก็จะหาองุ่นได้ยากหน่อย ต้องปัดหิมะทิ้งก่อนถึงจะหาเจอ ยังดีว่าไม่มีใบตรงเถาวัลย์ ส่วนที่นูนออกมาจึงเป็นองุ่นแน่นอน
ฉินสือโอวอยู่บนสันเขา พอก้าวเหยียบลงไปบนหิมะก็ไม่ได้สูงเกินกว่าเข่า
พาวลิสและคนอื่นๆ ก็ใส่รองเท้าบูตยาวตามมาช่วยกัน มิเชลมีรูปร่างเล็ก พอเขาก้าวเข้าไปในสวนองุ่น หิมะก็สูงถึงน่องแล้ว สีหน้าของเขาแสดงความผิดหวัง “ฉิน ผมคงไม่โดนหิมะทับตายตรงนี้ใช่ไหม?!”
ฉืนสือโอวยิ้ม แล้วอุ้มเขาขึ้นมาแล้วลากเขาออกมาจากตรงที่มีหิมะ แล้วพูดขึ้น “นายไปหาปอหลัว แล้วขับรถไปส่งองุ่นเถอะ ตรงนั้นก็ต้องมีคนช่วยงานเหมือนกัน จริงไหม?”
พวกชาวประมงเดินมา เขายื่นแว่นถนอมสายตาสีอ่อนให้กับฉินสือโอว เพราะการที่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีหิมะนานๆ จะส่งผลเสียต่อสายตาเป็นอย่างมาก
ชาร์คเก็บองุ่นอยู่ฝั่งตรงข้าม พอใช้กรรไกรตัดฉึบ องุ่นแดงทั้งพวงก็ร่วงลงมา เขาเอาองุ่นใส่ในลังแล้วพูดกับฉินสือโอวว่า “บอส รอบนี้หิมะเยอะมาก บอสอยากเล่นสกีสักหน่อยไหม?”
“ไปเล่นที่ไหนล่ะ?” ฉินสือโอวถาม “ที่เมืองเซนต์จอห์นมีที่เล่นสกีเจ๋งๆ ไหม?”
ชาร์คชี้ไปทางเทือกเขาเคอร์บัลที่อยู่ด้านหลัง เขายิ้มแล้วพูดว่า “ใช้เส้นทางหลักที่ขึ้นเขาได้ครับ พวกเราก็ไม่ได้เต้นสกีบัลเลต์อะไร แค่เล่นสนุกเท่านั้นเอง เมื่อวานฮิวจ์คนน้องก็จัดการแข่งขันสกีบนทางสาธารณะเช่นกัน”
แน่นอนว่าฉินสือโอวชอบกิจกรรมแบบนี้มาก เขาจึงพยักหน้าแล้วบอกว่าพรุ่งนี้เตรียมตัวกัน พวกเขาจะไปเอารางวัลที่หนึ่งในการแข่งขัน
ชาร์คส่ายหน้าแล้วบอกว่า “ถ้าเป็นแข่งว่ายน้ำ พวกเราพี่น้องไม่กลัวเลยครับ กวาดรางวัลสามรางวัลแรกไม่ใช่ปัญหา แต่สกีนี่ท่าจะลำบาก”
ตอนที่ฉินสือโอวกำลังคุยกับเขา ทั้งหู่จือ เป้าจือ ฉงต้าและหลัวปอก็เดินตึงตังมาทางนี้ หิมะสูงมาก พวกมันจึงก้าวขาไม่ออกเลย
ซิมบ้าวิ่งไปมาบนหิมะอย่างคล่องแคล่ว ราวกับกำลังเต้นบัลเลต์อย่างไรอย่างนั้น ก้าวเตะสลับไปมา เดี๋ยววิ่งเดี๋ยวหยุด สีหน้าของเสี่ยวเปาจึงหมดความอดทนแล้ว ฝูงเพื่อนก็พาไปต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ
รอจนแมวป่าน้อยวิ่งมาหา ฉินสือโอวก็จับเอามันวางลงบนเสาไม้ที่มีองุ่นเกาะอยู่ ให้มันจัดการปัดหิมะที่ติดอยู่บนองุ่นออกด้วยมือเล็กๆ ของมัน
งานนี้เหมาะกับซิมบ้าพอดี มันถนัดในการปีนป่าย แล้วพวกเถาวัลย์องุ่นพวกนี้ก็มักจะขึ้นเลื้อยตามเสาไม้ไป ซึ่งมันสามารถปีนไปอยู่บนนั้นได้อย่างสบาย อีกอย่างจมูกมันก็ไวมากจึงง่ายที่จะหาองุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในหิมะ
พอเป็นแบบนี้ ประสิทธิภาพการทำงานของฉินสือโอวก็เพิ่มขึ้นทันตา
……………………………………….