ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 957 ของขวัญของพระเจ้าไม่ได้ดีขนาดนั้น
“ในบรรดาลูกชายของผม ไวส์เป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงที่สุด อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ก็ถือว่าเขามีร่างกายแข็งแรงที่สุด แต่ว่าก็ไม่ได้แข็งแรงมากนัก คุณไม่ได้พาเขาไปออกกำลังกายหนักๆ ใช่ไหมครับ? เขาออกไม่ไหวหรอกนะ” จอร์จถามออกมา
“การวิ่งคงไม่ได้ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่หนักหรอกใช่ไหมครับ?”
“ใช่สิ!” จอร์จโพล่งขึ้นมาทันที
ฉินสือโอวโบกมือไปมาพลางพูดว่า “ไม่ต้องตกใจไปครับ ผมไม่ได้ให้เขาออกกำลังกายหนักอะไร เพียงแค่อาบน้ำด้วยกันเท่านั้น ตอนนี้เขาสบายดี กำลังหลับอยู่ครับ”
จอร์จถอนหายใจออกมา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “ไวส์เป็นเด็กดี นอกจากจะชื่นชอบกังฟูแล้ว เวลาที่เขาพูดถึงกังฟูท่าทางของเขาดูคลั่งไคล้มาก กังฟูมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตวัยเด็กของเขา ตอนนั้นเป็นผมเองที่ละเลย ผมคิดแค่ว่าจะให้ไวส์ได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กคนอื่นทั่วๆ ไป ไม่ได้คิดเลยว่าเขาจะโดนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน และด้วยความที่เขาเป็นเด็กดี เมื่อกลับมาบ้านเขาก็ไม่บอกอะไรเลยสักคำ”
“จนกระทั่งวัยรุ่นชาวจีนผู้มีความยุติธรรมคนหนึ่งเข้ามาช่วยเขา ตั้งแต่นั้นมาเขาก็มองกังฟูจีนว่าเป็นความหวังในชีวิต แต่ผมรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเรียนกังฟูได้ ผมคิดหาวิธีที่จะตัดเขาออกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกังฟู…”
“เดี๋ยวนะครับ ผมขออนุญาตพูดแทรกเสียหน่อย คุณครับ ไวส์บอกว่าพ่อของเพื่อนเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ แต่ว่าต่อมาพวกเขาก็ย้ายออก คุณคงไม่ได้เป็นคนให้พวกเขาย้ายออกไปใช่ไหมครับ?” ฉินสือโอวมองไปยังจอร์จด้วยความสงสัย
จอร์จพยักหน้าอย่างเรียบง่าย “ใช่แล้ว เป็นผมเอง ผมให้เงินลงทุนแก่พ่อของนักเรียนคนนั้นเพื่อไปเปิดโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ที่สวิตเซอร์แลนด์ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาย้ายไป มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วบอกให้เขาพูดต่อ
“ไวส์เป็นเหมือนกับสปริง ผมประเมินความดื้อรั้นของเขาไว้ต่ำเกินไป เพราะว่าทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าผมหรือแม่ของเขา ท่าทางที่แสดงออกมามีแต่การเป็นเด็กดีและดูอ่อนโยน พอผมห้ามไม่ให้เขายุ่งเกี่ยวกับกังฟูจีน กลายเป็นว่าเขายิ่งกลับเข้าไปยุ่งกับกังฟูลับหลังผมมากกว่าเดิม เขาเก็บเงินค่าขนมเพื่อไปจ้างนักเรียนแลกเปลี่ยนคนหนึ่งให้มาเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนของเขาเลยด้วยซ้ำ ”
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแผนการของพระเจ้า นักเรียนแลกเปลี่ยนคนนั้นเป็นชายผู้คลั่งไคล้ในศิลปะการต่อสู้คนหนึ่ง เหอะ ถ้าไม่เป็นเพราะผมให้นักสืบเอกชนไปสืบเรื่องนี้ล่ะก็ ผมก็ยังคงคิดว่าเป็นศัตรูของผมที่ตั้งใจวางแผนให้เกิดเรื่องแบบนี้กับลูกชายของผม!” จอร์จอดไม่ได้ที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา ในที่สุดภาพลักษณ์ของเจ้าพ่อค้าเหล็กก็หายไป
ฉินสือโอวถามออกมาอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมคุณถึงมองกังฟูจีนแบบนั้นล่ะครับ?”
จอร์จพูดออกมาเสียงดังว่า “ไม่ ผมไม่ได้มองกังฟูจีนแบบนั้น แต่ไวส์ไม่สามารถรับกับการออกกำลังกายหนักได้! ร่างกายของเขาไม่พร้อม! ผมไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด! เขาน่ะ เฮ้อ พระเจ้า!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ คุณพ่อท่านนี้ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าของตัวเอง ฉินสือโอวไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี เขาทำได้เพียงตบบ่าจอร์จเท่านั้น
จอร์จสะดุ้งตกใจ คาดว่าคงไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเขา ไม่นานเขาก็กลับมาควบคุมอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว เขาพูดต่อว่า “ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว การห้ามเพียงอย่างเดียวคงจะไม่ได้ผล ดังนั้นผมเลยต้องการเจอคุณ อะจารย์ฉิน ผมหวังว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนความคิดของไวส์ได้ ทำให้เขาเลิกหมกมุ่นกับกังฟูจีนด้วยเถอะ”
ฉินสือโอวเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยทำแบบนี้ใช่ไหม?”
จอร์จพูดกลั้วหัวเราะว่า “ผมแนะนำฮีโร่ของฝั่งอเมริกาให้กับไวส์ทุกตัว โดยเฉพาะไอรอนเมน ผมเคยขอร้องให้โรเบิร์ต ดาวน์นี่ จูเนียร์สวมชุดเกราะไอรอนแมนมางานฉลองวันเกิดของเขาด้วย แต่มันน่าเสียดาย ที่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย!”
“ทำอะไรไม่ได้เลย? ไม่ใช่ว่าเหล่าเด็กๆ จากฝั่งอเมริกาชอบฮีโร่พวกนี้ที่สุดเหรอครับ?”
“แต่ในความเป็นจริงแล้วดาวน์นี่ไม่ใช่ฮีโร่ เขาคือฮีโร่ในจอ! รู้ไหมว่าหลังจากที่ไวส์เจอกับดาวน์นี่เขาทำอะไร? เขาเตรียมอิฐสีแดงอันหนึ่งไว้ จากนั้นก็ส่งมันให้ดาวน์นี่ แล้วให้เขาสับอิฐอันนั้นให้แยกเป็นสองส่วน คุณนึกสีหน้าของไอรอนแมนในตอนนั้นออกหรือเปล่า?” จอร์จหัวเราะออกมา
ลองนึกภาพไอรอนแมนถืออิฐอยู่ในมือแล้วทำอะไรไม่ถูกดูสิ ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเช่นกัน
จอร์จค่อยๆ เล่าเรื่องของลูกชายของตัวเอง เล่าถึงเรื่องที่ตัวเองทำออกมา เขายอมรับในเรื่องที่ฉินสือโอวเป็นอาจารย์ของไวส์ ดังนั้นเขาหวังว่าฉินสือโอวจะสามารถเข้าใจไวส์ได้มากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว หลังจากที่พูดคุยกัน ฉินสือโอวก็ถามขึ้นว่า “ทำไมคุณถึงไว้ใจผม? แล้วให้ผมดูแลลูกของคุณล่ะครับ?”
จอร์จตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผมไม่ได้วางใจ แต่ไวส์เลือกคุณ อีกอย่าง ผมถามเหล่าคนที่รู้จักคุณแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ประเมินคุณไว้สูงนัก แต่ทุกคนก็บอกว่าคุณเป็นคนดี เป็นคนจริงใจ”
“ประเมินผมไม่สูงหมายความว่าอะไรเหรอครับ?” ฉินสือโอวติดใจในปัญหาข้อนี้
จอร์จแสดงสีหน้าเลิ่กลั่กออกมา เขากระแอมออกมา แล้วพึมพำว่า “บ้าเอ๊ย เหมือนหลอดลมผมจะมีปัญหา ผมขอตัวไปพักก่อนนะ ไว้เราค่อยคุยกันใหม่ อะจารย์ฉิน ไว้เราคุยกันใหม่นะ”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉินสือโอวตะโกนออกมาว่า “คำถามสุดท้าย ไวส์ป่วยเป็นอะไรกันแน่ครับ?”
จอร์จที่กำลังเดินออกไปอย่างรีบร้อนหยุดลงทันที แผ่นหลังที่ดูแข็งแกร่งดูอ่อนยวบลงเล็กน้อย “เป็นโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อตั้งแต่กำเนิด เป็นของขวัญที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้กับเด็กผิวขาวผู้โดดเดี่ยว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะไม่เกิดขึ้นกับลูกของคุณและคุณแน่นอน ของขวัญบ้าบอนี่!”
ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะกับเด็กที่มีผิวขาว เป็นความผิดปกติด้านยีน ไขกระดูกไม่สามารถที่จะสร้างเซลล์เม็ดเลือดได้ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโต การให้ยาและการให้เลือดสามารถบรรเทาอาการลงได้ช่วงระยะแรก แต่ผลการรักษาของมันจะอยู่ได้นานสุดแค่หกปีเท่านั้น
ฉินสือโอวเก็บโทรศัพท์ลง เขาบอกลาจอร์จและไปยังริมทะเล เขาต้องการที่จะพักผ่อนใจไปกับสายลม เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าจิตสำนึกแห่งโพไซดอนจะสามารถเปลี่ยนยีนของคนได้หรือไม่
นอกจากนี้ ถ้าหากว่าเขารักษาไวส์ได้ แล้วเขาจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน? ปัญหาสุขภาพของลูกชายเจ้าพ่อการค้าเหล็ก โรงพยาบาลใหญ่ๆ คงมีบันทึกการรักษาไว้หมดแล้ว
ฉินสือโอวเดินไปเรื่อยๆ จนเดินมาถึงข้างๆ ท่าเรือ มีคนบางกลุ่มกำลังยืนอยู่แต่เขาไม่ได้สนใจ แต่มีคนเข้ามาดึงเสื้อของเขา
ฉินสือโอวตื่นขึ้นมาจากภวังค์ เขาหัวไปมองใบหน้าสดใส เธอคือเจ้าหญิงซามาลาห์จากดูไบ ด้านหลังของเจ้าหญิงคืออาฟิฟ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมที่กำลังยิ้มกว้างมาให้อยู่ไม่ห่าง
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ? ฉันเรียกคุณตั้งหลายรอบ คุณไม่ตอบกลับเลย” เจ้าหญิงโลลิต้าขมวดคิ้วพลางพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
ฉินสือโอวยิ้มออกมาแล้วตอบกลับว่า “เอาล่ะ ผมขอโทษครับ ว่าแต่คุณทำอะไรอยู่?”
เจ้าหญิงโลลิต้าตอบกลับมาอย่างร่าเริงว่า “พวกเรากำลังจะไปดูปะการังและก็ไปเก็บเปลือกหอยสวยๆ เราอาจจะจับได้ปูตัวเล็กๆ ที่น่าสนใจมาด้วยก็ได้ คุณอยากไปกับพวกเราไหมคะ?”
ฉินสือโอวแบมือแสดงท่าทีไม่สนใจออกมา เจ้าหญิงโลลิต้าแกว่งแขนเสื้อของเขาไปมาแล้วพูดขึ้นว่า “ไปเถอะนะคะ คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลา คุณจะต้องรู้ว่าที่ไหนมีเปลือกหอยสวยๆ ฉันไม่เคยเก็บเปลือกหอยด้วยตัวเอง อีกอย่างฉันก็อยู่กับพี่ชายที่น่ารำคาญนี่อีก มีพวกเราแค่สองคนมันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่เลย”
อาฟิฟกระแอมออกมา แล้วพูดขึ้นว่า “ซามาลาห์ เธอไม่ควรวิจารณ์พี่ชายของตัวเองแบบนี้นะ พระอัลเลาะห์ไม่ชอบหญิงสาวที่พูดจาลับหลังคนอื่นในทางไม่ดีนะ”
เจ้าหญิงโลลิต้ายิ้มหวานออกมาแล้วพูดว่า “งั้นขอถามหน่อย ใครเป็นคนที่มาพูดเรื่องไม่ดีของฮามานแดนกับฉันลับหลังเขา? หลายรอบด้วยนะ”
อาฟิฟกะพริบตาปริบๆ เขารีบลากเจ้าหญิงโลลิต้าออกมาอีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็กระซิบอะไรไม่รู้กันอยู่สองคน
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง มันจะต้องเป็นเรื่องในตอนที่อาฟิฟยังเด็กและพูดกับเจ้าหญิงโลลิต้าแน่นอน ปรากฏว่าพวกเขายังคงจำได้จนถึงตอนนี้ และได้กลายเป็นหัวข้อในการต่อรองแล้ว
……………………………………………………