ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก - บทที่ 134 ผอ.ซุนไค
บทที่ 134 ผอ.ซุนไค
ต่อให้เฉินเฉียงในตอนนี้จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับตงเจี๋ยนขนาดไหน ท่าทางเหมือนขนาดไหน นิสัยเหมือนขนาดไหนก็ตาม
แม้ว่าเขานั้นจะรู้แล้วว่าตงเจี๋ยนเป็นคนที่ชอบกอล้อกอติกกับผู้หญิงมากๆ
ถึงแม้ว่าเฉินเฉียงจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลาจริงแล้วเมื่อเขาเข้าใกล้ผู้หญิงพวกนี้ เขาเองก็อดที่จะทำให้ใจสงบไม่ได้
แน่นอนว่าทันทีที่เขาเข้ามายังสำนักมังกรอาชูร่านั้น ชุนเต๋าน้อยคนนี้ต้องจับเขาได้เป็นคนแรกอย่างไม่ต้องสงสัย
ชุนเต๋าน้อยคนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเขานั้นคือลูกสาวของผอ.แผนกการศึกษาของสำนักมังกรอาชูร่า เขานั้นเพียงแค่คิดกับเธอในตอนนี้เพียงแค่เป็นทางเชื่อมไปหาผอ.แผนกการศึกษาเพียงเท่านั้น
เฉินเฉียงในตอนนี้ทำได้เพียงกัดกระสุนนัดนี้เข้าไปเท่านั้น “ชุนเต๋าน้อยจ๋า สุดที่รัก แม้แต่เจ้าเองก็จำข้าไม่ได้แล้วเหรอ ข้าตงเจี๋ยนไงจ๊ะ ตงหลางของเจ้าไง”
“ไม่จริง”
ชุนเต๋าน้อยได้ยืนขึ้นก่อนจะชี้ไปที่เฉินเฉียงในคราบตงเจี๋ยนแล้วพูดออกมา “แกมันแค่มีหน้าเหมือนเขาเท่านั้น แกก็แค่มีท่าทางแบบเดียวกับเขาเท่านั้น”
“แต่ตงเจี๋ยนของข้าไม่มีทางผลักข้าแบบนี้ เขาไม่เคยแม้แต่ทำข้าเจ็บตัวด้วยซ้ำ”
“แล้วก็แล้วก็ กลิ่น กลิ่นกายของเจ้าไม่เห็นเหมือนตงเจี๋ยนเลยสักนิด”
“ห้ะ……กลิ่นตัวเนี่ยนะ”
เฉินเฉียงแสดงหน้าโง่งมในทันที
นั่นก็เพราะข้อมูลที่เขาได้รับมานั้นไม่ได้มีเรื่องกลิ่นตัวนี้แต่อย่างใด
-สัมผัสของผู้หญิงนี่โคตรน่ากลัวนัก-
ในขณะที่เฉินเฉียงนั้นแทบจะฉีกสมองรีดเร้นทางเอาตัวรอดอยู่นั้น เขาก็ราวกับถูกตอกตะปูด้วยคำพูดของชุนเต๋าน้อยคนนี้ “แล้วแก แกคงไม่รู้สินว่า ข้า ชุนเต๋า ไม่เคยตงเจี๋ยนว่าตงหลาง”
“มีแต่ยัยพวกสำส่อนนั่นเท่านั้นที่เรียกเขาด้วยชื่อน่าขยะแขยงแบบนั้น”
“ดังนั้นแกไม่ใช่ตงเจี๋ยน”
“บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าแกเป็นใคร”
“แล้วตงเจี๋ยนเขาอยู่ไหน”
“อย่า…อย่าบอกนะ…ว่าแกฆ่าเขาไปแล้ว”
คำพูดของชุนเต๋าแต่ละคำพูดราวกับเป็นประตูที่ได้ปักเฉินเฉียงไม่ให้ไปไหน เขาในตอนนี้พูดไม่ออกเลยสักคำ
หากว่าเขารู้แบบนี้เขาจะไม่แกล้งเป็นตงเจี๋ยนต่ออย่างแน่นอน เด็กสาวตรงหน้าเขาคนนี้มีประสาทสัมผัสที่ลึกล้ำ ไม่ว่าใครก็ตามหากมาเลียนแบบเป็นตงเจี๋ยนแน่นอนว่าย่อมต้องถูกเปิดโปงทุกราย
แต่ในเมื่อเขาโดนเปิดโปงแล้ว เขาในตอนนี้ต้องหาวิธีอธิบายให้รอดพ้นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องถูกเข้าใจผิดขนานใหญ่เป็นแน่
“แม่นางชุนเตา ท่านเข้าใจผิดแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิด”
อย่างไรก็ตาม เมื่อชุนเต๋านั้นได้ยินเสียงที่แท้จริงของเฉินเฉียงแล้ว น้ำตาของเธอนั้นไหลพรากราวกับสายฝน เธอชี้มาที่เฉินเฉียงด้วยความโกรธเกรี้ยวพละพูดออกมา “แกไม่ใช่ตงเจี๋ยนจริงๆ แล้วแกยังมีอะไรจะพูดอีก พี่น้อง พวกเราต้องใจไอ้หัวขโมยนี่แล้วทำให้มันบอกมาให้ได้ว่าเอาตัวตงเจี๋ยนไปไว้ที่ไหน”
ชุนเต๋าได้เรียกเหล่าศิษย์สำนักนับสิบที่รายรอบมองดูอยู่ พวกเขาพุ่งเข้ามาพร้อมๆกันในทันที
เฉินเฉียงนั้นตกตะลึงกับเหตุการณ์ในตอนนี้จนเขานั้นต้องดำดินลงไปในทันที และโผล่ออกมาในอีกที่หนึ่ง เขายังคงพยายามอธิบายเหตุผลออกมา “แม่นางชุนเต๋า ข้าไม่ได้ฆ่าตงเจี๋ยนจริงๆ และข้าก็ไม่ได้มีรสนิยมในการเลียนแบบผู้ใด โปรดฟังข้าอธิบายก่อน”
“พี่น้อง พวกท่านเห็นรึยัง ตงเจี๋ยนนั้นเป็นศิษย์แผนกทองคำ แต่ไอ้คนนี้มันกลับใช้ทักษะสายเลือดปฐพี ยังไงไอ้คนนี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่แล้ว รีบจับมันเร็วเข้า”
เป็นไปได้ว่าไอ้หมอนี่จะเป็นสายลับที่พวกมนุษย์กลายพันธุ์ส่งมา เร็วเข้า รีบไปตามผอ.มาซะ
เมื่อเห็นศิษย์สำนักมังกรอาชูร่ามารวมตัวกันมากมายขนาดนี้ เขารู้แล้วว่าตัวเขานั้นไม่อาจจะอธิบายอะไรออกไปได้อีก เขาในตอนนี้ต้องหาทางออกไปจากที่นี่ก่อนเพียงเท่านั้น
เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินเฉียงได้ก้มตัวและเตรียมที่จะดำลงไปในดินอีกครั้ง แต่เป็นตอนนี้ที่ร่างกายของเขาได้ถูกหยุดเอาไว้
-ฉิบหาย-
-ทักษะของพวกระดับราชา-
ฉากนี้แทบจะเหมือนกับตอนที่เขาได้ถูกคุมตัวโดยราชาสวรรค์ไม่มีผิด
เฉินเฉียงที่ถูกคุมตัวไว้แล้วนั้น แต่พวกศิษย์สำนักมังกรอาชูร่านั้นไม่ได้สนใจหรือไม่รู้ก็ไม่ทราบได้ พวกเขาพุ่งตรงเข้ามาหาเฉินเฉียงและประเคนทั้งทักษะและหมัดลุ่นๆใส่เฉินเฉียงอย่างไม่ยั้ง เฉินเฉียงในตอนนี้ไม่แม้แต่จะกระดิกนิ้วได้ ทำได้เพียงยอมโดนต่อยตีอยู่อย่างเงียบเฉียบ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับถูกหยุดไว้ในทันที
“พวกเจ้า ออกไปเดี๋ยวนี้”
เสียงที่ก้องกังวลดังขึ้น ตามมาด้วยชายเคราสลวยที่มีอายุประมาณสี่สิบปีได้เดินเข้ามา
“เป็นท่านผอ.”
“ท่านผอ. โปรดตัดสินโทษมันด้วย ท่านต้องฆ่ามันแทนตงเจี๋ยน”
ผอ.ซุนไคแห่งสำนักมังกรอาชูร่าได้ยกมือขึ้นห้ามปรามและพูดออกมา “ศิษย์ทั้งหลาย ในเมื่อชายคนนี้สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้เหมือนศิษย์สำนักเราได้ ความสามารถของมันนั้นเหมือนกับมนุษย์กลายพันธุ์ที่หลบหนีไปได้จากสนามรบที่ตึกฮัวจ้งเมื่อปีก่อน”
“พวกเจ้านั้นถอยไปก่อน ปล่อยให้ข้าดึงแผ่นพลังงานของมนุษย์กลายพันธุ์ตนนี้ออกก็พอ ตราบใดที่ข้าดึงแผ่นพลังงานของมันออก มนุษย์กลายพันธุ์ตนนี้ก็จะตกตายลง”
“อย่าได้กังวลไป ในเมื่อมันฆ่าศิษย์สำนักเรา ข้าในฐานะผอ.ย่อมไม่ปล่อยให้มันต้องตกตายโดยดี”
ชุนเต๋าและศิษย์สำนักมังกรอาชูร่าเมื่อได้ยินคำพูดของผอ.ไคแล้ว พวกเขาก็ค่อยๆถอยออกมาอย่างช้าๆเปิดทางให้ผอ.ของพวกเขา ดวงตาของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างไม่สิ้นสุดในขณะที่จ้องมองเฉินเฉียงอย่างตาไม่กะพริบ
“ไอ้กลายพันธุ์ระยำต่ำช้า เจ้าทำร้ายศิษย์พี่ของพวกข้า พวกเข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ”
เหล่าศิษย์สำนักที่รายรอบอยู่นี้ได้กล่าวคำสาปแช่งออกมาต่างๆนานา ส่วนซุนไคนั้นก็ได้เดินไปตรงหน้าเฉินเฉียง
เฉินเฉียงในตอนนี้ไม่อาจทำได้แม้แต่กระดิกตัว ทำไม่ได้แม้แต่จะพูด เมื่อเขาเห็นซุนไคยื่นมือออกมาและวางไว้บนหัวของเขา นี่ทำให้เขานั้นทั้งโกรธเกรี้ยวและชิงชัง
-ไอ้ผอ.เวรนี่ ไม่คิดจะสืบสาวราวเรื่องห่าเหวอะไรเลยแล้วอยู่ๆมาถึงก็จะฆ่ากันแบบนี้เนี่ยนะ-
-มันจบแล้ว-
ซุนไคที่ได้วางมือขวาอย่างละมุนลงบนส่วนบนสุดของศีรษะของเฉินเฉียงนั้น เขาได้แรงหนึ่งจากมือของเขาทำการดูดหัวของเขาในตำแหน่งจุดตันเถียนลับไป่ฮุยอย่างรุนแรง
นี่ทำให้เฉินเฉียงใบหน้าที่ซีดเปลี่ยนเขียว จากเขียวเป็นเหลือง และกลายเป็นแดงก่ำในที่สุดราวกับว่าหัวของเขาจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
แม้แต่พลังวิญญาณในทะเลวิญญาณของเขายังต้องสั่นกระเพื่อมขึ้นลงในทันทีราวกับว่าพวกมันจะถูกดึงไปรวมที่หัวสมองของเขาเสียให้ได้
“ฮื๊ม”
ซุนไคที่พยายามดึงแผ่นพลังงานออกนั้นได้นำมือขวาของเขาออกมาจากหัวของเฉินเฉียง เขาครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะพูดออกมา “ศิษย์ทั้งหลาย พวกเจ้าอย่าพึ่งมายุ่งกับเรื่องนี้ ข้าจะหาคำอธิบายให้กับพวกเจ้าว่าเกิดอะไรขึ้นกับตงเจี๋ยน”
หลังจากพูดจบ ซุนไคได้หันหลังและเดินกลับไปยังสำนักงานที่อยู่ข้างๆ
เฉินเฉียงที่พึ่งรอดพ้นจากความตายอย่างงงๆก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อผมว่าตัวเขานั้นกำลังลอยตามซุนไคเข้าสำนักงานผอ.ไป
กลายเป็นว่าสำนักงานของผอ.ที่เขาตามหาอยู่นั้นอยู่เพียงแค่ตรงนี้เท่านั้น ไม่แปลกใจเลยจริงๆว่าทำไมผอ.ถึงได้มาจับเขาไว้ก่อนที่เขาจะใช้ทักษะขุดดินได้เร็วนัก
ในสำนักงานผอ.นั้นมีคนอยู่อีกสามคน พวกเขาได้มองเฉินเฉียงกันเป็นตาเดียว
หลังจากเข้าประตูมาแล้ว ผอ.ซุนได้ยกมือขึ้นมาอย่างละมุน นี่ทำให้ร่างกายของเฉินเฉียงขยับได้ในทันที
ทันทีที่เขาเคลื่อนไหวได้ เฉินเฉียงก็เตรียมที่จะหลบหนีด้วยทักษะขุดรูอีกครั้ง
กับผอ.ที่ไร้เหตุผลที่คิดจะฆ่ากันโดยไม่ถามสักคำคนนี้ เฉินเฉียงย่อมไม่กล้าที่จะอยู่นานแต่อย่างใด
“ไอ้หนู เจ้าคิดว่าจะหลบหนีเมื่ออยู่ต่อหน้านักรบสายเลือดระดับราชาได้อย่างนั้นรึ”
หลังจากพูดจบ ร่างกายของเฉินเฉียงก็โดนบังคับให้อยู่นิ่งอีกครั้ง และในคราวนี้ แหวนของเขาที่อยู่ในมือก็ถูกดึงออกไปโดยซุนไค
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ปากของเฉินเฉียงไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด เมื่อเขาเปิดปากได้เขาก็ด่ากราดออกมา “ฮึ่ม ผอ.สำนักมังกรอาชูร่านี่ไร้เหตุผลยิ่งนัก นอกจากไม่ไต่ถามแล้วยังมีหน้ามากล้าปล้นของส่วนตัวของศิษย์รุ่นหลังอีก นี่ท่านไม่มียางอายเลยสินะ”
“ฮึ่ม นี่แกกล้ากล่าวหาผอ.ของเราอย่างนั้นเหรอ นี่แกไม่คิดจะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ”
ชายแก่เคราแดงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆได้พูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนที่จะยกมือตบไปที่เฉินเฉียง
แต่ซุนไคนั้นกลับจับมือนั้นไว้ก่อนที่จะพูดออกมา “รองผอ.หลินอย่าได้โกรธไป”
หลังจากนั้นเขาได้หันมาหาเฉินเฉียงก่อนที่จะโยนแหวนของเฉินเฉียงที่อยู่ในมือเล่นและพูดออกมา “หนูน้อย อย่าได้กังวลไป ตราบใดที่เจ้าไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ ไม่ใช่ศัตรูของข้า ข้าย่อมคืนแหวนนี้ให้กับเจ้า”
“อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เรื่องของเจ้าจะไขกระจ่าง เจ้าต้องรับการตรวจสอบจากพวกเรา”
หลังจากพูดจบ ซุนไคได้เททุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในแหวนของเฉินเฉียงออกมาเฉกเช่นตอนที่เขาพบราชาสวรรค์