ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก - บทที่ 196 ทักษะ
บทที่ 196 ทักษะ
“พี่ชายทั้งหลาย นายพลหลินเองก็ได้บอกพวกเรามาก่อนหน้านี้แล้วว่าที่นั่นนั้นมีทั้งมนุษย์กลายพันธุ์และสัตว์ประหลาดเข้าไปพร้อมกับพวกเรา”
“นี่หมายความว่าเมื่ออยู่ที่นั่น พวกเราต้องเผชิญหน้ากับการล่าสังหารและความตายอยู่บ่อยครั้ง”
“และหากพวกเรานั้นนำแก่นคริสตัลเข้าไปในนั้นมากมาย แต่เมื่อต้องผจญกับอันตราย พวกเรานั้นล้วนแล้วแต่ต้องคิดเรื่องไม่ให้ถูกสังหารเป็นเรื่องแรกไม่ใช่รึไงกัน”
“แต่หากทุกคนไม่มีแก่นคริสตัลในการบ่มเพาะ เพื่อที่จะอยู่รอด พวกเราก็ต้องทำเพียงได้แต่ฆ่าศัตรูเพียงเท่านั้น”
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงไม่คิดจะให้กองกำลังของเรานั้นมีแก่นคริสตัลเข้าไปมากมายอะไรนัก”
“ส่วนเตกีลานั้น หลังจากฆ่าศัตรูได้แล้วพวกเราย่อมเหนื่อยล้า และเตกีลานี้ได้ผลดีที่สุดในการฟื้นฟูความเหนื่อยล้าที่ว่า”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินเฉียง ทุกคนก็ได้เข้าใจในทันที
“กัปตัน พวกเราจะทำตามที่ท่านพูด พวกเราจะไม่หลงเหลือแก่นคริสตัลไว้แต่อย่างใด และใช้พวกมันซื้อเตกีลาให้หมด”
“ดี”
เฉินเฉียงได้ยืนขึ้นก่อนที่จะยกแก้วแล้วพูดออกมา “ทุกคนจงฟัง หลังจากเข้าไปในเขตแดนจักรพรรดินั้น พวกเราต้องแยกจากกัน”
“ตอนที่ข้าไม่อยู่ในกองกำลัง ให้รองกัปตันจางหยวนเป็นพูดรวบรวมและคอยสั่งการคนอื่นๆ”
“เมื่อใดก็ตามที่พวกเรารวมกลุ่มกันได้ เขตแดนจักรพรรดินั้นจะกลายเป็นก้าวแรกที่เกรียงไกรของพวกเรา”
เฉินเฉียงได้นำแก่นคริสตัลนายพลระดับกลางกว่าห้าล้านก้อนแลกเป็นแหวนมิติที่เต็มไปด้วยเตกีลาได้ทั้งหมดสี่วง นี่ทำให้สต็อกของภัตตาคารติ่งฮู่แห่งนี้แทบจะเกลี้ยงเลยทีเดียว
เช้าวันถัดมา เฉินเฉียงให้กองกำลังของตนเข้าไปยังลานฝึกของตึกจอมพลเมืองกันหนัน ที่นี่มีวัตถุบินขนาดยักษ์ทรงสี่เหลี่ยมจอดอยู่ มันถูกเรียกว่าเรือมังกรบิน
นี่คือสุดยอดอากาศยานเพียงหนึ่งเดียวของเขตภาคกลางแห่งนี้ มันสามารถจุผู้คนได้กว่าหมื่นคน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ยานจะได้ออกไป ผู้การแห่งตึกจอมพลฮัวจ้งนั้นกลับได้รับรายงานถึงพฤติกรรมอันเลวทรามที่ทำลายความเป็นปึกแผ่นของเหล่านักรบ ไม่สิ ของมนุษยชาติ
ไม่เพียงเฉียวกังจะทำลายกำไลสื่อสารที่เพียงพอสำหรับนักรบสองร้อยคนไปอย่างไร้ค่าแล้ว เขานั้นยังมีท่าทางโอหังและข่มเหงคนทั่วไป นี่ถือว่าทำให้เกิดผลกระทบที่เลวร้ายแบบสุดๆ
ท้ายที่สุด ตึกจอมพลภาคกลางได้ตัดสินใจให้นักรบของตนที่ไม่ได้เข้าร่วมศึกนี้ สละกำไลสื่อสารของตนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบนี้ไปฟรีๆ
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตึกจอมพลภาคกลางได้สั่งปลดเฉียวกังออกจากตำแหน่งกัปตันและย้ายให้ไปเป็นลูกไล่อย่างกองกำลังที่สามอีกด้วย
เมื่อมาถึงจุดนี้ เฉียวกังในที่สุดก็ได้รับผลที่ตัวเองได้กระทำไปอย่างสาสม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าขึ้นเรือมังกรบินมา เฉินเฉียงก็ได้เห็นแววตาอันดุร้ายของเฉียวกัง เฉินเฉียงบอกได้เลยว่าเฉียวกังนั้นเกลียดเขาเข้าไส้ไปแล้ว
“กัปตัน ท่านเองดูเหมือนต้องระวังมนุษย์ด้วยกันเองด้วยกระมังเมื่ออยู่ในเขตแดนจักรพรรดิ”
เฉินเฉียงยิ้มออกมาแต่ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด
เฉียวกังนั้นเป็นคนฉลาด หากเขาไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่วล่ะก็ เขาคงไม่ยอมเรื่องก่อนหน้านี้ไปแบบนั้น
ในเรือมังกรบิน เฉินเฉียงและเว่ยฉิงเชินนั้นได้นั่งคนละฟากฝั่งของเว่ยหยวนตี้
“พี่ใหญ่เฉินเฉียง พวกเรามาแลกตำแหน่งกันดีกว่า เมื่อเข้าไปในนั้นจะได้ช่วยกันดูแลกันได้”
เฉินเฉียงเห็นด้วยในทันที
ด้วยการที่หน่วยองครักษ์ของเว่ยฉิงเชินนั้น ทุกคนล้วนแล้วอยู่ในระดับนายพลวิญญาณขั้นสูงช่วงต้น เฉินเฉียงนั้นรู้ดีว่าเธอนั้นเป็นกังวลเพราะเห็นว่าอยู่ในกองกำลังเล็กๆ หากมีอะไรเกิดขึ้น เธอจะได้พาคนไปช่วยได้ทันเวลา
“ลุงเว่ย เรือมังกรบินลำนี้นี่บินเร็วกว่าของสำนักมังกรอาชูร่าอีกนะเนี่ย”
เมื่อเฉินเฉียงได้พูดจบลง เขาก็ได้หันไปมองเห็นคนที่กำลังควบคุมเรือมังกรบินอยู่ เขาได้สอดคริสตัลที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมลงบนโต๊ะ นี่ทำให้เขานั้นอดที่จะถามไม่ได้ “เอ่อ นั่นอะไรกันเหรอครับ ข้าจำได้ว่าอากาศยานของสำนักมังกรอาชูร่าใช้เป็นแก่นคริสตัลขั้นกลางระดับสูงในการขับเคลื่อน”
เว่ยหยวนตี้เมื่อได้ยินก็ได้หันไปดู ก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “อ้อ นั่นคือแก่นวิญญาณน่ะ”
“หากว่าเราใช้เพียงแก่นคริสตัลระดับสองในการขับเคลื่อน วัตถุที่ใหญ่ขนาดเรือมังกรบินนี้จะไม่แม้แต่ติดเครื่องได้ด้วยซ้ำ”
“ว่าแต่หลานชาย นี่ไม่ใช่ว่าข้าได้บอกเจ้าก่อนหน้านี้แล้วหรอกเหรอ”
“เมื่อเจ้ามีระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับขั้นกึ่งราชาแล้ว พลังจากแก่นคริสตัลนั้นแทบจะไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่น้อยในการบ่มเพาะ”
“เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะต้องดูดซับพลังวิญญาณที่มีอยู่ทุกที่บนโลกใบนี้”
“ส่วนแก่นวิญญาณนั่นก็คือการตกผลึกของพลังสวรรค์และโลก”
“เมื่อเจ้านั้นเข้าไปในเขตแดนจักรพรรดิ นอกจากสมบัติที่มีอยู่มากมายตามที่ข้าเคยบอกเจ้าไว้นั้น ที่นั่นยังมีสายแร่แก่นวิญญาณพวกนี้อยู่มากมาย”
“หากว่าเจ้าพบมันและเก็บพวกมันมาได้ทั้งหมดล่ะก็ นี่จะถือว่าเจ้านั้นได้เก็บเกี่ยวสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดมาได้”
“เมื่อเจ้าไปถึงระดับกึ่งราชาแล้ว เจ้าจะเข้าใจถึงความสำคัญของพวกมันเอง”
เฉินเฉียงจึงได้รีบถามออกมา “แล้วข้าจะพบสายแร่แก่นวิญญาณได้ยังไงกัน”
“โดยปกติแล้วมนุษย์จะไม่สามารถรับรู้ถึงพลังของแก่นวิญญาณได้เลย ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงสายแร่แก่นวิญญาณ”
“อย่างไรก็ตาม กับสัตว์ประหลาดนั้นแตกต่างกับพวกเรา พวกมันค่อนข้างจะรับรู้พลังของสวรรค์และโลกได้เป็นอย่างดีตั้งแต่พวกมันเกิด ดังนั้น พื้นที่ใดก็ตามที่มีพวกมันรวมอยู่ เป็นไปได้อย่างมากที่ที่นั่นจะมีสายแร่แก่นวิญญาณ”
ส่วนพวกมนุษย์กลายพันธุ์นั้น พวกมันมีเครื่องมือพิเศษในการตรวจจับสายแร่แก่นวิญญาณ
“ดังนั้น หากว่าเจ้านั้นยังไม่บรรลุไปถึงระดับกึ่งราชาเมื่ออยู่ที่เขตแดนจักรพรรดิ เจ้าทำได้เพียงหาร่องรอยจากสัตว์ประหลาดและมนุษย์กลายพันธุ์เพียงเท่านั้น”
เว่ยหยวนตี้ได้ถอดถอนลมหายใจหลังจากอธิบายเรื่องนี้ให้เฉินเฉียงและเว่ยชิงเฉินฟัง
เพราะนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ราชาของมนุษย์ไม่อาจเทียบเคียงราชาของมนุษย์กลายพันธุ์ได้
ยิ่งไปกว่านั้นคือ โดยส่วนใหญ่แล้ว สายแร่แก่นวิญญาณบนโลกที่พอมีอยู่บ้าง ก็ได้ถูกจับจองโดยมนุษย์กลายพันธุ์และสัตว์ประหลาดไปหมดแล้ว
เมื่อเห็นเฉินเฉียงเริ่มสนใจเรื่องแก่นวิญญาณ เว่ยหยวนตี้ก็ได้ยิ้มออกมาและได้หยิบแก่นวิญญาณสองก้อนออกมา ก้อนหนึ่งให้เฉินเฉียง ก้อนหนึ่งให้เว่ยฉิงเชิน
“นี่คือแก่นวิญญาณ พวกเจ้าลองเอาไปศึกษากันดู มันจะดีกว่าหากพวกเจ้าได้เห็นมันก่อนที่จะเข้าไปในเขตแดนจักรพรรดิ”
“ขอบคุณค่ะท่านพ่อ(ลุงเว่ย)”
เว่ยฉิงเชินได้รับแก่นวิญญาณมาแล้วนำมันไปพิจารณาดู เฉินเฉียงเองก็คิดที่จะทำเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมือของเขาไปสัมผัสแก่นวิญญาณ มันก็ได้หายวับไปกับตาและถูกระบบกลืนกิน
แถมยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเว่ยหยวนตี้และเว่ยฉิงเชินอีกด้วย
ในเวลาเดียวกันนี้เอง เฉินเฉียงก็พบเห็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยในระบบของเขา
เจ้าของระบบ: เฉินเฉียง
ระดับ: นักรบสายเลือดระดับนายพลวิญญาณขั้นกลาง
การหลอมรวมทักษะ: 1
การเลือกทักษะ : 7
ค่าพลังงาน:941,300
ค่าการใช้ประโยชน์:1
ค่าความอดทน:356
ค่าความแข็งแกร่ง:389
ค่าความเร็ว:326
ค่าพลังจิต:701
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ :…
ทักษะ:…..
ทักษะ: ควบคุมสายน้ำ (1)
ทักษะ: เปลี่ยนรูปลักษณ์ (2)
ทักษะ: ปีกสีเงินระดับ 7 (3)
ทักษะ: หลบหนีแสง ระดับ 3 (4)
ทักษะ: สายตาเฉียบคม (5)
ทักษะ: คลื่นเสียงทำลายวิญญาณ (6)
ทักษะ: จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ (7)
สายเลือด: โกลาหลแรกกำเนิด
ในตอนนี้ได้มีทักษะเจ็ดอย่างของเขาถูกเลือกไว้ด้วยระบบ
และที่ท้ายทักษะเหล่านี้ได้มีตัวเลขปรากฏขึ้นมา
นี่ทำให้เขานั้นสงสัยจริงๆว่ามันหมายความว่ายังไงกันแน่
เฉินเฉียงได้ลองใช้จิตสำนึกของเขามองไปที่ทักษะ หลบหนีแสดงระดับสาม แล้วเขาก็พบว่าค่าพลังงานของเขาได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ 441,300 หน่วย
และเป็นตอนนี้ที่ทักษะหลบหนีแสงของเขาได้อยู่ในระดับ 4
นี่ทำให้เขาเข้าใจได้ในทันที
แก่นวิญญาณนี้ได้ให้ค่าพลังงานกับเขาเกินหนึ่งล้านหน่วย และระบบได้เลือกทักษะมาให้เขาเจ็ดทักษะ
และนับจากนี้ไป เขาสามารถเลือกได้แล้วว่าเขานั้นเลือกที่จะยกระดับพลังเหนือมนุษย์ไหนก็ได้
นี่จะทำให้เขานั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนี้จะเสียงพลังงานไปกับการยกระดับทักษะที่เขาไม่ได้ใช้
เอาจริงๆไอ้การเลือกทักษะนี่ก็ดีเลยทีเดียว