ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก - บทที่ 378 ทางที่สาม
บทที่ 378 ทางที่สาม
“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านนายเหนือหัว ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ข้ามาช้าไป โปรดให้อภัยข้าด้วย”
เพียงเฉินเฉียงได้พูดจบประโยค หลิวฉิง ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาพลางหัวเราะดังลั่นและคำทักทายที่ดูใหญ่โต
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดหลิวฉิง ต้องขอโทษที่มารบกวนท่านด้วย”
ฮูเตี๋ยนได้กล่าวทักทายแทนเฉินเฉียงในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา
หลิวฉิงได้ยกมือขึ้นมาแล้วพูดต่อบ “พี่ฮู ท่านก็เกรงใจกันเกินไป ชายชราผู้นี้ต่างหากที่รู้สึกเป็นเกียรติในการที่ท่านและท่านนายเหนือหัวมาที่เขาโชวหยางของข้า ท่านนายเหนือหัว พี่ฮู เชิญเข้ามาก่อนแล้วค่อยพูดคุยกัน”
เมื่อมาถึง เฉินเฉียงมองซ้ายป่ายขวาแล้วก็เห็นเพียงหลิวฉิงและผู้อาวุโสอีกสองคนเท่านั้น ไม่มีผู้ใดอื่นอีก
หลิวฉิงเองก็เหมือนจะเข้าใจความคิดของเฉินเฉียง ก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “ท่านนายเหนือหัว ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานั้น ตามคำสั่งของท่าน พวกเราทั้งสามเผ่าพันธุ์ร่วมมือกับฮุยตู๋ช่วยกันค้นหาฮั่นจุยแล้ว แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งหมดของเขาโชวหยางเองก็ได้ออกไปจากเขาเพื่อหาร่องรอย”
“แต่กระนั้นพวกเราก็ยังไม่ได้ข่าวคราวของฮั่นจุยแต่อย่างใด”
“หากชายชราคนนี้ไม่ได้หาผิดที่ไปจริงๆ ข้าก็อดคิดไม่ได้ว่ามันผู้นี้คือเทพแห่งการซ่อนตัวหรือไม่ก็ออกจากโลกของเราไปแล้ว”
“…..ออกไปจากโลกงั้นรึ”
เฉินเฉียงเมื่อได้ยินก็อดที่จะนึกตกใจไม่ได้
เขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้มาก่อน
ถึงแม้มันจะฟังดูเป็นเหตุผลที่ดูแปลกประหลาดเกินกว่าจะเป็นไปได้ก็ตาม
แต่ใครจะไปรับรองได้ว่าฮั่นจุยนั้นไม่ได้ไปพบเจอเขตแดนมิติเฉกเช่นเดียวกับเขาจนหลุดรอดออกไปจากโลกนี้ได้
แถม….
เป็นตอนนี้ที่เฉินเฉียงนึกถึงเรื่องที่ว่าก่อนหน้านี้ที่เขาอยู่ในโลกปีศาจนั้น มีใครบางคนจากกลุ่มผู้อาวุโสวิหารศักดิ์สิทธิ์คิดว่าเขานั้นคือผู้ที่รุกล้ำพื้นที่ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้
มันผู้นั้นจะเป็นฮั่นจุยรึเปล่า
มันมีความเป็นไปได้อยู่
เมื่อเฉินเฉียงคิดทบทวนเรื่องนี้แล้วทำให้เขานั้นไม่อาจจะปล่อยวางเรื่องกำแพงเขตแดนที่อยู่ใต้ก้นสมุทรมังกรคลั่งขึ้นมา
หากเขาเข้าใจไม่ผิด ฮั่นจุยสมควรจะเข้าไปอยู่ในโลกปีศาจแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางคิดไม่ตกของเฉินเฉียงแล้ว ทั้งหลิวฉิงและฮูเตี๋ยนอดที่จะถามออกมาพร้อมกันเสียมิได้ “นายเหนือหัว…ท่านนายเหนือหัว”
“แค่ก แค่ก...อะแฮ่ม ไม่เป็นไร”
เฉินเฉียงกระแอมออกมาเล็กน้อย ก่อนจะนิ่งคิดไปสักนิดแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “ผู้อาวุโสสูงสุดฮูเตี๋ยน ผู้อาวุโสสูงสุดหลิวฉิง ข้านั้นมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าฮั่นจุยนั้นสมควรจะไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว”
ฮูเตี๋ยนเมื่อได้ยินก็แสดงออกมาอย่างยากที่จะเชื่อจริงๆ
“ไม่จริงน่า ท่านนายเหนือหัว ถึงแม้ฮั่นจุยจะเป็นราชาจอมพลขั้นกลาง แต่เขตแดนนั่น ข้าที่เป็นราชาจอมพลขั้นสูงยังไม่อาจจะเข้าไปในเขตแดนจักรพรรดิได้เลยนะนั่น”
เฉินเฉียงส่ายหัวไปมาในทันที “ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านอาจจะยังไม่รู้ แต่ประตูเขตแดนนั้นหาได้มีเพียงที่เขตแดนจักรพรรดิไม่”
“ข้าขอบอกตามตรงเลยว่าที่ข้ากลับมาในครั้งนี้เองก็มาจากประตูเขตแดนช่องทางอื่น”
“หากข้าเข้าใจไม่ผิด ฮั่นจุยเองก็น่าจะพบเจอและออกไปผ่านช่องทางเหล่านั้น”
ผลั้ก
หลิวฉิงและฮูเตี๋ยนยืนขึ้นพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมายและจ้องมองไปยังเฉินเฉียงเขม็ง “นายเหนือหัว ประตูนั่นอยู่ที่ใด”
“ก้นสมุทรมังกรคลั่ง”
เฉินเฉียงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งลึก “ข้าได้ค้นพบช่องทางนี้ในตอนที่ไปสำรวจในโลกปีศาจ และนี่ทำให้ข้าเข้าใจได้ว่าทำไมสัตว์ปีศาจของโลกนั้นถึงได้มาปรากฏที่นี่ได้”
“เฮื้อกกกก”
หลิวฉิงเองเคยเห็นผลจากเลือดปีศาจจากการใช้บอลเลือดปีศาจของเฉินเฉียงมาแล้วก่อนหน้านี้ เขาย่อมรู้ดีถึงผลลัพธ์ในการเผชิญหน้ากับมัน นั่นก็คือพวกเขาไม่อาจจะต่อกรกับมันได้เลย
ความจริงเขาเองก็คิดอยากจะลองเข้าไปสำรวจที่โลกปีศาจเหมือนกัน แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่ว่าอีกฟากฝั่งหนึ่งของช่องประตูนั่นคือรังของสัตว์ปีศาจก็ทำได้เพียงเลิกคิดไป
หากเป็นการเผชิญหน้าแบบหนึ่งต่อหนึ่ง พวกเขาย่อมไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด แต่สัตว์ปีศาจที่มาจากโลกแห่งนั้นมันแปลกประหลาดจนเกินไป ตราบใดที่พวกเขาเผลอไปสัมผัสมัน พวกเขาจะตกตายในทันที
หากเป็นเพียงตัวหรือสองตัว พวกเขาก็อาจจะพอรับมือ แต่เมื่อนึกถึงจำนวนที่มากมายอย่างนับไม่ถ้วนแล้ว ใครจะสามารถรับประกันชีวิตของพวกเขาได้กัน
ต้องอย่าลืมว่า ราชาจักรพรรดิทั้งสามนั้นต่างก็ตกตายในมือของสัตว์ปีศาจเหล่านี้ แล้วมีหรือที่พวกเขาจะไม่ตกตายในลักษณะเดียวกัน
“ท่านนายเหนือหัว ท่านคิดว่ายังไงในเรื่องนี้”
ฮูเตี๋ยนถามออกมา
เฉินเฉียงเองได้ยืนขึ้นตาม ก่อนจะนิ่งคิดเล็กน้อยแล้วพูดออกมา “กลับเรื่องของฮั่นจุยนั้น นั่นเป็นเพียงข้อสงสัยของข้าเท่านั้น”
“แต่หากข้าได้พบมันจริง เดี๋ยวเรื่องนี้ข้าจัดการเอง”
“แต่ที่ข้ากังวลที่สุดนั้นก็คือประตูเขตแดนที่อยู่ที่ก้นสมุทรมังกรคลั่งนั่น”
“ประตูบานนั้นค่อนข้างจะแปลกประหลาด มันมีเวลาเปิดปิดของมันเอง”
“ด้วยการที่ข้าไม่มีเวลามาก จึงไม่อาจใช้เวลาตรวจสอบเรื่องเวลาเปิดปิดของมันให้แน่ชัดก่อนที่จะได้กลับมา”
“เอาอย่างนี้แล้วกัน ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ท่านไปพบกับผู้อาวุโสสูงสุดหลินจิ้นแห่งมนุษย์กลายพันธุ์แล้วให้เขาส่งผู้ที่มีพลังพิเศษในการควบคุมสายน้ำสักสองคนไปเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่นั่นก่อน”
“เมื่อใดที่พบว่าประตูเปิดออก สัตว์ปีศาจฝั่งนั้นจะพุ่งผ่านประตูบานนั้นมา ก็ให้พวกเขาฆ่าล้างพวกมันไป จะได้ไม่มีพวกมันหลงเหลือไว้บนโลกนี้”
“แต่ท่านก็อย่าลืมบอกพวกนั้นไปว่าไม่ว่าจะยังไงก็ตามห้ามแตะต้องพวกมัน ไม่อย่างนั้นแม้แต่พระเจ้ายืนอยู่เคียงข้างก็ไม่อาจจะช่วยชีวิตไว้ได้”
“ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ ท่านนายเหนือหัว เมื่อข้ากลับไปแล้วข้าจะไปพบหลินจิ้นแล้วให้เขาจัดสรรกำลังคน และข้าเองก็จะคอยเฝ้าดูที่นั่นไว้ด้วย หากฮั่นจุยมันปรากฏ ข้าจะจัดการมันให้จงได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮูเตี๋ยน หลิวฉิงก็รีบถามออกมาในทันที “ท่านนายเหนือหัว หากฟังจากที่ท่านพูดราวกับว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลกปีศาจเพียงเท่านั้น แล้วยังมีสิ่งอื่นอีกหรือไม่ที่คิดรุกรานพวกเรา”
เฉินเฉียงมองหลิวฉิงไปปราดหนึ่งในทันทีแทนการตอบคำถาม
ด้วยการที่หลิวฉิงนั่งอยู่ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าพันธุ์มานาน เป็นธรรมดาที่ความคิดอ่านของเขาจะรอบคอบรัดกุม
นี่จึงทำให้เฉินเฉียงบอกเล่าเรื่องราวที่เขาได้พบเจอในโลกปีศาจ
“จนถึงตอนนี้ ไอ้พวกผู้บ่มเพาะแห่งโลกปีศาจนั้นยังไม่วายจะหาทางเข้ามาในโลกของเราอยู่”
“อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ข้ายังเข้าไม่ถึงผู้มีอำนาจสูงสุดของโลกนั้นอย่างวิหารศักดิ์สิทธิ์ ข้าจึงยังไม่แน่ใจเรื่องความแข็งแกร่งของพวกมัน”
“ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังไม่ได้สืบสวนด้วยว่าทำไมที่หุบเขาฟานหยินแห่งนั้นถึงได้มีสัตว์ปีศาจปรากฏอยู่ แล้วทำไมพวกมันถึงได้อยู่รวมตัวกันที่นั่น”
“แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ในเมื่อโลกปีศาจและโลกของเรานั้นเชื่อมต่อกัน ยังไงซะสัตว์ปีศาจเองก็มีโอกาสที่จะมาปรากฏที่นี่ในช่องทางใดช่องทางหนึ่งอยู่ดี”
“นี่จึงทำให้พวกเราไม่อาจผ่อนคลายความระวังได้”
หลิวฉิงเมื่อได้ยินก็พยักหน้ารับ แล้วหันไปพูดกับฮูเตี๋ยน “พี่ฮู สิ่งที่ท่านนายเหนือหัวพูดมานี่สำคัญมากนัก ข้าคิดว่าเราควรรีบไปจัดการจะดีกว่า ข้าเห็นว่าพวกเรารวมพลจากทั้งฝั่งมนุษย์กลายพันธุ์และสัตว์ประหลาดในการจัดการเรื่องนี้”
“ในเมื่อพวกเราได้ยินข้อมูลจากนายเหนือหัวแล้ว พวกเราก็ควรให้ทุกคนได้เตรียมตัวไว้โดยเร็ว และจะได้ทำให้ทั้งสามกองกำลังมาเสียเวลาตีกันเองไปเปล่า หากเมื่อถึงเวลาแล้วไอ้พวกโลกปีศาจบุกรุกเข้ามา มันจะสายเกินไปหากเราร่วมมือกันในตอนนั้น”
ฮูเตี๋ยนเองก็พยักหน้ารับ
เมื่อพูดคุยกัน เฉินเฉียงแม้จะลังเลไปเล็กน้อย แต่ก็ได้เอ่ยปากถามออกมา “ผู้อาวุโสสูงสุดหลิวฉิง ไม่ทราบว่า ฉิงเชินนั้นเป็นยังไงบ้าง นางสบายดีอยู่รึเปล่า”
“เฮ้ออออออ”
เมื่อหลิวฉิงได้ยินแบบนี้ เขาก็ทำได้เพียงถอนลมหายใจออกมายาว ก่อนจะจ้องมองไปหาเฉินเฉียงแล้วตอบออกมาด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะเอ่ย “ท่านนายเหนือหัว ในที่สุดท่านก็ถามออกมา หากว่าข้าเข้าใจไม่ผิด เหตุผลหลักที่ท่านมาในวันนี้เองก็คงเป็นเรื่องนี้เสียกระมัง”
เฉินเฉียงที่ได้ยินก็ก้มหัวต่ำอย่างอับอายพร้อมรอยยิ้มแหยๆ
“ข้าขอพูดตามตรงนา ท่านนายเหนือหัว ตอนที่ท่านปรากฏตัว ชายชราผู้นี้ก็บอกเรื่องท่านที่มาที่นี่ให้กับฉิงเชินรับรู้ไปแล้ว”
“โอ้” เมื่อได้ยินแบบนี้ เฉินเฉียงก็ได้รีบถามกลับไป “แล้ว….หากว่าข้าจะไปพบนางท่านจะว่าอะไรรึเปล่า”