ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก - บทที่ 45 ฮู่ต้าไฮ่ยินดียิ่ง
บทที่ 45 ฮู่ต้าไฮ่ยินดียิ่ง
คงไม่ใช่ว่าศิษย์พี่ของเขาคาดเดาได้ว่าเขานั้นสามารถใช้ระบบดูดกลืนซากศพได้หรอกนะ
เฉินเฉียงลอบมองไปยังหลู่ฟางก็ได้เห็นว่าหลู่ฟางได้ถอดถอนลมหายใจ ศิษย์พี่ของเขาแตะไหล่ของเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า “ศิษย์น้อง เจ้านั้นยังเป็นเด็กใหม่เลยยังไม่รู้ว่าอาจารย์ของเรานั้นเป็นคนยังไง อาจารย์ของเรานั้นไม่ชอบคนที่เจ้าเล่ห์เพทุบายน่ะ”
-……หมายความว่าไงกันล่ะนั่น-
เฉิงเฉียงแม้จะยังคงสับสนกับคำคำนี้ แต่เมื่อเห็นบรรยากาศที่คุกรุ่นของอาจารย์ตนแล้ว เขาเองก็ทำได้เพียงเงียบปากเอาไว้
“ผู้อาวุโสฮู่ ข้ามีเรื่องบางเรื่องขอพูดคุยด้วยหน่อย”
หลังจากตกตะลึงมาพักใหญ่ ฉีเหรินก็ได้มายังข้างๆของฮู่ต้าไฮ่ เขาถูมือของตนไปมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ “ฮี่ฮี่ฮี่ ผู้อาวุโสฮู่ ข้าคนนี้ไม่คิดเลยจริงๆว่าศิษย์สุดล้ำอย่างเฉินเฉียงจะได้เจ้าเป็นอาจารย์”
“เอาเป็นว่าเรามาพูดคุยกันสักหน่อยล่ะเกี่ยวกับเรื่องย้ายแผนกศิษย์…”
“ตลกล่ะ เฉินเฉียงเองยังมีข้าเป็นอาจารย์อยู่นะโว้ย”
“ในเมื่อเฉินเฉียงเป็นลูกศิษย์ของข้าอยู่ แล้วข้าจะปล่อยให้เขาไปเป็นศิษย์คนอื่นได้ยังไง”
“ไม่มีทาง”
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก”
เมื่อฮู่ต้าไฮ่ได้รู้ว่าฉีเหรินต้องการอะไร เขาปฏิเสธออกมาได้โดยไม่ต้องคิดอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ผู้อาวุโสฮู่ ถึงแม่ว่าพวกเราจะมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีนัก แต่หากว่าเจ้าไม่ยอมเห็นด้วยล่ะก็ ข้าจะยื่นเรื่องนี้ให้พวกผู้บริหารเป็นคนตัดสิน”
“ไอ้เฒ่าฉี ไอ้เฒ่าระยำ อยากจะบังคับข้าคนนี้เหรอ เชิญ เชิญเลย”
“ต่อให้แกยื่นเรื่องนี้ไปก็ตาม ต่อให้ผอ.เห็นด้วย แต่ยังไงซะข้าคนนี้ก็ไม่เห็นด้วย”
หลังจากพูดจบ ฮู่ต้าไฮ่ได้หันหลังและเดินผละออกมา
อีกฟากฝั่งหนึ่ง หลังจากที่ผอ.ได้ยินคำขอของฉีเหรินแล้วก็ได้นึกอะไรขึ้นมาบางอย่าง หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินไปหาเฉินเฉียงที่มีฮู่ต้าไฮ่ยืนคุมเข้มอยู่ข้างๆ
“อาจารย์ฮู่ ฉีเหรินได้มาคุยกับข้าแล้ว”
“และข้าก็คิดว่าที่เขาพูดมาก็มีเหตุผล”
“ลองคิดดูสิ เฉินเฉียงนั้นเป็นศิษย์ที่มีถึงหกสายเลือด ไม่ว่าจะฝึกหนักในแผนกวิชายุทธพิเศษมากมายขนาดไหนก็ตาม ความสำเร็จของเขาเองก็สมควรจะได้รับอย่างจำกัด”
“อย่างไรก็ตาม หากว่าเขานั้นเข้าไปอยู่ในแผนกเล่นแร่แปรธาตุ เรื่องนั้นจะต่างออกไปในทันที”
เขานั้นสามารถเรียนรู้การปรุงยาทะลวงจุดได้เพียงสิบวันเท่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่าระดับการปรุงยาของเขาอย่างน้อยๆก็สมควรจะอยู่ที่ระดับกลางแล้ว ขนาดศิษย์ที่มีความสามารถสูงล้ำอย่างเฟิงไคเหลียงยังแทบนับครั้งได้เลยที่เขานั้นจะหลอมยานั่นได้ถึงขั้นกลาง
“เมื่อคิดถึงว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นยังอยู่ในสถานการณ์ที่สั่นคลอนได้แบบนี้ พวกเราเองก็ควรจะละทิ้งความต้องการส่วนตัวและเลือกหนทางที่สามารถส่งเสริมเผ่าพันธุ์ได้ และในเมื่อเฉินเฉียงเองก็มีความสามารถด้านการปรุงยาที่สูงล้ำ เขาเองก็จะเป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่าในด้านปรุงยากับเผ่าพันธุ์ของเรามากกว่า”
“และด้วยเหตุผลเหล่านี้ ข้าคิดว่าท่านควรจะยอมรับข้อเสนอของฉีเหรินซะ ข้าจึงเสนอว่าให้ท่านและฉีเหรินต่างก็เป็นอาจารย์ร่วมให้กับเฉินเฉียง”
ฮู่ต้าไฮ่ส่ายศีรษะของตนอย่างไม่ต้องคิด “ไม่ ข้าไม่มีทางเห็นด้วยกับการที่ให้ศิษย์ของข้ารับคนแบบนั้นเป็นอาจารย์อีกคนอย่างแน่นอน”
“ผอ. ท่านอาจจะยังไม่รู้ แต่เฉินเฉียงนั้นไม่เพียงจะมีพรสวรรค์ทางด้านการเล่นแร่แปรธาตุ เขานั้นถือได้ว่าเป็นผู้บ่มเพาะที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ท่านลองคิดดูสิว่าเพียงหนึ่งเดือน เขานั้นสามารถยกระดับจากระดับนักรบขั้นกลางขึ้นมาเป็นขั้นสูงได้ แถมในตอนนี้เขายังสามารถเปิดจุดชีพจรได้กว่าสิบจุดแล้ว เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วท่านยังคิดจะให้ข้ายอมแพ้ในการสั่งสอนกับศิษย์ชั้นเลิศแบบนี้อยู่อีกอย่างงั้นหรือ”
ฉีเหรินเองที่ได้ยินบทสนทนาก็ได้รีบวิ่งเข้ามาในทันที “ผู้อาวุโสฮู่ ไหนๆก็ไหนแล้วเรามาพูดเรื่องนี้กันตรงนี้เลยดีกว่า”
“ตราบใดที่เจ้ายอมรับข้อเสนอ ข้าก็จะรับข้อเสนอของเจ้าเช่นเดียวกัน”
“ไร้สาระ เฒ่าฉี แกนี่เลวชาติจริงๆ จะให้ข้าคนนี้ขายลูกศิษย์กินให้ได้เลยใช่ไหม”
“อยากได้ศิษย์ของข้าคนนี้รึ ฝันไปเถอะ”
เมื่อเห็นท่าทางอันแข็งกล้าวของฮู่ต้าไฮ่แล้ว ฉีเหรินเองก็ไม่มีทางเลือกได้แต่มองไปขอความช่วยเหลือจากผอ.อีกครั้ง
“ฮู่ต้าไฮ่ นี่อาจจะเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์ของเราเลยนะ ท่านไม่อาจจะปฏิเสธได้”
“เพื่อให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มีปรมาจารย์ด้านการเล่นแร่แปรธาตุ ไม่ว่ายังไงก็ตาม สำนักต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน เอาอย่างนี้ ถ้าเฉินเฉียงเห็นด้วย ท่านก็ต้องเห็นด้วย”
ผอ.หวังนั้นเข้าใจในนิสัยของฮู่ต้าไฮ่เป็นอย่างดี เขาจริงตัดสินใจให้ทางเลือกที่ฮู่ต้าไฮ่ไม่มีสิทธิที่จะตัดสินใจ
หลังจากพูดจบ ผอ.ได้หันหน้าไปมองยังเฉินเฉียง
“เฉินเฉียง เจ้าก็ได้ยินบทสนทนานี้แล้ว เจ้าคิดว่ายังไง เจ้าต้องการอาจารย์ฉีเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือไม่”
ถึงแม่ว่าฮู่ต้าไฮ่จะไม่มีความสุข แต่เขาก็รู้ดีว่าในตอนนี้เขาทำอะไรได้ เขาจึงได้เพียงมองไปยังเฉินเฉียงด้วยความคาดหวังเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน หลู่ฟางและศิษย์ในแผนกต่างก็มองกันไปที่เฉินเฉียง
“เอ่ออออ ท่านอาจารย์ ผอ. ศิษย์สามารถปฏิเสธข้อเสนอนี้ได้หรือไม่”
แน่นอนว่าเขาต้องปฏิเสธ
ถ้าจะให้พูดตรงๆเรื่องความสามารถแล้ว เขารู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่คนที่มีความสามารถสูงล้ำอย่างที่ผอ.สำนักได้คาดหวังไว้ เหตุผลที่เขาสามารถปรุงยาเปิดจุดชีพจรได้นั้นก็เพราะเขานั้นเขาดูดซับความสามารถจากเฟิงไคเหลียงและใช้มันได้อย่างเต็มที่มากกว่าเพียงเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นคือ เขามีสัญญาที่ให้ไว้กับจางหยวนที่ต้องรักษาเอาไว้
หากว่าเขานั้นไปมุ่งเน้นที่การปรุงยา แน่นอนว่าเขาต้องไม่มีทางได้รับธงตำแหน่งของนายพลเทียนเว่ยอย่างแน่นอน
แล้วหากเป็นแบบนั้น เขาจะไปอธิบายกับปู่ซุนผู้ล่วงลับของเขาได้อย่างไร
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขานั้นปฏิเสธได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า สมแล้วที่เป็นศิษย์ของข้า เฉินเฉียง เจ้าทำถูกแล้วที่ปฏิเสธออกไป”
ฮู่ต้าไฮ่หัวเราะด้วยความดีใจ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งก็ขยี้หัวของเฉินเฉียงเล่นอย่างเอ็นดู
ผอ.ได้จ้องมองฮู่ต้าไฮ่และเฉินเฉียงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาอีกครั้ง “เฉินเฉียง ฟังข้า หากว่าเจ้ารับอาจารย์ฉีเป็นอาจารย์ของเข้า ไม่เพียงเจ้าจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปรุงยาได้มากขึ้นแล้ว เจ้าเองก็ยังสามารถเรียนรู้กับอาจารย์ฮู่ได้เฉกเช่นเดิม นี่ถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้า”
“ยิ่งไปกว่านั้นคือ หากเจ้าเลือกที่จะเข้าร่วมกับแผนกเล่นแร่แปรธาตุ สำนัก ยินดีที่จะทุ่มเททรัพยากรในการชุบเลี้ยงเจ้า”
“เจ้าควรรู้ว่าสำนักให้คุณค่ากับแผนกเล่นแร่แปรธาตุขนาดไหน ไม่ต้องพูดแผนกวิชายุทธพิเศษเลย แผนกอื่นๆเองสำนักก็ยังไม่ได้ให้ค่าเทียบเท่าเลยสักนิด เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วเจ้ายังไม่คิดจะเปลี่ยนใจสักหน่อยเหรอ”
แต่ไม่ว่าผอ.จะกดดันเฉินเฉียงยังไงก็ตาม เฉินเฉียงก็ยังยืนการคำตอบเดิม เขานั้นไม่มีทางเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน
เมื่อเจอแบบนี้ผอ.หวังเองก็จนปัญญา เขาได้โบกมือไล่ฉีเหรินให้ออกไป ราวกับจะบอกว่าไม่มีทางที่จะพูดกับเฉินเฉียงในเรื่องนี้ได้แล้ว
ต่อให้เขาบังคับเฉินเฉียงให้ย้ายแผนกได้ แต่หากใจของเฉินเฉียงไม่ยินยอม ดีไม่ดีเรื่องนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
ฉีเหรินเองแม้จะโดนไล่แต่ก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ ในที่สุด เขาก็ได้พูดทางเลือกของตนออกมา “เฉินเฉียง เจ้าควรคิดเรื่องนี้อีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบอัจฉริยะในการเล่นแร่แปรธาตุเช่นเจ้า”
“หากว่าเจ้านั้นมีความต้องการอะไรล่ะก็ ข้าก็ยินดีที่จะทำมันอย่างสุดความสามารถ เจ้าคิดว่ายังไง”
เพื่อที่จะให้ได้รับศิษย์ชั้นเลิศอย่างเฉินเฉียงให้ได้นั้น ฉีเหรินนั้นยินดีที่จะทำทุกอย่างจริงๆ และนี่เองทำให้ศิษย์คนอื่นเริ่มมีท่าทีอิจฉาขึ้นมา
เด็กใหม่ที่พึ่งจะเข้าสำนักมาได้เพียงเดือนเดียวกับถูกอาจารย์ของสองแผนกตีค่าอย่างสูงล้ำจนต้องแย่งตัวกัน แม้แต่ผอ.เองก็ยังเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเต็มใจ แต่ถึงจะขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ยินดีที่จะทำตาม เด็กนี่จะโชคดีเกินไปแล้ว
เป็นตอนนี้เองที่ฮู่ต้าไฮ่รู้สึกมีความสุขอย่างสุดสุด
ไม่เพียงศิษย์คนโตของเขาจะกลับมาพร้อมข่าวดี แถมเขายังได้รับยาเปิดจุดชีพจรจากศิษย์อีกคนของเขาได้แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันศิษย์ที่เลิศล้ำของเขาอีกคนนั้นก็ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของสำนักขึ้นมาอยู่ที่ระดับทหารขั้นสูงจนได้
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าศิษย์ที่เขาพึ่งจะรับมาได้เพียงเดือนเดียวกลับทำให้เขาได้รับความประหลาดใจมากมายได้ถึงขนาดนี้
หากให้พูดตรงๆแล้ว ข้อเสนอของผอ.หวังและเฒ่าฉีนั่นถือได้ว่าเย้ายวนใจอย่างมาก แต่ถึงจะอย่างนั้น เฉินเฉียงเองกลับไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย แถมยังกล้าที่จะมาทำต่อหน้าศิษย์แผนกอื่นกันแบบนี้อีก นี่ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเฉินเฉียงนั้นมีค่าขนาดไหน
นี่คือศิษย์ของข้า ฮู่ต้าไฮ่ ย่อมต้องเป็นคนเดียวที่สอนได้
ในขณะที่ฮู่ต้าไฮ่ยังคงรู้สึกมีความสุขอย่างหยุดไม่อยู่นั้น ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงของเฉินเฉียงถามออกมาเบาๆ “เอ่อ ท่านอาจารย์ ศิษย์ขอท้าประลองกับผู้อาวุโสฉีได้หรือไม่”