ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก - บทที่ 471 เปลี่ยนรูปลักษณ์
บทที่ 471 เปลี่ยนรูปลักษณ์
หลังจากถามเสร็จ เฉินเฉียงที่อยู่ในรูปลักษณ์ของหลิวเซียนก็ได้จ้องเขม็งไปที่ผอ.จ้งอย่างไม่วางตา
แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าท่าทางของผอ.จ้งนั้นไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ดูผิดสังเกต
เป็นไปได้รึเปล่าว่า…..เมื่อมายังโลกปีศาจแบบนี้ ฮั่นจุยเองก็แปลงโฉมเหมือนกัน
เมื่อคิดได้แบบนี้ เฉินเฉียงก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“ผอ.จ้ง ดูข้าให้ดี”
เมื่อได้ยินเสียงอันดังก้อง อยู่ๆผอ.จ้งก็ถึงกับต้องเบิกตากว้าง
“แก….เป็นใครกัน”
ตรงหน้าของผอ.จ้งในตอนนี้ เฉินเฉียง ได้เปลี่ยนใบหน้าของเขาเป็นฮั่นจุยที่มีใบหน้าเหลือเป็นผู้เป็นคนเพียงครึ่งซีกเท่านั้น
และเฉินเฉียงที่อยู่ในรูปลักษณ์ของฮั่นจุยไปแล้ว เมื่อเขาได้เห็นท่าทางของผอ.จ้ง เขาก็ยักไหล่ก่อนจะที่จะสาวเท้าเข้าหาผอ.จ้งอย่างช้าๆ
“ข้าเป็นใครรึ ข้าเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ผอ.จ้ง ทำไมเจ้าไม่บอกข้าล่ะ”
เฉินเฉียงพูดพลางเดินตรงไปยังผอ.จ้งอย่างช้าๆ
ในทุกย่างก้าวของเขานั้น เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาไปในทุกขณะที่เขาก้าวย่าง เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปนับร้อยใบหน้า จนในที่สุด ในขณะที่เขาอยู่ห่างจากผอ.จ้งเพียงสามก้าว เขาก็อย ยู่ในรูปลักษณ์ของผอ.จ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“แก มันปีศาจ ไอ้ปีศาจ”
ด้วยการที่ผอ.จ้งนั้นไม่เคยพบเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ถึงแม้เขาจะเป็นราชาเหนือราชาที่เป็นตัวตนที่สูงล้ำ เขาก็ยังอดที่จะแสดงออกมาด้วยท่าทีเกรงกลัวเสียมิได้
เมื่อเห็นท่าทางของผอ.จ้งในตอนนี้ เฉินเฉียงก็ตะคอกออกมาด้วยเสียงของผอ.จ้งที่แสดงออกมาอย่างดุร้าย “บอกข้ามา ฮั่นจุยมันอยู่ไหน”
ผอ.จ้งในตนนี้มีดวงตาที่เบิกกว้างก่อนที่จะโวยวายออกมา “ไอ้ปีศาจ ไปลงนรกซะ”
เมื่อพูดจบ ผอ.จ้งก็ทุบไปที่อกของตนในทันที
และเป็นตอนนี้ที่ได้มีร่างสีดำสามร่างพุ่งออกมาจากอกของเขา
หนึ่งคืออินทรีย์ปีศาจที่อยู่ในระดับราชาปีศาจ ส่วนอีกสองร่างนั้นเป็นหุ่นเชิดซากศพที่อยู่ระดับราชาเหนือราชาขั้นต้นและขั้นกลาง
“ฮ่าฮ่าฮ่า พ่อคนนี้ไม่รู้ว่าแกเป็นภูติผีหรือปีศาจร้าย แต่ข้าก็อยากจะรู้นักว่าแกจะเอาปัญญาที่ไหนไปรอดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้”
ผอ.จ้งที่ในตอนนี้แสดงออกมาอย่างบ้าคลั่งนั้น ราวกับเขากำลังระเบิดอารมณ์ที่อดกลั้นเอาไว้มาตลอดปลดปล่อยออกมา
กลายเป็นว่าไอ้ท่าทางสุขุมก่อนหน้านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการเสแสร้งแกล้งทำ
แต่ก็ว่ากันไม่ได้ ถึงแม้ว่าผอ.จ้งจะเป็นผู้บ่มเพาะในระดับราชาเหนือราชาขั้นกลาง แต่ด้วยการที่เขาเป็นผู้บ่มเพาะบนเส้นทางหุ่นเชิดโลหิต การวางตัวให้สุขุมนุ่มลึกเฉกเช่นคน นธรรมดาย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
เมื่อเห็นร่างสีดำทั้งสามพุ่งตรงเข้ามาหา เฉินเฉียงไม่ได้มีท่าทีแยแสแต่อย่างใด เขาเพียงยินนิ่งเฉยๆพร้อมสายตาเย็นยะเยียบที่จ้องมองผอ.จ้ง
นี่ทำให้ผอ.จ้งถึงกับมึนงงในทันที
นั่นก็เพราะร่างดำทะมึนทั้งสามที่เขาส่งออกไปนั้น ที่ดูอ่อนด้อยที่สุดก็ยังอยู่ในระดับราชาเหนือราชาขั้นต้นเลยทีเดียว
-นี่หลิวเซียนมันไม่เกรงกลัวความตายหรืออย่างไรกัน-
แต่ไม่นาน คำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวของผอ.จ้ง ก็ได้คลี่คลายลงแทบจะในทันพร้อมกับใบหน้าของเขาที่สับสนยิ่งกว่าเดิม
ถึงแม้ทั้งสามร่างนี้จะพุ่งเข้าใส่เฉินเฉียงอย่างรวดเร็วประดุจลูกธนู
แต่ก่อนที่ทั้งสามร่างจะได้เข้าถึงตัวเฉินเฉียง พวกมันก็ถูกดีดกระเด็นออกมาด้วยความเร็วที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตอนพุ่งเข้าใส่
“ได้ยังไง…”
ผอ.จ้งตกตะลึงจนเผลออุทานออกมา
ไพ่ตายทั้งสามของเขาไร้ประโยชน์ในบัดดล
ภายใต้ใบหน้าที่โง่งมของผอ.จ้งนี้ ทั้งสามร่างก็ได้ตั้งตัวแล้วกระโจนหาเฉินเฉียงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ผลออกมาเฉกเช่นเดิม
เฉินเฉียงไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
แม้แต่เสื้อผ้าของเขาก็ยังไม่ไหวติง
เมื่อเห็นฉากนี้ ผอ.จ้งไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะทำสิ่งใดไปในทันที
แล้วเขาจะสู้ต่อได้ยังไงกัน
ก็ในเมื่อแม้แต่หุ่นเชิดโลหิตและหุ่นเชิดซากศพที่เขาภูมิใจก็ยังไม่อาจจะแตะต้องเฉินเฉียงได้แม้แต่น้อย
เฉินเฉียงเองก็ราวกับจะอ่านความคิดของผอ.จ้งได้จึงได้พูดออกมา
“ผอ.จ้ง ในฐานะที่เป็นผู้บ่มเพาะบนเส้นทางหุ่นเชิดโลหิต ข้าเชื่อว่าเจ้าเองก็คงจะเคยได้ยินคำว่าปฏิกิริยาย้อนกลับอยู่บ้างกระมัง”
“สำหรับผู้ที่อยู่บนเส้นทางหุ่นเชิดโลหิต นั่นจะหมายถึงการที่หุ่นเชิดโลหิตของคนผู้นั้นกัดกินศพผู้เป็นนายราวกับอาหารอันโอชะในยามที่เจ้านายของมันตกตายไป”
“และเข้าก็เชื่อว่าเจ้านั้นเคยเห็นฉากนี้อยู่มากมายหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้เกรงว่าจะเป็นเจ้าเองที่ได้พบเจอ”
เมื่อพูดจบ สายตาของเฉินเฉียงก็ราวกับฉายแสงที่เย็นยะเยือกออกมา ก่อที่ร่างของเขาจะกลายเป็นแสงพุ่งใส่ผอ.จ้งในทันที
ฝุ่บ
ร่างของผอ.จ้งทรุดตัวลงอย่างไม่อยาก
พร้อมกับเสียงของระบบของเฉินเฉียงอันคุ้นเคยได้ดังขึ้นในหัวของเขา
แต่เฉินเฉียงนั้นยังไม่มีอารมณ์จะสนใจเรื่องนี้ในตอนนี้
นั่นก็เพราะในทันทีที่ร่างของผอ.จ้งร่วงหล่นไปกองกับพื้นดิน หุ่นเชิดโลหิตที่โจมตีเขาก่อนหน้านั้นก็ได้เปลี่ยนท่าทีพุ่งเข้าใส่ร่างของผอ.จ้ง
เฉินเฉียงได้เปิดทางเข้าโลกใบเล็กของเขาเก็บร่างของผอ.จ้งไปในทันทีเช่นกัน
เมื่อเห็นอาหารอันโอชะของตนหายไปกับตา นกอินทรีปีศาจ หุ่นเชิดโลหิตของผอ.จ้งก็แสดงออกอย่างเกรี้ยวกราดเร่งกระพือปีกพุ่งเข้าใส่เฉินเฉียงในทันที
ส่วนหุ่นเชิดซากศพทั้งสองตนนั้น เมื่อไม่เห็นผู้เป็นนาย มันก็อยู่นึ่งไม่ขยับเขยื้อน
เมื่อเห็นฉากนี้ เฉินเฉียงก็รีบเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นผอ.จ้ง ก่อนจะใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาพุ่งเข้าใส่นกอินทรีย์ปีศาจตนนี้
“ติ้ง ติ้ง ติ้ง”
เสียงเตือนของระบบย่อยสลายซากศพของเขาดังติดต่อกันอีกสามครั้ง
ติ้ง ระบบดูดซับราชาเหนือราชาขั้นต้นสำเร็จ
ติ้ง ระบบดูดซับราชาเหนือราชาขั้นกลางสำเร็จ
ติ้ง ระบบดูดซับราชาปีศาจแรกเริ่มสำเร็จ
เจ้าของระบบ: เฉินเฉียง
ระดับ: นักรบสายเลือดระดับราชาขุนพลขั้นกลาง
การหลอมรวมทักษะ: 1
การคัดเลือกทักษะ : 12
ค่าพลังงาน: 94,807,140
ค่าการใช้ประโยชน์:1
ค่าความอดทน:1164
ค่าความแข็งแกร่ง:1321
ค่าความเร็ว:754
ค่าพลังจิต:5103
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: หลอมเลือดทำลายล้าง ระดับสูง
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: ภาพวาดแห่งห้วงมหาสมุทร ระดับสูง
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคฝึกฝนร่างกายพื้นฐาน ระดับสูงสุด
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุสรรพยานานาสรร ระดับสุดยอด
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคการยิงธนูของโฮ่วอี้(ผู้ดับตะวัน) ระดับสูงสุด
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: หุ่นเชิดโลหิต ระดับต้น
ทักษะ: ไร้ตัวตน
ทักษะ: การตรวจสอบด้วยเสียง
ทักษะ: เพลิงดาบสายฟ้าทำลายวิญญาณระดับสูงสุด
ทักษะ: ก้าวย่างสวรรค์ระดับสูง
ทักษะ: ภาษาสัตว์
ทักษะ: แกะรอยด้วยกลิ่น
ทักษะ: เคลื่อนย้ายพริบตาระดับสูงสุด
ทักษะ: สื่อสารไร้สาย
ทักษะ: สะกดจิต ระดับสูงสุด
ทักษะ: สะกดข่มวิญญาณมารสวรรค์ ระดับสูง
ทักษะ: ดาบสะบั้นวิญญาณ ระดับสูงสุด
ทักษะ: แก่นแท้แห่งการเล่นแร่แปรธาตุ
ทักษะ: รอบรู้สมุนไพร
ทักษะ: เพลงดาบลมเฉือน ระดับสูง
ทักษะ: อินทรีย์สยายปีก ระดับสูง
ทักษะ: ควบคุมสายน้ำ ระดับ 8 (ทักษะที่ 1)
ทักษะ: เปลี่ยนรูปลักษณ์ (ทักษะที่ 2)
ทักษะ: ปีกสีเงิน ระดับ 9 (ทักษะที่ 3)
ทักษะ: ซ่อนตัวจากแสง ระดับ 9 (ทักษะที่ 4)
ทักษะ: เกราะเหล็กไหล (ทักษะที่ 5)
ทักษะ: คลื่นเสียงทำลายวิญญาณ (ทักษะที่ 6)
ทักษะ: ขอบเขตจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ขั้นสูง (ทักษะที่ 7)
ทักษะ: คลื่นอัดกระแทก ระดับ 8 (ทักษะที่ 8)
ทักษะ: หมอกครอบคลุม ระดับ 8 (ทักษะที่ 9)
ทักษะ: ผ่ามิติ ระดับ 9 (ทักษะที่ 10)
ทักษะ: ห้านิ้วพิศวง(ห้านิ้วสะเทือนสวรรค์) ระดับ 9 (ทักษะที่ 11)
ทักษะ: ขอบเขตเจตจำนงแห่งการต่อสู้ ระดับต้น (ทักษะที่ 12)
ทักษะ: กลืนกินเลือดปีศาจ
ทักษะ: โลกใบเล็ก ระดับ 5
……
สายเลือด: โกลาหลอาชาไนย(โกลาหลขั้นสูง)
หลังจากดูดซับพลังจากร่างทั้งสี่ในคราวเดียว นี่ทำให้โลกใบเล็กของเฉินเฉียงยกระดับขึ้นมาเป็นระดับ
โลกใบเล็กระดับห้านี้มีพื้นที่โดยรวมราวๆสองพันห้าร้อยตารางไมล์เห็นจะได้
น่าเสียดายที่ช่วงนี้เขานั้นไม่มีเวลาฝึกฝนขอบเขตเจตจำนงแห่งการต่อสู้สักเท่าไหร่นัก
นี่ทำให้เขายากจะรับได้จริงๆ
แต่ในเมื่อเขารู้ตัวอย่างนี้แล้วนี่ทำให้เขานั้นคิดจะเร่งฝึกฝนขอบเขตเจตจำนงแห่งการต่อสู้อีกครั้ง
-ดูเหมือนว่าหลังจากกลับไปแล้วข้าคงต้องพยายามอย่างหนักอีกแล้วสินะเนี่ย-
หลังจากเก็บหุ่นเชิดซากศพทั้งสองไว้ในโลกใบเล็ก เฉินเฉียงก็พุ่งตรงกลับสำนักไป
แน่นอนว่าเขานั้นรีบเร่งจะกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วไปได้
แต่ก่อนที่เขาจะได้กลับเข้าไปนั้น เฉินเฉียงได้ส่งข้อความไปบอกทุกคนแล้วเพื่อไม่ให้ทุกคนต้องกังวล
“กัปตัน ในที่สุดก็เสร็จเรื่องสักที”
จางหยวนเป็นคนแรกที่ส่งข้อความกลับมาหาเฉินเฉียง “เฉินเฉียง หลังจากที่ท่านออกไปได้เพียงวันเดียว คนจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ก็ได้มายังสำนัก”
“หลังจากรออยู่นาน คนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ก็เร่งจากไป ผู้อาวุโสเฟิงจากแผนกหุ่นเชิดโลหิตเองก็ได้มาเพื่อพบท่าน”
“ในตอนนี้พวกเราจึงรวมกันอยู่ที่พักของท่านเพื่อรอท่านกลับมา ดูเหมือนว่าวิหารศักดิ์สิทธิ์จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมากระมัง”
เรื่องใหญ่รึ
เฉินเฉียงสบถออกมาทีหนึ่ง
เขาพลางนึกไปว่าเรื่องใหญ่ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ว่านั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องกลุ่มต่อต้านนั่นกระมัง
ถึงแม้วิหารศักดิ์สิทธิ์จะยิ่งใหญ่ แต่ก็คงไม่อาจกวาดล้างผู้ต่อต้านได้หมดสิ้นคราวเดียวหรอกมั้ง คิดว่านะ
แต่หากเป็นอย่างนั้นจริง คนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ก็น่าจะออกโรงด้วยตนเองใช่รึเปล่า แล้วใครจะเป็นผู้โชคร้ายคนนั้นหนอ