ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก - บทที่ 489 ดูดพลัง
บทที่ 489 ดูดพลัง
“ท่านนายเหนือหัว เหล่าผู้บ่มเพาะระดับราชาจอมพลกว่าร้อยคนถูกฝังอยู่ใต้พื้นแห่งนี้”
“พวกเขาได้ตกตายในระหว่างการสู้กับผู้รุกราน และบางคนนั้นได้นำพาผู้คนจากทั้งสามเผ่าพันธุ์เอาไว้ในร่างของพวกเขา ช่างน่าเสียดายนัก”
มาถึงตอนนี้ ฮูเตี๋ยนก็ได้ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
เฉินเฉียงในตอนนี้ได้ยืนนิ่งก่อนจะนำสมุนไพรหมุนเวียนโลหิตกว่าหกแสนต้นออกมาจากโลกใบเล็กนำไปมอบให้ฮูเตี๋ยน
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด นำสมุนไพรหมุนเวียนโลหิตเหล่านี้แจกจ่ายให้กับผู้บ่มเพาะระดับราชาขุนพลขึ้นไปแก่ทั้งสามเผ่าพันธุ์”
“ด้วยสมุนไพรเหล่านี้ พวกเขานั้นจะไม่ต้องกังวลที่จะถูกเลือดปีศาจกลืนกินไปในระหว่างการต่อสู้กับผู้บ่มเพาะของโลกปีศาจ”
“หลังจากนั้นก็บอกไปว่าให้หาราชาจอมพลของทั้งสามเผ่าพันธุ์ที่ได้รับสมุนไพรเหล่านี้แล้วให้กระจายไปทั่วโลกมนุษย์ทั้งสี่ภูมิภาค แล้วให้พวกเขาเหล่านั้นรวบรวมผู้คนที่ยังเหลือรอดอยู่และนำพาให้พวกเขาพ้นจากอันตราย”
“หลังจากนั้นให้พวกเขากลับมาที่ฮุยตู๋และหาคนคุ้มกันไว้อย่างแน่นหนา”
“อ้อแล้วก็ท่านผ้าอาวุโสสูงสุด ทั้งต้องจดจำให้ดีว่าหากว่ามีผู้ที่อยู่เหนือกว่าระดับราชาสู้อย่างถวายชีวิตและตกตายไปในการต่อสู้ ร่างของพวกเขาทุกร่างจะต้องนำกลับมาฝังไว้นะที่แห่งนี้”
“ครับ ข้าผู้นี้จะทำตามคำสั่งของท่านนายเหนือหัวอย่างเคร่งครัด”
หลังจากฮุยเตี๋ยนรับสมุนไพรหมุนเวียนโลหิตแล้วเร่งจากไป เหลือเพียงเฉินเฉียงคนเดียวในจัตุรัสแห่งนี้
“ไอ๊หยา……”
หลังถอดถอนลมหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด เฉินเฉียงก็ให้หลิงเว่ยและคนอื่นๆในเขาหมางออกมาจากโลกใบเล็กของเขา
“ผู้สั่งการหลิง ข้าจะรบกวนท่านให้ช่วยพาทุกคนขุดศพของวีรชนเหล่านี้ขึ้นมาหน่อย ข้านั้นต้องการตรวจสอบอีกครั้งก่อนที่จะฝังเขาอย่างเหมาะสมต่อไป”
เมื่อเห็นหลุมศพร้อยกว่าหลุมในจัตุรัสแห่งนี้ หลิงเว่ยและคนอื่นๆก็จ้องมองออกไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งเศร้าเสียใจและแสดงออกมาอย่างเคารพในตัวคนเหล่านี้ หลังจากนั้นพวกเขาจึงได้เริ่มขุดนำศพที่อยู่ในหลุมศพขึ้นมา
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง ศพกว่าหนึ่งร้อยสี่สิบหกศพก็ได้ปรากฏขึ้นทั่วทั้งจัตุรัส
เฉินเฉียงได้เข้าไปสัมผัสร่างที่ละร่างด้วยมือขวาของตน
ติ้ง ระบบย่อยสลายราชาขุนพลขั้นกลางสำเร็จ
ติ้ง ระบบย่อยสลายราชาจอมพลขั้นต้นสำเร็จ
…..
ในขณะที่แสร้งทำการสำรวจอยู่นี้ เฉินเฉียงย่อมดูดซับพลังงานของผู้คนเหล่านี้มาด้วยระบบย่อยสลายซากศพของเขา
วีรชนผู้เสียสละเหล่านี้ทุกคนล้วนแล้วแต่มีโลกใบเล็กของตนหลงเหลืออยู่ในร่าง เขานั้นย่อมดูดซับพลังเหล่านั้นมาไม่ปล่อยให้เสียไปเปล่าๆ
ในขณะเดียวกัน เหล่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลกใบเล็กของพวกเขาเหล่านี้นั้นยังคงอยู่ดีพร้อมกับส่งเสียงโฮ่ร้องออกมา
แน่นอนว่าในระหว่างนี้ เฉินเฉียงเองก็รับรู้ได้ว่าถึงแม้ว่าเขานั้นจะเป็นราชาจอมพล แต่โลกใบเล็กของเขานั้นกลับใหญ่โตเหนือกว่าราชาจอมพลระดับต้นไปอย่างมากมายแม้จะอยู่ในระดับเดียวกัน
และหลังจากดูดซับศพของเหล่าวีรชนเหล่านี้จนหมด โลกใบเล็กของเฉินเฉียงนั้นก็มีพื้นที่กว่าเจ็ดหมื่นไมล์ไปแล้วในตอนนี้
เจ้าของระบบ: เฉินเฉียง
ระดับ: นักรบสายเลือดระดับราชาจอมพลขั้นต้น
การหลอมรวมทักษะ: 1
การคัดเลือกทักษะ : 12
ค่าพลังงาน: 44,807,180
ค่าการใช้ประโยชน์:1
ค่าความอดทน:2164
ค่าความแข็งแกร่ง:3327
ค่าความเร็ว:1754
ค่าพลังจิต:8803
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: หลอมเลือดทำลายล้าง ระดับสูง
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: ภาพวาดแห่งห้วงมหาสมุทร ระดับสูง
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคฝึกฝนร่างกายพื้นฐาน ระดับสูงสุด
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุสรรพยานานาสรร ระดับสุดยอด
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคการยิงธนูของโฮ่วอี้(ผู้ดับตะวัน) ระดับสูงสุด
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: หุ่นเชิดโลหิต ระดับต้น
ทักษะ: ไร้ตัวตน
ทักษะ: การตรวจสอบด้วยเสียง
ทักษะ: เพลิงดาบสายฟ้าทำลายวิญญาณระดับสูงสุด
ทักษะ: ก้าวย่างสวรรค์ระดับสูง
ทักษะ: ภาษาสัตว์
ทักษะ: แกะรอยด้วยกลิ่น
ทักษะ: เคลื่อนย้ายพริบตาระดับสูงสุด
ทักษะ: สื่อสารไร้สาย
ทักษะ: สะกดจิต ระดับสูงสุด
ทักษะ: สะกดข่มวิญญาณมารสวรรค์ ระดับสูง
ทักษะ: ดาบสะบั้นวิญญาณ ระดับสูงสุด
ทักษะ: แก่นแท้แห่งการเล่นแร่แปรธาตุ
ทักษะ: รอบรู้สมุนไพร
ทักษะ: เพลงดาบลมเฉือน ระดับสูง
ทักษะ: อินทรีย์สยายปีก ระดับสูง
ทักษะ: ควบคุมสายน้ำ ระดับ 8 (ทักษะที่ 1)
ทักษะ: เปลี่ยนรูปลักษณ์ (ทักษะที่ 2)
ทักษะ: ปีกสีเงิน ระดับ 9 (ทักษะที่ 3)
ทักษะ: ซ่อนตัวจากแสง ระดับ 9 (ทักษะที่ 4)
ทักษะ: เกราะเหล็กไหล (ทักษะที่ 5)
ทักษะ: คลื่นเสียงทำลายวิญญาณ (ทักษะที่ 6)
ทักษะ: ขอบเขตจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ขั้นสูง (ทักษะที่ 7)
ทักษะ: คลื่นอัดกระแทก ระดับ 8 (ทักษะที่ 8)
ทักษะ: หมอกครอบคลุม ระดับ 8 (ทักษะที่ 9)
ทักษะ: ผ่ามิติ ระดับ 9 (ทักษะที่ 10)
ทักษะ: ห้านิ้วพิศวง(ห้านิ้วสะเทือนสวรรค์) ระดับ 9 (ทักษะที่ 11)
ทักษะ: ขอบเขตเจตจำนงแห่งการต่อสู้ ระดับกลาง (ทักษะที่ 12)
ทักษะ: กลืนกินเลือดปีศาจ
ทักษะ: โลกใบเล็ก ระดับ 6
……
สายเลือด: โกลาหลอาชาไนย(โกลาหลขั้นสูง)
การดูดซับพลังงานจากซากศพในครั้งนี้ได้ทำให้โลกใบเล็กของเฉินเฉียงยกระดับขึ้นไปหลายระดับ รวมถึงค่าสถานะของเขายังเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่อยากจะนับ แต่สิ่งที่ดีที่สุดกับเขาในตอนนี้ก็คือการที่ได้ช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในโลกใบเล็กของวีรชนเหล่านี้ให้มีโอกาสรอดออกมา
ตราบใดที่เขานั้นยังปกป้องผู้คนเหล่านี้ไว้ได้ ในวันหนึ่ง หลังจากที่โลกใบนี้หมดปัญหาการรุกราน เขาสามารถนำพาทุกคนออกมาให้มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ต่อได้ในทันที
หลังจากดูดซับพลังจากซากศพเหล่านี้จะเสร็จ หลิงเว่ยและคนอื่นๆก็ทำการกลบฝังพวกเขาใหม่อีกครั้งก่อนที่จะกลับเข้าโลกใบเล็กของเฉินเฉียงไป
หลังจากทะลวงข้ามขั้นมาได้เกือบเดือน เขายังมีเวลาเหลืออีกสองเดือนเพื่อที่จะกลับไปยังสถานที่ที่เขาได้นัดพบเจอกับหยานเสวี่ยและคนอื่นๆในกองกำลังเทียนเว่ย เฉินเฉียงจึงคิดที่จะอยู่ต่อเพื่อจัดการเหล่าผู้รุกรานจากโลกปีศาจร่วมกับอีกสามเผ่าพันธุ์
เขตเป่ยเชิน เมืองม่านหมอก(ฝูวู่)
เมื่อเฉินเฉียงมาถึง ฮูเตี๋ยนในตอนนี้กำลังหารือเกี่ยวกับสมุนไพรหมุนเวียนโลหิตกับผู้อาวุโสสูงสุดของทั้งสามเผ่าพันธุ์นั่นคือหลิวฉิง หลูเป็ง และหลินจิ้น
หลังจากพูดคุยกันแล้ว ทั้งสามเผ่าพันธุ์นั้นมีผู้บ่มเพาะในระดับราชาขุนพลขึ้นไปทั้งหมดสองพันกว่าคน
ฮูเตี๋ยนและคนอื่นๆจึงตัดสินใจมอบสมุนไพรหมุนเวียนโลหิตอีกสี่แสนต้นเป็นรางวัลแก่ผู้ที่เพียรพยายามยกระดับบ่มเพาะจนกลายเป็นราชาขุนพลขึ้นมาได้
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง”
ฮูเตี๋ยนเมื่อได้ยินก็ถอดถอนลมหายใจแล้วพูดออกมา “เรียนท่านนายเหนือหัว ทั้งสามเผ่าพันธุ์ในตอนนี้ยังคงถูกรุกรานจากผู้บ่มเพาะของโลกปีศาจอย่างไม่ว่างเว้นทั้งทางทะเลและทางบก รวมถึงการที่เหล่าหุ่นเชิดโลหิตและหุ่นเชิดซากศพที่แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วประดุจดั่งโรคห่า”
“นี่จึงทำให้พวกเราคิดว่าพวกเราจะรวบรวมผู้อ่อนแอในเผ่าพันธุ์ทั้งหมดมาก่อนถึงจะเปิดฉากโจมตีอย่างสุดกำลัง”
ในการรุกรานจากโลกปีศาจก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามเผ่าพันธุ์นั้นต่างก็หมดหวังและเสื่อมศรัทธาในฮุยตู๋อย่างที่สุดและพวกเขานั้นต่างคิดว่าฮุยตู๋นั้นไม่ได้มีค่าคู่ควรพอจะเป็นผู้นำของโลกใบนี้และทำให้พวกเขาไม่อยากจะทำตาม
เพียงแต่ในการโจมตีรอบหลังนั้นมันหนักหน่วงเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือ พวกเขาจึงทำได้เพียงต้องพึ่งพาฮุยตู๋อีกครั้ง
และในครั้งนี้ที่พวกเขาพบว่าเฉินเฉียงได้กลับมาปรากฏพร้อมกับสมุนไพรหมุนเวียนโลหิตจำนวนมาก นี่ทำให้พวกเขาบังเกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
และในตอนนี้หลินจิ้นได้ต่อยไปที่โต๊ะอย่างขุ่นเคืองและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ท่านนายเหนือหัว ในการศึกนี้ที่น่าเดียดฉันท์ที่สุดคือไอ้พวกโลกปีศาจนั่นได้นำคนของเราบางส่วนที่ตกตายไปเป็นหุ่นเชิดซากศพของพวกมัน”
“ด้วยเรื่องนี้เท่านั้นที่ทำให้พวกเรานั้นยากจะลงมือ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เฉินเฉียงก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจแล้วถามออกมา “ผู้อาวุโสสูงสุดหลินจิ้น ทำไมท่านไม่สร้างนักรบซากศพขึ้นมาต่อกรล่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลินจิ้น หัวเราะออกมาหึหนึ่งก่อนจะพูดออกมา “ท่านนายเหนือหัว ท่านก็รู้นี้ว่าไอ้ตอนที่ไอ้เลวระยำฮั่นจุยนั่นทรยศพวกเราสมาคมมนุษย์กลายพันธุ์นั้นมันได้นำพาทั้งผู้คนที่มีความรู้และยุทโธปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์กลายพันธุ์และแผ่นแก่นพลังงานไปด้วยจนหมดสิ้น”
“มันก็สามารถบอกได้อีกว่าหากพวกเราไม่มีคนเหล่านั้น มันก็เหมือนกับเผ่าพันธุ์มนุษย์กลายพันธุ์ได้จบสิ้นลงและจะไม่มีมนุษย์กลายพันธุ์ชุดใหม่เกิดขึ้นมาในโลกได้อีก”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนแสดงออกอย่างชัดเจนในความเกลียดชังที่มีต่อฮั่นจุย
“และที่น่าเดียดฉันท์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือใครก็ตามที่กลายเป็นหุ่นเชิดโลหิตไป หากพวกนั้นไม่คิดโจมตีพวกเรา พวกเราก็แยกไม่ออกว่าพวกมันเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นก็คือบางคนยังเป็นคนคุ้นเคยของพวกเราเองแล้วจะให้พวกเราลงมือโจมตีพวกเขาเนี่ยนะ”
เป็นตอนนี้ที่เฉินเฉียงฉวยโอกาสอธิบายออกมา “ทุกคนจงฟังให้ดี พวกท่านจงจำไว้ว่ายามที่คนผู้นั้นตกตายกลายเป็นหุ่นเชิดซากศพไปแล้ว คนเหล่านั้นจะไม่ใช่คนที่พวกเรารู้จักอีกต่อไป เมื่อถึงเวลาพวกท่านได้พบเจอไม่จำเป็นต้องยั้งมือ”
“หรือจะกล่าวได้ว่าหุ่นเชิดซากศพนั้นเป็นเฉกเช่นเดียวกับนักรบซากศพของมนุษย์กลายพันธุ์ก็ว่าได้ เพราะพวกมันไม่หลงเหลือจิตวิญญาณอีกต่อไปแล้ว”
“นี่ทำให้วิธีการที่ดีที่สุดที่จะแยกพวกมันออกจากพวกเราได้ว่าเป็นหุ่นเชิดซากศพหรือไม่ก็คือการลองส่งเสียงผ่านจิตวิญญาณหรือโจมตีโดยวิธีการโจมตีทางจิตวิญญาณใส่เพื่อตรวจสอบดู”