ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก - บทที่ 77 อันตราย
บทที่ 77 อันตราย
“ระวังตัวไว้ สาวน้อย”
เมื่อเห็นถูหมั่นเถียนถลาลง เฉินเฉียงรีบเตือนเว่ยฉิงเชินในทันที แต่เขาไม่คิดว่าเว่ยฉิงเชินนั้นจะพุ่งตัวเข้าใส่ถูหมั่นเถียนอย่างไม่หวาดหวั่น
จากบทสนทนาของทั้งสองคนทำให้เฉินเฉียงนั้นรู้ว่าสาวน้อยคนนี้ผู้ซึ่งมีอายุไล่เลี่ยกับเขานั้นคือลูกสาวของผู้การ สถานะของเธอนั้นสูงล้ำ
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เป็นตายในตอนนี้แล้ว โดยเฉพาะการที่ต้องเผชิญหน้ากับโจรร้ายที่อยู่ในระดับนายพลวิญญาณขั้นกลางแบบนี้ มีหรือที่เขาจะสนใจเรื่องสถานะนั่น
อย่างไรก็ตาม เขาในตอนนี้ถึงกับหน้าซีดในทันทีเมื่อเห็นการดวลกันระหว่างคนทั้งสอง
ถึงแม้ว่าสาวน้อยที่อายุใกล้เคียงกับเขา ผู้ซึ่งดูอรชรอ้อนแอ้น แต่ระดับพลังของเธอนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปว่าถูหมั่นเถียนเลยแม้แต่น้อย
เฉินเฉียงที่ในตอนนี้อยู่ห่างจากการปะทะของทั้งสองคนกว่าสามร้อยเมตร ได้เห็นฉากการต่อสู้อันดุเดือดได้ชัดถนัดถนี่
ถูหมั่นเถียนได้ใช้กรงเล็บคู่ร่ายรำประดุจดั่งสายลม ท่าเท้าของเขานั้นคล่องตัวแบบสุดๆ นี่ทำให้ผู้พบเห็นนั้นต้องตกตะลึง
ส่วนเว่ยฉิงเชินนั้นก็พลิ้วไหวประดุจใบไม้ที่ต้องลมที่สามารถรอดผ่านสายลมที่รุนแรงไปได้อย่างโกลาหล แต่ถึงจะว่าแบบนั้น เว่ยฉิงเชินสามารถหลุดรอดการโจมตีถึงตายไปได้เสียทุกครั้ง โดยเฉพาะผ้าไหมสีขาวในมือที่สามารถตีโต้ถูหมั่นเถียนไปได้เสียทุกครั้งเมื่อมีโอกาส
“เว่ยฉิงเชิน ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าเจ้าเองก็อยู่ในระดับนายพลวิญญาณขั้นกลางแล้วทั้งๆที่อายุยังน้อยนิด เจ้านั้นสมควรแล้วที่จะถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะจิตชำระกาย ทำไมไม่อยู่ที่นี่เป็นภรรยาข้าซะล่ะ”
ถูหมั่นเถียนได้พยายามพูดยั่วเธอตลอดเวลาที่มีโอกาส
แต่คำพูดสกปรกโสมมของเขานั้นไม่ได้มีผลแต่ประการใด แต่กับมังกรตาเดียวและลูกกระจ๊อกที่คอยมองดูและเชียร์อยู่ชั้นบนนั้น พวกมันเชียร์ถูหมั่นเถียนอย่างสุดใจขาดดิ้น
ต่อให้เขาจัดการถูหมั่นเถียนไม่ได้ แต่กับไอ้พวกนี้มีหรือที่เขาจะปล่อยไป
เฉินเฉียงได้กัดฟันแน่นก่อนที่จะหันหลังและพุ่งขึ้นเขตแดนไป เขาตวัดดาบดั้นเมฆเข่นฆ่าไปตลอดทาง
จ้าวชั้นที่สองอย่างมังกรตาเดียว เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เขาโกรธจัดจนต้องส่งเสียงร้องคำรามออกมา แต่ไม่ว่าเขาจะโจมตีไปมากมายแค่ไหนก็ตามก็ไม่อาจจะตัดได้แม้แต่ปลายเส้นผมของเฉินเฉียง
เพียงไม่นาน โจรลูกกระจ๊อกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเขตแดนหมอกโลหิตก็ตกตายกันไปหมดด้วยน้ำมือของเฉินเฉียง
“ไอ้ตัวระยำ ข้าจะหั่นแกเป็นชิ้นๆ”
มังกรตาเดียวได้จับศพโจรที่ถูกเฉินเฉียงฆ่าและฉีกกระชากออกเป็นสองชิ้นเพื่อระบายโทสะ
ดวงตาของเฉินเฉียงฉายแววอำมหิตในทันทีเมื่อเห็นฉากนี้
เทคนิคที่จ้าวชั้นที่สองคนนี้ใช้คล้ายกับกรงเล็บหมาป่าของถูหมั่นเถียนอย่างมาก และบาดแผลนี้เขาจำได้ว่าเป็นบาดแผลที่ผู้คนในอาณานิคมได้รับ
ชายตรงหน้าคือคนที่ฆ่าฮั่นเปียวอย่างโหดร้าย
เมื่อคิดถึงฉากเหตุการณ์ที่ได้พานพบในอาณานิคมเขาอูฐ ดวงตาของเฉินเฉียงได้กลายเป็นสีแดงฉานอีกครั้ง
ต่อให้มันผู้นี้มีระดับการบ่มเพาะในระดับนายพลวิญญาณก็ตาม แต่ก็ไม่สมควรมีจิตใจที่แข็งแกร่งเหมือนดั่งจ้าวชั้นที่สามอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะต้านทานการโจมตีของเขาได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น เฉินเฉียงก็ไม่ได้คิดหลบอีกต่อไป เข้าใช้ท่าเท้าของตัวเองบวกกับการร่ายรำดาบดั้นเมฆพร้อมกับใช้เคล็ดวิชาสะกดข่มวิญญาณมารสวรรค์
แน่นอนว่าหลังจากโดนโจมตีด้วยวิชาสะกดข่มวิญญาณมารสวรรค์เข้าไป ทำให้จ้าวชั้นที่สองนิ่งเงียบไป พร้อมกับพลังสายเลือดภายในร่างที่ปั่นป่วนและอ่อนแรงลง
เมื่อเห็นเป็นโอกาสดี เฉินเฉียงจึงได้ใช้ดาบดั้นเมฆในมือกรีดเฉือนไปที่มังกรตาเดียวอย่างสุดแรง
เมื่อได้รับความเจ็บปวดที่มากล้นก็ได้ทำให้มังกรตาเดียวตื่นจากภวังค์ เมื่อก้มลงไปดูก็ได้พบว่าดาบเล่มนั้นได้ทำให้ตัวเขาเกิดบาดแผลที่หน้าอกลงลึกไปเกือบหนึ่งนิ้วมือ นี่ทำให้มังกรตาเดียวโกรธจนขนหัวลุกตั้งชัน
เฉินเฉียงที่หลบออกมาอยู่ข้างๆนั้น เมื่อเห็นว่าวิธีการนี้ได้ผลจึงได้ใช้วิธีการนี้ซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะฟาดดาบดั้นเมฆในมืออย่างไม่หยุดยั้ง
หลังจากผ่านไปอีกสิบกว่ารอบ มังกรตาเดียวในตอนนี้ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยรอยแผลกรีดเฉือน เมื่อถึงตอนนี้ ต่อให้ฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีทางรอดได้อยู่ดี แต่มันก็ยังไม่คิดที่จะตกตายในตอนนี้
ถึงจะทำไปถึงขนาดนี้ เฉินเฉียงก็ยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาแต่อย่างใด
ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการที่เขาต้องใช้ทั้งแรงกายและพลังวิญญาณไปจำนวนมหาศาลในการสังหารโจรร้ายตนนี้
หลังจากที่มังกรตาเดียวได้นิ่งเงียบไปเพราะโดนเคล็ดวิชาสะกดข่มมารสวรรค์อีกครั้ง เฉินเฉียงได้รีบค้นหาสิ่งของที่อยู่ในแหวนทั้งสามที่เขาได้มา หลังจากนั้นเขาก็ได้ดูดกลืนแก่นคริสตัลไปจำนวนมากจนทำให้ค่าพลังงานระบบเพิ่มขึ้นมา
ชื่อ เฉินเฉียง
ระดับ: นักรบสายเลือดระดับทหารขั้นสูง
การหลอมรวมทักษะ: 1
ค่าพลังงาน:4,700
ค่าการใช้ประโยชน์:1
ค่าความอดทน:190
ค่าความแข็งแกร่ง:172
ค่าความเร็ว:191
ค่าพลังจิต:130
เมื่อเห็นดังนี้ เฉินเฉียงก็ไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนค่าพลังงานเป็นค่าพลังจิต และนี่ทำให้จิตใจของเขานั้นแจ่มใสขึ้นมา
เมื่อมังกรตาเดียวได้สติ และเห็นแววตาอาฆาตของเฉินเฉียงกลับมาฉายแววอำมหิตได้อีกครั้ง นี่ทำให้มังกรตาเดียวเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา
ตอนที่สู้กันนั้น เขาเชื่อว่าต่อให้เฉินเฉียงมีอีกสิบคนก็ยังไม่ใช่คู่มือของเขา แต่เฉินเฉียงนั้นกลับใช้ได้ทั้งการโจมตีทางกายภาพและการโจมตีทางวิญญาณที่ทำให้พลังสายเลือดของเขานั้นไร้ค่าเมื่อต่อสู้ แล้วเขาจะไปสู้กับเฉินเฉียงได้ยังไงกัน
อย่างไรก็ตาม ต่อให้เขาอยากหนีขนาดไหนก็ตาม แต่ท่าเท้าของเฉินเฉียงนั้นเกินกว่าที่เขาจะหนีได้
ในตอนนี้มังกรตาเดียวเริ่มคิดหาตัวช่วย
ด้วยสถานการณ์ของหัวหน้าของตนที่ในตอนนี้ก็ยังตึงมือ ต่อให้แยกร่างได้เขาก็เอาไปช่วยสู้ดีกว่าต้องมาช่วยเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
เฉินเฉียงได้โจมตีด้วยดาบดั้นเมฆอีกครั้ง พร้อมกับใช้เพลิงดาบสายฟ้าทำลายวิญญาณ และหลังจากผ่านไปอีกสิบกว่ากระบวน ในที่สุด ก็จัดการมังกรตาเดียวได้สำเร็จ
หลังจากดูดซับพลังจากซากร่างของมังกรตาเดียวแล้ว เฉินเฉียงไม่หยุดพักและพุ่งขึ้นไปที่ชั้นห้าในทันที
ถึงแม้เขาจะรีบมาแต่ก็ยังสายเกินไป
ฮั่นหยูและผู้หญิงอีกยี่สิบกว่าคนนั้น เสื้อผ้าได้ขาดวิ่นและตกตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เฉินเฉียงได้เก็บศพหญิงสาวทุกคนไว้ในแหวนเก็บของวงหนึ่ง ก่อนที่จะอุ้มฮั่นหยูลงมาถึงชั้นสาม เป็นตอนนี้ที่เขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเว่ยฉิงเชินและถูหมั่นเถียน
ด้วยการที่ทั้งสองอยู่ในระดับนายพลวิญญาณด้วยกันทั้งคู่ ทำให้คนระดับเขายากที่จะมองเห็นได้ว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว ยังไงซะ ถูหมั่นเถียนก็ยังเป็นผู้ชาย พลังภายในภายในร่างนั้นทั้งหนาและควบแน่นกว่า ลมหายใจของเขานั้นยังคงเป็นปกติดี เมื่อเทียบกับเว่ยฉิงเชินแล้ว ถือได้ว่าด้อยกว่าในเรื่องนี้
มาถึงจุดนี้ หากว่าเธอยังฆ่าถูหมั่นเถียนไม่ได้ เกรงว่าเธอทำได้เพียงพ่ายแพ้และไม่อาจหนีไปไหนได้
ถึงแม้ว่าตัวเขานั้นจะแข็งแกร่งไม่พอ ต่อให้เขาไม่อาจจะเจาะชั้นพลังงานที่ป้องกันร่างกายของถูหมั่นเถียนเอาไว้ได้ แต่เขาก็ยังมีทางอื่นที่ช่วยเว่ยฉิงเชินได้อยู่
“ฮ่าฮ่าฮ่า เว่ยฉิงเชิน อยากได้ฝืนร่างกายอีกต่อไปจะดีกว่า ข้านั้นไม่อยากที่จะฆ่าสาวงามเช่นเจ้าก่อนที่จะได้เชยชม”
“ถูหมั่นเถียนอย่าได้พูดจาเกินเลยไปนัก ตอนนี้พวกขี้ครอกใต้เท้าแกตกตายไปจนหมดแล้ว เจ้านั่นแหล่ะที่สมควรจะยอมแพ้ซะ”
ถูหมั่นเถียนได้หันไปดูก็พบเพียงเฉินเฉียงเท่านั้นที่ยืนอยู่บนเขตแดนหมอกโลหิต นี่จึงทำให้เขานั้นอดที่จะระเบิดโทสะไม่ได้
“ไอ้ระยำ แกกล้าทำลายเขตแดนโลหิตของข้า ฆ่าจะข้าแกในภายหลัง”
หลังจากพูดจบ ถูหมั่นเถียนก็ราวจะเสียสติ ความแข็งแกร่งและความเร็วของเขาได้เพิ่มสูงขึ้น นี่ทำให้พลังสายเลือดของเว่ยฉิงเชินนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง เรียกได้ว่าตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบสุดขีด
เมื่อเห็นดังนี้ เฉินเฉียงรีบวางร่างของฮั่นหยูลงและพุ่งลงมาพร้อมดาบดั้นเมฆในทันที
เขาไม่คิดว่าคำพูดยั่วยุของเธอนั้นจะเป็นการยั่วโมโหถูหมั่นเถียนจนทำให้เกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ เว่ยฉิงเชินย่อมไม่อาจต้านทานไว้ได้อย่างแน่นอน แล้วหลังจากนั้น เขาก็คงไม่อาจรอดไปได้
ในระหว่างสถานการณ์เป็นตายเช่นนี้ เฉินเฉียงได้ตรวจสอบค่าสถานะของตน
เขานั้นมีทักษะมากมายแต่ระดับการบ่มเพาะของเขานั้นอ่อนแอเกินกว่าที่จะใช้พวกมันทำอะไรได้
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การที่จะปะทะกับถูหมั่นเถียนได้ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ หากไม่ใช่ทักษะระดับสูงสุดแล้ว ไม่มีทางเลยที่จะทำอะไรได้
เคล็ดวิชาสะกดข่มมารสวรรค์ของเขานั้นอยู่เพียงระดับต้น เพียงแค่นี้ไม่อาจที่จะทำอะไรถูหมั่นเถียนที่มีจิตใจเข้มแข็งอย่างแน่นอน
ก้าวย่างสวรรค์ของเขานั้นต่อให้มันเป็นระดับสูงสุด แต่มันก็ยังคงเป็นเพียงท่าเท้า
จะเหลืออยู่ก็มีเพียงทักษะหลบหนีชั้นยอดอย่างขุดรูเท่า……..
เดี๋ยวนะ
หากว่าใช้ดีๆมันก็เจ๋งเลยนี่หว่า