ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 29
SC:บทที่ 29 ลูกพี่เฉิน
หลินเฉิง ทำได้แค่เพียงส่ายหัวเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเขา เขาควรที่จะคิดหาวิธีที่จะรวบรวมเสบียงเหล่านี้มากกว่า ทันใดนั้นชายที่อยู่ในโกดังก็เดินมาหลังกล่องไม้ซึ่ง หลินเฉิง ซ่อนตัวอยู่ เมื่อเขาได้เห็นว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ด้านหลังเขาพยายามที่จะอ้างปากตะโกนออกมา หลินเฉิง พุ่งไปปิดปากของเขาทันที ชายคนนั้นต้องการที่จะขัดขืน หลินเฉิง กระแทกเข่าใส่ท้องของชายคนนั้น มันทำให้ชายคนนั้นคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดจากนั้น หลินเฉิง ชี้ปืนไปที่ศีรษะของชายคนนั้นและพูดว่า
“ยืนขึ้นช้าๆและพูดกับคนด้านนอกทำตามที่ผมสั่ง!” หลินเฉิง พูดเบาๆ
ชายคนที่โดนเขาไปก่อนหน้านี้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดเขาเกือบที่จะอาเจียนออกมาเพราะแรงกระแทก ในเวลานี้ที่ศีรษะของเขามีกระบอกปืนจ่ออยู่ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะบิดเบี้ยวแต่เขาก็ไม่กล้าต่อต้านเขาพยายามลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวดและพยายามพูดกับคนที่อยู่ด้านนอกอย่างกับปกติ
เมื่อเห็นว่าชายคนนี้ทำตามคำสั่ง หลินเฉิง พยักหน้าด้วยความพึงพอใจเขานำปืนมาจ่อที่หลังของชายคนนั้นและส่งสัญญาณให้เขาไปด้านหน้าในขณะที่ตัวเขา หลินเฉิง เองนั้นซ่อนอยู่ด้านหลัง พวกเขาทั้งสองคนค่อยๆเดินออกจากโกดัง
ชายที่อยู่ด้านนอกนั่งอยู่บนเก้าอี้เขากำลังกินไก่ย่างที่บรรจุอยู่ในถุงสูญญากาศ และเมื่อเขาเห็นว่าชายที่เข้าไปในโกดังก่อนหน้านี้ออกมามือเปล่าการแสดงออกของเขาเปลี่ยนแปลงไปทันทีเขาต้องการที่จะสาปแช่งชายคนนั้น
แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไรออกมาลำคอของเขาก็ถูกบีบโดย หลินเฉิง ที่ออกมาจากด้านหลังของชายอีกคน
จากนั้นก็มีเสียง
“แกร็ก!”
และชายคนนั้นก็ไม่สามารถส่งเสียงใดๆออกมา หลินเฉิง รีบหันมาด้านหลังอย่างรวดเร็วและเล็งปืนไปที่ชายคนก่อนหน้านี้ที่พยายามจะหลบหนี
“ถ้านายยังวิ่งหนี ฉันจะยิง!”
ปากกระบอกปืนชี้ไปที่หัวของชายคนนั้น เมื่อชายคนนั้นเห็นว่าปากกระบอกปืนยังคงชี้มาที่หัวของเขาการแสดงออกของเขาหดหู่แทบจะร้องไห้
“ลูกพี่…คุณจะเอาอะไรก็เอาไปเถอะ ผมสัญญาว่าจะไม่ส่งเสียง และรอจนกว่าคุณจะออกไปจากที่นี่!”
หลินเฉิง ไม่ได้ตอบอะไรจากคำพูดของชายคนนี้เขาส่งสัญญาณให้ชายคนนี้หมอบลง จากนั้น หลินเฉิง เหวี่ยงแขนขวาเพื่อส่งคนที่ หลินเฉิง ทำให้สลบก่อนหน้านี้ลงไปนอนราบใกล้กับชายที่กำลังหมอบอยู่
หลังจากนั้น หลินเฉิง ถามคำถามชายคนนั้นว่า
“ผมจะถามคำถาม และนายมีหน้าที่ตอบ อย่าพูดเรื่องไร้สาระอย่างนั้นจุดจบจะเหมือนกับชายคนนี้ เข้าใจไหม?”
เมื่อมองดูเพื่อนที่กำลังหมดสติ ชายคนนั้นกลืนน้ำลายและพยักหน้าเขาพยายามตั้งใจฟังคำถามของ หลินเฉิง
“ ก่อนอื่น ในซุปเปอร์มาเก็ตนี้มีกี่คน? ข้อ 2 คลัง สินค้าที่ใช้เก็บอาหารอยู่ที่ไหน? ข้อ 3 ใครคือลูกพี่เฉิน? ข้อ 4 พวกนายมีอาวุธอะไรบ้าง?”
เมื่อได้ยิน หลินเฉิง ถามคำถาม 4 ข้อชายคนนั้นพยายามจัดระเบียบความคิดของตัวเองและตอบอย่างรวดเร็วว่า
“ พวกเรามีคนมากกว่า 40 คน คลังสินค้าที่เป็นอาหารทั้งหมดอยู่ในห้องที่อยู่ถัดจากห้องนอน ซึ่งห้องนอนนั้นเป็นห้องนอนของลูกพี่เฉิน! ลูกพี่เฉินเขาเป็นผู้นำของที่นี่ เขาเป็นตำรวจและมีปืน!”
ตำรวจอย่างนั้นหรอ?
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ หลินเฉิง ขมวดคิ้ว
“ทำไมถึงมีตำรวจอยู่ที่นี่ อย่าบอกนะว่าเขามาที่ซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อจะซื้อของพร้อมกับถือปืนมาด้วย!”
“ไม่ใช่เขาไม่ได้มาซื้อของ!ลูกพี่เฉินมาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้เพื่อรวบรวมวีดีโอวงจรปิดที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของภัยพิบัติ คุณก็รู้ว่าในช่วงเวลานั้น เกิดความโกลาหลและเจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ขอให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ พวกเราถูกนำไปรวมตัวกันที่ห้องสอบสวนโดยลูกพี่เฉิน ดังนั้นพวกเราจึงโชคดีที่หนีการปะทุครั้งแรกของภัยพิบัติได้ เขาได้ช่วยชีวิตคนจำนวนมากในช่วงเวลานั้น พวกเราหิวมากและลูกพี่เฉินให้พวกเราออกจากห้องสอบสวนเพื่อมาทำความสะอาดศพเดินได้เหล่านี้ แม้ว่าเราจะสูญเสียคนจำนวนมากมายในการกวาดล้างแต่ตอนนี้พวกเราได้ครอบครอง ซุปเปอร์มาเก็ต โดยสมบูรณ์…”
หลินเฉิง อยากจะถามว่าทำไมตำรวจถึงมาอยู่ที่นี่แต่ชายคนนี้ได้อธิบายทุกอย่างเพียงลมหายใจเดียว
“หลังจากที่ฟังดูเหมือนลูกพี่เฉินของนายจะมีความสามารถมาก?”
“แน่นอน! ลูกพี่เฉินเป็นคนยอดเยี่ยมเขาสามารถนำพาพวกเราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและตอนนี้เขาทำให้พวกเราสามารถกินยามเมื่อหิวและทำในสิ่งที่คนธรรมดาทำไม่ได้?”
เมื่อฟังชายคนนี้พูด หลินเฉิง เหมือนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของลูกพี่เฉินคนนี้ เมื่อเห็นว่าชายคนนี้ยกยอลูกพี่เฉิน หลินเฉิง จึงพูดเสียดสีว่า
“จริงสิ เกิดอะไรขึ้นกับนักศึกษาหญิงที่ชายคนนั้นพูดถึง?”
ทันทีที่ได้ยิน หลินเฉิง ถามถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชายผู้กำลังตอบเปลี่ยนแปลงสีหน้าทันทีเขาลังเลที่จะตอบแต่หลังจากที่ หลินเฉิง ยกปืนขึ้นอีกครั้งเขารีบตอบทันทีว่า
“ ไม่!เดี๋ยวผมจะพูด…เป็นเพราะผู้ชายที่ช่วยกันกวาดล้าง ศพเดินได้เหล่านี้คิดว่าผู้หญิงนั้นไม่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือในการเก็บกวาดใดๆเลยแถมพวกเธอยังกินไม่น้อยกว่าพวกผู้ชายดังนั้นพวกเขาต้องการ….แค่ต้องการให้ผู้หญิงเหล่านั้นมีส่วนช่วยเหลือเล็กน้อยด้วยการ….ปลดปล่อย”
“แต่ลูกพี่เฉินไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อวานนี้เขากลับเปลี่ยนความคิด แต่คุณได้โปรดมั่นใจผมยังไม่ได้ทำอะไรพวกเธอ ผมไม่ต้องการที่จะนอนกับพวกเธอจริงๆ!”
เมื่อฟังคำตอบของชายคนนั้น หลินเฉิง รู้สึกเบื่อเล็กน้อย เขาถามคำถามนี้อย่างไม่ตั้งใจและเขาก็รู้ว่านี่คือวิถีชีวิตของผู้คนหลังจากเกิดจุดสิ้นสุดของโลก แต่เรื่องเหล่านี้มันเกี่ยวอะไรกับเขา?เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเฉิง ก็ไม่สนใจอีกต่อไปและถามคุณว่า
“ในเมื่อพวกนายมีมากกว่า 40 คนแล้วทำไมจึงมีพวกนายเพียง 2 คนเท่านั้นที่มาที่นี่”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง ไม่ได้ถามคำถามเกี่ยวกับผู้หญิง ชายคนนั้นตอบอย่างรวดเร็วด้วยความโล่งอกว่า
“ลูกพี่เฉินให้พวกเราทั้งคู่คอยปกป้องคลังสินค้าแห่งนี้ คลังสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ทุกแห่งจะได้รับการปกป้องของทีม!”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ หลินเฉิง พูดไม่ออก ลูกพี่เฉินคนนี้มีความสามารถจริงๆ เขาไม่เพียงแค่สามารถรวบรวมผู้คนในซุปเปอร์มาเก็ตแห่งนี้เท่านั้นแต่ยังสามารถจัดระเบียบให้คนเหล่านี้เก็บกวาดซอมบี้ที่อยู่ด้านในและยังมอบหมายหน้าที่ให้กับคนเหล่านี้ด้วย มันดูเหมือนกับการสร้างอาณาจักรเล็กๆ! ถ้า หลินเฉิง ยังคงต้องการบางอย่างในซุปเปอร์มาเก็ตเขาคงต้องขัดแย้งกับคนเหล่านี้อย่างแน่นอน แล้วเมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขัดแย้งนี้ได้เขาคงต้องสู้ซึ่งๆหน้า อย่างไรก็ตามเขามีปืนอยู่ในมือ ไม่มีใครสามารถที่จะขัดขวางเขาได้ เขากังวลเพียงปืนที่อยู่ในมือของลูกพี่เฉินเท่านั้น…
หลินเฉิง ส่ายหัวเขาไม่คิดที่จะหลีกเลี่ยงหรือซ่อนตัวอีกต่อไปเขาได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามเพราะเขาได้รับยาเสริมสร้างร่างกายก่อนหน้านี้!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเฉิง ก็ให้ชายคนนั้นลุกขึ้นและบอกให้เขาไปหาลูกพี่เฉิน
เมื่อชายคนนั้นค้นพบว่า เขาไม่เพียงแต่เป็นอิสระแต่สามารถมองหาคนช่วยเหลือได้ เมื่อเขาเห็นว่า หลินเฉิง เอาปืนเก็บ เขารีบมุ่งหน้าไปหาลูกพี่เฉินทันที
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นรีบหลบหนีไป หลินเฉิง ได้แต่แอบมองดูถ้าเขาเดาไม่ผิดคนที่จะมาหาเขาไม่ได้มีเพียงลูกพี่เฉินอย่างแน่นอน!
———————