ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 43
เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บของตัวเอง หลินเฉิง รีบเปิดเสื้อเพื่อดูบาดแผลช่วงท้องของเขา แต่ในเวลานี้กลับไม่พบร่องรอยใดๆจากอาการบาดเจ็บมีเพียงสัมผัสที่เจ็บปวดเล็กน้อย มันไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อการเคลื่อนไหวของเขา ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของร่างกายที่ถูกปรับเปลี่ยนของเขาจะแข็งแกร่งมาก ยาชนิดนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยโคล่าให้พ้นจากความตายแต่ยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากอาการบาดเจ็บไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วเขาจึงไม่สนใจอีกต่อไป เขานั่งบนเก้าอี้และหยิบหัวตัวกินคนที่เขาจัดการเมื่อวานนี้วางบนโต๊ะและสังเกตอย่างละเอียด
ความแปลกประหลาดของตัวกินคนนี้ มีความแตกต่างจากตัวกินคนธรรมดาอย่างชัดเจน หัวของมันใหญ่กว่าปกติและหูเองก็ใหญ่กว่าปกติเช่นกัน มันทำให้ หลินเฉิง สงสัยอย่างมากว่าตัวกินคนนี้เกิดการกลายพันธุ์ใช่หรือไม่
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากขนาดอวัยวะต่างๆในร่างกายที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าตัวกินคนธรรมดานั้นสิ่งที่ หลินเฉิง รู้สึกประหลาดใจมากที่สุดนั่นก็คือ การเผชิญหน้ากับตัวกินคนนี้เกือบทำให้เขาต้องเสียชีวิต
หลินเฉิง จ้องมองหัวตัวกินคนที่อยู่ตรงหน้าเขาพยายามพิจารณาอย่างละเอียดแต่นอกจากความใหญ่โตเกินตัวกินคนธรรมดาแล้วเขาก็ไม่รู้ว่ามีอะไรแตกต่างจากนี้ เนื่องจากเขาเองก็ไม่ใช่นักชีววิทยาดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะศึกษาตัวกินคนนี้จริงจัง
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้ หลินเฉิง นึกถึงวิกฤตของวันสิ้นโลก ในเวลานี้เพียงผ่านมาครึ่งเดือนเท่านั้นตัวกินคนกลับกลายพันธุ์แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก หลินเฉิง คิดอยู่เสมอว่าหากเขาระมัดระวังตัวเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน และจะไม่มีสิ่งใดสามารถคุกคามชีวิตของเขาได้ แต่ตัวกินคนทั้ง 2 ตัวที่เขาพบภายใน 2 วันที่ผ่านมากับทำลายความคิดเขาอย่างไร้ความปราณี เห็นได้ชัดว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นทิศทางในการวิวัฒนาการของมันยังแตกต่างกันอีกด้วย ในตัวกินคนตัวแรกที่ค้นพบคือความเร็วและเมื่อวานที่เขาพบคือพลัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวกินคนมีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและมันจะเป็นปัญหามากขึ้นในอนาคต
เมื่อนึกถึงปัญหานี้ หลินเฉิง ได้แต่ลูบหัวของตัวเอง แต่เดิมเขาเพียงต้องการไปที่เมืองเซียงโจวเพื่อค้นหาป้าฉิน แต่ตัวกินคนที่วิวัฒนาการเหล่านี้ต่างทำให้เขารู้สึกถึงวิกฤตมากยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขายังคงไม่เพียงพอ การเดินทางไปเมืองเซียงโจวมันต้องใช้เวลานานเป็นอย่างมากเขาไม่รู้ว่าจะต้องเจอสัตว์ประหลาดเหล่านี้อีกมากมายเท่าไหร่..
หลินเฉิง ส่ายหัวและเลิกคิดเขาโยนอารมณ์อ่อนไหวของตัวเองออกไปจากหัวใจ ดวงตาของเขากลับมามันคงอีกครั้ง คนอ่อนแอไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในยุคภัยพิบัตินี้ได้ ไม่ว่าเขาจะเจออะไรบนท้องถนนเขาจะฝ่าฟันอุปสรรคด้วยมีดของเขา ตราบใดที่เขายังไม่ตายเขาจะมุ่งมั่นไปสู่เมืองเซียงโจวให้ได้
….
5 วันต่อมาในตอนเช้า
หลินเฉิง ยืนอยู่บนจัตุรัสหว่านเหลียน ซอมบี้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงถูกกำจัดหมดแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ในตอนนี้ หลินเฉิง กดแคปซูลเบาๆและโยนลงบนพื้น เมื่อได้ยินเสียงคลิกเบาๆจากนั้นรถออฟโรดสีดำทรงสี่เหลี่ยมก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
เมื่อมองไปที่รถยนต์คันนี้ความรู้สึกของ หลินเฉิง หนักอึ้งมันเป็นความยากลำบากกว่าที่เขาจะสามารถแลกแคปซูลรถยนต์คันนี้ออกมาได้ หลังจากที่ หลินเฉิง มองมันอย่างพอใจแล้วเขาเปิดประตูและเข้าไปด้านใน ด้านในของรถยนต์ประกอบด้วยที่นั่งที่หุ้มด้วยหนังสีดำ มันดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์เท่และแข็งแกร่ง สำหรับความหรูหรานั้น หลินเฉิง ไม่ได้มีความเข้าใจเรื่องนี้มากนักแต่อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับ s600 พื้นที่ดูเหมือนจะเล็กกว่านิดหน่อย
หลังจากที่ทำความคุ้นเคยกับมันแล้วเขากลับไปที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าและเก็บเสบียงทั้งหมดที่เขารวบรวมได้ในห้างสรรพสินค้าลงไปในแคปซูล จากนั้นเขาตะโกนเรียก โคล่า ที่นอนขี้เกียจอยู่บนพื้น จากนั้น 1 มนุษย์และ 1 สุนัขก็ขึ้นไปบนรถ หลินเฉิง เหยียบคันเร่งและตรงมายังทิศทางของมหาวิทยาลัยซงโจวทันที
หลินเฉิง นั่งอยู่ที่นั่งคนขับเขาเห็นซอมบี้วิ่งพุ่งชนด้านหน้ารถหลังรถอย่างต่อเนื่อง หลินเฉิง ทำเพียงหัวเราะและเหยียบคันเร่งเพื่อชนซอมบี้เหล่านั้น พวกมันไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของรถยนต์คันนี้ได้
หลินเฉิง ขับรถวิ่งชน ซอมบี้ ตลอดเส้นทาง
ในที่สุด หลินเฉิง ก็เข้าใจว่าระดับการป้องกัน lv.1 นั่นหมายความว่าอย่างไร หลังจากการชนอย่างบ้าคลั่งของเขาเขาไม่รู้ว่าโครงสร้างภายนอกได้รับความเสียหายหรือไม่ อย่างไรก็ตามเขาเพียงมองเห็นศพที่กระจายบนกระจกหน้ารถ แต่กลับไม่มีรอยร้าวบนกระจกหน้ารถเลยแม้แต่นิดเดียว
หลินเฉิง พอใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งและความปลอดภัยของรถคันนี้ เขามองดูเวลาบนหน้าปัด พบว่าในเวลานี้เหลือเพียงอีก 1 ชั่วโมงจะถึงเวลาที่พวกเขานัดหมาย ดังนั้น หลินเฉิง จึงเลิกสนใจกับซอมบี้ที่อยู่บนท้องถนนและเหยียบคันเร่งเพื่อไปยังจุดนัดหมาย
…..
ที่ทางเข้าของมหาวิทยาลัยซงโจว
ในเวลานี้กลุ่มซอมบี้ที่อยู่ใกล้กับประตูมหาวิทยาลัยได้หายไปแล้วและถูกแทนที่ด้วยกลุ่มผู้รอดชีวิตกับรถขนาดใหญ่เล็กจำนวนมากที่จอดอยู่ริมถนน แถวหน้าคือรถบรรทุก Peterbilt 389 เจ้าของรถบรรทุกเป็นชายวัยกลางคนในเวลานี้เขายืนอยู่ข้างตัวรถเพื่อกำลังหารือกับ เต๋าไค่
มู่ หยิงเสวี่ย ยืนอยู่ด้านข้างการแสดงออกของเธอยังคงมองหาใครบางคน วันนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเล็กน้อยแม้ว่า หลินเฉิง จะสัญญาว่าจะไปยังเขตปลอดภัยเหลียนเฉิงด้วยกันกับพวกเธอ แต่เธอก็รู้สึกว่าเพื่อนชายของเธอคนนี้ค่อนข้างลึกลับเธอกลัวว่า หลินเฉิง อาจแยกตัวไปคนเดียวและในที่สุดเขาก็ต้องเสียชีวิตเพราะความประมาทของตัวเอง
มู่ หยิงเสวี่ย กำลังยืนเป็นห่วงอย่างลับๆทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงคำรามของเครื่องยนต์จากระยะไกลเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองเธอก็เห็น Benchi G65 สีดำวิ่งเข้ามาจากระยะไกล
จากนั้นเธอก็เห็นรถยนต์คันนี้ชะลอตัวและหยุดอยู่ข้างหลังเธอ หลินเฉิง โผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างพร้อมกับโคล่า
“ผมไม่ได้มาสายใช่ไหม?”
เมื่อเห็นว่ามู่ หยิงเสวี่ยมองตัวเองอย่างประหลาดใจ หลินเฉิง ยิ้มและถามขึ้น
“ไม่..ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกเดินทางยังมีผู้รอดชีวิตบางคนยังมาไม่ถึง”
มู่ หยิงเสวี่ย ตอบรับ หลินเฉิง อย่างไม่ตั้งใจเธอกำลังมอง G65 ที่อยู่ด้านหน้าด้วยความประหลาดใจ และถามอย่างสงสัยว่า
“นายไปได้รถคันนี้จากที่ไหน แม้รถคันนี้จะโครงสร้างแข็งแรงแต่ดูเหมือนว่ามันต้องใช้น้ำมันจำนวนมาก เราควรใช้รถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันเพราะตอนนี้น้ำมันเบนซินหายากมาก..”
เมื่อ หลินเฉิง เห็นว่า มู่ หยิงเสวี่ย ดูเหมือนจะรู้จักรถคันนี้ดีแถมยังมีข้อสงสัย ดังนั้นเขาจึงบอกว่า
“ผมเจออยู่แถวข้างถนน ทำไมคุณถึงมีความรู้เรื่องรถด้วย?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่ลูกพี่ลูกน้องของฉันเคยขับรถแบบนี้ เกี่ยวกับรถยี่ห้อนี้เขาเป็นคนบอกฉัน..”
เมื่อเห็น หลินเฉิง จ้องมองตัวเองอย่างประหลาดใจ มู่ หยิงเสวี่ย รู้สึกเขินอายและพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ
—————————————–