ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 113
เมื่อหลินเฉิง ได้ยินเสียงเปิดประตูเขารีบหลบและซ่อนตัวทันที ในขณะที่เขาโผล่หัวออกมาอีกครั้งเขาก็เห็นฉากที่สวยงามอยู่ด้านหน้า
เป็นครั้งแรกที่ หลินเฉิง ได้เห็นผู้หญิงเปลือยหัวใจของเขาเต้นอย่างรุนแรง และแอบสาปแช่งผู้หญิงคนนี้ โตจนปานนี้ทําไมไม่ปิดม่านเวลาอาบน้ำ
หลินเฉิง พยายามบังคับความกระสับกระส่ายในใจของเขา และเห็นว่าหญิงสาวกําลังเช็ดตัว เขาอยู่ด้านหลังของเธอโดยที่หญิงสาวไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีชายคนหนึ่งอยู่นอกหน้าต่างและกําลังแอบมองเธอ
หลินเฉิง เตรียมพร้อมและรอเวลาให้หญิงสาวก้มลง เขาเปิดช่องตรงหน้าต่างและพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลังเด็กสาวที่กําลังเช็ดทําความสะอาดร่างกายอยู่นั้นตกใจทันที แต่เธอไม่สามารถหันศรีษะได้เนื่องจากคอของเธอถูกบีบ!
“อย่าส่งเสียง ถ้าไม่อยากตาย!”
หลินเฉิง บีบแน่นที่คอของหญิงสาวจากนั้นเขาพยายามฟังการเคลื่อนไหวนอกประตูพร้อมกับขู่เธอเบาๆ
เมื่อหญิงสาวได้ยินคําขู่เธอรู้สึกอับอายและพยายามที่จะนั่งลงเพื่อปกปิดส่วนสําคัญของร่างกาย เธอกําลังอาบน้ำและถูกจับโดยชายหนุ่ม สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือเธอไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกายเลย!
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ถูกบีบคอจนแทบจะหายใจไม่ออก หลินเฉิงจึงคลายมือ และผลักเธอลงกับพื้นก่อนที่จะหยิบปืนพกขึ้นมาแล้วจ่อที่หัวของหญิงสาวอีกครั้ง
“ฉันจะถามเธอตอบ!อย่าพยายามตะโกน เชื่อไหมฉันสามารถยิงก่อนที่เธอจะตะโกนด้วยซ้ำ!”
เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเปลือยเปล่านอนตัวสั่นอยู่กับพื้นมันทําให้ หลินเฉิง รู้สึกปั่นป่วนเขารู้สึกละอายใจและรีบโยนเสื้อผ้าที่แขวนอยู่หลังประตูให้กับเธอ
“ใส่ซะ!”
เมื่อเห็นเสื้อผ้าของตัวเองถูกขว้างมาในที่สุดหญิงสาวที่ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรีบใส่เสื้อผ้าของตัวเองและเงยหน้ามอง หลินเฉิง จากนั้นพยายามพูดเสียงเบาๆอย่างชัดเจนว่า
“คุณ คุณเป็นใคร?”
“ลืมสิ่งที่ฉันพูดแล้วอย่างนั้นหรอ?ฉันถามเธอค่อยตอบ!”
เมื่อเห็นว่าในที่สุดหญิงสาวแต่งตัวเสร็จ แรงกดดันในหัวใจของ หลินเฉิง ซึ่งผ่อนคลายเช่นกัน หลังจากได้ยินคําถามของเธอ หลินเฉิง ขมวดคิ้วและขู่ออกมา
เมื่อเห็นความหงุดหงิดของ หลินเฉิง หญิงสาวหุบปากพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา
“ตอนนี้มีคนอยู่กี่คน มีอาวุธกี่อย่าง?เธอมาที่นี่ได้ยังไง”
เมื่อได้ยินคําถามของ หลินเฉิง หญิงสาวค่อยๆเปิดริมฝีปากของเธอและอ้าปากพูดอย่างลังเล
“ 3…4 คน! อาเฉียงมีปืน เรา…เราอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก!”
ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ หลินเฉิง ง้างไกปืนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า
“ฉันเคยอาศัยอยู่ที่นี่!”
เมื่อได้ยินคําพูดของ หลินเฉิง หญิงสาวเริ่มหวาดกลัวจนร้องไห้ เธอร้องด้วยความสั่นเทาและพูดว่า
“ฉัน ฉันหมายถึงเราอยู่แถวละแวกบ้านนี้ บ้านของเราถูกตัวกินคนครอบครองดังนั้นเราจึงหนีมาที่นี่!”
“ดี!”
เมื่อเห็นลักษณะที่น่าสังเวชของหญิงสาวและน้ำตาที่หลั่งออกมาราวกับสายฝน หลินเฉิง ขี้เกียจเกินไปที่จะอยู่กับเธออีกต่อไป หลินเฉิง ยกมือขึ้นแล้วเตรียมที่จะออกไปด้านนอกแต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพึมพําจากด้านหลังประตู!
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลินเฉิง จ้องมองหญิงสาวอีกครั้ง หญิงสาวในตอนนี้ดวงตาแดงก่ำและบวมเป่ง เธอจ้องมอง หลินเฉิง ด้วยความประหม่าและสังเกตเห็นความผิดปกติหลังประตู
หลินเฉิง โบกมือให้หญิงสาวเงียบเขาค่อยๆเปิดประตูอย่างช้าๆ และคอยฟังเสียงที่อยู่หลังประตูอย่างชัดเจน เขากระแทกประตูออกไปดัง “ปัง” ชนกับชายคนหนึ่งทําให้ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น
หลินเฉิง รีบปิดประตูและเหยียบลงบนอกของชายคนนั้นและจ่อปืนไว้บนหน้าผากจากนั้นหันไปถามหญิงสาวว่า
“เขาคือใคร?”
เมื่อหญิงสาวเห็นชายคนนี้ เธอกําลังตกตะลึงและได้ยินคําถามของ หลินเฉิง เธออ้าปากพูดออกมาว่า
“เขาเขาคือหลิวเฉียงคนคุ้มกัน!”
“บอดี้การ์ดงั้นหรอ?”
หลินเฉิง ขมวดคิ้วแล้วมองดูชายที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า
“น่าสนใจ…”
หลังจากนั้น หลินเฉิง ก็พยักหน้าให้ หลิวเฉียง ลุกขึ้นและหยิบปืนออกมาจากเอวของ หลิว เฉียง จากนั้นพูดว่า
“ฉันพึ่งถามคําถามกับผู้หญิงคนนี้ แต่ตอนนี้ฉันจะถามนาย ถ้าคําตอบไม่เหมือนกันอย่าโทษว่าฉันใจร้าย!”
เมื่อได้ยินคําพูดของ หลินเฉิง ผู้หญิงไม่ได้ตอบสนอง สายตาของ หลิวเฉียง จับจ้อง หลินเฉิง และพยายามจะพูด หลินเฉิง จึงเตะเข้าที่เอวคล้องเขาจนร่างกายของเขาต้องสั่นสะท้านและไม่กล้าที่จะส่งเสียงอีก
“มีคนอยู่ในบ้านพักนี้กี่คน นอกเหนือจากคุณสองคน?”
เมื่อได้ยินคําถามนี้ หลิวเฉียง เหลียวกลับไปมองหญิงสาวและคิดว่าหญิงสาวคนนี้คงได้ตอบคําถามนี้ไปแล้วดังนั้นเขาทําได้เพียงแต่ตอบอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น
“1…1”
หลินเฉิง ขมวดคิ้วและหันไปมองผู้หญิง แต่ผู้หญิงเช็ดน้ำตาและรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว
“เรา เรามีกัน 4 คน มีหนึ่งคนที่ออกไปด้านนอกเพื่อหาอาหารดังนั้นจึงมีเพียง 3 คนที่อยู่ในบ้านพักตอนนี้”
“ คนคนนั้นอยู่ที่ไหน?เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?”
หลินเฉิง หันไปถาม หลิวเฉียง
“ เป็นผู้หญิงอยู่ที่ชั้นบน!”
เมื่อได้ยินคําตอบของ หลิวเฉียง หลินเฉิง ก็ยกกระบอกปืนออกและสั่งทั้งสองคนว่า
“ทั้งสองคนยืนขึ้นแล้วเดินไปด้านหน้า จากนั้นเรียกผู้หญิงคนนั้นออกมา!”
เมื่อได้ยินคําสั่งของ หลินเฉิง หลิวเฉียง พยักหน้าอย่างรวดเร็วและลุกขึ้นยืนและนําทางพวกเขาไป แต่เด็กสาวส่ายหัวและร้องไห้อย่างรุนแรงเธอพยายามขอร้อง หลิวเฉียง
“ พี่เฉียงอย่า อย่าทําอย่างนั้น แม่มักจะปฏิบัติต่อคุณดีเสมอ คุณอย่าทําอย่างนั้นเลย!”
“แม่?”
หลินเฉิง หยุดและเล็งปืนไปที่ หลิวเฉียง จากนั้นหันมาหาผู้หญิงและถามคุณว่า
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็เป็นคนเรียกแม่ของเธอมาที่ชั้นล่าง เพื่อมาทานอาหารสิ?”
“ไม่…ไม่นะ”
เมื่อหญิงสาวได้ยินคําขอของ หลินเฉิง เธอยังคงร้องไห้และปฏิเสธ
หลิวเฉียง ที่ ยืนอยู่ข้าง หลินเฉิง สังเกตเห็นว่า หลินเฉิง แสดงออกถึงความใจร้อน เขาจงหันไปพูดกับหญิงสาวว่า
“ว่านหลิง…เขาแค่ขอให้เราเรียกแม่เธอลงมาเขาคงไม่ทําร้ายเธอ หากเราไม่ตะโกนเรียกให้เธอลงมาเขาจะฆ่าพวกเรา และไปหาแม่ของเธอเองได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเราไม่สามารถต่อต้านเรื่องนี้ได้”
หญิงสาวที่ชื่อว่านหลิงไม่ได้พูดอะไรและปฏิเสธที่จะเรียกแม่ของเธอ อย่างไรก็ตาม หลิวเฉียงทําได้เพียงแสดงสีหน้าจนใจ หลินเฉิง เฝ้ามองพวกเขาและพูดขึ้นว่า
“ นาย ถ้าเธอทําไม่ได้ทําไมนายไม่ขึ้นไปชั้นบนเขาเรียกผู้หญิงลงมา?”
เมื่อได้ยินคําแนะนําของ หลินเฉิง ใบหน้าของ หลิวเฉียง สับสนเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ได้ยิน เสียง “ปัง”!