ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 114
บทที่ 114 โทรศัพท์ที่หายไป
ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น คนทั้งสองคนก้มตัวลงอย่างหวาดกลัว ขณะเดียวกัน หลินเฉิง ก็เตะ หลิวเฉียง ออกจากห้องจากนั้นเขาเดินออกไปพร้อมกับ ว่านหลิง จากนั้นเขาตะโกนขึ้นไปบนชั้นบนว่า
“คนที่อยู่ชั้นบน ฟังให้ดี!! ฉันมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่าว่านหลิงอยู่ในกํามือ และตอนนี้ฉันจะให้เวลาคุณสักครู่เพื่อลงบันไดมา ห้ามชักช้า!”
หลังจากนั้น หลิวเฉียง เอามือกุมอกที่เจ็บปวดและสูดหายใจลึก หลังจากนั้นเขาพยายามยืนขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นอย่างช้าๆ
ครึ่งนาทีต่อมามีเสียงตะโกนอย่างกระวนกระวายใจของหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ในวัย 30 ปี จะรู้สึกประหม่า หลังจากเห็นสถานการณ์ในห้องนั่งเล่นตื่นจ้องมองอย่างเคร่งเครียดและขมวดคิ้วและถามว่า
“คุณเป็นใคร จับลูกสาวของฉันทําไม?”
เมื่อเห็นหญิงสาวสามารถสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว หลินเฉิง ขมวดคิ้วและรู้สึกคาดไม่ถึงจากนั้นค่อยสังเกตเธออย่างระมัดระวัง
ผู้หญิงคนนี้มีความคล้ายคลึงกับผู้หญิงที่อยู่กับเขา เธอมีใบหน้ากลม จมูกโด่งตาโตเป็นที่น่าสนใจ แค่มองแว้บแรกอาจคิดว่าพวกเธอสองคนเป็นพี่น้องกัน
หลังจากได้ตรวจสอบด้วยระยะสั้นๆว่าผู้หญิงที่ลงมานั้นมีความสัมพันธ์เป็นแม่ของหญิงสาวที่อยู่ในมือของเขา หลินเฉิง ชี้ไปที่โซฟา และสั่งให้เธอนั่งลง
ลูกสาวของเธอในตอนนี้ตกอยู่ในมือของชายหนุ่มแม้ว่าหญิงสาวจะรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากแต่ เธอก็ไม่กล้าหุนหัน เธอหายใจเข้าลึกๆและไปที่โซฟาเพื่อที่จะนั่งลง
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้นั่งลงตามคําสั่งของเขา หลินเฉิง ยังคงใช้สีหน้าเย็นชา และเดินไปที่ประตู เพื่อเปิดและผิวปากไปด้านนอก
ทันทีที่เสียงผิวปากของ หลินเฉิง ดังขึ้น ว่านหลิงที่อยู่ในมือของ หลินเฉิง ก็ได้ยินเสียงบางอย่าง จากนั้นเธอก็เห็นสุนัขตัวใหญ่วิ่งเข้ามาพร้อมกับปกคลุมไปด้วยหิมะและเห่าเสียงดัง
“อา!”
ว่านหลิงกรีดร้องทันที แต่โคล่าวิ่งไปข้างขาของ หลินเฉิง และหยุดลง สักครู่ต่อมา ฟางหยู ก็วิ่งตามโคล่ามา
“เงียบ แกจะเห่าเรียกน้องสาวแกหรอ!”
หลังจากถูก หลินเฉิง ตําหนิโคล่าก็หุบปากลง จากนั้น หลินเฉิง ก็พูดว่า
“ เอาล่ะไปกันได้แล้วพวกเราจะออกไปจากที่นี่ในอีก 10 นาที!”
หลังจากนั้นโคล่าเตรียมพร้อมที่จะตรวจสอบภายในบ้าน หลินเฉิง หันไปหา ฟางหยู และถามว่า
“ปู่ของเธออยู่ที่ชั้น 3 หรือเปล่า?โทรศัพท์ของเขาอยู่ตรงไหน”
“ขึ้นไปชั้นบนเลี้ยวซ้ายเดินไปในสุดจะเป็นห้องนอนของคุณปู่ และโทรศัพท์อยู่ในตู้ข้างเตียง ทางด้านขวา…”
เมื่อได้ยินคําถามของ หลินเฉิง ฟางหยู ตอบด้วยสีหน้าแปลกเล็กน้อยและสังเกตเห็นหญิงสาว ผู้งดงามในมือของเขา หลังจากที่เธอสังเกตอยู่สักครู่หนึ่งเธอก็อดถามไม่ได้ว่า
“ที่นี่เกิดอะไรขึ้น…ฉันได้ยินเสียงปืน.นายไม่บาดเจ็บใช่ไหม?”
หลินเฉิง ส่ายหัว หลังจากนั้นตรวจสอบปืนพกอีกครั้งพบว่ามันไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เขาจึงมอบให้กับหญิงสาวและพูดว่า
“สถานการณ์ในตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน ตอนนี้เธอเฝ้า 3 คนนี้เอาไว้ฉันจะขึ้นไปหาโทรศัพท์ก่อน!”
หลังจากนั้นดูเหมือนว่า ฟางหยู ต้องการที่จะถามอะไรบางอย่างแต่ หลินเฉิง โบกมือห้ามเอาไว้
“ฉันจะบอก เมื่อลงมา!”
จากนั้น หลินเฉิง ก็โยนหญิงสาวที่อยู่ในมือของเขาลงตรงหน้าของ ฟางหยู และรอจน ฟางหยู เล็งปืนไปที่ว่านหลิง หลินเฉิง ก็ตรงขึ้นไปยังชั้น 3
หลังจากที่เข้ามาในห้องนอนของ ฟางซิวเฉิง หลินเฉิง ก็เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นเขารู้สึกโล่ งอกและรีบตรงไปที่เตียงเพื่อเปิดตู้ที่อยู่ทางด้านขวา ทุกขั้นตอนของเขาปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง แต่ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็ต้องกระตุก
ไม่มีโทรศัพท์อยู่ในนี้!
หลินเฉิง จําคําพูดของ ฟางซิวเฉิง ได้อย่างชัดเจน เขาไม่คิดว่าคําพูดของชายชราจะเป็นเรื่องโกหกเพราะมันไม่ได้ประโยชน์อะไรสําหรับเขาอีกทั้งหลานสาวของเขายังอยู่ในมือของหลินเฉิง
มีแต่คนที่อยู่ข้างล่างเท่านั้นที่สามารถนํามันออกไปได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเฉิงรีบวิ่งลงมาชั้นล่างและเห็นว่าโคล่ากําลังรอคอยตัวเองเช่นกัน เขาระงับความโกรธก่อนจะสื่อสารกับมันและรู้ว่าไม่มีใครคนอื่นอยู่ในบ้านพักนี้ หลินเฉิง เดินมาถึงกลุ่มตัวประกันเขายกปืนเล็งที่หน้าผากของสาวสวยและถามอย่างเย็นชาว่า
“ใครเอาโทรศัพท์ในห้องนอนชั้น 3 ไป?”
หญิงสาวถามอย่างงุนงงว่า
“อะไรนะ โทรศัพท์อะไร?”
“ตอแหล!”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังเสแสร้งทําเป็นไม่รู้ หลินเฉิง เย้ยหยันและดึงว่านหลิงจะโซฟาและเล็งปืนมาที่ว่านหลิงแทน จากนั้นหันไปถามผู้เป็นแม่อีกครั้ง
“เอาล่ะถามอีกครั้ง โทรศัพท์อยู่ที่ไหน!”
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอกําลังจะถูกยิงทั่วร่างกายของหญิงสาวตื่นตระหนกและสั่นเทา เธอพูดออกมาด้วยน้ําเสียงวิงวอนว่า
“ฉัน…ฉันไม่รู้จริงๆ…คุณเป็นใคร?และกําลังพูดถึงอะไร?แม้ว่าฉันจะอยู่บนชั้น 3 แต่ฉันไม่เคยเห็นโทรศัพท์เลยฉัน..ฉันขอแลกเปลี่ยนตัวประกันได้ไหม เอาฉันไปแทนลูกสาวได้หรือเปล่า!”
หลินเฉิง สังเกตคําพูดของหญิงสาวอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาหันปืนไปหาหลิวเฉียง และถามอีกครั้งว่า
“นายล่ะ รู้ไหม?”
เมื่อเห็นว่าปืนเล็งมาที่ตัวเอง หลิวเฉียงโบกมือ อย่างรวดเร็วแล้วยิ้มอย่างขมขื่นจากนั้นพูดว่า
“พี่ชายผม..ผมอาศัยอยู่ในชั้น 1 และผมไม่ได้ขึ้นไปชั้นบนเลยตั้งแต่ผมมาที่นี่ ผมจะไปเห็นโทรศัพท์ของคุณได้ยังไง?”
เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนอ้างว่าไม่เคยเห็นโทรศัพท์มาก่อน หลินเฉิง ขมวดคิ้วและหันหน้าไปหาฟางหยู
เมื่อเห็นหลินเฉิงหันมามองตัวเอง ฟางหยูตกตะลึงอยู่ชั่วครู่จากนั้นเธอตอบว่า
“เฮ้ นายคงไม่สงสัยปู่ของฉันใช่ไหม?เขาไม่กล้าที่จะโกหกนายอย่างแน่นอน”
“อืม…แปลกมาก..”
เมื่อพบว่าสิ่งต่างๆมาถึงทางตัน หลินเฉิง พึมพําเบาๆจากนั้นหันปืนไปและยิงใส่หญิงสาว!