ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 118
SC:บทที่ 118 ตัวตนของแม่และลูกสาว
– 40 องศา!
เมื่อเห็นอุณหภูมิในขณะนี้ หลินเฉิงรู้สึกผิดปกติ
อะไรคืออุณหภูมิติดลบ 40 องศา?หากปัสสาวะออกมาสามารถกลายเป็นน้ําแข็งได้ทันที!
ก่อนหน้านี้ “millennium Extreme Cold” ของ Lenovo พูดเกี่ยวกับ
“ความหนาวสุดแห่งสหัสวรรษ” มันทําให้หลินเฉิงรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น เขารีบกลับไปยังห้องและพบว่าภายในห้องนั่งเล่นนั้นจุดเทียนเอาไว้ มีเพียงโคล่าเท่านั้นที่นอนอยู่บนพรม ไม่มีคนอื่นอยู่เลย
หลินเฉิงปลุกโคล่าที่กําลังง่วงนอนแล้วพูดกับมันด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า
“ไปตามฟางหยูมา เราจะต้องไปแล้ว!”
โคล่าที่เกือบจะหลับไปแล้วถูกปลุกด้วยการตบหัว มันตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสียอย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นสายตาของหลินเฉิงและสังเกตน้ําเสียงของเขา มันรีบปฏิบัติตามคําสั่งอย่างรวดเร็ว โดยการขึ้นไปหาคนที่ชั้นบน
เมื่อเห็นโคล่าขึ้นไปชั้นบน หลินเฉิงไม่ได้อยู่เฉยอีกต่อไปเขากลับไปที่รถที่เขาขับมาก่อนหน้านี้และพยายามที่จะสตาร์ทเครื่อง และพบว่ามันยังคงใช้งานได้อยู่เขาจึงขับมันเข้าสู่บ้านพักโดยตรง
หลังจากนั้น หลินเฉิงก็พบโคล่าวิ่งออกมาพร้อมกับฟางหยู เมื่อมองไปที่ถุงที่อยู่ด้านหลังของเธอ หลินเฉิงจึงพูดขึ้นว่า
“เธอได้ครบแล้วใช่ไหม พวกเราจะต้องกลับไปเดี๋ยวนี้!”
ฟางหยู สวมเพียงเสื้อแจ็คเก็ตธรรมดาเท่านั้น ตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเกล็ดน้ําแข็ง หลินเฉิงพึมพําเบาๆว่า
“อากาศบัดซบ!”
เมื่อฟางหยู ได้ยินคําพูดของหลินเฉิง เธอรู้สึกแปลกเล็กน้อย
“ถ้าเรากลับไปตอนนี้คงจะไปถึงที่นั่นในตอน 1:00 น ทําไมเราไม่รอจนกว่าจะถึงตอนเช้า”
หลินเฉิงส่ายหัวและพูดขึ้นว่า
“เธอไม่รู้สึกว่าอากาศผิดปกติอย่างนั้นหรอ อุณหภูมิต่ําเกินไปแล้วมีทีท่าที่จะลดลงเรื่อยๆ หากเรากลับไปช้าใครจะรู้ว่าจิ้งจอกเฒ่าปู่ของเธอจะไม่แข็งตายซะก่อน!”
เมื่อได้ยินคําพูดของหลินเฉิง ฟางหยูเริ่มรู้สึกหวาดกลัวดังนั้นเธอจึงพูดว่า
“งั้นรีบไปกันเถอะ!”
จากนั้นเธอหยิบขวดแก้วออกมาจากกระเป๋าและส่งให้กับหลินเฉิง
“ นี่คือ DHCAที่ฉันสัญญาไว้ก่อนหน้านี้ ขอบคุณมาก”
หลินเฉิงหยิบขวดDHCAยังไม่ลังเล จากนั้นเห็นผู้หญิง 2 คนที่อยู่ด้านหลังของฟางหยู เขาจึงพูดว่า
“อย่ามัวไร้สาระรีบขึ้นรถแล้วไปกันเถอะ!”
หลังจากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นที่นั่งคนขับพร้อมกับปรับอุณหภูมิให้มากที่สุด จากนั้นโคล่าก็กระโดดขึ้นรถหลินเฉิง เตรียมเหยียบคันเร่งเพื่อที่จะออกจากที่นี่ แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าฟางหยู ไม่ได้ขึ้นรถ
เมื่อมองกลับไป หลินเฉิงมองเห็นฟางหยูยืนคุยกับแม่ลูกในตอนนี้ และพบว่าใบหน้าของ ฟางหยูแสดงออกอย่างลังเลจากนั้นเธอเดินมาหาเขาแล้วพูดว่า
“บ้านหลังนี้ไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเขาเองก็ต้องการที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้เช่นกัน…”
หลินเฉิงจึงถามขึ้นพร้อมกับทําสีหน้าแปลกๆ
“ฉันไม่ได้หยุดพวกเขานี่?ถนนทุกเส้นบนโลกใบนี้ไม่ใช่ของฉัน อยากไปไหนก็ไป!”
“ไม่..นายไม่คิดว่ามีที่นั่งพอในรถของเราอย่างนั้นหรอ พวกเขามีเพียง 3 คนให้พวกเขานั่งไปด้วยได้ไหม?”
เมื่อได้ยินคําพูดของฟางหยู หลินเฉิงไม่ตอบในทันที เขาเหล่ตามองและพูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาว่า
“ฉันจะให้เวลาเธอ 30 วินาทีเพื่อที่จะขึ้นรถ ไม่อย่างนั้นเธอก็อยู่ที่นี่กับพวกเขาไป!”
หลังจากนั้น หลินเฉิงก็คาดเข็มขัดนิรภัยและเตรียมนับถอยหลัง
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิงไม่ยอมเสียสละพื้นที่เล็กๆให้กับพวกเขา ใบหน้าของฟางหยูก็เปลี่ยนไปทันที เธอหันกลับมาที่แม่และลูกสาวและพูดสองสามประโยคอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอรีบขี้นรถของหลินเฉิง และคาดเข็มขัด
เมื่อเห็น ฟางหยูขึ้นมาบนรถ หลินเฉิงไม่ชักช้าอีกต่อไปเขาหมุนพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งออกเดินทางท่ามกลางหิมะหนา
เพราะหิมะตกต่อเนื่องเป็นเวลา 1 วันครึ่ง หิมะที่อยู่บนท้องถนนหนากว่า 30 เซนติเมตร รถของหลินเฉิงนั้นสูงจึงสามารถผ่านไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการพลิกคว่ํา หลินเฉิงจึงไม่ขับรถเร็วเกินไปและค่อยๆไปด้านหน้าอย่างจะช้าๆ
ก่อนที่เขาจะออกจากประตูเขตบ้านพัก หลินเฉิงก็เห็นรถออฟโรดเคลื่อนที่ติดตามมา จากด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว
หลินเฉิงขมวดคิ้วแล้วหันไปหาฟางหยูที่ยังคงแสดงสีหน้าไม่สบายใจ
“ มันคงรู้สึกดีสินะที่แสดงเป็นคนดี?”
หลินเฉิงหันไปมองหน้าของฟางหยูอย่างไม่ตั้งใจ ปรากฏมีเหงื่อบางๆอยู่บนหน้าผากของเธอ เมื่อได้ยินคําถามของหลินเฉิง ฟางหยูส่ายหัวและอธิบายว่า
“มันไม่ใช่แบบนั้น! ฉันเองก็เคยเป็นผู้รอดชีวิตมาก่อนและฉันก็ไม่ได้ให้ความหวังกับคนอื่น..”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เธอเห็นว่าหลินเฉิงไม่ตอบสนอง จึงพูดต่อไป
“เพียงแค่ว่ากวนเป็ง เป็นคนที่ฉันรู้จักจริงๆและ…และ…”
“และเธอก็ช่วยเขาไว้ตามลักษณะนิสัยของเขา เขาจะตอบแทนเธออย่างแน่นอน จากนั้นเธอก็จะได้บอดี้การ์ดที่ดีให้กับคุณปู่ของเธอใช่ไหม?”
ใบหน้าของฟางหยู แสดงออกอย่างตกใจและพยักหน้ายอมรับ
“ถูกต้อง….ตอนนี้โลกวุ่นวายเกินไปและคุณปู่ของฉันก็มีความลับมากมาย.แต่ไม่มีใครที่เชื่อถือได้รอบตัวเขา ฉันต้องการที่จะช่วยเขาด้วยวิธีนี้”
เมื่อเห็นว่าฟางหยูตอบอย่างซื่อสัตย์ หลินเฉิงส่ายหัวและไม่พูดอะไรอีก อย่างไรก็ตามรถที่ตามมาด้านหลัง หลินเฉิงก็ไม่สามารถที่จะหยุดพวกเขาได้อยู่แล้ว
เมื่อ ฟางหยูเห็นว่า หลินเฉิงไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เธอจึงพูดออกมาอย่างลังเลว่า
“นาย… นายไม่รู้จักสองแม่ลูกนั่นหรอ?”
“ทําไมฉันต้องรู้จักพวกเธอ?”
เมื่อได้ยินคําพูดของฟางหยู หลินเฉิงขมวดคิ้วและถามขึ้นอย่างสงสัย
ฟางหยู พยักหน้าอีกครั้งและพูดว่า
“แน่นอน!ดูจากอายุของนายแล้วควรจะเป็นนักศึกษามาก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้จักซูว่านหลิง?”
หลินเฉิง พูดขึ้นว่า
“ฉันไม่ค่อยรู้จักใครนัก”
“แต่เธอคือซูว่านหลิง! ดาราที่ได้รับการส่งเสริมของบริษัทภาพยนตร์พร้อมกับภาพยนตร์ของเธอโด่งดังเป็นแนวหน้า หลายพันล้านและได้ฉายาว่าเจ้าหญิงน้อยพันล้าน!”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิง ดูเหมือนไม่รู้จักซูวานหลิง จริงๆฟางหยูพยายามอธิบายอย่างช้าๆจากนั้นมองหลินเฉิงราวกลับคนต่างด้าว
“เอ่อ…”
หลินเฉิง เหลือบมองไปที่รถออฟโรดที่ตามมาด้านหลังจากนั้นหัวเราะและพูดว่า
“งั้นหรอ แล้วเขาได้กินข้าวดีกว่าเธอหรือว่านอนอุ่นกว่าเธอหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคําเสียดสีของหลินเฉิง ระหว่างเธอกับซูวานหลิง เธอต้องการที่จะปฏิเสธแต่คําพูดของหลินเฉิงนั้นทุกอย่างเธอไม่รู้ว่าควรจะโต้เถียงอะไรออกมา
เมื่อเห็นใบหน้าไม่พอใจของหญิงสาวหลินเฉิงส่ายหัวและพูดว่า
“ฉันไม่ได้สนใจเจ้าหญิงน้อยของเธอที่ชื่อว่าซูวานหลิง แต่ฉันสนใจแม่ของเขามากกว่า”
“อ้า!.นาย….นายแกล้งทําเป็นเย็นชาและไม่แยแสเพราะว่านายชอบผู้หญิงอายุเยอะกว่าใช่ไหม!”
เมื่อได้ยินคําพูดของฟางหยู ดวงตาของหลินเฉิงส่องประกายความเย็นชามันทําให้ฟางหยูรู้สึกอึดอัดใจ
“ ฉันแกล้งทําอย่างนั้นหรอไร้สาระ!” เมื่อเห็นว่าฟางหยูมองตัวเองด้วยความรังเกียจ หลินเฉิงตกตะลึงเล็กน้อยและพูดว่า
“เป็นเพราะฉันคิดว่าเธอสงบเกินไป.สงบยิ่งกว่าผู้ชายหลายคนที่ปรากฏตัวออกมา…”
“ออ..”
เมื่อได้ยินคําพูดของหลินเฉิง ฟางหยูดูเหมือนจะเข้าใจ
“ฉันไม่อยากจะเชื่อจริงๆ นายเป็นพวกปิดกั้นตัวเองจากสังคมอย่างนั้นหรอ! แม่ของว่านหลิงคือหลิวฉิงฉิว สามีของเธอติดอันดับร่ํารวย 500 อันดับแรกของโลก และเป็นเจ้าของบริษัทบันเทิง เธอจบการศึกษามาจากคณะเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของมหาวิทยาลัยคริสเตียน ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเด็กชั้นสูง หลังจากแต่งงานกับซูเทียนฮ่าว เธอต้องเผชิญกับสภาพทางเศรษฐกิจและความแก่งแย่งชิงดีในบริษัทเทียนฮ่าวกรับ เพียงเวลา 5 ปีสามารถทําให้บริษัทของเธอก้าวหน้ากว่าบริษัทชั้นนําอื่นๆถึง 3 เท่า และก่อนที่วันสิ้นโลกจะมาถึง เธออยู่ใน 20 อันดับแรกของโลก! ข้อมูลเหล่านี้หาได้จากอินเตอร์เน็ตแต่นายกลับไม่รู้ด้วยซ้ํา!”
เมื่อได้ยินคําอธิบายของฟางหยู หลินเฉิงก็รู้ทันที ผู้หญิงที่มีความภาคภูมิใจในแวดวงธุรกิจ เจอกับพายุและคลื่นลมทุกรูปแบบ?ตอนนี้แม้เธอจะอยู่ในช่วงวันสิ้นโลกแต่การเผชิญหน้าในโลกธุรกิจทําให้เธอมีจิตใจที่เข้มแข็งเช่นเดียวกับเมื่อก่อน