ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 152 ถูกจับ
หลินเฉิงถอนหายใจเบาๆ เขาไม่สนใจคนโง่ที่เพิ่งเสียชีวิตจากนั้นหันไปถามชายอีก 2 คนที่กำลังหวาดกลัวในตอนนี้ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า
“มีใครต้องการร้องขอความช่วยเหลืออีกไหม?”
ชายอีก2 คนส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เขาต้องการที่จะพูดแต่เนื่องจากปากของพวกเขายังคงถูกปิดแน่นดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกกังวล
หลินเฉิง ไม่ได้สนใจความคิดของพวกเขา เขาอ้าปากแล้วพูดว่า
“มีคำถาม2 ข้อ ข้อแรกพวกนายมีทั้งหมดกี่คน มีความสามารถอะไร มีพลังพิเศษหรือไม่?ข้อที่ 2 คลังอาวุธของที่นี่ถูกเปิดแล้วใช่หรือไม่?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้หลินเฉิง ชี้ไปที่ชายที่อยู่ทางด้านซ้าย
“นายเป็นคนตอบ!”
ในเวลาเดียวกันน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตรงปากของชายคนนั้นละลายหายไปเมื่อรู้สึกว่าเขาสามารถอ้างปากพูดได้ชายคนนั้นจึงตอบว่า
“5..56 คน!มี 4 คนที่มีพลังคือ….การเสริมความแข็งแกร่งทำให้ประสาททั้ง 6 แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงตรงนี้ใบหน้าของหลินเฉิง เปลี่ยนไปทันที เขาหยิบขอเสื้อของชายคนนั้นขึ้นมาทันทีและพูดว่า
“คนที่มีพลังสัมผัสที่6 อยู่ที่ไหน!”.novel-lucky.
“2.. ชั้น 2!”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง รู้สึกเป็นกังวลกับผู้มีพลังสัมผัสทั้ง 6 ชายคนนั้นตกตะลึงและรีบตอบอย่างรีบร้อน ไม่ได้ยินว่าคนคนนั้นอยู่บนชั้น 2 หัวใจของ หลินเฉิง มืดมน และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากด้านบน!
…..
หยูซานรู้สึกว่าเธอจะต้องตายจริงๆในเวลานี้
หลังจากที่หลินเฉิง ควบคุมสถานการณ์ชั้นล่างและเปิดประตูให้กับเธอขึ้นมา เธอค่อยๆเดินไปเรื่อยๆบนทางเดินนี่เป็นครั้งแรกของเธอที่ใช้ความสามารถในการแอบเข้าไป และเมื่อนึกถึงผู้ชายที่อยู่ด้านล่าง หยูซานรู้สึกเป็นกังวล เนื่องจากความตึงเครียดมากเกินไปและเป็นเวลาเกือบ 10 นาทีแล้วที่เธอขึ้นมาด้านบน ในที่สุดเธอก็เดินมาถึงปลายทางเดิน ที่สามารถขึ้นมาบนชั้น 2 ได้
แต่ทันทีที่เธอมาถึงชั้น2 ก่อนที่เธอจะมีเวลาทำสิ่งใดเธอก็ได้ยินเสียงประตู 2 บานใกล้ๆเปิดขึ้นทันที จากนั้นเธอก็เห็นกลุ่มผู้ชายวิ่งออกมาอย่างดุเดือด
หยูซาน รู้สึกหวาดกลัวและต้องการที่จะวิ่งลงมาชั้นล่าง แต่ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็ไม่เชื่อฟังแม้ว่าเธอต้องการที่จะวิ่งหนีแต่ร่างกายของเธอกลับวิ่งไปทางชายคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
ไม่น่าแปลกใจที่หยูซานจะถูกจับได้โดยคนเหล่านี้หลังจากถูกจับได้ หยูซาน กรีดร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอ ต้องการร้องขอความช่วยเหลือจาก หลินเฉิง แต่เมื่อคำพูดของเธอกำลังจะออกมาเธอรีบกลืนมันลงไปทันทีเพราะถึงแม้ว่าเธอจะถูกพบแต่เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของ หลินเฉิง ถ้าเธอร้องขอความช่วยเหลือพวกเขาจะมุ่งเป้าหมายไปยัง หลินเฉิง ทันที
หยูซาน ไม่ต้องการล้มเหลวในภารกิจของเธอ เธอจะกลายเป็นคนโง่ทันทีถ้าชี้เป้าให้กับศัตรู ดังนั้นเธอจึงปิดปากเงียบและไม่ขอความช่วยเหลือ เธอถูกล้อมรอบด้วยด้วยผู้ชายกลุ่มหนึ่ง
หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นโยนหยูซาน ลงบนพรมนุ่มๆ ชายคนอื่นๆต่างพยักหน้าให้กับคน3 คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานโดยไม่พูดอะไรสักคำและหันออกจากห้อง
ในเวลาเดียวกันหยูซานรู้สึกหวาดกลัวหลังจากที่เธอพยายามวิ่งหนีคนเหล่านี้พวกเขาจับตัวเธอและโยนเข้ามาในห้องโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นก็ออกไปจากห้อง การกระทำของพวกเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว
“น้องสาวตัวน้อยเธอมาทำอะไรที่นี่?”
หยูซาน ได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้น เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปเธอก็เห็นพี่สาวคนหนึ่งใส่แว่นอายุประมาณ 30 ปีดวงตาของเธอมีเสน่ห์และถามด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นพี่สาวที่สวยงามมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในเสน่ห์แต่ทันใดนั้นหยูซาน ก็ส่ายหัวและพยายามตั้งสติอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าหยูซาน สามารถสงบสติอารมณ์ได้ สาวแว่นก็ถอนหายใจ
“เธอกลัวอะไรอย่างนั้นหรอน้องสาวฉันไม่กินเธอหรอก?”
หลังจากที่พูดหญิงสาวเดินกลับไปที่เก้าอี้และนั่งลง
“เสี่ยวเหว่ยฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ถึงแม้ว่าเด็กๆจะเนื้ออ่อนนุ่มแต่เธอก็ไม่สามารถที่จะ “กิน”ได้ ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องนี้เธอจะต้องถูกอบรมอีกครั้งแน่!”
เมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเหว่ยให้ความสนใจกับเด็กผู้หญิงคนนี้ชายผมยาวคนหนึ่งที่มีลักษณะค่อนข้างสวยงามผิดปกติกำลังตะไบเล็บมืออยู่เสียงของเขาพูดออกมาเบาๆ
“หืม?..คนอย่างนายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน หรือนายคิดจะใช้ไม้จิ้มฟันเล็กๆของนายจัดการกับน้องสาวคนนี้แทน?”
ได้ยินประโยคนี้ชายหนุ่มรูปหล่อมองเสี่ยวเหว่ยด้วยความโกรธแค้นในขณะเดียวกันหญิงสาวก็จ้องมองชายหนุ่มคนนั้นด้วยความรังเกียจ
เมื่อได้ยินว่าชายหญิง2 คนนี้ต้องการทำบางอย่างกับร่างกายของเธอมันทำให้หยูซานร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
แม้ว่าเธอจะไม่เคยออกมาเผชิญกับโลกภายนอกแต่เธอพอจะเดาความหมายของทั้งสองคนออกเธอรู้สึกราวกับเจอเหตุการณ์สะเทือนโลก หยูซาน สั่นสะท้านและรู้สึกขัดแย้งในใจ
เธอกำมือแน่นและหวังว่าหลินเฉิง จะตระหนักว่าเธอตกอยู่ในอันตรายและมาช่วยชีวิตเธอ ส่วนอีกใจหนึ่งของเธอยังคงรู้สึกว่าภารกิจแทรกซึมของเธอนั้นล้มเหลวอย่างสมบูรณ์ หลินเฉิง ควรจะถอนตัวออกจากที่นี่ทันที ในขณะที่เธอกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ถูกจับคอขึ้นเหมือนกับไก่
“หุบปากเลยทั้งสองคนฉันจะรายงานเรื่องนี้กับพี่ใหญ่!หากพวกนายยังคงเถียงกันแบบนี้ฉันจะรายงานเรื่องนี้ด้วย!”
ชายหัวโล้นคนหนึ่งที่ไม่เคยพูดอะไรเลยตั้งแต่หยูซาน ถูกโยนเข้ามาในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นและจับ หยูซาน ยกขึ้น
เมื่อทั้งสองคนได้ยินคำพูดของชายคนนี้พวกเขาทั้งสองคนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า
“อย่าทำแบบนั้นเลยพี่ชายพวกเราจะไม่ส่งเสียงดังอีกแล้ว”
ในที่สุดหลังจากเห็นคนโง่ทั้งสองคนหยุดเถียงกันเทียนเก๋อก็ส่ายหน้าและหันไปจ้องมองหญิงสาวผู้บุกรุกที่กำลังตกอยู่ในความสิ้นหวัง
————————————————-