ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 196 คำสารภาพ
SC:
“หยุด!”
เมื่อเห็นว่าเทียนซือมีความกระตือรือร้นที่จะแสดงออกถึงความภักดีหลินเฉิง รีบตะโกนห้ามและรีบลากมันกลับมาโดยเร็ว
ฉีเหว่ย รู้สึกหวาดผวากับการโจมตีฉับพลันของเทียนซือ เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง ลากมันออกไปเธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก แขนที่กลายเป็นปืนของเธอยังคงปกป้องอยู่บริเวณหน้าอก
“ผมได้ยินมาว่าคุณกล้าหาญมาก หรือไม่ใช่? ผมได้ยินมาว่ามีผู้มีพลังหลายสิบคนอยู่ภายใต้การคำสั่งของคุณ ในฐานะที่คุณเป็นผู้นำ คุณไม่ควรที่จะแสดงออกถึงความหวาดกลัวแบบนี้”
หลังจากที่หลินเฉิง อุ้มเทียนซือไว้ในอ้อมแขนเขาหันไปมอง ฉีเหว่ย ที่ยังคงสั่นเทาและถามขึ้นอย่างเงียบๆ
หลังจากที่ฉีเหว่ย กลืนน้ำลายลงไป เธอตอบด้วยความโล่งอกว่า
“ฉัน…ฉันไม่ได้ต้องการเป็นหัวหน้าทีมแต่มันเป็นเพราะพ่อของฉัน…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ใบหน้าของฉีเหว่ย เปลี่ยนไป เธอปิดปากและเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการพูดอะไรอีก
“พ่ออย่างนั้นหรอ?”
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเธอจะหยุดพูดแล้วหลินเฉิง ก็ได้ยินอย่างชัดเจน หลังจากนั้น หลินเฉิง ก็หัวเราะและหันหน้าไปพูดกับ หยูซาน ว่า
“ดูเหมือนว่าเราจับปลาตัวใหญ่ได้!”
“อะไรนะ..ปลาตัวใหญ่อะไร?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิง ใบหน้าของ ฉีเหว่ย ตื่นตระหนก
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร!ฉันไม่รู้อะไรเลย!”
หลินเฉิง ค่อยๆดึงมีดออกมาและลูบมันกับไปหน้าที่งดงามของเธอ จากนั้นพูดเบาๆว่า
“เชื่อเถอะผมมีหลายวิธีให้คุณพูดออกมา!คุณต้องการจะลองหน่อยไหม?”
“ไม่..ไม่”
เมื่อสัมผัสถึงดาบที่เย็นเยียบบนใบหน้าฉีเหว่ย ซึ่งมีพลังเกี่ยวกับอาวุธระดับ 3 ก็ยังต้องหวาดกลัวและพูดออกมาว่า
“นาย…จะถามอะไรก็ถามมาทำไมจะต้องขู่ฉันด้วย?ตั้งแต่ต้นนายเอาแต่กลั่นแกล้งฉัน ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย ฮือ..”
ดวงตาของหญิงสาวเป็นสีแดงและน้ำตาไหลรินลงมาดูเหมือนว่าเธอไม่สามารถทนการข่มขู่ได้อีกต่อไป ความรู้สึกอับอายเกิดขึ้นในใจของเธอ
“เอ่อ”
เมื่อเห็นอย่างนี้หลินเฉิง ต้องเกาหัวและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ความจริงแล้วผู้หญิงคนนี้พูดถูกต้องตั้งแต่ต้นจนจบเขาพยายามข่มขู่เธอ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถต่อต้านได้และถูกพามาที่นี่อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามอัตลักษณ์ของ หลินเฉิง นั้นเคยแต่ข่มขู่เอาคำสารภาพหรือไม่ก็ทรมานผู้คนเพื่อให้ได้คำตอบ ดังนั้นเขาจึงลืมไปว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ขัดขืนแม้แต่อย่างใด สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือการได้รับข้อมูลที่เขาต้องการ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้หลินเฉิง ขมวดคิ้ว จ้องมองไปที่ ฉีเหว่ย ที่กำลังร้องไห้
“อย่าร้องไห้!ผมไม่ชอบคนร้องไห้เอาล่ะผมจะเชื่อคุณ….”
หลังจากผู้จบเขาถอนหายใจ.novel-lucky.
“ผมให้เวลาคุณ2 นาทีหยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นผมจะโยนคุณให้กับซอมบี้!”
“ไม่!ฉันไม่ร้องแล้วฉันไม่ร้องไห้แล้ว..”
ฉีเหว่ย รีบเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธออย่างรวดเร็วและกลืนเสียงที่สะอื้นของเธอลงไป
“นายนายต้องการอะไร…ถ้าฉันรู้ฉันจะบอกนาย อย่าโยนฉันไว้ในกลุ่มซอมบี้เลย!”
เมื่อเห็นท่าทีของเธอหลินเฉิง อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า
“คุณเป็นคนที่มีพลังแม้ว่าจะถูกทิ้งอยู่ในท่ามกลางตัวกินคนคุณก็สามารถรอดชีวิตไปได้แต่ตอนนี้กลับมากลัวซอมบี้2- 3 ตัวนี่นะ?”
ฉีเหว่ย ส่ายหัวและตอบด้วยเสียงเบาๆว่า
“ฉัน…ฉันไม่ชอบการต่อสู้แม้ว่าพ่อของฉันจะใช้สารเหลวเสริมความแข็งแกร่งเพื่อให้ฉันเป็นผู้มีพลังระดับ3 ถ้าพ่อของฉันไม่ได้บังคับให้ฉันนำทีมมาในครั้งนี้ฉันคงไม่มาที่นี่!”
เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความไม่พอใจหลินเฉิง นิ่งเงียบและมองไปที่หญิงสาว “รักสันติภาพ” หลังจากเห็นใบหน้าของเธอซีดเซียวด้วยความหวาดกลัวเขาจึงถามเธอโดยตรงว่า
“ก็ได้เอาล่ะมาตอบคำถามกันเถอะ เมื่อได้ข้อมูลแล้วคุณก็สามารถออกไปจากที่นี่ได้”
“พวกคุณรู้จักการมีอยู่ของสารเหลวเสริมความแข็งแกร่งในเขตทหารเซียนหยางได้ยังไง?”
ฉีเหว่ย ขมวดคิ้วอยู่สักครู่แล้ว
“ฉันจำได้ว่าพ่อของฉันเคยหลุดปากพูดมาว่ารู้มาจากโทรศัพท์ของลุงทหารคนหนึ่งแต่ฉันจำไม่ได้ว่าเขามาจากเขตไหน”
“โทรศัพท์อย่างนั้นหรอ?”
หลังจากได้ยินข้อมูลนี้หลินเฉิง ดูเคร่งขรึมและถามคุณว่า
“โทรศัพท์อะไร?”
“มันเป็นโทรศัพท์ดาวเทียม!อา.. ดูเหมือนว่านี่มันเป็นความลับ!”
เมื่อได้ยินหลินเฉิง ถามเธอหญิงสาวตอบอย่างตั้งใจจากนั้นดูเหมือนว่าเธอนึกขึ้นได้ว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นความลับเธอดูตกใจและปิดปากอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นอย่างนั้นหลินเฉิง หยิบมีดขึ้นมาแล้วปักลงบนพื้นจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“คุณไม่มีความลับเมื่ออยู่ที่นี่!ชีวิตของคุณจะรอดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคำตอบที่พูดออกมา!”
เมื่อเห็นใบหน้าที่เย็นชาของหลินเฉิง ฉีเหว่ย รู้ว่าหากเธอไม่ตอบคำถามด้วยความจริงชายหนุ่มคนนี้คงจะฆ่าเธออย่างแน่นอน
“ฉันรู้ฉันรู้แล้วฉันจะให้ความร่วมมือกับนายอย่างดี!”
“ดี!”
เมื่อเห็นหญิงสาวเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือหลินเฉิง พยักหน้าอย่างพอใจ
“คุณบอกว่าพ่อของคุณมีโทรศัพท์ดาวเทียมใช่ไหมเขามีมันได้ยังไง?”
“ถูกต้อง..พ่อของฉัน..เขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในเขตทหารเซียนหยาง!”
เมื่อได้ยินว่าหลินเฉิง ถามถึงตัวตนของพ่อเธอจะรู้สึกกังวลใจเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
“ออ..”
หลินเฉิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดขึ้นมาว่า
“ชนชั้นสูงจากเขตทหารนี่เอง เป็นไปได้ไหมที่ข่าวนี้จะหลุดมาจากพวกเขา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
หลังจากที่พึมพำเพียงไม่กี่คำหลินเฉิง ก็หยิบเครื่องดื่มออกมาดื่มเพื่อพักสมอง แม้ว่าเขาจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องโทรศัพท์ดาวเทียม แต่เมื่อเขาคิดอย่างรอบคอบเขาพบว่าเรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจเลย
ในฐานะที่เป็นพื้นที่เขตการทหารมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์พวกเขาจำเป็นต้องมีความพร้อมอยู่เสมอและมีโทรศัพท์ดาวเทียมที่สามารถติดต่อกับสำนักงานใหญ่ได้ทุกที่แม้ว่าสถานีเครือข่ายภาคพื้นดินจะมีปัญหาแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับพวกเขาที่จะใช้โทรศัพท์ดาวเทียม หลินเฉิง ไม่เคยเข้าไปยังเขตทหารแท้จริงมาก่อนดังนั้นเขาจึงไม่เคยรู้ถึงเรื่องนี้
ในตอนที่เขาอยู่ในเขตความปลอดภัยเหลียนเฉิงมู่หวู่หยวนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนอาจเป็นเพราะชายชราไม่ได้มีตำแหน่งสูงพอที่จะมีสิทธิ์ครอบครองโทรศัพท์ดาวเทียม ดังนั้นเขาจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ความลับนี้
แต่ตอนนี้มู่หวู่หยวนได้แก้ไขเขตเหลียนเฉิงเรียบร้อยแล้วบางทีเขาอาจจะสามารถติดต่อกับคนอื่นๆได้
หลินเฉิง ส่ายหัวและรู้สึกสับสนเล็กน้อย จากนั้นเขาถาม ฉีเหว่ย ว่า
“เท่าที่ผมรู้วัตถุดิบบางอย่างที่จำเป็นในการสกัดสารเหลวเสริมความแข็งแกร่งนั้นหาได้ยากมาก แม้ว่าพวกคุณจะรู้ถึงขั้นตอนการสกัดสารเหลวแต่คุณก็ไม่สามารถทำมันได้หากไม่มีวัตถุดิบ?”
———————————————-