ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 234 เอเลียนเนชั่น
บทที่234 เอเลียนเนชั่น
ทุกอย่างจบภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำหนุ่มน้อย ไม่ทันได้บอกแม้แต่ชื่อ หลินเฉิง ไม่ได้มองแม้แค่เศษน้ำแข็งเหล่านั้นด้วยซ้ำ เขาโบกมือเรียก หยูซาน โคล่า เทียนซู ลงไปยังชั้นล่าง
เห็นแบบนั้นเหมือนหลินเฉิงจะลืมพวกเขาสองคนไปแล้วเฉินเฟยหยู ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เขาจูง จางซวน ก่อนที่จะวิ่งตาม หลินเฉิง ไป
“พี่หลินรอด้วย!”
หลังจากตามทันเฉินเฟยหยู อยากจะกล่าวขอโทษ แต่หลินเฉิงโบกมือห้าม “ฉันไม่ทิ้งพวกนายไว้ที่นี่หรอก แต่หลังจากที่พวกเราไปถึง เซียงโจว เขตที่ปกครองโดยพวกทหาร ความร่วมมือของพวกจะจบลงตรงนั้น เข้าใจไหม?” เฉินเฟยหยู อยากจะอธิบายทุกอย่างแบบมีเหตุผลเกียวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขาพยายามอ้าปากพูดอยู่หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา….
ความจริงแล้วทุกครั้งที่จางซวน ปริปาก เฟยหยูก็รู้สึกราง ๆ ว่าจะมีสิ่งสำคัญอะไรบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาไม่ค่อยได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาก แต่เขาก็รู้ถึงอารมณ์ของอีกฝ่ายได้ดี
แม้ว่าหลินเฉิง จะเป็นวัยรุ่นที่อายุมากกว่าเขาไม่เท่าไร ที่มีความสุขุมตลอดเวลา แต่ก็เข้าหาได้ง่ายและซื่อสัตย์ต่อกัน เขาแค่อยากจะพาแฟนออกไปจากฝั่งและนำพวกเขาข้ามมหามุทรเพื่อตอบแทนความมีน้ำใจเท่านั้น เขาไม่ค่อยใส่ใจเรื่องต่อจากนี้หรอก หลินเฉิงเคยช่วยชีวิตเขาและจางซวนไว้บ้างในตอนที่ตกอยู่ในอันตราย นั้นทำให้หลินเฉิงดูเป็นคนที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีก
และตอนนี้เฟยหยู ก็ยังไม่เคยเห็น หลินเฉิงเสียความสุขุมเลย มันคงเป็นอะไรที่เราเข้าไม่ถึง แต่เขาก็ก็รู้โดยไม่ต้องเห็น ว่าสิ่งที่ทำให้หลินเฉิงไม่สบอารมณ์ได้คืออะไร เมื่อเอาทุกข้อสังเกตุมารวมกันแล้วเฉินเฟยหยู ก็รู้ว่าจุดที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับหลิงเฉิงคืออะไร หลายคนก็คงคุ้นเคยกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ตือ หลังจากที่ หลินเฉิง ตัดสินใจอะไรไปแล้ว อย่าตั้งคำถามกับเขา!
เป็นข้อเสียที่ไม่น่าจะอยู่ร่วมกันคนอื่นได้แต่เฟยหยูก็ไม่คิดว่านั้นเป็นปัญหาอะไร
คนที่มากความสามารถที่สุดที่เขาเคยเจอและเป็นผู้รอดชีวิตที่ฝ่าวงล้อมออกมาไกลกว่า 2000 กิโลเมตร ประสบการณ์ในการเอาตัวรอดและรับรู้ถึงอันตรายของหลินเฉิงเหนือกว่า จางซวนหลายเท่าและเธอก็ตั้งคำถามกับเขา
‘ตอนนี้ผู้หญิงงี่เง่าคนนั้นกระโดดออกมาตั้งคำถามด้วยความอ่อนประสบการณ์ทำให้หลิงเฉิงปล่อยออร่าแห่งความเย็นออกมาได้พักหนึ่ง ก่อนที่จะทะเลาะกันอีกในตอนจบ’
“อ่า..”
เมือเขารู้สึกว่ามีความบาดหมางเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคนและหลิงเฉิงเฟยหยูก็วิตกกังวลเขากลัวว่ามันจะทำลายมิตรภาพที่สั่งสมกันมาสลายหายไป
หลินเฉิงได้ยินเสียงถอนหายใจแต่ก็ไม่หันกลับไปมองเฟยหยูและจางซวน พวกเขาเคยให้ความร่วมมือกันมาก่อน แต่ยังไงพวกเขาต่างก็เป็นตัวของตัวเอง และพวกเขาก็ไม่ค่อยจะมีไหวพริบในการรับรู้ถึงอันตราย
นั้นทำให้มีหลายครั้งที่หลินเฉิง อยากจะทิ้งพวกเขาไว้กลางทาง
วันนี้เขาได้ใช้ประโยชน์จากควาโง่เขลาของจางซวน หลินเฉิง แค่พูดมันออกไปตรงๆ ไม่ว่าสองคนนั้นจะรับได้หรอไม่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา
หลินเฉิงรีบเดินไปยังที่จอดรถซ่อนไว้เขากระโดดตรงไปยังที่นั่งคนขับและติดเครื่องยนต์ เมื่อทุกคนประจำที่แล้ว เขาก็ขับออกไปจากเมืองทันทีที่เหยียบคันเร่ง!
เขามองไปยังเมืองไบเฉิงผ่านทางกระจกหลังหลินเฉิง ก็รู้สึกผ่อนคลาย เขาก็แค่แกล้งทำตัวเป็นฆาตกรที่พึ่งจะฆ่าเด็กตัวเล็กๆ ไปเขาคิดว่าสิ่งที่เด็กนั้นพูดไว้เป็นเรื่องจริง ขง เหวินติง!
ถ้าพวกเขายังอดอู้อยู่ที่นี่อีกหละก็คนพวกนั้นก็อาจจะโผล่ออกมาอีกเมื่อไรก็ไม่รู้ พวกเขาไม่สนใจพวกนั้นอยู่แล้ว ต่อให้พวกมันเป็นแค่มดปลวก พวกเขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาและทรัพยากรด้วย มันไม่คุ้มค่า novel-lucky
รถSUV มุงหน้าไปบนถนนอันรกร้าง กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างเอื่อยเฉื่อย หลินเฉิงรู้สึกเบื่อจึงเปิดกระจกและสูบบุหรีเหม่อมองท้องฟ้า โคล่า และ เทียนซือ ยืนบนเบาะและกำลังต่อสู้กันอยู่ ถึงตอนนี้ก็คงจะไม่มีใครแปลกใจที่เห็นหมากับหมีฟัดกันอยู่หลังรถแล้วหละ หยูซาน ที่ต้องควบคุมระยะการต่อสู้ของเจ้าสองตัวนี้ได้แต่หัวเราะและร้องกระซิกออกมา
จางซวนอยากจะหาโอกาศพูดคุยกับ หลินเฉิง ตั้งแต่ขึ้นมาบนรถแล้ว แต่โชคไม่ดี หลิงเฉิง เอาแต่เฝ้าดูรถอยู่เงียบ ๆ คาบบุหรีอยู่ในปาก ฮัมเพลงที่เปิดขึ้นบนรถ ไม่ได้สนใจเธอแต่อย่างไร
เห็นท่าไม่ดีแบบนี้จางซวน จึงขอความช่วยเหลือจาก หยูซาน เธออยากจะพูดอะไรดี ๆ กับหลินเฉิงแต่หยูซานก็ได้แต่พูดปลอบใจ “ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนทางเลือกที่พี่หลินตั้งไว้ได้หรอก ถ้ามันเข้าไปอยู่ในหัวของเขาแล้ว แม้แต่หนูก็ทำอะไรไม่ได้หรอก แต่พี่ซวนไม่ต้องกังวลอะไรนะ พี่หลินเขาเป็นคนใจเย็น ถ้าพี่ไม่ไปแหย่พี่เขา เดียวพี่หลินเขาก็ลืมแล้ว!”
หลังจากคิดถึงสิ่งที่หยูซานพูดจางซวน ก็เข้าใจ เธอล้มเลิกความตั้งใจ แล้วกลับไปนั่ง มองไปยังนอกหน้าต่าง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เฉินเฟยหยูที่นั่งอยู่ข้างคนขับเหมือนจะลืมเรื่องนั้นไปแล้วตอนนี้เขากำลังช่วย หลินเฉิง นำเส้นทางเพื่อลดระยะเวลาการเดินทาง หลินทำตามคำแนะนะของเฟยหยูอย่างสบายๆ และถาม
“นายบอกว่านายเคยดืมและคุยกับเพื่อนถึงเรื่องของเมืองเซียงโจวหนิเคยได้ยินเรืองฐานทัพเรือของเมืองเซียงโจวไหม? นายว่าเขายังอยุ่ไหม?”
เฉินเฟยหยูพยักหน้ารับหลังจากฟังคำถามของหลินเฉิงเกียวกับเพื่อนของเขาก่อนที่จะยิ้มเศร้า “ถ้าตอลดเวลาที่ผ่านมา เขายังมีชีวิตอยู่ ก็คงไม่อยู่ที่บ้านหรอก….”
หลินเฉิงส่ายหน้า“อย่าพึ่งหมดหวังตั้งแต่ยังไม่ได้ลองสิ! เรารู้ที่อยุ่ของฐานทัพก็จริง แต่ถ้าไม่มีคนนำทาง ก็กลัวว่าจะหาที่นั้นไม่เจอ อาจจะต้องเสียเวลาเป็นวันเลยนะ ฉันว่าเพื่อนนายเหมาะกับหน้าที่นี้ที่สุดแล้ว!”
“พี่พูดถูกะพี่หลินถ้าเป็นที่เมืองนั้นฉันรุ้ว่าเขาพักอยู่ที่ไหน ถ้าไปถึง เซียงโจว ปุ๊บเราจะไปบ้านเขาก่อนเลยเป็นอันดับแรก!”
——————————-