ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 236 ฉาเพง
บทที่236 ฉาเพง
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูหลินเฉิง รีบส่งสัญญาณให้ เฟยหยู เงียบ เขาจะออกไปดูต้นทางก่อนให้เฟยหยูรออยู่ในห้องก่อน หลินเฉิงเดินออกไปอย่างช้าๆ ระหว่างทางเดินไม่มีใครอยู่เลย เมื่อถึงประตูเขามองไปรอบๆ ก่อนที่จะสังเห็นประตูกันขโมยบานหนึ่งตรงข้ามกับจุดที่เขายืนพอดิบพอดี
แกร็ก!
เขาหยิบปืนกลเบาขึ้นมาหลินเฉิงเล็งไปยังตาแมวของประตูบานนั้นในทันทีก่อนจะพูดอย่างเยือกเย็น
“ออกมาถ้ายังไม่อยากตาย!”
ยังไงก็ตามแม้ว่าปืนกลในมือของเขาดูอันตราย และเสียงอันดุดันดูเป็นภัย แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นประตูกันขโมยบานนั้น ไม่มีแม้แต่เสียงหมุนลูกบิดประตู เห็นแบบนี้หลินเฉิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เขาเดินเข้าไปใช้ปากกระบอกปืนจี้เข้าไปยังตาแมวของประตู และกำลังจะเปิดฉากเหนี่ยวไก!
“อย่า…อย่ายิงนะ!”
เสียงพูดดังขึ้นอย่างฉับพลันในวินาทีเขากำลังจะเปิดฉากยิง เสียงอันอ่อนแอนั้นดังลอดออกมาจากประตูในที่สุด ประตูกันขโมยบานนี้ก็เปิดขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะมีชายหนุ่มร่างบางโพล่หัวออกมาอย่างเชื่องช้า
แกร็ก!
หลินเฉิงเห็นหัวนั้นโพล่ออกมาเขาก็จ่อกระบอกปืนไปทางนั้นในทันที มันจี้อยู่กลางหน้าผากชายคนนั้น ที่ตอนนี้กำลังถ้วมไปด้วยเหงื่อ ก่อนที่จะร้องขอความเมตตา”อย่าฆ่าผม! อย่าฆ่าผมเลย! ผะ…ผมแค่อยากรู้ว่าใครเข้ามา!”
แม้จะได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ไม่ลดปืนลง ก่อนที่จะถาม “นายเป็นใคร? มีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้าของห้องข้างหลังนี้!” “ผะ…ผมเป็นเจ้าของห้องเองครับ!”
เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฉิงชายคนนั้นก็งงและรีบตอบในทันที
“นายแน่ใจนะ?”
หลังจากมองไปยังชายที่ผอมโซหิวโหยหลินเฉิงก็เลิกคิ้วขึ้น ตะโกนเรียกเพื่อน “เฟยหยู มานี้หน่อย!”
“กำลังไป!!”
เมื่อได้ยินเฉินเฟยหยูที่กำลังนั่งยองอยู่เฉยๆ ในห้องก็รีบวิ่งออกมาและเห็นชายคนนึงกำลังโดนปืนจ่อหัวอยุ่
“….นั้นมัน?” novel-lucky
เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉินเฟยหยูก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย ก่อนที่จะถามหลินเฉิง
หลินเฉิงก็หันควับไปที่ชายคนนั้นส่งสัญญาณให้เขายกมือขึ้นด้วยกระบอกปืน และถามเฟยหยู “ไอหมอนี้มันบอกว่ามันกำลังจะไปที่ห้อง 1602 นายเคยเห็นเเขาที่ไหนมาก่อนไหม?” ได้ยินปุ๊บเขาก็หันไปมองนายชายคนนั้นชัดๆ ทันที เขามองเห็นแค่ชายที่ผอมจนแทบจะเหลือแต่กระดูกคนนึงเท่านั้น น่าจะไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เขากำลังจะส่ายหัว แต่ชายคนนั้นจำเฟยหยูได้ เมื่อชายผอมแห้งนึกออกตาขอเขาก็เป็นประกายพร้อมกับร้องไห้ออกมาทันทีด้วยความดีใจ
“เฟยหยู?นั้นนายจริงๆ ด้วย!”
“หุบปาก!”
เมื่อได้ยินเสียงของชายร่างผอมแห้งร้องหลินเฉิง ก็ขมวดคิ้วและจิ้มกระบอกปืนไปบนหัวชายคคนนั้นอีกครั้งก่อนจะตะโกนขู่
ฉินเฟยหยูได้ยินร่างผอมตอบคำถามนั้นอย่างตื่นเต้นเขาก็ถึ้งก่อนที่จะถามอย่างไม่แน่ใจ ”กะ..แกเป็นใคร? ทำไมถึงรู้จักฉัน?”
“ฉันไง!ฉาเพง นายจำไม่ได้รหอ?”
เฟยหยูยังนึกไม่ออกก่อนที่จะรีบมองหน้านั้นใกล้ๆ ชัดๆ !
หลังจากมองและคิดอย่างถี่ถ้วนเฉินเฟยหยู ก็จำบางส่วนของใบหน้านี้ได้ เฟยหยู ตบหน้าแข้งตัวเอง และจับไหลของชายคนนั้นก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความดีใจ “เป็นมึงจริงๆ ด้วย ฉาเพง อะไรทำให้มึงกลายเป็นผีโครงกระดูกแบบนี้ได้ว่ะ?!”
เมื่อเห็นเฟยหยูนึกทุกอย่างออกฉาเพงก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ร่างอันผอมแห่งของ ฉาเพง ก็ถึงขีดจำกัด เขาล้มลงไปกองกับพื่นในทันที…
พวกเขาเห็นฉากกึ่งตายของฉาเพง เฟยหยูก็รู้สึกกังวลนิดหน่อยก่อนที่จะหันไปอธิบายต่อ หลินเฉิง “พี่หลิน คนนี้แหละเพื่อนที่ผมพูดถึง ฉาเพง !” หลินเฉิงได้ยินอย่างนั้นก็อดประหลาดใจไม่ได้ เขาเลิกระแวงและลดปืนลง
ขณะที่พวกเขายกร่างฉาเพง กำลังเดินกลับไปที่ห้อง ฉาเพง ก็ครางออกมาด้วยความอ่อนแรง “ไม่…อย่าเอาฉันกลับไปที่ห้อง นะ..ในนั้นมีปีศาจอยุ่!”
เฟยหยูเห้นหน่าอันตื่นตระหนกของ ฉาเพง ก็ถามอย่างสงสัย “ปีศาจอะไรว่ะ? ทำไมพวกเราไม่เห็น ก่อนหน้านี่ กูกับพี่หลิน เพิ่งจะเข้าไปค้นมาเอง ทั้งในห้องและนอกห้องเลยนะ มันว่างเปล่า อย่ากลัวไปเลย!”
แต่ฉาเพง ก็ไม่ได้วางใจ เขายังไม่ยอมที่จะกลับไป เฟยหยูได้แต่มองไปยังหลินเฉิงพวกเขาต่างพยักหน้าให้กัน พวกเขาทำตามข้องเรียกร้องของ ฉาเพง ก่อนที่ทุกคนกลับเข้าไปยังห้องที่มีประตูกันขโมย หลินเฉิงมองกลับไปยังห้องนั้นที่อยู่อีกฝาก แต่ก็ไม่เห็นภัยอันตรายอะไร
ห้องที่พวกเขานั่งอยุ่นี้มีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆและยังมีการตกแต่งที่หรูหรา คนที่เป็นเจ้าของคงจะเป็นคนมีฐานะอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเดิมทีแล้วอ่างล้างหน้าของห้องที่หรูหราจะต่ออกมาจากห้องอาบน้ำ เพราะยังไงมันจึงถ่ายโอนความร้อนออกมาอย่างมากในสภาพอากาศแบบนี้
เฉินเฟยหยูแทบจะทนไม่ไหวกับกลิ่นและความร้อนนี้แต่เขามีเรื่องสำคัญมากกว่าที่ต้องทำก็ได้แต่ต้องทนเอา
“จะกลับไปที่ห้องตอนไหนก็ได้แต่บอกเราก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เขาพูดขณะที่มองไปยังร่างของฉาเพง ที่ไม่ขยับไปไหน เฟยหยู ยื่นขวดน้ำไปให้เขาก็ดืมและพร้อมตอบคำถาม ฉาเพง ยิ้มอย่างขมขื่น ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา่ “มันจะเกิดอะไรได้อีกนะ? โลกก็มาถึงจุดจบแล้ว ดิ้นลนเพื่อความอยู่รอด…. ทำไมกูถึงกลายเป็นผีอย่างนี้ แน่นอนเพราะไม่มีอะไรจะกิน แต่ว่าไปแล้ว…!”
ฉาเพงมองไปหยัง หลินเฉิง ที่กำลังสูบบุหรี่อยู่เงียบๆ ก่อนที่จะถามออกไป “พวกนาย…พอจะมีอะไรให้กินบ้างไหม? สเบียงของฉันพึ่งหมดไปเมื่อสองสามวันทีแล้วเอง ฉันหาจากรอบอาคารแถวนี้ไปเยอะแล้ว ถ้าไม่มีอะไรกินแล้วจริงๆ คงต้องออกไปหาที่อาคารหมายเลข 1!”
หลินเฉิงไม่พูดอะไรเขาลุกขึ้นดับบุหรี่เดินมานั่งใกล้ๆ ฉาเพง “นี่คือถุงเสบียง มีแฮมและไส้กรอกอยู่ข้างใน ถ้านายตอบคำถามฉันได้ ฉันจะให้เลยทั้งถุุง และถ้าตอบได้ดีจะให้เพิ่มอีกพอสำหรับสองสามวันนี้! ตกลงไหม?”
หลินเฉิงหยิบถุงนั้นขึ้นมามองไปยัง ฉาเพง ที่กำลังถูกล่อด้วยอาหารในมือของเขา ก่อนที่จะถามด้วยเสียงต่ำ
————————-