ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 242 หลี เหมิงเดีย
บทที่242 หลี เหมิงเดีย
หลังจากยืนคิดอยู่พักนึงหลิงเฉิงก็ถอนหายใจ แล้วแสดงตัว “ฉันคือ หลินเฉิง!”
“แกมันโกหก!”
หญิงสาวที่มีดวงตาเหมือนผลแอปริคอทมองมายังเขาด้วยอารมณ์และท่าทีฉุนเฉียว “ฉัน ไม่รู้ว่าแกไปได้ยินชื่อพี่ชายของฉันมาจากไหน แต่จะบอกให้ว่าพี่ชายของฉันไม่ได้อยู่ที่ หนานซู ด้วยซ้ำ แกพยายามจะปลอมเป็นพี่ฉัน! แกมันขี้โกง..ฉันหนะ…ฉัน..”
เธอพูดออกมาพร้อมกับดวงตาที่เริ่มกลายเป็นสีแดงเพราะความโกรธเธอหยิบปืนพกออกมาออกมาจากเอวของเธอและจ่อไปที่หน้าอกของหลิงเฉิงทันที “แกร๊ก!” เป็นเสียงที่ไกของปืนพร้อมที่จะลั่นกระสุนออกมา
“ซาน!”
ไม่รอให้ผู้หญิงคนนี้ยิงหรอกมีเสียงแปลกๆ ดังตามสายลมมา สิ่งที่เธอเห็นอยู่เบื้องหน้าคือทุ่งดอกไม้ จู่ๆ ปืนพกของเธอก็หายไป!
“เขาคือหลินเฉิงจริงๆ!ฉันยืนยันได้ และถ้าเธอทำอะไรที่งี่เง่าออกมาละก็ ฉันจะฆ่าเธอเอง!”
หยูซานโยนปืนพกที่แย่งมาจากผู้หญิงคนนั้นทิ้งลงไปบนพื้นสีหน้าขอเธอตอนนี้เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง เธอตั้งมีดในแนวขวางแนบกับคอผู้หญิงคนนั้น
“กล้าดีอย่างไงเจ้าหนูน้อย!”
“ปล่อยผีเสื้อน้อยออกไปนะ!”
“ลุกขึ้นมาเร็ว!เสี่ยวเดียกำลังตกอยู่ในอันตราย”
หลังจากเห็นการกระทำของหยูซานเหล่าชายฉกรรจ์ที่นอนอยู่บนพื้นพยายามลุกขึ้นมาทีละคนสองคนหลังจากตะโกนออกมา
“ทุกคนหยุด!”
เมื่อเห็นว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งหญิงสาวที่ถูกเรียกว่า เสี่ยวเดีย ก็เป็นห่วงและสั่งให้พวกเขาหยุดแม้ว่าจะมีใบมีดแหลมคมจ่อที่คอเธออยู่ก็ตาม
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนแรกก็ตามแต่เธอก็รู้ว่าทีมของเธอไม่ใช่ทีมที่สามารถรับมือคนที่อ้างว่าเป็นหลินเฉิงคนนี้ได้ ถ้าพวกเธอรีบร้อน พวกเธอต้องจบไม่สวยเป็นแน่!
หลังจากหยุดเพื่อนร่วมทีมไปแล้วเธอก็เหลือบลงไปมองดาบที่จ่อคอขอตัวเองอยู่แล้วมองไปยังหยูซานด้วยสีหน้าเศร้าใจ “เธออาจจะพิสูจน์ได้ว่าเขาคือหลินเฉิง แต่บนโลกอันกว้างใหญ่นี่มีคนชื่อหลินเฉิงตั้งหลายคน ฉันว่าเขาคนนี้ไม่ใช่หลินเฉิงที่ฉันรู้จัก…”
หยูซานกำลังจะเอ่ยปากออกมาแต่หลินเฉิงก็โบกมือพร้อมกับห้ามปราม “วางมีดลง! นี้เป็นเรื่องของฉัน เธออย่ามายุ่ง!”
หลินเฉิงมองไปยังใบหน้าอันโกรธกริ้วของหยูซานหลินเฉิงก็ถอนหายใจแล้วพูดปลอบเธอ “ไม่เป็นไรนะ เธอคนนั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอกแม้เธอจะพกปืนก็ตาม.”
เธอรับฟังสิ่งที่หลินเฉิงพูดหยูซานลดมีลงก่อนที่จะมองผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่ใยดีและเดินกับไปอยู่กับโคล่าข้างหลัง
หลังจากหยูซานจากไปหลินเฉิงก็กลับไปมองที่ผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง “ดูเหมือนายจะเล่นไม่ซื่อตลอดเลยนะมีอะไรก็ว่ามา!”
หลินเฉิงยืนพิงต้นไม้งัดบุหรีขึ้นมาสูบ ก่อนที่จะพ่นควันออกมาและเอ่ยปาก “เธอชื่อว่า หลี เหมิงเดีย แม่เธอชื่อ ฉินชูหยี พ่อเธอชื่อ หลี่เฉิงยี่! ฉันพูดถูกไหม?”
หลีเหมิงเดียก็พูดขัด“ข้อมูลแบบนี้จะหาจากที่ไหนก็ได้ถามคนกอื่นก็ยังได้เลย มันยืนยันอะไรไม่ได้หรอก…”
หลีเหมิงเดียที่กำลังเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโส หลินเฉิงก็ยิ้มอย่างเอ็นดูและพูด “แล้วมันถูกไหมหละ? ตอนที่เธอเรียนอยู่โรงเรียนประถม เธอชอบกับหนูน้อยคนนึงที่ชื่อว่า มูเลอ ตอนที่เธอเป็นนักเรียนปีสอง เธอวิตกกังวลมากหน้าอกของเธอใหญ่ขึ้นจนเกินไปเมื่อเธอเข้ามหาลัยใหม่ เธอจองตั๋วบินข้ามโลกกว่า 13 ชม. เพื่อไปดูคอนเซิทของ เคที เพอร์รี และเมื่อกลับมาบ้านเธอก็ถูกป้าฉิน กักบริเวณ นานกว่าหนึ่งเดือน เรื่องพวกนี้ไปถามคนอื่นแล้วจะได้คำตอบมาไหมหละ?”
“นาย…รู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไง!?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินเฉิงพูดมันเป็นสิ่งที่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ หลีเหมิงเดียที่กำลังหยิงผยองอยู่เมื่อกี้ ก็เปลี่ยนไปในทันที เธอถามกลับมาเสียงดัง และจับแขนของหลินเฉิง เขาตบไหลของหลีเหมิงเดียเพื่อให้เธอใจเย็นลง เขาทิ้งบุหรีลง แม้ว่าเขาจะยังยั้งชั่งใจแล้วเขาก็คุมความตื่นเต้นนี้ไม่ได้ “เพราะว่าฉันคือ หลินเฉิงที่เธอรู้จักไง! ฉันบอกเธอแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้เป็นไปไม่ได้ พี่หลิน อยู่ตั้งที่เมือง จงโจว ไกลกว่า 1000 กิโลเมตร แล้วนายก็หน้าไม่เหมือนเขาด้วย!?”
สายตาของเธอเริ่มเหม่อลอยเธอปลอยมือออกจากเขาแล้ว เธอมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาของชายที่แปลกประหลาดข้างหน้าเธอ เธอไม่อยากจะเชื่อใน่สิ่งที่เห็นว่าเขาเป็นพี่ของเธอจริงๆ
หลังจากที่เห็นหลีเหมิงเดียยังคงไม่เชื่อใจเขาเขาก็ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้ผู้หญิงคนนี้เชื่อว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอแล้ว ในตอนนี้ก็ไม่มีเครื่องยืนยันตัวตนอะไรแบบนั้นด้วย ในเมื่อเขาเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ก็คงพิสูตรอะไรได้ไม่มาก novel-lucky
“ฉันจะอธิบายว่าทำไมฉันถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้ในคราวหลังแต่เธอช่วยบอกที่ว่าป้าฉิน กับลุงหลี่ เป็นอย่างไรมั่งและพวกเขาอยู่ที่ไหน?”
หลังจากยืนนิ่งกันอยู่ซักพักหลิงเฉิงก็พยายามข้ามขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไปตอนนี้เขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยขอป้าฉินมากที่สุด
เหมือนหลีเหมิงเดียจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดเธอยังคงมองเขาอย่างว่างเปล่า เหมือนว่าเธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจอยู่ในขณะนี้ว่าจะเชื่อใจเขาไหม “อ่าพวกเขาอยู่ที่ฐานทัพนั้นแหละ”
เธอตอบอย่างหมดหวังหลินเฉิงเขย่าหน้าของเธอและขอร้อง “งั้นจะรออะไรอยู่หละนำทางไปเลย ฉันอยากจะเจอแม่ของเธอกับตาสักที!”
“ตะ..แต่นาย..”หลีเหมิงเดีย ยังคงลังเล
“ไม่เอาแบบนี้สิถ้าฉันไม่มาดีหละก็ ทุกคนคงตายไปหมดแล้วยกเว้นเธอ! มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะเชื่อฉันไหมในตอนนี้ ฉันจะบอกความจริงทุกอย่างกับเธอเมื่อฉันได้เจอป้าฉินแล้วนะ หยุดทำตัวไร้สาระได้แล้ว! และพาฉันไปในฐานทัพนั้นทีเถอะ!”
เขาเริ่มจะเหลืออดกับความดื้อด้านขอผู้หญิงคนนี้แต่เขาก็เขาใจความคิดเธอ เขาไม่อยากจะอุดอู้อยู่ตรงนี้แล้ว
เห็นแบบนี้หลี่เหมิงเดียก็พยักหน้า เธอเดินเข้าไปหากลุ่มชายฉกรรจ์ที่มองดูพวกเธอตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก่อนที่จะสั่งให้พวกเขากลับขึ้นไปบนรถ เมื่อทุกคนพร้อมจะไปแล้ว เธอก็ถามหลินเฉิงอย่างลังเล “นาย…ขึ้นมาสิ…”
“ไม่หละฉันมีรถของฉันแล้ว!”
เขาส่ายหน้าปฏิเสธก่อนที่จะตะโกนเรียกทีมของเขาหลังพุ่มไม้ไกลๆ “เร็วเข้าทุกคน! ตามมาเร็ว เฟยหยูนายขับรถออกมาหน่อยพวกเราจะเดินทางกันต่อแล้ว!”
พูดจบเขาก็หันกลับไปหาหลีเหมิงเดียเธอพยักหน้าให้ ก่อนที่เชาจะพาหยูซานกับโคล่ากลับไป
เมื่อทุกคนนั่งประจำที่แล้วหลินเฉิงก็หักหมุนล้อเหล็ก และขับตามรถคันอื่นๆ ไป มุ่งตรงไปยังฐานทัพเรือ!
—————————–