ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 245 ฉินชูหย
บทที่245 ฉินชูหยี
ชายคนนั้นเคาะกระจกเรียกหลินเฉิงเมื่อหลินเฉิงลดกระจกลงมา หลีเหมิงเดียก็เรียกพี่ชายของเธอ แต่เธอก็ยังไม่อยากยืนยันขนาดนั้นจึงเปลี่ยนวิธีพูดเล็กน้อย
“พะ…พี่หลินเฉิงนี่คือโกดังเก็บทรัพยากรของพวกเรา ทุกครั้งที่พวกเราได้วัตถุดิบมาจะนำมาเก็บไว้ที่นี่ก่อนชั่วคราว พี่รอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนแปปนึง ฉันต้องไปคุยกันคนรับผิดชอบเรื่องนี้ก่อน นายรอฉันก่อนทีจะไปหาแม่นะเสร็จธุระเดี๋ยวจะกลับมาหาที่นี่”
เห็นหน้าของสาวคนนั้นหลินเฉิงก็พูด“โอเค ฉันเข้าใจ รีบๆ กลับมาหละ”
หลังจากคุยกันเสร็จเขาก็พิงเบาะที่นั่งและสูบบุหรี่รอ
เหมือนครั้งนี้หลีเหมิงเดียจะได้ของกลับมาเยอะมันก็จะง่ายต่อการพูดคุยกับคนที่รับผิดชอบเรื่องการย้ายทรัพยากร แต่เรื่องพวกนี้ไม่ได้ติดใจอะไรหลินเฉิงเลย เพราะถ้าเขาเอาของทั้งแคปซูลออกมามันก็จะสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในฐานทัพแห่งนี้ได้ตลอดปีเลยทีเดียว!
ยี่สิบนาทีต่อมาหลีเหมิงเดียก็เสร็จธุระกับการเช็คทรัพยากรที่ขนมาและพวกมันจะถูกบรรจุในโกดังในภายหลัง เธอเดินมาด้วยสีหน้าผ่อนคลายลง และเธอหยิบบุหรีขึ้นมาให้หลินเฉิงหนึ่งกล่อง “ได้ยินมาว่านายชอบสูบสุหรี่ รับนี้ไป!”
เห็นแบบนี้หลินเฉิงก็รู้สึกอายนิดหน่อย“นี่คุณผู้หญิง ถ้าอยากจะทดสอบฉัน เธอน่าจะหาอะไรที่ดูออกยากกว่านี้นะคราวหลัง! นอกจากฉันแล้ว หลายคนก็ชอบสูบบุหรีกันทั้งนั้นแหละเขาใจป่าว?”
หลังจากนั้นเขาก็ส่งบุหรีกล่องนั้นให้เฉินเฟยหยูข้างหลังเฟยหยูแกะมันออกมาสูบตัวนึงอย่างสบายใจ
“พะ…พูดอะไรของนาย?ให้ตายเถอะ!” หลีเหมิงเดียหน้าแดงเมือโดนหลินเฉิงมองออกเธอรีบกระโดดเข้าไปในรถ ก่อนที่จะเร่งให้เขาขับรถต่อไปแต่เธอก็ไม่สามารถปกปิดใบหน้าที่เขินอายของเธอลงได้
หลินเฉิงหมดหนทางได้แต่ส่ายหน้าและตามเส้นทางของหลีเหมิงเดียไปเขาเหยีบคันเร่งแล้วรถก็พุ่งตัวออกไป
“จะว่าไปแล้วฉันก็ลืมถามเธอเลยพ่อแม่เธอเป็นอย่างไรบ้าง? หลังจากวันสิ้นโลกมานี่ป้าไม่สบายบ้างรึปล่าว? พลังพวกเขาตื่นอยู่ใช่ไหม?” ขับรถตามเส้นทางอันยาวไกลหลินเฉิงก็เลยมีเรื่องหลายเรื่องที่คิดออกในหัวก็เลยถามน้องสาวไประหว่างทาง
เมื่อน้องสาวได้ยินแบบนี้ก็ส่ายหน้าเบาๆ“พวกเขายังสุขภาพดีกันอยู่ แต่พวกเขาไม่มีพลังตื่นขึ้นมาหรอก มีแค่แม่ หลังจากเธอรับสายของพี่ เธอก็ไม่ค่อยพักพ่อนเลยจนถึงตอนนี้ นั้นทำให้เธอไม่ค่อยแข็งแรง…”
“อย่างงั้นหรอ?…”
หลินเฉิงกังวลเรื่องร่างกายของป้าฉินมากที่สุด!ได้ยินน้องสาวอธิบายแบบนั้นทำให้เขาเป็นกังวลในทันที
เขารู้ดีว่าลึกๆแล้วป้าฉินรู้สึกอย่างไรกับตัวเองแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไม ความรักจากหัวใจของเธอไม่ใช่การเสแสร้ง ในจุดจบของโลก มันเป็นอะไรที่โหดร้ายมาก เขากลัวป้าฉินจะเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เขายังอยู่ที่ จงโจว….
ด้วยความรู้สึกที่ไม่ใช่เล่นๆนี้ หลังจากผ่านทางด่วนเรียบแม่น้ำหลินเฉิงก็หยุดข้างหน้าบ้านหรูหราสามหลังริมแม่น้ำ
“พี่รอหนูตรงนี้หลังจากหนูเครียเรื่องพวกนี้แล้วหนูจะหาคนจัดการงานที่พี่ต้องทำภายในฐานทัพแห่งนี้!”
หลังจากกระโดดลงมาจากรถหลินเฉิงก็หันกลับไปอธิบายอะไรนิดหน่อยกับคนที่อยู่ในรถอย่างรีบร้อน หลังจากเลิกพูดคุยอะไรไร้สาระกับคนข้างใน เขาก็วิ่งตามหลีเหมิงเดียไปในทันที
“กริ้ง!!กริ้ง!!” เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งทีถูกกดโดยน้องสาวหัวใจของหลินเฉิงก็เต้นรัว เลือดในตัวของเขาสูบฉีด ทั้งตัวของเขาก็อดที่จะสั่นสะท้านนิดหน่อยไม่ได้…
“ใครหนะ?” novel-lucky
เสียงนั้นปลุกความตื่นเต้นภายในตัวเขาหลินเฉิงได้ยินเสียงอันอ่อนแรงของผุ้หญิงข้างในประตูบานนั้น!
“แม่หนูเอง!”
ได้ยินเสียงตอบรับนั้นหลีเหมิงเดียหันกลับไปหมองหลินเฉิง เห็นร่างกายอันสั่นเทาของผู้เป็นพี่แล้วตอบกลับไป
“เอี้ยดดดด!…”
ด้วยเสียงเปิดของประตูหญิงวัยกลางคนที่ดูผอมมากก็โพล่ออกมาจากประตูบานนั้น
เธอเห็นลูกสาวยืนอยู่กับผุ้ชายแปลกหน้าเธอก็ถามอย่างสงสัย “ลูกกลับมาทำไมตอนนี้? แล้วหนุ่มหล่อคนนั้นเป็นใคร? เธอมันแย่มาก ลูกแอบไปคบหาใครโดยลับๆ แล้วไม่บอกพ่อก่อนหรอ?”
ได้ยินแบบนี้ใบหน้าหลีเหมิงเดียก็เต็มไปด้วยความเซ็งสุดๆ เธอไม่ค่อยพอใจเวลาโดนต่อว่าอะไรแบบนี้
“แม่!พูดอะไรของแม่เนีย นี่คือ…”
ทันทีที่เธอยิ้มและหันหน้าไปแนะนำพี่ชายหลินเฉิงกับแม่ของเธอหลินเฉิงก็เอามือพลักหน้าของเธอออกไป และรีบเดินมาหาฉินชูหยี เมื่อมองไปยังผู้หญิงวัยกลางคนผมขาวข้างหน้าเขาก็อดเศร้าไม่ได้ตาของเธอเป็นสีแดงอ่อนๆ และไอออก “ป้าฉิน นี้ผมเอง น้องส้มไง!”
“น้องส้ม?….น้องส้มหรอ!”
ได้ยินแบบนี้ฉินชูหยี ก็ย่อมสับสน เขามองมายังไหล่ของหลินเฉิงและพูด “ธะ..เธอ…รู้จักน้องส้มหรอ!? เธอรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน พ่อหนุ่มได้โปรดเธอต้องบอกป้านะ ป้าจะตอบแทนให้อย่างามเลย! ฮือออ…..”
ดวงตาของเธอเริ่มแดงกว่าเดิมเพราะน้ำตาอันอบอุ่นที่ไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างอย่างคุมไม่อยู่!
เมื่อเห็นป้าฉินจำเขาไม่ได้เธอคิดว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่รู้จักหลินเฉิง หลินเฉิงก็วิตกกังวลอย่างมาก “ผมไงป้าฉิน!ป้าจำผมไม่ได้หรอ? ผม…ผมชื่อว่าหลินเฉิง ผมเรียนอยู่ที่มหาลัยจงโจว ปีนี้ผมอายุ 22…ไม่ 23 หลังจากหน้าหนาวนี้! ก่อนวันสิ้นโลก พะ..พวกเรายังคุยโทรศัพท์กันอยู่เลยผมบอกให้ป้ากับลุงหลีซ่อนตัวอยู่ที่บ้านกับเสี่ยวเดียและรอผมกลับไปอยู่เลย ป้าจำได้ไหม?ผมอยู่ที่นี่แล้วผมตามหาป้าอยู่!”
“เธอ…รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินหลักฐานของหลินเฉิงฉินชูหยีผู้ที่มองอย่างปฏิเสธก็ทึ่งและรีบจับใบหน้าของหลินเฉินเพื่อสังเกตุอยู่สักแปปหนึ่ง เธอก็ร้องไหอย่างมีความสุข “น้องส้ม! น้องส้มจริงๆ ด้วย โครหน้าแบบนี้! คิ้วแบบนี้!นี่….นี่ป้าไม่ได้ฝันไปจริงๆ ใช่ไหม!?”
แม้เขาจะถูกกอดที่ใบหน้าอย่างแน่นแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไรเลย เมือเขาพยายามยิ้มแต่ความเศร้าก็ทำให้มันออกมาดูแย่ เขาพูดกับป้าฉิน “ป้าไม่ได้ฝันไปนะ ผมอยู่ที่นี่แล้ว!”
“โอ้ย!”
เมื่อเห็นสีหน้าที่ดีใจของหลินเฉิงฉินชูหยีก็หงายหน้าไป มันเหมือนกับว่าเธอรับความดีใจอันสุดซึ้งนี้แทบจะไม่ไหว เธอล้มลงไปด้านหลังด้วยร่างกายอันบอบบาง!
หลินเฉิงเห็นแบบนี้เขาก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกและช่วยป้าฉินที่ล้มลงไปขึ้นมาและตะโกนเรียกหลีเหมิงเดียอย่างกังวล“น้อง!ไปหาผ้าร้อนๆ มาเร็วปิดหน้าผากป้าเร็ว!”
“ป่งปิดอะไรหละ?ป้าสบายดี!”
ใครจะไปรู้หละทุกคนคิดว่าฉินชูหยีคนนี้ดีใจจนเป็นลมหงายท้องไปแต่ก็ยังตื่นอยู่ตอนนี้หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลินเฉิงเธอก็ลุกขึ้นมาเองเลย!
หลังจากที่ป้าเดินกลับไปหลังครัวฉินชูหยี ก็หยิบตั๋วกระดาษมาหนึ่งกำมือพร้อมกับยื่นมันให้ หลีเหมิงเดียก่อนที่จะพูดเสียงดังใส่ลูก “ไอเด็กไม่ดี รีบไปที่โรงอาหารเลยนะไปแลกตั๋วอาหาร 500 ใบนี้มา และไปซื้อผักสดมาด้วย! เรียกพ่อกลับมาหาแม่ด้วยหละ!”
เมื่อเห็นหลีเหมิงเดียมองหน้าหลินเฉิงอย่างสุดจะเซ็งเหมือนเธอจะไม่ได้ยินสิ่งที่ป้าฉินสั่ง เธอจึงคิ้วตั้งด้วยความโกรธยอกมือซ้ายขึ้นตบ “แป๊ะ!” ไปที่หัวของลูก!
——————————