ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 253 ปลาแม็คคาเรล
บทที่253 ปลาแม็คคาเรล
“มันของดีนะไอหลานรัก?”
เมื่อเขาเห็นสีหน้าผิดหวังเล็กๆของหลินเฉิงหลังจากที่มองไปซิกก้า เขาก็อดถามไม่ได้ก่อนที่จะเล่าความหลังให้ฟัง “มันคือของดีที่เพื่อนของลุงทิ้งเอาไว้ให้! ไอหมอนั้นมีงานอดิเรกแปลกๆ ทำนี้แหละก่อนที่มันจะตาย ซิกก้าตัวโปรดของเขาคือ กูบาซิกก้า! แม้ว่าลุงจะไม่รู้ว่ามันมาจากที่ไหนแต่ไอแท่งนี้ดีมากเวลาที่ลุงสูบ บางครั้งลุงก็คิดถึงไอหมอนั้นเหมือนกันเวลาอยากจะสูบบุหรี่”
คุยเรื่องนี้กับหลานแล้วเขาก็เบาใจลงบ้างแล้ว“แม้ว่าหลานจะพึ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่ถึงวัน ลุงก็เห็นนะว่าหลานดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้วสำหรับฐานทัพน้ำเงินแห่งนี้ ลุงเชื่อแล้วหละว่าสิ่งที่น้องส้มเจอข้างนอกระหว่างทางนั้นอันตรายกว่าเยอะ!”
พูดจบหลีเฉิงยี่ก็ถอนหายใจลึก“ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว เด็กน้อยผู้โดดเดียวหายตัวไปเฉยๆ และเขาก็กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ตกใจกับสิ่งใดเลย ลุงภูมิใจในตัวหลานตอนนี้มาก”
ได้ยินแบบนี้หลินเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาหันหลังไปดูหยูซานที่กำลังสอนบทเรียนให้โคล่ากับเทียนซืออยู่ พวกเธอไม่รู้ถึงบทสนทนานี้ เขาจึงพูดกับหลีเฉิงหยีตรงๆ
“ลุงหลีถ้ามีปัญหาอะไรก็พูดตรงๆได้เลย เราสองคนไม่มีอะไรต้องปิดบังกันครับ…” เมือหลีเฉิงหยีโดนอ่านใจออกอีกแล้ว เขาก็ได้แต่หัวเราะออกมา “งั้นลุงก็จะเข้าเรื่องเลยนะ! แม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เธอมาถึงที่นี่และไม่เคยพูดถึงมันเลยสักคำ ลุงก็เห็นนะว่าเราสับสนว่าทำไมลุงถึงทำตัวอย่างนั้นกับฉางเหวินฉวน และแม้ว่าจะพูดกันตรงๆ เธอก็คิดว่าลุงประจบเขามากเกินไปใช่ไหม?”
“ก็แบบ….”
เมื่อรู้ว่าหลีเฉิงหยีพูดถึงเรื่องนี้หลินเฉิงก็ตกตะลึง เขาอยากจะพูดปฏิเสธ แต่ลุงของเขาก็ห้ามไว้!
หลับจากโบกมือขัดหลินเฉิงหลีเฉิงหยีก็พูด”ไม่ต้องปฏิเสธกับลุงก็ได้ ฉันทำงานเกียวกับระบบการตอบสนองของมนุษย์ ถ้าลุงไม่มีความสามารถในการอ่านใจและเข้าใจถึงสถานการณ์ได้หละก็ คงจะเสร็จไอพวกจิ้งจอกเฒ่าพวกนั้นไปแล้วหละ!”
“โอเค…”
หลินเฉิงได้แต่ยิ้มขมๆและพงกหัว “ผมก็สงสัยในทัศนคิตของลุงต่อไอหมอนั้นจริง ตำแหน่งของเขาไม่ได้น้อยเลย ลุงกับป้าฉินก็ไม่ใช่คนสามัญธรรมดาอยู่แล้ว พลังของเสี่ยวเดียก็เป็นที่ขาดแคลน มันดูเหมือนว่าลุงไม่ต้องกังวลเกียวกับชายคนนั้นใช่ไหมหละ?”
“โฮว…”
เมื่อหลินเฉิงตั้งคำถามหลีเฉิงหยีก็ดูดซิกก้าซูดใหญ่และขมวดคิ้ว “เธอพูดถูกแต่ปัญหาทั้งหมดมันเริ่มมาจากพ่อของฉันไม่อยู่แล้ว” “ห๊ะ!ลุงหมายถึง….ตาเฒ่านั้นจากเราไปแล้ว!?”
เขาเข้าใจความหมายทันทีตั้งแต่ที่ลุงของเขาพูดแต่เขาก็ต้องอุทานออกมากเพราะไม่อยากจะเชื่อ!
เหตุผลทีหลินเฉิงอึ้งเพราะว่าถ้าตาเฒ่าของครอบครัวหลีเสียแล้วจริงๆ มันจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ในครอบครัวนี้และมันจะเกิดความหายนะอย่างแน่นอน!
ครอบครัวนี้สามารถไหวตัวทันย้ายเข้ามาอยู่ในฐานทัพแห่งนี้ตั้งแต่วันโลกาวินาศเริ่มต้นขึ้นความรู้และความสามารถของตาเฒ่าหลีแม้ว่าจะเป็นช่วงที่โลกเละเทะไปแล้วเขาก็ยังมากความสามารถอยู่ หลินเฉิงเชื่อเลยว่าถ้าเขายังอยู่และมีเส้นสายในฐานทัพทะเลน้ำเงินนี้สักนิดหน่อยเขาก็สามารถยึดฐานทัพแห่งนี้ได้เลยง่ายๆ !
แต่เมื่อมันไม่เป็นแบบนั้นตาเฒ่า ดิงไฮเชินเจิน ตายไปแล้ว ครอบครัวลุงหลี ที่ไม่มีรากฐานอันมั่นคงในฐานทัพแห่งนี้ ย่อมสูญเสียงพลังลงในทันที ที่เหลือก็เป็นแค่เรื่องของเวลาแล้วว่าพวกเขาจะสูญเสียอิสระภาพในที่แห่งนี้ ในสภาวะแวดล้อมที่เหมือนจะกินกันเองแบบนี้ จุดจบก็คือพวกเขาก็จะกลายเป็นมดปลวกในที่สุด!
หลินเฉิงรู้สึกช่วยไม่ได้มองกลับไปยังบ้านหลังใหญ่หลังนี้และเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงยังอยู่ที่แห่งนี้ได้ทั้งที่เสียอิสระภาพไปแล้ว
นี้เป็นบ้านที่งดงามและสดวกสบายในเวลาเดียวกันมีคนสองคนที่ไม่มีพลังอะไรเป็นพิเศษที่อาจจะโดนคนอื่นมาทำหน้าที่แทนตอนไหนก็ได้ไม่รู้ เขากลัวเเหลือเกินว่าเหตุผลที่พวกเขายังอยู่ได้ไม่ใช่เพราะความสามารถในการรักษาของหลีเหมิงเดีย แต่เป็นอย่างอื่น!
ตอนแรกที่เข้านึกได้เขาก็ช็อคแต่พอผ่านไปสักพักเขาก็เข้าใจ หลีเฉิงหยีได้แต่ยืนยิ้ม “เหมือนกับว่าเธอจะเข้าใจแล้วสินะ… ตาเฒ่านะอยู่ๆ ก็ป่วยหนักทันที่ที่พวกเราย้ายมาถึงที่นี่ เขาทนได้แค่สองสามวันเอง…” “ไม่ใช่…”
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ส่ายหน้า“แม้ว่าผมจะเข้าใจบ้างแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมลุงถึงเข้าหา ฉางเหวินฉวนได้?” ไอลีนโนเวล
หลีเฉิงหยีได้ยินแบบนี้เขาก็หยุดสูบบุหรีสักแปปเขาไม่อธิบายในทันทีเขาบอกหลินเฉิงถึงตัวตนของฉางเหมิงฉวนก่อน “ฉางเหวินฉวนเป็นรองผู้บังคับบัญชาของกองพันที่หนึ่งที่ฐานทัพทะเลน้ำเงินแห่งนี้ เขาบอกว่าถึงแม้จะเป็นแค่รองแต่หน้าที่ไม่ต่างอะไรกันเลย… แม้จำนวนประชากรของฐานทัพไม่รวมกับเขตปลอดภัยที่คุ้มกันหนาแน่นข้างในนะ มันไม่น้อยเลย เกือบจะถึง 100000 คน! คนเยอะขนาดนี้อย่าว่าแต่ต้องออกไปหาทรัพยากรจากเมืองจงโฉวเลย พวกเขาต้องไปหาเสบียงไกลกว่า 100 กิโลเมตรห่างจากที่นี่ ซึ่งกองพันที่หนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ!”
“กองพันที่หนึ่ง?”
หลินเฉิงถามอย่างสงสัย“ลุงหมายความว่า อาหารเกือบทั้งหมดของในฐานทัพทะเลน้ำเงินแห่งนี้ มาจากการหาปลาของกองพันที่หนึ่งอย่างงั้นหรอ? ที่น่าสงสัยที่สุดก็คือ ผมเคยเดินทางข้ามทะเลมาแล้วลุงรู้ไหมว่าในมหาสมุทรมันอันตรายขนาดไหน? ผมรู้ดีเลยกองพันที่หนึ่งไม่เจออันตรายเลยหรอ?”
“มันจะไม่อันตรายได้อย่างไรหละ…”
หลีเฉิงหยีสูบบุหรี่พ่นควันหนาออกมาอย่างแรง“ครั้งแรกที่กองพันที่หนึ่งออกไปหาปลา พวกเขายังไม่รู้ถึงอันตรายเลยด้วยซ้ำ!” “มีคนตายและบาดเจ็บมากมาย! อย่างไรก็ตามเหมือนฉางเหวินฉวนจะเจอวิธีต่อกรกับพวกมัน สัตว์ประหลาดใต้ทะเล! แม้ว่าครั้งที่สองที่ออกไปจะยังมีคนตายอยู่แต่ก็สามารถเก็บเนื้อสัตว์กลับมาได้บ้างอย่างน่ายินดี และก็ได้มากขึ้นๆ เรื่อยๆ จนตอนนี้พอพวกเขาออกไปแล้วกลับมาครั้งหนึ่งก็จะมีอาหหารมากพอที่จะให้คนทั้งฐานทัพกินอยู่ได้นานกว่าหนึ่งเดือน”
“จริงหรือเท็จกันแน่นะ?” ได้ยินข่าวใหม่แบบนี้หลินเฉิงก็รู้สึกแปลกใจอย่างมาก เขาเคยพบเจอกับความน่ากลัวของท้องทะเลนั้นมาแล้ว มันตราตรึงอยู่ในใจของเขา เขาฆ่าพวก กลายพันธ์ ไปหลายตัวด้วยดาบยาวเล่มเดียว เพราะพลังของเขาถูกปลดปล่อยออกมามากเกิน ถ้าคนธรรมดาต้องรับมือกับปีศาจระดับนี่้หละก็ ถ้ามีไม่ถึง 180 คน ก็คงทำอะไรมันไม่ได้!
หลินเฉิงไม่เชื่ออย่างแน่นอนหลีเฉิงหยี เขาไปในครัวหยิบหม้อเก็บเนื้อสดมาให้เขาดู เขาวางไว้ข้างหน้าและพูด “ดูนี่ นี้คือเนื้อที่พวกเขาหามาได้เมือสองวันที่แล้ว เธอแยกออกไหมว่ามันคือเนื้ออะไร?”
หลินเฉิงมองอย่างสงสัยเขาหยิบขึ้นมาดูใกล้ๆ ชิ้นหนึ่งมันดูละมุนมาก หลังจากที่เขาเช็คจนแน่ใจแล้ว
“…มันเหมือน…เนื้อปลา?”
“ใช้แล้วมันคือปลาปลาแม็คคาเรล!”
หลินเฉิงไม่รุ้อยุ่แล้วว่าแม็คคาเรลหน้าตาเป็นอย่างไรเขาก็อดทำหน้าสงสัยไม่ได้ เห็นแบบนี้เข้าหลีเฉิงหยีก็อธิบายเพิ่มเติมให้ “แม็คคาเรล เป็นปลาหาง่ายในแถบหนานซู ผู้คนนิยมกินกันเป็นอาหารหลัก เป็นปลาที่ตัวใหญ่ เนื้อนุ่มสีขาว มีก้างไม่เยอะมากและราคาถูกอีกต่างหาก เป็นอาหารดีราคาประหยัด แต่เมือวันสิ้นโลกมาถึง ปลาที่ถูกชาวประมงจับไว้จำนวนมาก็เริ่มกลายพันธุ์ ที่เธอถืออยู่น่าจะยาวประมาน 6 เมตร น้ำหนักเกือบ 400 กิโลกรัม ตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ ที่สำคัญที่สุดคือปลาแม็คคาเรลนั้น ที่ปกติจะกินปลาตัวเล็กและกุ้งตอนนี้กลับหันมากินคนแทน”
——————————–