ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 254 ลุงกับหลานคุยกัน
บทที่254 ลุงกับหลานคุยกัน
ได้ยินคำตอบของลุงหลีหลินเฉิงก็เข้าใจ “ปลาส่วนใหญ่ที่พวกเขากองพันที่หนึ่งพบเป็นปลากลายพันธ์พวกนี้สินะ?”
“ใช่แล้ว!”
เมือฟังคำตอบของหลานเขาก็หยักหน้า“แต่บ้างครั้งพวกเขาก็เจอพวกที่แปลกใหม่ไปเลย และทุกครั้งที่พบกับไอพวกน่าสยดสยองพวกนั้น กองพันที่หนึ่งก็จะประสบกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากมาย…”
“ก็ยังดีที่ลุงยังอยู่…”
เมื่อเห็นลุงหลีกำลังตกใจหลินเฉงที่บ่นพึมพัมกับตัวเองเขาเข้าใจแล้วเกี่ยวกับกองพันที่หนึ่ง ที่นำโดยฉางเหวินฉวน และก็ยังไม่ล้มหลังจากออกทะเลหลายครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะโชคของพวกเขาล้วนๆ ถ้าพวกเขาเจอพวกสัตว์ประหลาดยักษ์เหมือนในตอนที่เขากำลังข้ามทะเลครั้งแรกอยู่หละก็ ฐานทัพทะเลน้ำเงินแห่งนี้คงจะเต็มไปด้วยผีอดอยากไปหมดแล้ว เป็นเมืองแห่ง…..
เมื่อเห็นหลานไม่พูดอะไรต่อลุงก็พูดแทน “เพราะว่ากองพันที่หนึ่งนำโดยฉางเหวินฉวนนั้นให้ความสนับสนุนกับผู้รอดดชีวิตทั้งฐานทัพได้อย่างมาก และเขาก็เป็นหลานของผู้บังคับบัญชาอีกด้วย ชื่อเสียงของเขาในที่แห่งนี้จึงเยอะมาก และตำแหน่งก็สูงสุดๆ ด้วย…”
“เดี๋ยวนะ!”
หลินเฉิงตกใจและขัดลุงหลีทันที“คนสองคนนั้นมาลงเอยที่เป็นลุงกับหลานกันได้ยังไง?”
หลีเฉิงหยีพ่นควันบุหรี่ซูดใหญ่และอธิบายให้เขาฟัง
“ปู่ของฉางเหวินฉวนหย่ากับย่าของเขาหลังจากหย่าไปพ่อของฉางเหวินฉวนก็ต้องไปอยู่กับแม่ของเขา และใช่สกุลของแม่….อย่างไรก็ตามถึงแม้พวกเขาจะหย่ากันแต่ก็ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์มาก หลังจากนั้นพ่อและแม่ของฉางเหวินฉวนก็โชคร้ายตายจากไปเสียก่อน ผู้บังคับบัญชา ดิง เฉาหยวน ก็เก็บเขาไปเลี้ยง…”
“ผู้บังคับบัญชาดิงเฉาหยวนโด่งดังในหน้าที่การงาน แต่เขาไม่เคยแต่งงานหรือมีลูกแม้จะอายุ 50 แล้ว เมื่อเขาแก่ลงๆ เขาก็เลิกคิดเรื่องแต่งานแล้วเขาโยนเรื่องนี้ไปให้ ฉางเหวินฉวนทั้งหมดซึ่งฉางเหวินฉวนเองก็ถูกฝึกมาเพื่อให้เป็นตัวตายตัวแทนให้กับเขา นั้นแหละคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้บังคับบัญชาของกองพันที่หนึ่งตั้งแต่อายุแค่ 30 ต้นๆ นั้นคือเหตุผลหลักที…”
หลังจากที่หลินเฉิงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเขาก็มีข้อสงสัยแต่มันก็ถูกแก้ไปเรียบร้อยแล้วระหว่างที่ฟังเขาไม่เข้าใจว่าทำไมฉางเหวินฉวนถึงมีความสามารถมากมายขนาดนี้ แต่อายุประมาณเขาก็มีเหตุผลพอสำหรับตำแหน่งรองผู้บังคับบัญชาก่อนและหลังวันสิ้นโลกแบบนี้ และตอนนี้ก็เหมือนกับว่าฐานทัพทั้งฐานก็ตกอยู่ในมือของเขาแล้ว นี้คือเบื้องหลังของเวทีฐานทัพสีน้ำเงินแห่งนี้!
หลีเฉิงหยีเห็นท่าทางของหลินเฉิงแบบนี้เขาก็พูด“หลานต้องไม่คิดแบบนั้นนะ ฉางเหวินฉวนเป็นคนเจ้าชู้แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ ลุงไม่รู้หรอกวว่าก่อนที่โลกจะล้มสลายเขาเป็นคนยังไง แต่ตอนที่พวกเรามาถึงที่นี่ ฉางเหวินฉวงก็เป็นคนที่ดังมาก! ยิ่งไปกว่านั้นลุงก็เห็นมากับตาเลยความสามารถในการเป็นผู้นำของเขาในฐานแห่งนี้ตอนที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น”
“ฐานทัพแห่งนี้ก็ค่อยๆพึ่งตัวเองได้มาขึ้นเรื่อยๆ จนของเริ่มเหลือใช้!”
“หยุดเถอะ…” novel-lucky
ลุงหลีกลัวว่าหลานของตนจะมองเหวินฉวนเป็นคนเจ้าชูเจ้าสำราญ อยู่ดีๆ หลินเฉิงก็ร้องออกมา “ผมไม่อิจฉาคนที่อวดดีแบบนั้นหรอกครับ ผมจะไปรู้สึกว่าเขาเป็นคนเจ้าสำราญได้ไง? ก่อนที่โลกจะเป็นแบบนี้ผมเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย ผมจะไปวัดค่าของคนได้อย่างไร…”
“ไร้สาระ!เธอมาถึงจงโจวได้โดยปลอดภัย นั้นคือที่สุดแล้วไม่มีใครเทียบได้แม้แต่ไอฉางเหวินฉวนนั้นก็ตามทีเถอะ! อย่าดูถูกตัวเองขนาดนั้นเลยหลานรัก เข้าใจไหม? ”
เมื่อเขาถูกหลีเฉิงหยีดุหลินเฉิงก็ยิ้มแบบขมขื่นและส่ายหน้า เขาก็แค่เล่นมุขฝืดๆ นิดหน่อย มันอาจจะทำให้ลุงหลีรู้สึกถึงความดูถูกดูแคลนในตัวเขาได้โดยไม่คาดคิด มันเหมือนกับเขายกหินขึ้นมาแล้วมันก็หล่นทับเท้าตัวเอง
หลีเฉิงหยีถอนหายใจยืนอยู่ตรงนั้นและกดก้นซิกก้าลงไปอย่างแรง“แต่หลานก็พูดถูก ฉางเหวินฉวนเป็นคนที่หยิงผยอง ไม่ใช่แค่ในด้านความสามารถ แต่เป็นหน้าตาด้วย! ผู้หญิงเกือบทั้งหมดในฐานทัพน้ำเงินแห่งนี้นับถือเขาเป็นดังชายในฝัน ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็จะมีสาวๆ มากรี๊ดกร้๊าดใส่! ก็เขาเป็นคนแบบนี้นหละนะทั้งหนุ่มทั้งแน่น แต่เขาก็มีความรู้สึกพิเศษกับน้องผีเสื้อของเรา คงจะบอกได้แค่ว่ามันเป็นโชคชะตา…”
ฟังมาถึงตอนนี้ปุ๊บจิตวิญญาณความเป็นพี่ของหลินเฉิงก็ลุกขึ้น แม้ว่าประโยคต่างๆ ที่สนทนากันจะหน้าสนใจและได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเขามาเยอะมาก สิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุดคือทำไมหลีเฉิงหยีถึงสนับสนุนความสัมพันธ์นี้ นั้นทำให้เขาวิเคราะห์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นและคาดเดาจุดประสงค์ของฉางเหวินฉวนได้!
เมื่อเห็นหลานของเขามีสีหน้าจริงจังขึ้นมาลุงหลียิ้มอย่างขมขื่นและค่อยๆ พูด “หลังจากตาเฒ่าตายไปจากโรค ป้าฉินและเสี่ยวเดีย พวกเรากำลังขับรถออกจากเขตป้องกันหนาแน่น ถูกลดระดับลงไปเป็นผู้ประสบภัย ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดจากระดับล่างสุด เมื่อลุงกลับไปคิดถึงวันนั้นมันก็อดรู้สึกถึงความเบื่อหน่ายไม่ได้ แต่ลุงก็กลัวว่าจะลืมวันพวกนั้นไปไม่ได้ วันที่ลุงกังวลว่าตัวเองจะตายตอนไหนก็ได้…” “ลุงดิ้นรนอยู่ในค่ายลี้ภัยกว่าครึ่งเดือนอยู่ๆ วันหนึ่งเสี่ยวเดียก็มาหาลุงและบอกว่าเธอสามารถรักษาอาการเจ็บหลังของป้าให้หายได้! เธอก็รู้ใช่ไหมว่าป้าฉินมีปัญหาเรื่องหลังนานมาแล้ว จนตอนนั้นเธอแทบจะลุกขึ้นมาไม่ได้ ตอนแรกลุงแทบจะไม่เชื่อน้องสาวของเธอเลย ลุงแค่คิดว่าเธอเป็นห่วงอาการของป้ามากเกินไปจนเริ่มพูดจาไร้สาระ ฉันไม่เชื่อเลยว่าพลังอันยิ่งใหญ่นี้จะตื่นขึ้นมาในตัวของลูกสาวฉัน ลุงเห็นป้ายืนอยู่ตรงหน้าและสุขภาพเธอก็ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“มันเริ่มมาจากเสี่ยวเดียมีพลังรักษาตื่นขึ้นมาครอบครัวของเราจึงสามารถลืมหูลืมตาได้ออกมาจาค่ายลี้ภัยมาอยู่ในอพาทเม้นที่สดวกสบาย เพราะพลังของน้องสามารถรักษสผู้รอดชีวิตได้มากขึ้น เรื่อยๆ ชื่อเสียงของเธอก็มากขึ้นๆ จนมาเจอกับทีมของฉางเหวินฉวน ครั้งแรกที่เขาเจอกับน้อง ลุงก็ไม่รุ้ว่าทำไม เขาชอบเสี่ยวเดียมาก ถึงขั้นสนับสนุนลุงและป้าจนมาถึงตรงนี้ได้…” ได้ยินแบบนี้หลินเฉิงก็ขมวดคิ้วเขาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างลุงหลีกันเหวินฉวนจะซับซ้อนมากกว่านี้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แค่เรื่องธรรมดาของเจ้าชายที่หลงรักซินเดอร์เลร่า
อย่างไรก็ตามมันก็หน้าสนใจที่เห็นหลินเฉิงหยีด้วยความเคารพ ฉางเหวินฉวนคือผู้ชายในอุดมคติทั่วไป ที่หล่อและมากความสามารถ เขาสามารถได้ใจผู้หญิงเป็นพันๆ คนได้ แต่เขาสนใจในตัวน้องสาวของเขาคนเดียว เป็นคนที่มาจากค่ายหลบภัย ถ้าเขาไม่เคยเห็นจุดจบตามธรรมชาติของคนทั่วไป แต่เขาก็รักคนพวกนี้
แต่ก็นะผู้ชายที่สมบูรณ์แบบแบบนี้สามารถตบตาคนได้ง่าย
———————