ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 269 การถ่ายภาพ
“พะ…พี่ชู?”
หลังจากที่ประตูผู้หญิงสวมแว่นหนา มีขวดเบียสองขวดตั้งอยู่ข้างขาโต๊ะมันถูกวางอย่างรีบร้อนจนขวดยังคงสั่นอยู่ มีขาวติดอยู่ที่มุมปากของผุ้หญิงคนนั้น
ฉากที่เห็นนั้นดูเด๋อด๋านิดหน่อยหลังจากที่เห็นชูฉิง เธอคนนั้นก็ตะลึงก่อนที่จะเปิดประตูไถ่ถามตอนรับพวกเขาเข้ามา
เห็นหญิงคนนั้นกำลังสับสนมันก็เป็นเรื่องปกติ ชูฉิงก็อดหัวเราะคิ๊กคั๊กไม่ได้ “ฉันว่า บูลบูล ทำไมน้องถึงกินมูมมามแบบนี้แหละ เห็นไหมหน้าเลอะเหมือแมวไปหมดแล้ว พี่สาวคนนี้ต้องบอกเธออีกกี่ครั้ง เคี้ยวให้ละเอียดก่อนค่อยกลืน นั้นจะดีต่อสุขภาพนะ…”
“ฮ่าๆ… ฉันรู้หนะพี่ฉิง แต่นี้ก็เกือบจะ เที่ยง แล้วพี่มีอะไรให้น้องช่วยหรอ?” ได้ยินคำติของชูฉิงหญิงที่ถูกเรียกว่าบูลบูลก็ขำ หลังจากที่เช็ดข้าวออกจาแก้ม เธอก็ถามกลับมาอย่างสงสัย
“นี้…”
ได้ยินเสียงตอบรับชูฉิงก็หันไปหาหลินเฉิง เธอยกคางขึ้น “พี่พาชายคนนี้มาถ่ายรูป เขาพึ่งมาถึงฐานทัพแห่งนี้ มันจะเป็นปัญหามากถ้าเขายังไม่มีใบรับรองแบบนี้”
“ว๊าว!”
ได้ยินคำอธิบายของพี่สาวหลาน หลาน ก็เอามือป้องปากด้วยความแปลกใจ มองมายังหลินเฉิง “เป็นเรื่องจริงหรอ!? ที่ฐานทัพทั้งฐานต้อนรับชายคนนี้ที่ถึงขั้น ที่พี่ชูฉิง ต้องพาเขามาเองเลยกับตัวเพื่อขอให้ทำบัตรให้? นาย…นายมันศักสิทธิ์ยิ่งนัก!”
“ฉันมาจากราชวงศ์ถังจากแดนตะวันออกฉันมาแดนตะวันตกเพื่อนมัสการพระพุทธเจ้า…”
เห็นบูลบูลมองมายังเขาอย่างแปลกใจหลินเฉิงก็อดยิ้มและยิงมุขกลับไปไม่ได้
เห็นหลินเฉิงกับหลานหลานถูกคอกันชูฉิงก็แปลกใจมาก เธอหัวเราะและดุกลับไป “.ให้ตายสิ! ถ้านายเป็นหนึ่งในสิบของมหาจอมขมังเวทย์ของราชวงศ์ถัง นายต้องเลื่อนขั้นกลายเป็นเซียนแล้ว!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
บูลบูลเหมือนจะเป็นคนหัวเบาและเส้นตื้นเธอดูเหมือนพอใจกับตัวหลินเฉิงมาก หลังจากที่ขำกับมุขบื้อๆ เธอหันไปกระซฺิบกับชูฉิง “พี่เขาตลกดีออก พี่ฉิง เขาดีกว่าไอพวกชอบเสรแสร้งพวกนั้นอีก! และก็หล่อด้วย น้องว่าเขาดูเข้ากับพี่ดีออก!”
“อย่ามัวแต่นิ่งไอเด็กไม่ดีไปทำงาน!”
เห็นหลานหลานที่ไม่ชอบผู้ติดตามก่อนหน้านี้ของเธอ ดันไปชอบใจในตัวหลินเฉิงโดยที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน ชูฉิงก็ทำอะไรไม่ถูกอยุ่สักแปป ถ้าหลานหลานเห็นสิ่งที่หลินเฉิงทำกับเธอ หลานหลานคงไม่พูดแบบนี้อย่างแน่นอน… “ฉันว่าเรารีบกันหน่อยไหม?นี้ก็จะเที่ยงแล้ว ป้าฉันรอฉันกลับบ้านไปกินเข้าอยู่นะ!”
เห็นผู้หญิงสองคนซุบซิบกันต่อหน้าเขาหลินเฉิงก็อดเร่งไม่ได้
ชูฉิงได้ยินแบบนี้เธอก็หน้าแดงและรีบดันบูลบูลไปในห้องและบอกให้เงียบในทันทีก่อนที่จะกวักมือเรียกหลินเฉิงเข้ามา
“พ่อหนุ่มมาทางนี้เลย!นั่งก่อนๆ”
หลังจากที่เข้ามาในห้องหลินเฉิงก็สังเกตุไปรอบๆห้องสะสมของแห่งนี้อย่างระมัดระวัง หลานหลาน กางเก้าอี้พับมาตั้งและนั่งลงไปก่อนที่จะถาม “นายเคยทำบัตรมาก่อนรึปล่าว?”
หลินเฉิงพยักหน้า“ขึ้นอยุ่กับว่าทำอย่างไง?”
“แค่ถ่ายรูป!เรามีบัตรแบบเดียวกันอยุ่ตรงนี้ นายแค่นั้นแปปๆ ก็เสร็จแล้ว! ฉันจะไปจัดการกับเครื่องแปปนึง พี่ฉิงช่วยจัดชุดผู้ชายคนนั้นหน่อย?” หลินเฉิงพยักหน้าหลานหลานหัวเราะคิ๊กคั๊กก่อนที่จะหันหน้าไปทางชูฉิงที่ยืนดูอยู่ข้างๆ
ได้ยินบูลบูลสั่งชูฉิงก็ช็อคเอามือชี้หน้าตัวเองและถามกลับไป “ฉัน? จัดชุดให้เขาเนี๊ยนะ?”
“ใช่แล้วตั้งแต่พ่อหนุ่มหล่อมาถึงที่นี่ ฉันก็ไม่รู้จะจัดการกับซองคออย่างไงดี ถ้ารูปนี้ไม่ผ่าน ก็ทำบัตรไม่ได้นะพี่น่าจะมีประสบการณ์อะไรแบบนี้พี่ช่วยจัดการให้หน่อยนะ!”
เห็นชูชิงมองมายังเธอหลานหลานก็ไม่เข้าใจว่ามันมีปัญหาอะไรเธอก็ตอบไปเฉยๆ เป็นธรรมชาติ
“ตะ….แต่”
เหมือนหลานหลานจะไม่คิดอะไรมากเลยชูฉิงก็สับสนเรื่องแรกคิอเธอไม่คุ้นชินกับหลินเฉิงเลย มันจะดูแปลกเกินไปที่เธอจะจัดชุดให้เขา อีกอย่างนึงก็คือถ้าเธอไม่ทำให้เขาเธอก็จะดูเหมือนพวกหลอกลวง หลินเฉิงสังเกตุเห็นท่าทีชูฉิงแปลกไปเขาก็ไร้ซึ่งคำพูดกับความประมาทของหลานหลาน เขาโบกมือไปเฉยๆ “ฉันจะไปให้คุณชู เลขาคนนี้จัดการเรื่องของฉันได้ไง? ฉันทำเองได้!” novel-lucky
หลังจากที่เขาเช็ทคอปกและไหล่เรียบร้อยแล้วเขาก็มองไปยังกระจกเช็คดูอีกที เขาก็เห็นว่ามันดีขึ้น เขาเรียกหลานหลาน “ฉันจัดเสร็จแล้วเธอพร้อมแล้วรึยัง?”
ได้ยินคำถามหลินเฉิงที่กำลังมองมาที่กล้องSLR ก็ยิ้มบูดๆ ให้ “นั้น…หล่อแล้ว..หรอ?”
“มาฉันทำให้!”
เห็นคำว่าเรียบร้อยของหลินเฉิงชูฉิงก็ส่ายหน้าและไร้คำพูดอีกครั้ง เธอไม่ขัดใจอะไรอีกต่อไปแล้ว เธอเดินเข้ามาใกล้ๆ เขาและจัดให้อย่างรวดเร็ว
“แขนเสื้อยังไม่คิดกระดุมเลยคอปกก็ยังเปิดอยู่ นี่นายจะมาถ่ายรูปหรือจะแต่เป็นอันธพาลกันแน่?” ขณะที่ช่วยหลินเฉิงจัดเสื้อชูฉิงก็พูดเหน็บแหนบเขาไปทีนึง “นายหนะเก่งจริงๆ ขับรถมาก็ไกล ไม่คิดจะหาผู้หญิงมาช่วยจัดการชีวิตประจำวันให้บ้างเลยรึยังไง? คอเสื้อสกปรกหมดแล้วเนีย มองไปที่กระจกสิ…”
ฟังชูฉิงพูดไม่หยุดไม่หย่อนหลินเฉิงก็ได้แต่เม้มปากของเขา แม้มันจะเป็นความสำเร็จในชีวิตที่โดนสาวสวยหุ่นดีมาจะชุดให้แบบนี้ แต่ปากของผู้หญิงคนนี้มากไปด้วยคำพูด หลินเฉิงต้องอดทนอยากมาก
หลังจากถูกชูฉิงจู้จี้มาสักพักเสื้อของเขาก็เรียบร้อยแล้วหลินเฉิงรีบลุกออกจากความทรมาณนี้รีบหันมามองยังกระจกทันทีเพื่อดูว่าผลของความอดทนนั้นดีงามหรือไม่
ในรูปใบนั้นแม้ว่าหลินเฉิงจะส่วมชุดคอปกสีขาว รอยยับและคอปกบนเสื้อนั้นเรียบเฉียบภายใต้การจัดการของชูฉิง แม้ว่าคอปกของเขาจะสกปรกก็ตาแต่เธอก็จัดการมันได้ เสื้อของเขาดูใหม่เอียมทันตา!
“นี้แหละพี่สาวของน้อง!”บูลบูลอุทานออกมาด้วยความสุข
เห็นความเปลี่ยนไปของชุดหลินเฉิงก็ทำอะไรไม่ได้หันกลับมามองชูฉิงอย่างแปลกใจเสียไม่ได้
“เฮอะ!”
ชูฉิงภูมิใจในตัวเองมาก่อนที่จะส่งเสียงออกมาและพูด“เดิมที ฉันคิดว่าพวกผู้ชายแย่ๆ นั้น เป็นคำอธิบายที่ดีของคำว่าเละเทะไม่เป็นระเบียบได้ดี จนฉันได้เจอนาย ก็รู้เลยว่าที่มาของความคิดแบบนี้มาจากไหน~”
“ฉัน….”
เห็นผู้หญิงคนนี่จัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยเธอก็เชิดหน้าขึ้น หลินเฉิงจะพูดกลับไปแต่ก็รู้ตัวทันทีว่าตอนนี้เขาไร้ซึ่งคำพูด แม่เลี้ยงจอมหลุดโลกคนนี้ทำเขาเสียจุดยืนจริงๆ เขาโบกมืออย่างขี้เกียจเบื่อที่จะสู้กับเธอ
————————-